เส้นทางบนภูเขาสูงในโคโลราโดอย่าง Kebler Pass อาจเป็นเจ้าภาพของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก / Cr.Shutterstock
Pando (ภาษาละตินแปลว่า "I spread") หรือที่รู้จักในชื่อ The Trembling Giant เป็นป่าขนาดใหญ่ของ Quaking Aspen ( populus tremuloides ) ที่เป็นป่าทั้งหมดจากสิ่งมีชีวิตเดียว ซึ่งตั้งอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ Fishland National Forest ในยูทาห์ สหรัฐอเมริกา นักชีววิทยาหลายคนเชื่อว่าป่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดย aspen เป็นต้นไม้ที่แพร่หลายที่สุดในอเมริกาเหนือ จากมิดเวสต์ข้ามไปแคนาดา จากทางเหนือสู่อลาสก้าและอีกฝั่งตะวันตกไปจนถึงแอริโซนาและนิวเม็กซิโก โดยกระจายตัวอยู่ตามชายป่าต้นสนเป็นกลุ่มหรือโครงสร้างที่เรียกว่า " clones "
aspen ไม่ใช่ต้นไม้ที่สูงที่สุดหรือใหญ่ที่สุด แต่ต้นไม้ 47,000 ต้นที่แผ่กระจายไปทั่วพื้นที่ 43 เฮกตาร์(106 เอเคอร์) นี้เป็นกลุ่มต้นไม้เพศผู้ที่เหมือนกันทางพันธุกรรม และถูกกล่าวขานว่าเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันเพราะทุกลำต้นมีระบบรากร่วม แม้ว่าต้นไม้แต่ละต้นจะมีอายุเฉลี่ย 130 ปี แต่ระบบรากกลับมีอายุถึง 80,000 ปี ทำให้ต้นไม้เหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในโลกด้วย
ทั้งนี้ ยีนหรือกลุ่มของต้น aspen ถือเป็นสิ่งมีชีวิตเอกพจน์ที่มีพลังชีวิตหลักอยู่ใต้ดินในระบบรากที่กว้างขวาง ก่อนที่ต้น aspen ต้นแรกจะปรากฏขึ้นเหนือพื้นผิว ระบบรากอาจอยู่นิ่งๆ มาเป็นเวลาหลายปีจนกว่าสภาวะจะพอดีรวมทั้งแสงแดดที่เพียงพอ ซึ่งในพื้นที่เดียว ต้นไม้แต่ละต้นจะมีพันธุกรรมซ้ำกัน ดังนั้นชื่อ " clones " ของต้น aspen ที่ใช้ อธิบายถึงจุดที่ต้นไม้อยู่รวมกัน
quaking aspen ตั้งชื่อตามการเกิดเสียงหวีดหวิวเมื่อสายลมแห่งฤดูใบไม้ร่วงพัดผ่านต้นไม้
ใบไม้ของพวกมันจะสั่นไหว ทำให้ป่าดูเหมือนสิ่งมีชีวิตที่หายใจได้
ในการขยายต้นใหม่ Quaking aspen จะทำซ้ำผ่านกระบวนการที่เรียกว่า suckering โดยแต่ละต้นสามารถส่งรากด้านข้างออกมาได้ ซึ่งภายใต้สภาวะที่เหมาะสม จะส่งลำต้นตั้งตรงอื่นๆ ที่ดูเหมือนต้นไม้ต้นเดิมออกไปเป็นแนวทำให้แต่ละต้นจะมีลักษณะเป็นโคลนของต้นเดี่ยว นอกจากใบที่สร้างทิวทัศน์สีทองอันน่าทึ่งในฤดูใบไม้ร่วงแล้ว เปลือกไม้สีขาวที่เป็นลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของต้นไม้นี้ก็มีความพิเศษไม่น้อย นั่นคือ ชั้นเปลือกของ aspen สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ งานนี้สงวนไว้สำหรับในฤดูหนาว โดยในขณะที่ต้นไม้ผลัดใบอื่นๆ ส่วนใหญ่จะอยู่เฉยๆ แต่ใบ aspen สามารถผลิตน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานต่อไปได้
Pando นั้นถูกค้นพบและตั้งชื่อโดย Burton V. Barnes แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนในปี 1970 โดย Barnes อธิบายว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตเดียว แม้ไม่ได้ใช้ DNA หรือการทดสอบระดับโมเลกุลใด ๆ เพราะยังไม่ได้พัฒนาในเวลานั้น แต่การวิเคราะห์เพิ่มเติมของ Michael Grant แห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโดในปี 1992 ได้ยืนยันการค้นพบของ Barnes และในปีเดียวกัน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ให้การรับรองว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัยลักษณะทางสัณฐานวิทยา
