ประสบการณ์อยากแชร์ เฉียดตาย ทรมานสุด ของนักศึกษาหอพักมหาลัย ช่วงเทศกาลปีใหม่ ในโตเกียว

ผมเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย
อาศัยอยู่หอนานาชาติของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียว
.
วันนี้จะมาเล่าอาการปวดแบบฉุกเฉิน เมื่ออยู่ญี่ปุ่นคนเดียว
ตอนตี 4 เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ไม่ได้ท้องเสีย
ฉี่ออกปกติแต่ปัสสาวะสีเข้ม 
เจ็บทรมานมากมาก 2 ชม.ผ่านไปก็ยังปวดเหมือนเดิม
อาการเจ็บปวดไม่ได้ลดลงเลย
.
.
เริ่มนึกในใจ ถ้าหนักไปกว่านี้ ว่าจะติดต่อใครให้พาไป รพ. 
ประมาณ 7.30 ตัดสินใจโทรหาอาจารย์ที่ปรึกษาชาวญี่ปุ่น
แจ้งอาจารย์ว่าผมปวดแบบทรมานมาก โปรดช่วยฉันที
.
โชคร้ายครั้งที่ 1 อาจารย์ ไปเที่ยว ตจว. กับครอบครัว
บอกให้เราติดต่อคนที่หอที่อาศัยตึกเดียวกันให้ช่วยเรียก รถ รพ.
ผมตัดสินใจลุกออกจากเตียง สภาพแทบคลาน
ลงมาห้องครัวรวมของหอ  เจอป้าผู้จัดการหอ และป้าแม่บ้าน 2 คน และเด็กหอชาวจีน 1 คน
ผมบอกทุกคนว่าใครก็ได้ช่วยฉันพาฉันไปโรงพยาบาลหรือ Call Ambulance ที
.
โชคร้ายครั้งที่ 2  ผู้จัดการหอ และแม่บ้าน ทำหน้าตกใจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ส่วนหอชาวเด็กจีน (ผู้หญิง) อาสาไปตาม เด็กหอชาวญี่ปุ่น (ผู้ชาย) อีกคนให้ (อันนี้ ไหวพริบมาก)
เพราะเด็กหอชาวจีนให้เหตุผลว่า ให้เด็กหอชาวญี่ปุ่นพาไป รพ. ดีกว่า
เด็กหอชาวจีนขึ้นไปเคาะปลุกเด็กหอชาวญี่ปุ่น เด็กหอชาวญี่ปุ่นตื่นงัวเงียเปิดประตูห้อง
ผมเลยบอกเด็กหอชาวญี่ปุ่นว่า ช่วยฉันพาฉันไปโรงพยาบาล หรือ Call Ambulance ที
โชคร้ายครั้งที่ 3 เด็กหอชาวญี่ปุ่น บอกว่าเขามีเรียนตอนเช้า  ไม่สามารถไปด้วยได้
เราก็เลยบอกว่า เรียก Ambulance  ให้ทีเถอะ
.
ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยิน Culture Shock  เกี่ยวกับเนื้อในคนญี่ปุ่นจริงๆ มาหลายครั้ง ครั้งนี้ก็ได้พิสูจน์กับตัวเอง 
เกี่ยวกับความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ ที่ส่วนใหญ่จะพยายามไม่อยากยุ่งแล้วไม่ได้ก้าวก่ายกัน
คนญี่ปุ่นที่จะสามารถช่วยเราได้ ต้องเป็นหน้าที่โดยตรงของเขา เขาถึงช่วยเราได้
(เช่นอาจารย์ที่ปรึกษา หรือ เจ้าหน้าที่มหาลัย)
แต่ถ้าเป็นคนอื่นๆ หากไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็จะปฏิเสธ หรือ ไม่สนใจใยดีที่จะช่วยเลย แม้จะล้มไปตรงหน้าเขา
คนไทยดีกว่าเยอะครับ ตรงที่ส่วนใหญ่ความมีน้ำใจ
(นึกถึงที่ไทย ถ้าเราเป็นลม จะต้องมีไทยมุง ต้องมี รปภ  ต้องมี คนผ่านไปมา
หรือ คนแถวนั้นต้องโทรแจ้ง กู้ภัยให้แล้ว)
.
.
โชคดีของผมยังมีอยู่บ้าง....สักพักเด็กหอคนญี่ปุ่นที่บอกมีเรียนตอนเช้า  
เขามีแฟนสาวคนจีนของเขามาหาที่หอพอดี
แฟนสาวเขา กับผมไม่รู้จักกัน 
แต่แฟนสาวเขาอาสาที่จะขับรถของเขาไปส่งผมที่ รพ.
