HUAWEI เปิดตัว Gaming Monitor รุ่นใหม่ในตัว Mateview GT ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 27 นิ้วและมีการใช้งานหน้าจอแบบโค้งด้วยเช่นกันถือว่าน่าสนใจและค่ายนี้ก็ลุยตลาดในเรื่องของหน้าจอ Monitor อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นสาย Gaming หรือแม้แต่ Creator นั้นเอง มีให้เลือกหลากหลายตัวแต่ครั้งนี้จะเป็นรุ่นที่ลุยในตลาด Gaming เพิ่มเติมจากรุ่นเดิม ซึ่งครั้งนี้จะมาพร้อมกับ อัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 165 Hz และ ความละเอียดแบบ 2K เลยทีเดียว รวมถึงใช้งานหน้าจอแบบโค้งที่มีค่าโค้งระดับ 1500R ที่รองรับกับสายตาและมุมมองได้ดีระยะมุมมองที่เป็นค่ามาตรฐาน และในหน้าจอขนาด 27 นิ้ว รวมถึงรองรับ HDR10 ด้วยเช่นกันทำให้เป็นรุ่นนึงที่น่าสนใจมากๆ
HUAWEI Mateview GT 27 ตัวนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 27 นิ้ว ความโค้ง 1500R อัตราส่วนภาพ 16:9 ประเภทหน้าจอ VA ความละเอียด 2560 x 1440 อัตราการรีเฟรช 165 Hz ขอบเขตสี 90% DCI-P3 (ค่าปกติ) / ครอบคลุม sRGB 100% สี 16.7 ล้านสี ความสว่าง 350 nits (ทั่วไป) อัตราส่วนความคมชัด 4000:1 (ทั่วไป) และ ความแม่นยำของสี ΔE<2* *ΔE<2 ระบุค่ามาตรฐานสีเฉลี่ยในขอบเขตสี sRGB HDR รองรับ HDR10 โหมดถนอมสายตาที่มีการรับรองโดย TÜV Rheinland Low Blue Light and Flicker Free Certification และ มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C / HDMI / DisplayPort ถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งาน
UNBOX
- ที่ชาร์จไฟ 65W แบบ USB-C
- สาย USB-C ไป USB-C
- หกเหลี่ยมสำหรับไขตัวฐานยึดหน้าจอ
- สาย HDMI
- คู่มือการใช้งาน
DESIGN
งานออกแบบหน้าจอตัวนี้เน้นความเรียบง่ายเราจะไม่ได้เห็นลำโพงหรือแสงสีอะไรเท่าไรนักในการออกแบบหน้าจอหรือว่าขาตั้ง หรือหลังจอไม่มีแสงสี RGB เลยนั้นเองแต่ก็อาจจะเป็นข้อดีเพราะว่าหลายๆคนก็เน้นใช้งานมากกว่าเน้นความเรียบง่ายและไม่เป็นสาย Gaming มากเกินไปก็อาจจะเหมาะกับตัวนี้นั้นเอง หน้าจอในขนาด 27 นิ้วทำออกมาได้ดีไม่ใหญ่ หรือ เล็กมากเกินไปและไม่กินพื้นที่พร้อมกับขาตั้งสีดำเรียบง่ายแต่ก็ปรับความสูง หรือ มุมมองได้เช่นกัน ทำให้ภาพรวมงานประกอบคุณภาพวัสดุต่างๆถือว่าดีในงบราคาหมื่นต้นๆของ Huawei Mateview GT 27 ตัวนี้
