เอาตามประวัติศาสตร์เลยนะครับ (แต่ศาสตราจารย์ และ ผอ. ทั้ง 2 หน่อ ไม่มีจริงนะครับ เป็นตัวละครสมมติ)

ย้อนกลับไปปี พ.ศ.2504 มีนายพลเกาหลีใต้ชื่อปาร์คจุงฮี (พ่อของปาร์คกึนเฮ ประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกถอดถอนในปี 2560) ก่อรัฐประหาร แล้วปกครองเกาหลีใต้แบบเผด็จการ (คนที่พวกแก๊งคุณนายบรรยายว่าคือคนที่พ่อหมอเคยดูดวงให้สมัยที่เขาเรืองอำนาจ) เอาเข้าจริงนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศในปี 2491 เกาหลีใต้แทบจะถูกปกครองด้วยเผด็จการมาตลอดแหละครับ (ขณะที่เกาหลีเหนือเป็นคอมมิวนิสต์) หนังเกี่ยวกับยุคเผด็จการนายพลปาร์คมีเยอะมาก (รวมทั้งหนังเกี่ยวกับสงครามเวียดนามหลายเรื่อง เช่น The Classic) นับตั้งแต่ยุค 1970 เป็นต้นมา นักศึกษาเกาหลีใต้เริ่มตื่นตัวทางการเมือง ออกประท้วงขับไล่นายพลปาร์คบ่อยมาก

ปาร์คจุงฮีถูกยิงตายในเดือน ต.ค. 2522 (มีหนังกล่าวถึงเหตุการณ์นี้หลายเรื่องมากนะครับ เช่น Ditto, President's Barber, President's last bang) ทำให้นายกรัฐมนตรีชอยจูฮาต้องขึ้นรักษาการประธานาธิบดี จากนั้น 2 เดือนต่อมา นายพลชุนดูวาน 1 ในลูกน้องของนายพลปาร์คได้ก่อรัฐประหารขึ้น (ประธานาธิบดีในเรื่อง Snowdrop) ที่ 2 ผอ.หน่วยข่าวกรองเรียกว่าโค้ดวันนั่นแหละครับ จะมีฉากที่เลขานัมซึ่งเป็นอดีตทหาร แต่เป็นรุ่นน้องโรงเรียนนายร้อยพ่อนางเอกถึง 4 ปี บ่นว่าตอนโค้ดวันก่อรัฐประหาร พ่อนางเอกกลับไม่ยอมเข้าร่วม ก่อนที่เลขานัมจะโอนจากทหารมาเป็น ผอ.หน่วยข่าวกรอง พอพ้นตำแหน่งก็ได้เป็นเลขาพรรคการเมืองที่โค้ดวันจะส่งลงเลือกตั้ง แล้วพ่อนางเอกก็โอนจากทหารมาเป็น ผอ.สำนักข่าวกรองแทน (พวกเจ้าหน้าที่ใส่สูททั้งหลาย เช่น ตาแว่นผัวช่างตัดเสื้อ พยัคฆ์ดำ และจางฮันนา เป็นเจ้าหน้าที่สำนักข่าวกรองนะครับ ไม่ใช่ตำรวจ ตำรวจจะเป็นพวกหน่วยจู่โจมชุดดำ, สไนเปอร์ หรือคนถือโล่)

ลืมเล่าไปว่าหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ก่อตั้งสมัยนายพลปาร์ค ชื่อ Korean Central Intelligence Agency หรือ KCIA ต่อมาในยุคชุนดูวานเปลี่ยนชื่อเป็น Agency for National Security Planning หรือ ANSP ซึ่งก็คือชื่อในเรื่องนี้แหละครับ ที่พ่อนางเอกเป็น ผอ. และเลขานัมเป็นอดีต ผอ. ปัจจุบันหน่วยงานนี้เปลี่ยนชื่อเป็น National Intelligence Service หรือ NIS