เรียกว่า พระเจ้ามาโปรด
คนนี้ชื่อซูเค้อ ผู้หญิงคนจีน  แฟนสาวคนจีนของเด็กหอคนญี่ปุ่น
เขาพาไปดำเนินการให้ นับถือน้ำใจเขาจริงๆ
ตั้งแต่ 8.30 จนถึง 14.00  
ใช้เวลาใน รพ. นานมาก เพราะต้องตรวจเช็คเยอะ และรอคิว
และไม่ได้กินข้าวอะไรเลย ตั้งแต่เช้า
.
.
รพ.ญี่ปุ่น คนไข้ต้องช่วยตัวเองทุกอย่าง 
เห็นคนแก่บางคน 80-90 นั่งรถก็ใช้แขนเข็นรถวีลแชร์เอง
เนื่องจาก รพ.ญี่ปุ่นเป็นใช้ภาษาญี่ปุ่นหมดเลย 
และมีเอกสารแบบสอบถามมากมายให้กรอกเยอะมาก
ผมโดนสั่งตรวจเลือดสำหรับการวินิจฉัย
X-ray เอกซเรย์ช่องท้องส่วนล่าง
และพบหมอทางเดินอาหาร บอกว่าเหมือนจะนิ่วในไต
หมอคนที่หนึ่งเลยส่งตรวจไปหาหมอเฉพาะทาง 
.
.
หมอเฉพาะทางทางการเดินปัสสาวะ  บอกว่าต้องตรวจเพิ่มเอาให้ชัวร์
โชคดีที่ รพ.นี้มี CT Scan อุโมงค์
บอกว่าขอดูภาพ CT Scan สามมิติ ก่อน เอาให้ชัด
เขาสั่งส่งตรวจ CT Scan สามมิติ ช่องท้อง 
อันนี้นอนในอุโมงค์สแกน 3 นาทีเห็นจะได้
ผลปรากฏพบก้อนนิ่ว หมอเฉพาะทางเปิดรูป Axial ให้ดู
หมอบอกว่าโชคยังดีมากนิ่วได้หลุดจากไตและท่อไตมาแล้ว
ตอนนี้อยู่ที่กระเพาะปัสสาวะ น่าจะขับออกมาทางท่อปัสสาวะหลังจากนี้
เลยให้ยาแก้ปวดมากิน และนัด Follow up อาการอีก 2 อาทิตย์
ณ เวลานั้น เวลาบ่าย 2 ผมยังมีอาการปวดท้องอยู่
กลับหอแล้วรีบทานยาที่หมอให้ และนอนพัก 
ตื่นมาอีกที 4 โมงอาการเบาขึ้นเยอะ
เลยขอมาเล่าให้ฟังประสบการณ์เฉียดตาย ทรมานสุดๆ
..
..
สิ่งที่อยากแชร์คือ
1.  ไป รพ.ญี่ปุ่น  ต้องมีคนสื่อสารภาษาญี่ปุ่นไปด้วย 
ไม่แนะนำไปคนเดียว  เพราะมันต้องกรอกฟอร์ม ถามโน้นนี่นั้น
ยิ่งคุณป่วยแบบฉุกเฉิน คุณจะไม่มีอารมณ์มากรอกแบบสอบถาม
ทุกจุดที่ไปใช้บริการ
และทุก Station ทั้งเอกสาร ทั้งเจ้าหน้าที่ ไม่มีภาษาอังกฤษเลย
ไม่มีเวลามาเปิดแอพฯ Google Translate แค่เดินก็จะยังไม่มีแรง
.
.
2. นิ่วในไต  เกิดจากเพราะทานน้ำน้อย 
ทำให้มันจับตัวเป็นก้อนนิ่วได้ง่าย
เป็นข้อคิดว่า แม้จะอากาศหนาว 
เราก็ควรดื่มน้ำให้ได้ปกติ
.
3. ประสบการณ์นี้อยากจะแชร์ว่า
อยู่ต่างประเทศต้องดูแลสุขภาพมาก ๆ เลยครับ 
ยิ่งอยู่คนเดียว ต้องไม่ประมาท
เจ็บป่วยที การเข้าถึงการรักษายากลำบากมาก 
ถ้าไม่ได้ภาษาญี่ปุ่น ก็ลำบาก X 2
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่