ภาพรวมถือว่าเป็นหน้าจอที่สวยและเรียบง่ายไม่เหมือนสาย Gaming มากนักแต่เมื่อเปิดใช้งานเราจะได้ภาพแบบเต็มตาขอบบางพร้อมกับมุมโค้งที่สวยกำลังดีงานออกแบบถือว่าเรียบง่ายและลงตัวพร้อมกับช่องระบายด้านบนหน้าจอเสริมเข้ามา ตัวหน้าจอเองนั้นจะไม่มีลำโพงอะไรใส่เข้ามาให้นะครับเป็นหน้าจอหลักๆเลยแตกต่างกับรุ่นพี่ของมัน และเราจะได้หน้าจอโค้งแบบด้านเป็นมาตรฐานของ Gaming Monitor นั้นเองทำให้รองรับเรื่องของลดแสงสะท้อน
แน่นอนว่าตัวนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละพื้นที่ใช้สอยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวางบนโต๊ะหรือถอดตัวยึดเพื่อติดไว้บนผนังก็สะดวกและง่ายดาย ทั้งยังสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 110 มม. ปรับมุมหน้าจอไปข้างหน้าได้ 5 องศาและถอยหลังได้ถึง 20 องศา เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าขณะใช้งานจะเห็นว่าสามารถเลื่อนขึ้นลงได้เยอะมากเช่นกัน แต่จะไม่ได้มีล็อกอะไรเป็นข้อนะครับ เลื่อนไปได้อิสระเลย และส่วนแหงน หรือ กดนั้นทำได้ดีระดับนึงแต่น่าเสียดายว่าจะไม่สามารถหมุนใช้งานแนวตั้งไม่ได้นะครับในส่วนของตัวหน้าจอนี้ ขาเดิมๆที่ให้มาหมุนไม่ได้นั้นเอง แต่ถ้าใครเอาไปติดขาตั้งมาตรฐาน VESA เองน่าจะจับหมุนใช้งานได้ปกติครับ ก็ถือว่ายังคงรองรับมาตรฐานทั่วไปอยู่
งานออกแบบด้านหลังยังคงมีวงแหวน Frost Silver Star Ring อันเป็นเอกลักษณ์ของมอนิเตอร์ในตระกูล HUAWEI MateView GT ไว้บริเวณด้านหลังหน้าจอ แม้จะไม่ได้มีแสงสีอะไรก็ตามครับแต่ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นไม่ให้เรียบเกินไปด้วยเช่นกัน พร้อมการควบคุมสั่งงานหรือเปิดปิดตัวหน้าจอด้วยจอยสติกแบบ 5 ทิศทาง ที่ซ่อนอยู่บริเวณด้านล่างหน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและปรับโหมดต่างๆ ได้อย่างอิสระมีสีขาวติดใช้งานเป็นไปสถานะตอนแรก และในด้านพอร์ตเชื่อมต่อเองเราจะมีแค่ 3 พอร์ตใช้งาน เป็น USB-C สำหรับจ่ายไฟ และ Displayport รวมถึง HDMI ซึ่งน่าเสียดายว่าไม่มีช่องอื่นๆเสริมเข้ามาสำหรับใช้งานมากกว่านี้อันนี้ทำให้แอบพอดีไปเล็กน้อยครับ
SPEC
- หน้าจอ VA 2K ความละเอียด 2560 x 1440 ค่าความสว่างจอที่ 350 nits รองรับระบบ HDR-10 และอัตราความคอนทราสต์4000:1 ขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 และค่า Delta E <2 (100% sRGB)
- มาตรฐานของสี: Delta E < 2 ความลึกของสี: 8 bits รีเฟรชเรท 165 Hz
- ตัวเครื่อง: ขนาดตัวเครื่อง: 613 มม. x 546 มม. x 224 มม. (รวมส่วนรองรับ)
- น้ำหนัก: ประมาณ 7.8 กก.
- การปรับเอียงหน้าจอ: เอียงลง: by 5 องศา(±2) เอียงขึ้น: by 20 องศา (±2)
- การปรับความสูง: ได้ถึง 110 มม.
