เรื่องสั้นนี้เป็นเรื่องที่ลินำงานของ อ. Psycho G มาผสมเข้ากับงานของตัวเอง (จำชื่อต้นเรื่องของ อ. จี ไม่ได้แล้วค่ะ อ. เขียนไว้ยาวมาก ลิตัดบางส่วนออกเพราะเดลินิวส์จำกัดหน้า) เพื่อส่งไปที่เดลินิวส์ ส่งไปทั้งหมด 3 เรื่อง ได้รับพิจารณาตีพิมพ์ 1 เรื่อง แต่ยังหาไฟล์เรื่องนั้นไม่เจอค่ะ
คืนคลั่งนรกโหด
ล. วิลิศมาหรา & Psycho G
เสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์รถเก๋งคันโตดังขึ้นบนถนนสายเปลี่ยว หนึ่งในถนนเส้นที่อันตรายที่สุดของรัฐเคนเคราส์ เป็นเส้นทางซึ่งไม่ค่อยมีรถวิ่งบ่อยนัก เพราะมันตัดลัดเลาะไปบนภูเขาลูกใหญ่ ทะลุไปถึงอีกมลรัฐหนึ่งซึ่งอยู่อีกด้านของภูเขา ด้านหนึ่งของถนนติดหน้าผาสูงชัน อีกด้านลาดลงไปเป็นหุบเหวลึก ถนนเส้นนี้จึงอันตรายมากสำหรับคนไม่คุ้นเส้นทาง
แต่มันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับดิ๊กส์ ผู้ที่ชื่นชอบเส้นทางนี้มากเป็นพิเศษ หลังเสร็จภารกิจรับจ้างเอาลูกตะกั่วยัดใส่สมองคนแล้ว เขาจะใช้เส้นทางอันเปล่าเปลี่ยวนี้หลบหนีออกจากเมืองนี้ในทันใด เพราะมันปลอดจากสัญญาณไฟจราจร และไม่มีตาของพระเจ้าคอยจับตามอง เพื่อบันทึกภาพส่งเขาเข้าซังเต
ชายในชุดหนังสีดำฮัมเพลงไปกับเสียงเพลงจากลำโพงเครื่องเสียงในรถอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ทำไมน่ะเหรอ...ก็เพราะเขาเพิ่งกระหน่ำยิงเหยื่อสั่งตาย ซึ่งได้หมายหัวไว้เป็นผลสำเร็จแล้วน่ะสิ ไอ้หมอนั่นตายอย่างสมบูรณ์แบบ หมดโอกาสเสพสุขบนโลกนี้ไปชั่วนิจนิรันดร์...
มันสมควรตาย ดิ๊กส์แสยะยิ้มขณะคิด...เจ้าเหยื่อรายนี้มันชอบทำหน้าใหญ่ ทำตัวเป็นคนใจบุญ แจกจ่ายเงินทองหวังเอาหน้า คนโง่เท่านั้นหรอกถึงไม่รู้ว่ามันหว่านพืชเพื่อหวังผล ต้องการคะแนนนิยมจากชาวเมืองเพื่อช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ จนไปสะดุดขาใครบางคนเข้า มันจึงถูกกำหนดให้ตายด้วยฝีมือคนอันตรายแบบดิ๊กส์...เฮอะ สมน้ำหน้า ตายไปเสียได้ก็ดี คนอื่นเขาจะได้เสนอหน้ามั่ง
ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ช่วงที่ผู้คนอยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย เขาก็ได้โอกาสเหมาะ กระหน่ำยิงเป้าหมายด้วยยมฑูตแสนสวยติดท่อเก็บเสียง พิพากษาชะตาชีวิตของเหยื่อให้ ‘เจ้านาย’ ผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งฆ่า นักรับจ้างฆ่าอย่างเขาไม่เคยทำให้คนจ่ายเงินจ้างผิดหวัง ปิดบัญชีสั่งตาย ก่อนย้ายก้นหนีไปกบดานที่อื่นอย่างลอยนวล
