สวัสดีปีใหม่ 2565 สวัสดีปีเสือ ด้วยภาพรีสอร์ทค่ะ ทริปปราณบุรี @สามร้อยยอด Fisherman Resort(ฟิชเชอแมน รีสอร์ท)

ทริปนี้ถือว่าเป็นการพักผ่อนช่วงวันหยุดปีใหม่ 3 วัน ก็ว่าได้ค่ะ เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเจอสถานการณ์โควิค-19 ทำให้เราทำแต่งานและกลับบ้าน ไม่ได้เที่ยวที่ไหนเลย ทริปนี้จริงๆจองรีสอร์ทไว้จะไปตั้งแต่สิ้นปี 63 เนื่องด้วยเหตุการณ์โรคระบาด จึงทำให้เราเลื่อนมาเรื่อยๆค่ะ

และทริปนี้ก็จองไว้ 3 วัน 2 คืน 2 ห้อง ที่ต้องมีพ่อแม่แฟนท่านไปด้วย พอถึงเวลามาเจอโรคระบาดอีก โควิคสายพันธ์โอไมครอน

จึงทำให้เราได้ไปกันแค่ 2 คน กับแฟนค่ะ

เช้าวันที่ 31/12/64 ที่หมายแรก เราเริ่มการเดินออกจากบ้านเวลา 06.30 น. จากที่ตั้งไว้ ตี 5 เราต้องออกจากบ้าน

แต่ด้วยความที่ไปรถส่วนตัวไปกันแค่ 2 คน และไม่ได้วางแพลนร่วงหน้าว่าต้องเที่ยวจุดนั้น จุดนี้ ไปไม่เร่งรีบ ไปแบบเรื่อยๆ ถึงเมื่อไรก็ว่ากัน

แต่ที่แรกที่เราตั้งใจว่าอยากไป เลยเป็นที่มาของเป้าหมายแรกว่าจะไปไหว้ท้าวเวสสุวรรณ วัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม

ก่อนถึงวัด เราก็แวะเติมน้ำมันแถวทางออกพระราม 2 หลังจากลงทางด่วนพิเศษหมายเลข 9 แวะปั๊ม และหามื้อเช้าทาน รออาหารค่อนข้างนานไปนิด

และเราก็เดินทางต่อไปวัดค่ะ ในความคิด เราคิดว่าที่วัดน่าจะคนน้อย ด้วยเทศกาลผู้คนน่าจะออก ต่างจังหวัดกันเยอะ

สุดท้ายก็เป็นตามที่คิดค่ะ ไปถึงรถไม่ติด คนไม่เยอะ มีที่จอดรถอย่างเยอะค่ะ 

ที่สุดถึงวัดจุฬามณี เวลา 9.15 น. อากาศก็ไม่ร้อนมาก แต่ด้วยควันธุปเทียน ปะปนในอากาศ ทำให้เหงื่อแตกได้เช่นกันค่ะ

ไปถึงหน้าวัดเราก็ไปไหว้สักการะ ท้าวเวสสุวรรณที่อยู่ตรงหน้าโบสถ์ เสร็จแล้วไปต่อ อีก 1 จุด เยื้องๆโบสถ์ ไปทางขวามือค่ะ 

จุดนี้เราก็ถือเคล็ด เอากระเป๋าสตางค์ ไปวนรอบกระบองท่าน 9 รอบตามความเชื่อ เรื่องเงินทองไหลเข้ากระเป๋าค่ะ

ตอนที่เอากระเป๋าไปวน เราก็กล่าวขอพรจากท่านเรื่องโชคลาภเงินทองไปค่ะ 

หลังจากนั้นก็ปิดจบด้วยการไปไหว้พระในโบสถ์ ทำบุญตามกำลังศรัทธา จะบอกว่ามองด้วยตาเปล่าสวยมากๆ อากาศในโบสถ์เย็นมาก

เรานั่งในโบสถ์อยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมงเป็นได้ จากนั้นก็ออกเดินทางไปต่อยังที่พักเรา

***หมายเหตุ เราถ่ายรูปไม่เก่งค่ะ อาศัยกล้องดี แอปดี ถาพก็พอจะมองได้ค่ะ ต้องขออภัยเรื่องการถ่ายภาพด้วยนะคะ

 

มาถึงที่พัก 12.20 น. สรุปยังรอแม่บ้านเก็บทำความสะอาดของที่พักคนก่อน เวลาที่เราเข้าได้ 12.00 น. เราเข้าที่พักได้คือ 12.50 ค่ะ