สำหรับขนาดและอายุของ Pando มักเป็นที่ถกเถียงกันของผู้เชี่ยวชาญ บางคนคาดการณ์ว่า Quaking Aspens ในที่อื่นๆ ของโลกเช่น บนภูเขาสูง Kebler Pass ของโคโลราโดทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขต Crested Butte อาจใหญ่กว่า และบางที่อาจขยายออกไปได้มากกว่า 80 เฮกตาร์ แต่พวกมันยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ ส่วนการประเมินเรื่องอายุของ Pando มีทั้งมากกว่าหนึ่งล้านปี และประมาณ 1 ล้านปี
aspen ( populus tremuloides ) สืบพันธุ์ผ่านรากของพวกมัน เป็นกระบวนการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศที่เรียกว่า " suckering "
และส่งไปตามรางลำเลียงใหม่ที่เติบโตจนกลายเป็นต้นไม้ในที่สุด กล่าวอีกนัยหนึ่ง ระบบรากของพวกมันเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์
เนินเขาทั้งหมดสามารถถูกปกคลุมด้วยสิ่งมีชีวิต aspen เพียงต้นเดียว ซึ่งหมายความว่าใบไม้ทั้งหมดจะปรากฏขึ้นพร้อมกันในฤดูใบไม้ผลิ
และจะเปลี่ยนสีพร้อมกันในฤดูใบไม้ร่วง ทำให้เกิดการจัดแสดงใบไม้ที่น่าทึ่ง
ต่อมาในปี 2008 ตามงานวิจัยที่นักนิเวศวิทยา Paul Rogers จาก Utah State University และ US Forest Service ได้รวบรวมตัวอย่าง DNA ของใบและเปลือกไม้ในยูทาห์เพิ่มเติม พวกเขายังยืนยันว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตต่อหน่วยพื้นที่ทางพันธุกรรมเพียงชนิดเดียวเป็นพืชตัวผู้ทั้งหมด ด้วยเหตุผลดังกล่าว พวกเขาอ้างว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งอื่น ๆ รวมถึง Washington และ Oregon ก็ต้องการตำแหน่งนี้เช่นกัน โดยในปี 1992 นักวิจัยได้ประกาศการค้นพบเชื้อราน้ำผึ้ง (honey fungus - Armillaria) ในวอชิงตันที่แพร่กระจายไปทั่วรากไม้ 1,500 เอเคอร์ จากนั้นในปี 2003 Oregon ได้เพิ่ม Huskies Fungus ขึ้นอีกหนึ่งชนิดโดยการขุดพบเชื้อราชนิดเดียวกันที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น ซึ่งได้แผ่ขยายไปทั่วเกือบ 2,400 เอเคอร์เทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 1,665 แห่งในโอเรกอนตะวันออก และสร้างสถิติเป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น แต่ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ดง aspen ของยูทาห์ได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ต
แม้ Pando อยู่มานานนับพันปีและอาจถึง 14,000 ปี แต่ลำต้นส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่เพียง 130 ปีเท่านั้น ด้วยอายุที่ยืนยาวและความห่างไกลทำให้ระบบนิเวศรวมทั้งพืช 68 สายพันธุ์และสัตว์หลายชนิดมีวิวัฒนาการและได้รับการสนับสนุนภายใต้ร่มเงาของพวกมัน ระบบนิเวศทั้งหมดนี้อาศัย aspen ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และตั้งตรง ถึงแม้ว่า Pando จะได้รับการคุ้มครองโดยกรมป่าไม้แห่งชาติของสหรัฐฯและไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกโค่นลง แต่ก็อยู่ในอันตรายที่จะหายไปเนื่องจากปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการ
Oregon Humongous Fungus เคยสร้างสถิติเป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โชคไม่ดีที่ Pando ถูกคุกคามด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการเอาชีวิตรอดจนถึงปัจจุบัน ตามบทความของ Rogers นักนิเวศวิทยาที่กล่าวว่าป่า aspen กำลังตกอยู่ในอันตราย เนื่องจากไม่มีลำต้นอ่อนที่จะมาแทนที่ลำต้นที่เก่ากว่า ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากการกินของกวางมากเกินไป หากปราศจากการเติบโตใหม่เพื่อทดแทนสิ่งเก่า ป่า aspen มีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติ โดยจะเหี่ยวแห้งและหดตัวลงอย่างกะทันหัน นอกจากกวางแล้ว Pando ยังอยู่ภายใต้การคุกคาม ตั้งแต่การเลี้ยงปศุสัตว์ การพัฒนาที่ผิดที่ และแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงด้วย
ทุกวันนี้ แม้ต้น aspen หลายแห่งทางตะวันตกได้ตายไปบ้างแล้ว แต่การฟื้นฟูกำลังดำเนินการเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของลำต้นใหม่และคงไว้
ซึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้ โดยงานอนุรักษ์ Pando นั้นจริงๆแล้วเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2010, 2013 และเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในปี 2016 และ 2017 และในปัจจุบัน
ด้วยการสนับสนุนจากโครงการ Salt River ของมูลนิธิป่าสงวนแห่งชาติ ได้ช่วยทำรั้วบนพื้นที่ 12 เอเคอร์ของป่า aspen ที่สำคัญบนป่าสงวนแห่งชาติ Kaibab ของรัฐแอริโซนาเพื่อป้องกันกวางมากินต้นไม้ ส่วนในยูทาห์ ป่าสงวนแห่งชาติ (NFF) ได้นำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ มารวมกันเพื่อจัดตั้งคณะทำงานด้านการฟื้นฟูป่า aspen เพื่อกำหนดกลยุทธ์และมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการฟื้นฟู aspen ทั่วทั้งรัฐต่อไป
ก่อนที่ใบของมันจะเกิด aspen ก็มีดอกในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยจะมีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียบนต้นไม้ที่แยกจากกัน
ในรูปนี้เป็นกระจุกดอกไม้เรียกว่า catkins ที่มีเมล็ดเหมือนปุยฝ้ายที่ลอยอยู่ในอากาศซึ่งจะปลิวไปเมื่อโตเต็มที่ในเดือนพฤษภาคม
แม้ว่าจะมีจำนวนนับล้าน แต่เมล็ด aspen ต้องการเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงมากในการงอก ดังนั้น การสืบพันธุ์ส่วนใหญ่ทำได้โดยการงอกของราก
ซึ่งก่อให้เกิด clones หรือกระจุกของต้นไม้ที่เชื่อมต่อกันใต้ดินทั้งหมด
Cr.ภาพ growiser.net/
มุมมองทางอากาศของ Pando โดยมี Fish Lake อยู่ด้านหน้า
Cr.ภาพ Lance Oditt / Friends of Pando, Author provided
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
Pando : สิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Pando นั้นถูกค้นพบและตั้งชื่อโดย Burton V. Barnes แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนในปี 1970 โดย Barnes อธิบายว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตเดียว แม้ไม่ได้ใช้ DNA หรือการทดสอบระดับโมเลกุลใด ๆ เพราะยังไม่ได้พัฒนาในเวลานั้น แต่การวิเคราะห์เพิ่มเติมของ Michael Grant แห่งมหาวิทยาลัยโคโลราโดในปี 1992 ได้ยืนยันการค้นพบของ Barnes และในปีเดียวกัน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ให้การรับรองว่า Pando เป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยอาศัยลักษณะทางสัณฐานวิทยา