- สี: ดำ ส่วนรองรับ: สามารถติดตั้งและถอดส่วนรองรับได้
- พอร์ต: HDMI 2.0 port x 1 DP 1.2 port x 1 USB-C port x 1(สำหรับจ่ายไฟฟ้าเท่านั้น)
- ปุ่ม: joystick 5-ทิศทาง
SCREEN
ทางด้านหน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบโค้งถือว่าโค้งกำลังดีสวยเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 27 นิ้วตัวนี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับสเปกหน้าจอ 2K ความละเอียด 2560 x 1440 ค่าความสว่างจอที่ 350 nits รองรับระบบ HDR-10 และอัตราความคอนทราสต์4000:1 ขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 และค่า Delta E <2 พร้อมกับ ขอบเขตสีมาตรฐานระดับภาพยนตร์ (100% sRGB) 7 ล้านสี บนหน้าจอที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา และ มีความลื่นไหล รีเฟรชเรทที่สูงถึง 165 Hz ถือว่าเป็นสเปกที่ทำได้น่าสนใจของหน้าจอตัวนี้ ซึ่งความโค้งตัวนี้อยู่ในระดับ 1500R เป็นที่นิยมในหลายๆตัวค่อนข้างรับกับมุมมองสายตาได้ดีครับ แต่ก็ไม่โค้งเยอะจนเพี้ยนมากไปนักด้วยเช่นกันในตัวนี้ ทำให้มันใช้งานได้เต็มตา และ สีสันอิ่มเมื่อดูหนัง เล่นเกมซึ่งภาพรวมเป็นหน้าจอระดับเริ่มในจอโค้งสเปกนี้ที่ทำได้ดีมาก
ในแง่ของการใช้งานจริงเองนั้นตัวนี้จะได้รับการปรับเทียบทีละตัวก่อนส่งมอบเพื่อให้แน่ใจว่าค่า Delta E น้อยกว่า 2 พร้อมปกป้องดวงตาขณะใช้งานกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถลดแสงสีฟ้าและลดการกระพริบของภาพได้อัตโนมัติซึ่งได้รับการรองรับโดย TÜV Rheinland ด้วยเช่นกัน ส่วนความสว่างตัวหน้าจอสามารถเร่งได้สูงแต่ก็ลดได้ต่ำระดับนึงอาจจะไม่ได้มืดมากนักถ้าเล่นใช้งานเวลากลางคืนหรือในห้อง ซึ่งบางคนอาจจะชอบหน้าจอที่ติดมืดมากกว่านี้ครับ แต่เรื่องมุมมองนั้นต้องบอกว่าหน้าจอสาย Gaming เองนั้นอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องความแม่นยำมากแต่ก็ถือว่าดีกว่ายุคก่อนๆเยอะ และตัวนี้ก็สีตรงและทำงานได้ระดับนึงครับ แต่เรื่องมุมมองเมื่อเริ่มมองเอียงๆอาจจะมีการดรอปของความสว่าง หรือ สีอยู่นิดหน่อยแต่ไม่ได้เพี้ยนอะไรครับอาจจะด้วยข้อจำกัดของหน้าจอหรือในระดับราคานี้ก็พอเข้าใจได้ครับ
FEATURE
หน้าจอตัวนี้เมนูใช้งานได้ง่าย และ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์พิเศษทั้งตัว Dark Field Controls ที่ช่วยปรับความสว่างของภาพ ทำให้เกมเมอร์สามารถมองเห็นศัตรูที่ซ่อนอยู่ในที่มืดได้ชัดเจนขึ้น เราจะเห็นได้เลยว่าถ้าเปิดหรือปิดภาพความสว่างส่วนมืดแตกต่างกันชัดเจน และปรับได้ 3 ระดับความสว่างครับ และ Crosshairs ที่ช่วยเสริมความแม่นยำในการล็อกเป้าหมายต่างๆ รวมถึงการปรับได้ทั้งหมดว่าจะเป็นรูปทรงแบบไหน สีเขียวหรือสีแดงครับ และการตั้งค่าตัวหน้าจอค่าสี ความสว่างมืดต่างๆ โหมดภาพหรือการเปลี่ยน INPUT ก็สามารถควบคุมผ่านปุ่มใต้หน้าจอได้
ฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยเองนั้นจริงๆก็สามารถรองรับการเล่นเกม FPS ได้ดีเลยนะแต่บางคนอาจจะไม่ชินก็ต้องปรับตัวหรือปิดใช้งานกันไปได้ครับแต่ที่ชอบคือตัว Crosshair กลางหน้าจอมีหลากหลายรูปแบบ วงกลม สี่เหลี่ยมต่างๆ สีแดง กับ เขียวสามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด หรือจะเป็นการเร่งแสงส่วนมืดอันนี้โกงมาในหลายๆเกมครับเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจเราจะเห็นตัวละครในส่วนมืดของเกมได้ทันทีมองง่ายกว่าเดิม แต่ความสวยหรือดำสนิทก็อาจจะหายไปนั้นเองครับ
GAMING
การเล่นเกมแน่นอนว่าตัวนี้เป็นหน้าจอสาย Gaming ทำให้ตอบโจทย์ได้สบายถ้าตัวคอมพิวเตอร์เราสามารถขับได้ถึงครับตัวนี้มาพร้อมกับ 165Hz ทำให้ความลื่นไหลเมื่อลองเทียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่เป็นสเปกของผมเองก็ขับสุดได้สบายแม้จะเปิดภาพ 2K ทำให้สามารถรองรับการเล่นเกมแบบเต็มที่ของหน้าจอได้เลยทันทีครับ เท่าที่ลองบอกเลยว่าลื่นไหล สวยงาม และสามารถขับสีอะไรได้สวยคม มิติของภาพตามระดับราคาสวยและเนียนตาในการเล่นสีสันต่างๆ แต่เสียดายแค่เรื่องหน้าจออาจจะไม่ได้มี G-Sync ต่างๆเข้ามาอาจจะด้วยราคาที่ไม่แรงมากทำให้ไม่มีฟีเจอร์พวกนี้เลยอาจจะเจออาการภาพฉีกได้บ้างเป็นปกติครับเวลาเล่นเกม แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ซีเรียสตรงนี้ก็ถือว่าสบายๆเลย ตัวความลื่นไหล 165Hz สามารถเล่นได้สบายเนียนตาแม้จะความละเอียดสูง คมชัดสวยงามค่อนข้างคุ้มราคาทีเดียว
นอกเหนือจากการเล่นเกมจริงๆนั้นหน้าจอตัวนี้สามารถดูหนังก็สามารถรองรับได้สบายเพราะว่าความละเอียดและมิติของภาพทำได้น่าสนใจอย่างมากเช่นกันเท่าที่ลองดูนั้นแม้อัตราส่วนอาจจะไม่ได้แบบยาวเท่ากับจอหนังแต่ก็ถือว่าสามารถทำได้ดีทั้งความสวยงามของสีสันและมิติเวลาเจอแสงตัดกันเยอะๆซึ่งถ้าให้สวยจะแนะนำปิดฟีเจอร์เร่งแสงส่วนมืดไว้ภาพจะค่อนข้างสวยมากกว่าไม่ดัน shadow มากเกินไปครับส่วนความลื่นไหลเองนั้นจริงๆหนังหรือภาพยนต์ส่วนใหญ่จะถ่ายกันแค่ 24FPS – 60FPS เท่านั้นเราจึงอาจจะไม่ได้สัมผัสความลื่นไหลแบบเต็มที่เท่าไร แต่ถ้าเอามาเล่นเกม หรือ หนังที่มีการถ่ายพิเศษแน่นอนว่าตัวหน้าจอแบบนี้สามารถรองรับได้แบบไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ
[SR] รีวิว HUAWEI MATEVIEW GT 27 นิ้ว Gaming Monitor จอโค้ง 165Hz ความละเอียด 2K HDR-10 !