แม้เซ็งกับการเดินทางไกล แต่เขาจำเป็นต้องหลบไปอยู่ในอีกมลรัฐหนึ่ง รอตำรวจของเจ้านายเป่าคดีให้เงียบหายไปเสียก่อน แล้วค่อยหวนกลับมาล่าเหยื่อรายใหม่ให้เจ้านายอีก
ลูซี่ที่รัก รอฉันก่อน
ทุกครั้งหลังเสร็จภารกิจสังหารเหยื่อ สิ่งหนึ่งที่ดิ๊กส์มักทำก่อนหนีก็คือ เข้าไปลากแขนแม่สาวทรงโตถึงบาร์เหล้าที่เจ้าหล่อนทำงานอยู่ ลากหล่อนมาที่ห้องเช่ากระจอกของหล่อน ผลักลงบนที่นอน ก่อนบดขยี้ร่างยวนสวาทเสียให้สาสมใจ เขาชอบเสียงร้องครวญครางอย่างแสนทรมาน ระหว่างกระแทกกระทั้นกำลังทั้งหมดลงบนร่างหล่อน ลูซี่ทำให้เขาถึงที่สุดแห่งความสะใจได้เสมอ
แต่คราวนี้เขาไม่มีเวลาเล่นสนุกกับหล่อน เพราะต้องรีบเผ่นออกมานอกเมืองเสียก่อน พร้อมเงินค่าจ้างล่วงหน้าครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งจะถูกโอนเข้าบัญชีตามทีหลัง เพื่อให้เขาไปเสวยสุขอยู่เมืองอื่น แล้วค่อยส่งข่าวให้แม่ยอดขมองอิ่มตามมาหา
ยังไม่ดึกเท่าไหร่แต่ดิ๊กส์ชักจะเริ่มแปลกใจในความเปลี่ยวร้างของถนน เมื่อไม่เห็นรถคันไหนแล่นตามมาบ้างเลย หรือสวนมาสักคัน มีเพียงแสงไฟหน้ารถของตัวเองเท่านั้นที่สาดแสงเป็นลำนำทางมา เห็นเส้นแบ่งถนนสีขาวพุ่งเข้ามาหาไม่ขาดสาย
เซ็งเป็นบ้า! อยากหาอะไรสนุก ๆ เล่น เอื้อมมือไปหมุนหาคลื่นวิทยุเพื่อฟังข่าวของเหยื่อตัวเองอย่างแสนเซ็ง
พอดีแสงไฟหน้ารถส่องให้เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน โบกมือไหว ๆ เหมือนขอความช่วยเหลือ ดิ๊กส์เลิกสนใจวิทยุชั่วคราว เหยื่อของเขาปรากฏต่อหน้าแล้วคนหนึ่ง ให้พุ่งรถเข้าชนเล่นแก้เซ็ง
เท้ากระทืบคันเร่งส่งรถคู่ชีพพุ่งทะยานเข้าหาร่างคนเคราะห์ร้ายทันที ชนเข้าเต็มความเร็วและความแรงของรถ ร่างเหยื่อถูกกระแทกล้มคว่ำ หายวับไปจากสายตา รู้สึกได้ว่าใต้ท้องรถกระแทกกับของบางอย่างกึงกัง ดิ๊กส์แสยะยิ้ม นึกภาพร่างคนฉีกขาดนอนเลือดท่วมร่าง ชักกระตุกไปมาอยู่กับพื้นอย่างสาแก่ใจ
“ใครบอกให้แกมาเดินแถวนี้วะ ฮะฮ่า” เขาร้องด้วยความสะใจ หัวเราะอย่างสุขสม เหยียบคันเร่งพารถพุ่งทะยานต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เเขาเปิดเพลงฟังใหม่ เร่งเสียงดังยิ่งขึ้น แหกปากร้องตามลั่นรถ
I'm on the highway to hell
On the highway to hell
Highway to hell
I'm on the highway to hell...