แต่เราก็เข้าไป Check-in ที่เคาเตอร์เสร็จ เราเลยถือกระป๋องสเปรย์ฆ่าเชื้อเข้าไปพ่น อีกรอบคุณป้าแม่บ้านเห็นเขาก็อาสาทำให้ค่ะ

แต่ตอนที่เรารอ เราก็เห็นแล้วค่ะ คุณป้าแม่บ้านกำลังเอาแอลกอฮอร์เช็ดตามจุดต่างๆทุกจุด ก่อนเราเดินเข้าไปแล้ว

เพื่อความสบายใจ เราก็พกสเปรย์เข้าไปพ่นทำความสะอาด เพื่อความปลอดภัยของเราเนอะ

ห้องที่เราพักเป็นห้องด้านหน้าสุดติดทะเล ที่มีชุดเก้าอี้ขาวๆ ทั้ง 2 ชุด ด้านข้างและด้านหน้า มองจากที่นอนวิวทะเลเลย ใกล้ทะเลสุดก็เป็นห้องของเรา A1 ที่พักราคา 1550 บาท/คืน จะมีค่ามัดจำกุญแจอีก 500 บาท ตอน Check-out ออก ถ้าไม่มีอะไรเสียหาย ทางรีสอทร์ก็จะคืนมัดจำให้ค่ะ 

- ที่พักมีอาหารเช้าให้(รสชาติดี แบบบุฟเฟต์ถ้าคนพักเต็ม)

- สระว่ายน้ำ(ใส่ได้แค่ชุดว่ายน้ำเท่านั้นนะคะ)

- แอร์

- ทีวี

- พัดลม

- เครื่องทำน้ำอุ่น

- ตู้เย็น

- กาน้ำร้อน

- ที่พักมีบริการร้านอาหารค่ะ

เรื่องที่พักการบริการ เราประทับใจนะคะ สะอาด น้ำในสระก็สะอาดดีค่ะ เดินออกจากห้องพัก ข้ามถนนไป 30 เมตร

ก็ถึงทะเล แนวนี้เรียกว่าหาดสามร้อยยอดค่ะ บรรยากาศสบายกำลังดี ที่พักเหมาะกับทุกวัยเลยนะคะ เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่

เด็กๆก็มีสระน้ำ หาดทรายให้เล่นด้วยค่ะ ส่วนเราเราก็นั่งเล่นหน้าห้องพักแปปนึ่ง เราเข้าไปนอนพักกันประมาณ 2 ชั่วโมง

ตื่นมาอีกทีคือ ประมาณ 16.00 น. ได้ค่ะ เราก็ออกไปเดินทะเล รับบรรยากาศ รับลมทะเลกันพักใหญ่ 

หาดสามร้อยยอด ไม่ได้สวยมากเท่ากับทะเลที่อื่นแต่สำหรับเรา ก็ถือว่าได้บรรยากาศ เงียบ สงบ ส่วนตัวดีค่ะ ที่พักก็มีตลอดหน้าหาดมีหลายๆที่พัก

ในระแวกนี้ถือว่าบ้านๆ ธรรมชาติเลยค่ะ ไม่มีร้านสะดวกซื้อ มีแต่ร้านชำเล็กๆ ห่างจากที่พักออกไป ราวๆ 500 เมตร

มีแค่รถสามล้อมาขายของ ปลาหมึกย่าง ไข่ปิ้ง โรตี ส้มตำ ลูกชิ้นทอด อย่างละ 1 คัน ในช่วงค่ำๆเท่านั้นนะ

ใครอยากทานอะไร ก็ควรจัดสรรค์ กันไปเอง ที่พักยังมีจำพวก เตาย่าง จาน ชาม(ไว้สำหรับให้เช่าค่ะ)

เพราะกว่าจะออกไปหาอะไรทานได้ก็ออกไปไกลพอสมควรค่ะ ออกไปราวๆ 40 กิโล ก็มี ถนนคนเดินปากน้ำปรานค่ะ ทางผ่านก็มี 7-11 ค่ะ

จากนั้นช่วงเย็นหลังจาก ถ่ายรูปเสร็จ เราก็มาสั่งอาหารที่ของที่พักเพื่อรอทานมื้อเย็นกันหน้าที่พักค่ะ