HUAWEI เปิดตัว Gaming Monitor รุ่นใหม่ในตัว Mateview GT ซึ่งครั้งนี้มาพร้อมกับหน้าจอ 27 นิ้วและมีการใช้งานหน้าจอแบบโค้งด้วยเช่นกันถือว่าน่าสนใจและค่ายนี้ก็ลุยตลาดในเรื่องของหน้าจอ Monitor อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นสาย Gaming หรือแม้แต่ Creator นั้นเอง มีให้เลือกหลากหลายตัวแต่ครั้งนี้จะเป็นรุ่นที่ลุยในตลาด Gaming เพิ่มเติมจากรุ่นเดิม ซึ่งครั้งนี้จะมาพร้อมกับ อัตรารีเฟรชเรทสูงถึง 165 Hz และ ความละเอียดแบบ 2K เลยทีเดียว รวมถึงใช้งานหน้าจอแบบโค้งที่มีค่าโค้งระดับ 1500R ที่รองรับกับสายตาและมุมมองได้ดีระยะมุมมองที่เป็นค่ามาตรฐาน และในหน้าจอขนาด 27 นิ้ว รวมถึงรองรับ HDR10 ด้วยเช่นกันทำให้เป็นรุ่นนึงที่น่าสนใจมากๆ
HUAWEI Mateview GT 27 ตัวนี้จะมาพร้อมกับหน้าจอ ขนาด 27 นิ้ว ความโค้ง 1500R อัตราส่วนภาพ 16:9 ประเภทหน้าจอ VA ความละเอียด 2560 x 1440 อัตราการรีเฟรช 165 Hz ขอบเขตสี 90% DCI-P3 (ค่าปกติ) / ครอบคลุม sRGB 100% สี 16.7 ล้านสี ความสว่าง 350 nits (ทั่วไป) อัตราส่วนความคมชัด 4000:1 (ทั่วไป) และ ความแม่นยำของสี ΔE<2* *ΔE<2 ระบุค่ามาตรฐานสีเฉลี่ยในขอบเขตสี sRGB HDR รองรับ HDR10 โหมดถนอมสายตาที่มีการรับรองโดย TÜV Rheinland Low Blue Light and Flicker Free Certification และ มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C / HDMI / DisplayPort ถือว่าให้มาครบพร้อมใช้งาน
UNBOX
- ที่ชาร์จไฟ 65W แบบ USB-C
- สาย USB-C ไป USB-C
- หกเหลี่ยมสำหรับไขตัวฐานยึดหน้าจอ
- สาย HDMI
- คู่มือการใช้งาน
DESIGN
งานออกแบบหน้าจอตัวนี้เน้นความเรียบง่ายเราจะไม่ได้เห็นลำโพงหรือแสงสีอะไรเท่าไรนักในการออกแบบหน้าจอหรือว่าขาตั้ง หรือหลังจอไม่มีแสงสี RGB เลยนั้นเองแต่ก็อาจจะเป็นข้อดีเพราะว่าหลายๆคนก็เน้นใช้งานมากกว่าเน้นความเรียบง่ายและไม่เป็นสาย Gaming มากเกินไปก็อาจจะเหมาะกับตัวนี้นั้นเอง หน้าจอในขนาด 27 นิ้วทำออกมาได้ดีไม่ใหญ่ หรือ เล็กมากเกินไปและไม่กินพื้นที่พร้อมกับขาตั้งสีดำเรียบง่ายแต่ก็ปรับความสูง หรือ มุมมองได้เช่นกัน ทำให้ภาพรวมงานประกอบคุณภาพวัสดุต่างๆถือว่าดีในงบราคาหมื่นต้นๆของ Huawei Mateview GT 27 ตัวนี้