สำหรับขนาดและอายุของ Pando มักเป็นที่ถกเถียงกันของผู้เชี่ยวชาญ บางคนคาดการณ์ว่า Quaking Aspens ในที่อื่นๆ ของโลกเช่น บนภูเขาสูง Kebler Pass ของโคโลราโดทางตะวันตกเฉียงเหนือของเขต Crested Butte อาจใหญ่กว่า และบางที่อาจขยายออกไปได้มากกว่า 80 เฮกตาร์ แต่พวกมันยังไม่ได้รับการศึกษาอย่างเต็มที่ ส่วนการประเมินเรื่องอายุของ Pando มีทั้งมากกว่าหนึ่งล้านปี และประมาณ 1 ล้านปี
อย่างไรก็ตาม คู่แข่งอื่น ๆ รวมถึง Washington และ Oregon ก็ต้องการตำแหน่งนี้เช่นกัน โดยในปี 1992 นักวิจัยได้ประกาศการค้นพบเชื้อราน้ำผึ้ง (honey fungus - Armillaria) ในวอชิงตันที่แพร่กระจายไปทั่วรากไม้ 1,500 เอเคอร์ จากนั้นในปี 2003 Oregon ได้เพิ่ม Huskies Fungus ขึ้นอีกหนึ่งชนิดโดยการขุดพบเชื้อราชนิดเดียวกันที่มีขนาดใหญ่กว่านั้น ซึ่งได้แผ่ขยายไปทั่วเกือบ 2,400 เอเคอร์เทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 1,665 แห่งในโอเรกอนตะวันออก และสร้างสถิติเป็นสิ่งมีชีวิตเดี่ยวที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนั้น แต่ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา ดง aspen ของยูทาห์ได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ต
แม้ Pando อยู่มานานนับพันปีและอาจถึง 14,000 ปี แต่ลำต้นส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่เพียง 130 ปีเท่านั้น ด้วยอายุที่ยืนยาวและความห่างไกลทำให้ระบบนิเวศรวมทั้งพืช 68 สายพันธุ์และสัตว์หลายชนิดมีวิวัฒนาการและได้รับการสนับสนุนภายใต้ร่มเงาของพวกมัน ระบบนิเวศทั้งหมดนี้อาศัย aspen ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และตั้งตรง ถึงแม้ว่า Pando จะได้รับการคุ้มครองโดยกรมป่าไม้แห่งชาติของสหรัฐฯและไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกโค่นลง แต่ก็อยู่ในอันตรายที่จะหายไปเนื่องจากปัจจัยอื่นๆ อีกหลายประการ
ทุกวันนี้ แม้ต้น aspen หลายแห่งทางตะวันตกได้ตายไปบ้างแล้ว แต่การฟื้นฟูกำลังดำเนินการเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของลำต้นใหม่และคงไว้
ซึ่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้ โดยงานอนุรักษ์ Pando นั้นจริงๆแล้วเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2010, 2013 และเพิ่มความพยายามเป็นสองเท่าในปี 2016 และ 2017 และในปัจจุบัน
ด้วยการสนับสนุนจากโครงการ Salt River ของมูลนิธิป่าสงวนแห่งชาติ ได้ช่วยทำรั้วบนพื้นที่ 12 เอเคอร์ของป่า aspen ที่สำคัญบนป่าสงวนแห่งชาติ Kaibab ของรัฐแอริโซนาเพื่อป้องกันกวางมากินต้นไม้ ส่วนในยูทาห์ ป่าสงวนแห่งชาติ (NFF) ได้นำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ มารวมกันเพื่อจัดตั้งคณะทำงานด้านการฟื้นฟูป่า aspen เพื่อกำหนดกลยุทธ์และมาตรฐาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการฟื้นฟู aspen ทั่วทั้งรัฐต่อไป