ขับรถมาได้อีกสักพัก รู้สึกถนนสายนี้ผิดแผกไปจากเดิม จะว่ามาผิดทางก็ไม่ใช่ เพราะเคยวิ่งรถมาทางนี้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ทำไมคราวนี้ดูมันยาวไกลผิดไปจากที่เคยเป็น
ขณะกำลังเริ่มรู้สึกเป็นกังวลกับเส้นทาง ทันใดนั้นเอง ไฟหน้ารถก็สาดจับร่างของคน ๆ หนึ่ง กำลังยืนอยู่ข้างถนน มือสองข้างโบกไหว ๆ เหนือศีรษะ ดิ๊กส์แสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น มีของเล่นมาให้เล่นแก้เซ็งอีกรายแล้ว ไม่ยอมลดความเร็วรถลงแม้แต่นิดเดียว ขณะพุ่งเข้าชนเต็มแรง
โครม!!!
เสร็จไปอีกหนึ่ง...เขายิ้มร่า หน้าตาบอกถึงความสุขสุดยอด เหลือบมองผลงานทางกระจกมองหลังแวบหนึ่ง...
เจ็บมากไหมวะ ช่วยไม่ได้ อยากมาเดินเกะกะเอง...ความคึกคะนองทำให้ดิ๊กส์ลืมนึกถึงความเป็นจริง ทำไมเจ้าคนนี้มันถึงได้มายืนอยู่บนถนนสายนี้เพียงลำพัง?
พลันแสงไฟหน้ารถคู่หนึ่งก็สว่างจ้าขึ้นมาในความมืด แสงจ้าพุ่งเข้าแยงตาเขาจนมองไม่เห็นทาง
ดิ๊กส์เหยียบเบรกรถโดยไม่ตั้งใจ รถสะดุดกระตุกวูบ พร้อมเสียงล้อบดถนนดังสนั่น รถคู่ชีพเสียหลักหมุนคว้าง พลิกกลิ้งออกไปนอกเส้นทางหลายตลบ ก่อนปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางดังสนั่น รถเก๋งคันงามกลายเป็นเศษเหล็กทันที
โอ้ย! เกิดเรื่องห่ะอะไรขึ้นวะ ทำไมซวยแบบนี้
เคราะห์ยังดีที่ตัวเองกระเด็นออกมานอกรถโดยไม่เป็นอะไรเลย แม้จะเจ็บจุกจนลุกไม่ไหวก็ตาม เขาหมอบนิ่งอยู่กับพื้นชั่วครู่ เพื่อรอดูว่าตัวเองจะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน ครั้นแน่ใจว่าไม่มีส่วนใดของร่างกายหักเดาะก็เกิดใจชื้นขึ้น
ไอ้รถบ้านั่นมันมาจากไหน มันพุ่งออกมาจากความมืดเหมือนรถปีศาจ ชนรถเขาจนหลุดตกจากถนนแล้วเผ่นหนีไป ชนิดไม่ยอมเหลียวหลังมาดู ดิ๊กส์คิดอย่างเคียดแค้นพลางกวาดตามองไปโดยรอบ ท่ามกลางความสลัวของแสงจันทร์ เขาห็นรถตัวเองพังยับอยู่ไม่ไกล คงหมดหวังจะใช้มันเป็นพาหนะขับไปต่อ
ถนนอยู่ห่างออกไป ยังไงต้องไปให้ถึง เขาประคองตัวลุกขึ้นยืน เดินกะโผลกกะเผลกไปยังเนินซึ่งคาดว่าเป็นถนน...ใช่ถนนจริงอย่างที่คิดไว้ ยังไม่ดึกจนเกินไป น่าจะพอมีรถใครแล่นผ่านไปมาบ้าง
พลันเสียงคำรามก้องของเครื่องยนต์รถก็ดังกระหึ่มขึ้นให้ดีใจ แสงไฟสว่างจ้าหน้ารถพุ่งมาตามถนนให้เห็น โชคดีเป็นบ้า มีรถผ่านมาคันหนึ่งแล้ว ดิ๊กส์เอามือข้างหนึ่งป้องตา โผผวาออกไปยืนข้างถนน โบกแขนไปมาขอความช่วยเหลือ
แต่ทันทีนั้นเขาก็ต้องตกใจ ร้องเฮ้ย!!!...เมื่อรถคันนั้นกลับพุ่งเข้าใส่ โดยไม่ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อย
โครมมมม!!!