ช่วงแรกๆ นายพลชุนยังให้ประธานาธิบดีชอยรักษาการประธานาธิบดีต่อไป แต่คณะปฏิวัติของเขากุมอำนาจสูงสุด (อารมณ์คล้ายๆ นายพลมินอ่องลายของพม่า ปัจจุบันแม้ว่าคนอื่นจะเป็นประธานาธิบดี แต่มินอ่องลายซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารถืออำนาจสูงสุด) แน่นอนว่าก็มีการประท้วงตามมามากมาย จนเดือน พ.ค. 2523 นายพลชุนส่งทหารไปปราบปรามผู้ประท้วงที่เมืองกวางจูจนเสียชีวิตนับร้อยราย (บ้างก็ว่าเป็นพัน ปรากฏในหนังเรื่อง May 18, Taxi Driver และ 26 years) และในที่สุด ก.ย. 2523 ชุนก็ขึ้นเป็นประธานาธิบดี จึงมีนามเรียกขานว่าโค้ดวัน

ยิ่งนานวัน คนก็ยิ่งต่อต้านมากขึ้น แต่ด้วยความที่เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้า ทำให้ชุนยังครองอำนาจต่อมาได้ แถมกรุงโซลยังได้เป็นเจ้าภาพกีฬาสำคัญ 2 รายการติด โดยได้เป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ในปี 2529 และโอลิมปิกในปี 2531 แต่การที่ชาติเผด็จการอย่างเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพกีฬาใหญ่ ก็ถูกตะวันตกโจมตีมากมาย รวมถึงพยายามจะขุดคุ้ยเหตุการณ์ที่กวางจู ประกอบกับช่วงขาลง เกิดการประท้วงต่อเนื่องยาวนาน จนในเดือน ม.ค. 2530 มี นศ. ที่ประท้วงและถูกตำรวจควบคุมตัวเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนา คนเชื่อว่าถูกซ้อม ก็ยิ่งประท้วงหนักข้อขึ้น จนเดือน มิ.ย. 2530 ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วง กระสุนตกกลางศีรษะนักศึกษาคนหนึ่งเสียชีวิต ยิ่งโหมไฟความแค้นให้กับชาวเกาหลีใต้ จนในที่สุด โค้ดวันต้องยอมปฏิรูปการเมือง ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือน ธ.ค.2530 (2 เหตุการณ์ที่ นศ.เสียชีวิต รวมถึงการใช้อำนาจไปในทางที่ไม่ชอบต่อผู้ต่อต้านรัฐบาลของตำรวจเกาหลีใต้ในขณะนั้น ปรากฏในหนังเรื่อง 1987: when the day come)

หนังเรื่อง Snowdrop คือเหตุการณ์ที่กำลังจะเลือกตั้งในเดือน ธ.ค. 2530 นี่เอง โดยโค้ดวันส่งนายพลโรแตวู เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยที่อยู่คู่กันมาตลอด ไปสงครามเวียดนามด้วยกัน ร่วมรัฐประหาร และปกครองแบบเผด็จการด้วยกันมาตลอดเป็นทายาททางการเมือง ในขณะเดียวกันต้องยอมให้คิมแดจุง และคิมยังซัม อดีตศัตรูทางการเมืองที่โดนจำคุกออกมาลงเลือกตั้งเพื่อความเป็นประชาธิปไตย (ทั้ง 2 เคยโดนจำคุก และลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศ)

คิมแดจุงผู้นี้ แต่ไหนแต่ไรถูกกล่าวหามาตลอดว่าเป็นคอมมิวนิสต์บ้าง ฝักใฝ่เกาหลีเหนือบ้าง ซึ่งในเรื่อง Snowdrop ฝ่ายโค้ดวันพยายามจะเอาจุดนี้มาโจมตี จึงตั้งใจสร้างเรื่องว่าหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของคิมแดจุงซึ่งก็คือศาสตราจารย์ฮัน เดินทางไปเกาหลีเหนือ เพราะจะใส่ร้ายว่าแท้จริงแล้ว พรรคของคิมแดจุงเป็นหุ่นเชิดเกาหลีเหนือนั่นเอง