จารย์ปาร์ค "เวียดนามต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่กันอีกครั้ง"


โค้ช Park Hang-seo พูดคุยกับผู้ช่วยของเขาในซูซูกิคัพ 2020 ภาพ:  Leo Shengwei


ฮานอย - โค้ชปาร์ค ฮังซอ เปิดใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทีมสต๊าฟฟ์ของทีมเวียดนามและเริ่มต้นใหม่ของทีมเวียดนามอีกครั้ง หลังจบรายการ ซูซูกิคัพ 2020 เช้าวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา


แม้จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านรอบคัดเลือกรอบที่สองของฟุตบอลโลกปี 2022 โซนเอเชียได้เป็นครั้งแรก แต่เดือนสุดท้ายของปี 2021 ก็ไม่ใช่สิ่งที่ราบรื่นนักสำหรับโคชปาร์คและนักเตะของเขา ทีมชาติเวียดนามมีผลการแข่งขันที่ย่ำแย่ ด้วยการแพ้ทั้ง 6 นัดในรอบคัดเลือกรอบที่สามของฟุตบอลโลก และล้มเหลวในการป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพ เมื่อแพ้ทีมชาติไทยผลสกอร์รวม 0-2 หลังจากแข่ง 2 นัดรอบรองชนะเลิศ

"ในวันแรกของปีใหม่ ผมมองย้อนกลับไปถึงการเดินทางที่ผ่านมาในปี 2021"  โค้ชปาร์ค  บอกในเพจเฟซบุ๊กของสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม  “มีความอุปสรรคมากมายเมื่อพวกเราต้องรวมตัวเป็นทีม เราก็สามารถเอาชนะได้ แต่ก็มีปัญหาที่ยากมากเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แนวทางและข้อจำกัดระบบการกักตัวอันเนื่องมาจาก Covid-19 ได้บังคับให้ผู้เล่นอยู่ในพื้นที่จำกัดเป็นเวลานาน มันเลยส่งผลกระทบอย่างมากต่อจิตวิทยาของพวกนักเตะ" ปาร์คบอก แต่หลายคนบอกว่าเป็นข้ออ้างมากกว่า เมื่อพิจารณาเส้นทางสู่ความสำเร็จจากของทีมชาติเวียดนาม ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา ผ่านมา 3 ปี จนถึงปัจจุบัน ทีมชาติเวียดนาม ไม่สามารถรักษาแรงกระตุ้น แรงจูงใจใหม่ๆ ความสามารถในการแข่งขัน และความทะเยอทะยานของทีมให้สูงไปกว่านี้ได้ ดังนั้นหัวหน้าโค้ชเกาหลีคนนี้จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทีมจะต้องเริ่มต้นใหม่จากจุดเริ่มต้น


“เราต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นในปี 2018 ซึ่งแม้จะหมายความว่าเราต้องกลับไปสู่จุดเริ่มต้นที่ตกต่ำและต่ำต้อย แต่มันก็จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจและความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่อีกครั้ง มันจะส่งให้เรากลับไปสู่จุดที่เราเคยเป็น” เขากล่าว "การเริ่มต้นใหม่เป็นบทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับชาวเวียดนาม เจ้าหน้าที่ฝึกสอน สต๊าฟโค้ช รวมทั้งผมและทุกคนที่เกี่ยวข้องในทีมชาติ ทุกคนจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเดียวกันนั้นคือให้ทีมชาติเวียดนาม ประสบความสำเร็จในปี 2022 ให้ได้" ปาร์คกล่าวด้วยความมุ่งมั่น


Que Ngoc Hai และเพื่อนร่วมทีมของเขาล้มเหลวในการป้องกันแชมป์ซูซูกิคัพ ภาพถ่าย: “Leo Shengwei”

นอกจากนี้ ล่าสุดจากผลกระทบการตกรอบซูซูกิคัพ 2020 โค้ชปาร์คได้ประกาศการตัดสินใจถอด Que Ngoc Hai ออกจากบทบาทการเป็นกัปตันทีมชาติเวียดนาม หลังจากที่กองหลังวัย 28 ปีผู้นี้ รับหน้าที่นี้มาตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา  รวมถึงรองกัปตัน Pham Duc Huy และ Luong Xuan Truong ก็ถูกถอดออกเช่นกัน

ซึ่งก่อนที่ Que Ngoc Hai รับหน้าที่กัปตันทีม ปลอกแขนกัปตันทีมเจ้าของเดิมนั้นเป็นของ Nguyen Van Quyet  แต่หลังจากที่เวียดนามได้แชมป์ซูซูกิคัพ 2018 กองหน้าชาวฮานอยไม่ได้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอีกเลย แม้ว่าจะโชว์ฟอร์มได้ดีในวีลีกก็ตาม

“กัปตันทีมล้วนต้องเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้เล่นคนอื่นๆ ทั้งในและนอกสนาม” โค้ชปาร์คกล่าว  “Que Ngoc Hai เป็นกัปตันทีมมา 3 ปีแล้ว รวมถึงรองกัปตันที่ได้รับมอบหมายหน้าที่อันยิ่งใหญ่ในการเป็นผู้นำของผู้เล่น แต่ตอนนี้ สตาฟฟ์โค้ชก็ต้องการแบ่งเบาภาระบนบ่าของกัปตันเช่นกัน เพื่อให้พวกเขาทุ่มเทกับการเล่นฟุตบอลได้อย่างเต็มที่ หลังจากการฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายของทีมเมื่อวันที่ 3 มกราคม ผมได้พูดคุยกับกัปตันและรองกัปตันอย่างเปิดใจ เราเห็นด้วยกันว่าจำเป็นต้องมีบรรยากาศใหม่ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศใหม่ เพื่อให้เกิดโมเมนตัมในทางที่ดีต่อทีมและกลับสู่จุดเริ่มต้นด้วยทัศนคติความมุ่งมั่นของผู้เล่นอีกครั้ง"

สำหรับทีมชาติเวียดนาม จะรวมตัวกันฝึกซ้อมอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกับออสเตรเลีย (27 มกราคม) และจีน (1 กุมภาพันธ์) ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งโค้ชปาร์คตั้งใจที่จะเรียกผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนเพื่อปรับปรุงความสามารถของทีม

ปาร์ค ฮังซอ เป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์เวียดนาม  ตั้งแต่เขามาคุมทีมปลายปี 2017 เขาก็เริ่มต้นด้วยการพาเวียดนามได้รองแชมป์ฟุตบอลเอเชีย U23 ปี 2018, อันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2018 , แชมป์ซูซูกิคัพ 2018 ,รอบ 8 ทีมเอเชียนคัพ 2019 และผ่านเข้ารอบคัดเลือกรอบ 3 โซนเอเชียของการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 ได้สำเร็จ เมื่อปีที่แล้ว
เขาได้ต่อสัญญาคุมทีมเวียดนามออกไปอีก 1 ปี จากสัญญาเดิมฉบับที่ 2 กับสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม  ซึ่งกินเวลาไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2023

Cr.VNExpress
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่