ร่างของเขาถูกรถชนกระเด็นขึ้นไปบนฝากระโปรงหน้ารถ ก่อนหล่นกระแทกพื้นถนนเสียงดังสนั่น
รสชาติการถูกชนเป็นแบบนี้เอง มันเจ็บชนิดที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน สองขาดูเหมือนจะหัก แขนขวางอผิดรูป กระดูกในตัวเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“ไอ้บ้าเอ้ย!!!” เขาแผดเสียงสบถลั่น
นอนกองเป็นเศษเนื้ออยู่พักใหญ่ ความรู้สึกเจ็บปวดค่อยคลายลงอย่างน่าประหลาดใจ เลยลองขยับตัวดู ก็พบว่าน่าจะพอลุกไหวอยู่ จึงยันกายขึ้นอย่างทุลักทุเล ลุกยืนมาได้แม้จะไม่ถนัดนัก แปลกใจกับสภาพร่างกายที่ยับเยินขนาดนี้ แต่เขาก็ยังไม่ตาย
นี่เราควรทำยังไงต่อไป แต่ถ้ายังเดินได้ก็ต้องไปโบกรถคันใหม่น่ะสิ...บอกกับตัวเองแล้วกัดฟันเดินโซซัดโซเซกลับไปริมถนนใหม่อีกครั้ง...
ไอ้นั่นขับรถไม่มองคนบ้างเลย...เขาก่นด่าเจ้าคนขับที่ขับรถชนตัวเอง...
ขอให้มีรถผ่านมาอีกสักคันหนึ่งเถอะ...พร้อมวิงวอนในใจ
ทันทีนั้นเขาก็มองเห็นแสงไฟหน้ารถสว่างจ้ามาตามถนนอีกครั้ง ดิ๊กส์เผยอยิ้มอย่างยินดี โผออกไปยืนข้างถนนให้เห็นเด่นชัด ชูแขนสองข้างโบกไปมา
ฉับพลัน เขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าขาตัวเองกลับก้าวต่อไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้
โอ้ย! ตายแล้ว
หนุ่มชุดหนังตาเหลือก นี่เขากำลังจะออกไปยืนกลางถนน และรถคันนั้นก็ไม่ได้ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อย มันพุ่งชนเขาเต็มแรง
โครม!!!
ร่างเขาตีลังกากลางอากาศก่อนฟาดโครมลงบนพื้นถนน รู้สึกได้ถึงกระดูกกระเดี้ยวหักกร๊อบแกร๊บอยู่ในร่าง เนื้อหนังฉีกขาดปริแตกออก
ฝันร้าย...มันต้องเป็นเพียงฝันร้าย
ดิ๊กกี้ร่ำร้องในใจ ขณะร่างกายบิดเบี้ยวหักงอเริ่มประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีก แล้วโงนเงนลุกขึ้นยืนอย่างไม่อาจควบคุมได้ ขาสองข้างก้าวโซเซออกไปหาแสงไฟหน้ารถที่ส่องสว่างจ้ามาราวดวงตาปีศาจ มันกำลังพุ่งตรงมาหาเขาอีกครั้ง
พระเจ้า ช่วยลูกด้วย!!!