ภาพรวมถือว่าเป็นหน้าจอที่สวยและเรียบง่ายไม่เหมือนสาย Gaming มากนักแต่เมื่อเปิดใช้งานเราจะได้ภาพแบบเต็มตาขอบบางพร้อมกับมุมโค้งที่สวยกำลังดีงานออกแบบถือว่าเรียบง่ายและลงตัวพร้อมกับช่องระบายด้านบนหน้าจอเสริมเข้ามา ตัวหน้าจอเองนั้นจะไม่มีลำโพงอะไรใส่เข้ามาให้นะครับเป็นหน้าจอหลักๆเลยแตกต่างกับรุ่นพี่ของมัน และเราจะได้หน้าจอโค้งแบบด้านเป็นมาตรฐานของ Gaming Monitor นั้นเองทำให้รองรับเรื่องของลดแสงสะท้อน
แน่นอนว่าตัวนี้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละพื้นที่ใช้สอยได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะวางบนโต๊ะหรือถอดตัวยึดเพื่อติดไว้บนผนังก็สะดวกและง่ายดาย ทั้งยังสามารถปรับระดับความสูงได้ถึง 110 มม. ปรับมุมหน้าจอไปข้างหน้าได้ 5 องศาและถอยหลังได้ถึง 20 องศา เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าขณะใช้งานจะเห็นว่าสามารถเลื่อนขึ้นลงได้เยอะมากเช่นกัน แต่จะไม่ได้มีล็อกอะไรเป็นข้อนะครับ เลื่อนไปได้อิสระเลย และส่วนแหงน หรือ กดนั้นทำได้ดีระดับนึงแต่น่าเสียดายว่าจะไม่สามารถหมุนใช้งานแนวตั้งไม่ได้นะครับในส่วนของตัวหน้าจอนี้ ขาเดิมๆที่ให้มาหมุนไม่ได้นั้นเอง แต่ถ้าใครเอาไปติดขาตั้งมาตรฐาน VESA เองน่าจะจับหมุนใช้งานได้ปกติครับ ก็ถือว่ายังคงรองรับมาตรฐานทั่วไปอยู่
งานออกแบบด้านหลังยังคงมีวงแหวน Frost Silver Star Ring อันเป็นเอกลักษณ์ของมอนิเตอร์ในตระกูล HUAWEI MateView GT ไว้บริเวณด้านหลังหน้าจอ แม้จะไม่ได้มีแสงสีอะไรก็ตามครับแต่ก็ถือว่าเป็นลูกเล่นไม่ให้เรียบเกินไปด้วยเช่นกัน พร้อมการควบคุมสั่งงานหรือเปิดปิดตัวหน้าจอด้วยจอยสติกแบบ 5 ทิศทาง ที่ซ่อนอยู่บริเวณด้านล่างหน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและปรับโหมดต่างๆ ได้อย่างอิสระมีสีขาวติดใช้งานเป็นไปสถานะตอนแรก และในด้านพอร์ตเชื่อมต่อเองเราจะมีแค่ 3 พอร์ตใช้งาน เป็น USB-C สำหรับจ่ายไฟ และ Displayport รวมถึง HDMI ซึ่งน่าเสียดายว่าไม่มีช่องอื่นๆเสริมเข้ามาสำหรับใช้งานมากกว่านี้อันนี้ทำให้แอบพอดีไปเล็กน้อยครับ
SPEC
- หน้าจอ VA 2K ความละเอียด 2560 x 1440 ค่าความสว่างจอที่ 350 nits รองรับระบบ HDR-10 และอัตราความคอนทราสต์4000:1 ขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 และค่า Delta E <2 (100% sRGB)
- มาตรฐานของสี: Delta E < 2 ความลึกของสี: 8 bits รีเฟรชเรท 165 Hz
- ตัวเครื่อง: ขนาดตัวเครื่อง: 613 มม. x 546 มม. x 224 มม. (รวมส่วนรองรับ)
- น้ำหนัก: ประมาณ 7.8 กก.
- การปรับเอียงหน้าจอ: เอียงลง: by 5 องศา(±2) เอียงขึ้น: by 20 องศา (±2)
- การปรับความสูง: ได้ถึง 110 มม.