สำหรับค่ำคืนนี้หน้าหาดก็เต็มไปด้วยผู้คนที่รอเฉลิมฉลอง เคาท์ดาวน์ในค่ำคืนนี้ จะมีกลุ่มผู้ใหญ่ ลูกๆหลานๆ

ที่เป็นครอบครัวใหญ่ หรือเพื่อนฝูงนัดกันจับกลุ่มกันมาทานมื้อเย็น

มีทั้งสั่งอาหารของที่พัก มีทั้งเตรียมของกันมาปิ้งย่าง เต็มริมหน้าหาดกันเลยที่เดียว 

ส่วนคืนนี้สำหรับเรา 2 คน ก็ทานกันหน้าห้องพัก เราสั่งอาหารไว้ 6 อย่าง เสริฟร์หน้าห้อง 19.00 น. ก่อนทานมื้อเย็น

ตอนนี้มัน 17.45 เรามีดริ้งกันก่อน เพราะเราก็แวะ 7-11 ก่อนเข้ามาแล้ว เตรียมเครื่องดื่ม เตรียมขนม กับแกล้มนิดน้อย

มานั่งดื่มรับลมกันก่อนในช่วงเย็นนี้ ก็ได้บรรยากาศมากเลยค่ะ ลมเย็น นั่งมองทะเล ชิวๆไปจน พลบค่ำ ช่วง 19.00 น.

อาหารก็มาเสิร์ฟ เราตรงตามเวลา ราคารวมแล้ว 895 บาท แต่รสชาติ เราให้ 8/10 เลยค่ะ ทางรีสอทร์แอบไปทางหวานนิดๆ

แต่แอบเสียดาย แบตมือถือหมด แบตกล้องก็หมด เลยไม่ได้ถ่ายทำภาพเก็บไว้เลยค่ะ แต่ละเมนู ราคาก็สมเหตุสมผลค่ะ

- ปลาทรายทอดขมิ้น

- ต้มยำทะเลน้ำข้น เป็นหม้อ

- ข้าวผัดหมูจานกลาง (มาแบบกินได้ 4-5 คน เลยค่ะ)

- ส้มตำปูปลาร้า

- คั่วกลิ้งปลา

- ผักชุปแป้งทอด

     

(แอบปิดตัวเองนิดนะคะ ภาพไม่น่ามอง)

ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาวบนท้องฟ้า ลมพัดอากาศเย็นๆ ริมหาดน้ำก็เริ่มลดในตอนกลางคืน เราไม่ได้ไปเดิมริมหาดนะคะ ด้วยสถานการณ์โควิค

คนริมหาดเยอะมาก เราเลยขอห่างจากผู้คน ทานข้าวเสร็จนั่งอีกสักพัก เราก็แอบไปเล่นสระน้ำค่ะ เพราะด้วยช่วงกลางวันเด็กๆเยอะมาก

คนเยอะมากเราเลยเลือกไปเล่น ช่วง 21.25 น. เล่นไป ก็อิ่มกับบรรยากาศไป หลายๆกลุ่มนั้นก็มีพลุกันมาเอง ต่างก็จุดพลุกันเรื่อยๆ ตั้งแต่ 2 ทุ่มค่ะ

ก็นั่งแช่น้ำไป ชมไป อากาศโคตรดีค่ะ ทำงานมาทั้งปี รู้สึกผ่อนคลาย สบายดีค่ะ ตอนนั้นแบบสมองไม่มีความเครียดเลย ปลดปล่อยสุดๆเลยค่ะ

เช้ามาวันที่ 1/1/2565 ตื่นมาในเวลา 7.30 น. ก็เปิดม่านรับลมทะเล ชมวิวหาดทราย นอนฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง

และลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน เพื่อไปทานมื้อเช้าที่หน้าเคาท์เตอร์ รีสอทร์ ค่ะ อันนี้เราก็ไม่ได้ถ่ายรูปนะคะ ไม่ได้เอามือถือตอนไปทานข้าว

มื้อเช้าจะมี ข้าวต้มไก่ใส่เห็ดหอม มีผัดไทใส่ไข่กับเต้าหู้แผ่น มีชากาแฟ โอวันตินซองสำเร็จรูป มีสลัดผัด มีขนมปังปิ้งราดซอส ราดนมข้น

และมีน้ำเปล่ากับน้ำส้มไว้คอยบริการเรา สำหรับเช้านี้ในวันปีใหม่ รสชาติก็อย่างที่บอกค่ะ ถือว่ารสชาติดีทีเดียวค่ะ

****ไว้กลับมาต่อนะคะ