ดิ๊กกี้ผู้ไม่เคยศรัทธาต่อสิ่งใดนอกจากเงิน ร้องวิงวอนเสียงโหยหวน
“ใครบอกให้แกมาเดินแถวนี้วะ ฮะฮ่า”
ในรถเก๋งคันโตที่แล่นตะบึงต่อไป ชายคนขับในชุดหนังสีดำร้องออกมาด้วยความสะใจ จำไม่ได้แล้วว่าชนคนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ บนถนนอันยาวไกลสายนี้ เขาอ้าปากหัวเราะ พลางโยกไหล่เข้ากับจังหวะเพลงร็อกอันร้อนแรง
I'm on the highway to hell
On the highway to hell
Highway to hell
I'm on the highway to hell...
จบ.
คืนคลั่ง นรกโหด
ล. วิลิศมาหรา & Psycho G
เสียงครางกระหึ่มของเครื่องยนต์รถเก๋งคันโตดังขึ้นบนถนนสายเปลี่ยว หนึ่งในถนนเส้นที่อันตรายที่สุดของรัฐเคนเคราส์ เป็นเส้นทางซึ่งไม่ค่อยมีรถวิ่งบ่อยนัก เพราะมันตัดลัดเลาะไปบนภูเขาลูกใหญ่ ทะลุไปถึงอีกมลรัฐหนึ่งซึ่งอยู่อีกด้านของภูเขา ด้านหนึ่งของถนนติดหน้าผาสูงชัน อีกด้านลาดลงไปเป็นหุบเหวลึก ถนนเส้นนี้จึงอันตรายมากสำหรับคนไม่คุ้นเส้นทาง
แต่มันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับดิ๊กส์ ผู้ที่ชื่นชอบเส้นทางนี้มากเป็นพิเศษ หลังเสร็จภารกิจรับจ้างเอาลูกตะกั่วยัดใส่สมองคนแล้ว เขาจะใช้เส้นทางอันเปล่าเปลี่ยวนี้หลบหนีออกจากเมืองนี้ในทันใด เพราะมันปลอดจากสัญญาณไฟจราจร และไม่มีตาของพระเจ้าคอยจับตามอง เพื่อบันทึกภาพส่งเขาเข้าซังเต
ชายในชุดหนังสีดำฮัมเพลงไปกับเสียงเพลงจากลำโพงเครื่องเสียงในรถอย่างครึ้มอกครึ้มใจ ทำไมน่ะเหรอ...ก็เพราะเขาเพิ่งกระหน่ำยิงเหยื่อสั่งตาย ซึ่งได้หมายหัวไว้เป็นผลสำเร็จแล้วน่ะสิ ไอ้หมอนั่นตายอย่างสมบูรณ์แบบ หมดโอกาสเสพสุขบนโลกนี้ไปชั่วนิจนิรันดร์...