- สี: ดำ ส่วนรองรับ: สามารถติดตั้งและถอดส่วนรองรับได้
- พอร์ต: HDMI 2.0 port x 1 DP 1.2 port x 1 USB-C port x 1(สำหรับจ่ายไฟฟ้าเท่านั้น)
- ปุ่ม: joystick 5-ทิศทาง
SCREEN
ทางด้านหน้าจอตัวนี้เป็นหน้าจอแบบโค้งถือว่าโค้งกำลังดีสวยเมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอ 27 นิ้วตัวนี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับสเปกหน้าจอ 2K ความละเอียด 2560 x 1440 ค่าความสว่างจอที่ 350 nits รองรับระบบ HDR-10 และอัตราความคอนทราสต์4000:1 ขอบเขตสีกว้างถึง 90% DCI-P3 และค่า Delta E <2 พร้อมกับ ขอบเขตสีมาตรฐานระดับภาพยนตร์ (100% sRGB) 7 ล้านสี บนหน้าจอที่ให้มุมมองกว้างถึง 178 องศา และ มีความลื่นไหล รีเฟรชเรทที่สูงถึง 165 Hz ถือว่าเป็นสเปกที่ทำได้น่าสนใจของหน้าจอตัวนี้ ซึ่งความโค้งตัวนี้อยู่ในระดับ 1500R เป็นที่นิยมในหลายๆตัวค่อนข้างรับกับมุมมองสายตาได้ดีครับ แต่ก็ไม่โค้งเยอะจนเพี้ยนมากไปนักด้วยเช่นกันในตัวนี้ ทำให้มันใช้งานได้เต็มตา และ สีสันอิ่มเมื่อดูหนัง เล่นเกมซึ่งภาพรวมเป็นหน้าจอระดับเริ่มในจอโค้งสเปกนี้ที่ทำได้ดีมาก
ในแง่ของการใช้งานจริงเองนั้นตัวนี้จะได้รับการปรับเทียบทีละตัวก่อนส่งมอบเพื่อให้แน่ใจว่าค่า Delta E น้อยกว่า 2 พร้อมปกป้องดวงตาขณะใช้งานกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถลดแสงสีฟ้าและลดการกระพริบของภาพได้อัตโนมัติซึ่งได้รับการรองรับโดย TÜV Rheinland ด้วยเช่นกัน ส่วนความสว่างตัวหน้าจอสามารถเร่งได้สูงแต่ก็ลดได้ต่ำระดับนึงอาจจะไม่ได้มืดมากนักถ้าเล่นใช้งานเวลากลางคืนหรือในห้อง ซึ่งบางคนอาจจะชอบหน้าจอที่ติดมืดมากกว่านี้ครับ แต่เรื่องมุมมองนั้นต้องบอกว่าหน้าจอสาย Gaming เองนั้นอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องความแม่นยำมากแต่ก็ถือว่าดีกว่ายุคก่อนๆเยอะ และตัวนี้ก็สีตรงและทำงานได้ระดับนึงครับ แต่เรื่องมุมมองเมื่อเริ่มมองเอียงๆอาจจะมีการดรอปของความสว่าง หรือ สีอยู่นิดหน่อยแต่ไม่ได้เพี้ยนอะไรครับอาจจะด้วยข้อจำกัดของหน้าจอหรือในระดับราคานี้ก็พอเข้าใจได้ครับ
FEATURE
หน้าจอตัวนี้เมนูใช้งานได้ง่าย และ อัดแน่นด้วยฟีเจอร์พิเศษทั้งตัว Dark Field Controls ที่ช่วยปรับความสว่างของภาพ ทำให้เกมเมอร์สามารถมองเห็นศัตรูที่ซ่อนอยู่ในที่มืดได้ชัดเจนขึ้น เราจะเห็นได้เลยว่าถ้าเปิดหรือปิดภาพความสว่างส่วนมืดแตกต่างกันชัดเจน และปรับได้ 3 ระดับความสว่างครับ และ Crosshairs ที่ช่วยเสริมความแม่นยำในการล็อกเป้าหมายต่างๆ รวมถึงการปรับได้ทั้งหมดว่าจะเป็นรูปทรงแบบไหน สีเขียวหรือสีแดงครับ และการตั้งค่าตัวหน้าจอค่าสี ความสว่างมืดต่างๆ โหมดภาพหรือการเปลี่ยน INPUT ก็สามารถควบคุมผ่านปุ่มใต้หน้าจอได้
ฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยเองนั้นจริงๆก็สามารถรองรับการเล่นเกม FPS ได้ดีเลยนะแต่บางคนอาจจะไม่ชินก็ต้องปรับตัวหรือปิดใช้งานกันไปได้ครับแต่ที่ชอบคือตัว Crosshair กลางหน้าจอมีหลากหลายรูปแบบ วงกลม สี่เหลี่ยมต่างๆ สีแดง กับ เขียวสามารถเปลี่ยนได้ทั้งหมด หรือจะเป็นการเร่งแสงส่วนมืดอันนี้โกงมาในหลายๆเกมครับเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจเราจะเห็นตัวละครในส่วนมืดของเกมได้ทันทีมองง่ายกว่าเดิม แต่ความสวยหรือดำสนิทก็อาจจะหายไปนั้นเองครับ
GAMING
การเล่นเกมแน่นอนว่าตัวนี้เป็นหน้าจอสาย Gaming ทำให้ตอบโจทย์ได้สบายถ้าตัวคอมพิวเตอร์เราสามารถขับได้ถึงครับตัวนี้มาพร้อมกับ 165Hz ทำให้ความลื่นไหลเมื่อลองเทียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่เป็นสเปกของผมเองก็ขับสุดได้สบายแม้จะเปิดภาพ 2K ทำให้สามารถรองรับการเล่นเกมแบบเต็มที่ของหน้าจอได้เลยทันทีครับ เท่าที่ลองบอกเลยว่าลื่นไหล สวยงาม และสามารถขับสีอะไรได้สวยคม มิติของภาพตามระดับราคาสวยและเนียนตาในการเล่นสีสันต่างๆ แต่เสียดายแค่เรื่องหน้าจออาจจะไม่ได้มี G-Sync ต่างๆเข้ามาอาจจะด้วยราคาที่ไม่แรงมากทำให้ไม่มีฟีเจอร์พวกนี้เลยอาจจะเจออาการภาพฉีกได้บ้างเป็นปกติครับเวลาเล่นเกม แต่ถ้าคนที่ไม่ได้ซีเรียสตรงนี้ก็ถือว่าสบายๆเลย ตัวความลื่นไหล 165Hz สามารถเล่นได้สบายเนียนตาแม้จะความละเอียดสูง คมชัดสวยงามค่อนข้างคุ้มราคาทีเดียว
นอกเหนือจากการเล่นเกมจริงๆนั้นหน้าจอตัวนี้สามารถดูหนังก็สามารถรองรับได้สบายเพราะว่าความละเอียดและมิติของภาพทำได้น่าสนใจอย่างมากเช่นกันเท่าที่ลองดูนั้นแม้อัตราส่วนอาจจะไม่ได้แบบยาวเท่ากับจอหนังแต่ก็ถือว่าสามารถทำได้ดีทั้งความสวยงามของสีสันและมิติเวลาเจอแสงตัดกันเยอะๆซึ่งถ้าให้สวยจะแนะนำปิดฟีเจอร์เร่งแสงส่วนมืดไว้ภาพจะค่อนข้างสวยมากกว่าไม่ดัน shadow มากเกินไปครับส่วนความลื่นไหลเองนั้นจริงๆหนังหรือภาพยนต์ส่วนใหญ่จะถ่ายกันแค่ 24FPS – 60FPS เท่านั้นเราจึงอาจจะไม่ได้สัมผัสความลื่นไหลแบบเต็มที่เท่าไร แต่ถ้าเอามาเล่นเกม หรือ หนังที่มีการถ่ายพิเศษแน่นอนว่าตัวหน้าจอแบบนี้สามารถรองรับได้แบบไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้