มันสมควรตาย ดิ๊กส์แสยะยิ้มขณะคิด...เจ้าเหยื่อรายนี้มันชอบทำหน้าใหญ่ ทำตัวเป็นคนใจบุญ แจกจ่ายเงินทองหวังเอาหน้า คนโง่เท่านั้นหรอกถึงไม่รู้ว่ามันหว่านพืชเพื่อหวังผล ต้องการคะแนนนิยมจากชาวเมืองเพื่อช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐ จนไปสะดุดขาใครบางคนเข้า มันจึงถูกกำหนดให้ตายด้วยฝีมือคนอันตรายแบบดิ๊กส์...เฮอะ สมน้ำหน้า ตายไปเสียได้ก็ดี คนอื่นเขาจะได้เสนอหน้ามั่ง
ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ช่วงที่ผู้คนอยู่ในบรรยากาศผ่อนคลาย เขาก็ได้โอกาสเหมาะ กระหน่ำยิงเป้าหมายด้วยยมฑูตแสนสวยติดท่อเก็บเสียง พิพากษาชะตาชีวิตของเหยื่อให้ ‘เจ้านาย’ ผู้อยู่เบื้องหลังคำสั่งฆ่า นักรับจ้างฆ่าอย่างเขาไม่เคยทำให้คนจ่ายเงินจ้างผิดหวัง ปิดบัญชีสั่งตาย ก่อนย้ายก้นหนีไปกบดานที่อื่นอย่างลอยนวล
แม้เซ็งกับการเดินทางไกล แต่เขาจำเป็นต้องหลบไปอยู่ในอีกมลรัฐหนึ่ง รอตำรวจของเจ้านายเป่าคดีให้เงียบหายไปเสียก่อน แล้วค่อยหวนกลับมาล่าเหยื่อรายใหม่ให้เจ้านายอีก
ลูซี่ที่รัก รอฉันก่อน
ทุกครั้งหลังเสร็จภารกิจสังหารเหยื่อ สิ่งหนึ่งที่ดิ๊กส์มักทำก่อนหนีก็คือ เข้าไปลากแขนแม่สาวทรงโตถึงบาร์เหล้าที่เจ้าหล่อนทำงานอยู่ ลากหล่อนมาที่ห้องเช่ากระจอกของหล่อน ผลักลงบนที่นอน ก่อนบดขยี้ร่างยวนสวาทเสียให้สาสมใจ เขาชอบเสียงร้องครวญครางอย่างแสนทรมาน ระหว่างกระแทกกระทั้นกำลังทั้งหมดลงบนร่างหล่อน ลูซี่ทำให้เขาถึงที่สุดแห่งความสะใจได้เสมอ
แต่คราวนี้เขาไม่มีเวลาเล่นสนุกกับหล่อน เพราะต้องรีบเผ่นออกมานอกเมืองเสียก่อน พร้อมเงินค่าจ้างล่วงหน้าครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งจะถูกโอนเข้าบัญชีตามทีหลัง เพื่อให้เขาไปเสวยสุขอยู่เมืองอื่น แล้วค่อยส่งข่าวให้แม่ยอดขมองอิ่มตามมาหา
ยังไม่ดึกเท่าไหร่แต่ดิ๊กส์ชักจะเริ่มแปลกใจในความเปลี่ยวร้างของถนน เมื่อไม่เห็นรถคันไหนแล่นตามมาบ้างเลย หรือสวนมาสักคัน มีเพียงแสงไฟหน้ารถของตัวเองเท่านั้นที่สาดแสงเป็นลำนำทางมา เห็นเส้นแบ่งถนนสีขาวพุ่งเข้ามาหาไม่ขาดสาย
เซ็งเป็นบ้า! อยากหาอะไรสนุก ๆ เล่น เอื้อมมือไปหมุนหาคลื่นวิทยุเพื่อฟังข่าวของเหยื่อตัวเองอย่างแสนเซ็ง
พอดีแสงไฟหน้ารถส่องให้เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ข้างถนน โบกมือไหว ๆ เหมือนขอความช่วยเหลือ ดิ๊กส์เลิกสนใจวิทยุชั่วคราว เหยื่อของเขาปรากฏต่อหน้าแล้วคนหนึ่ง ให้พุ่งรถเข้าชนเล่นแก้เซ็ง
เท้ากระทืบคันเร่งส่งรถคู่ชีพพุ่งทะยานเข้าหาร่างคนเคราะห์ร้ายทันที ชนเข้าเต็มความเร็วและความแรงของรถ ร่างเหยื่อถูกกระแทกล้มคว่ำ หายวับไปจากสายตา รู้สึกได้ว่าใต้ท้องรถกระแทกกับของบางอย่างกึงกัง ดิ๊กส์แสยะยิ้ม นึกภาพร่างคนฉีกขาดนอนเลือดท่วมร่าง ชักกระตุกไปมาอยู่กับพื้นอย่างสาแก่ใจ
“ใครบอกให้แกมาเดินแถวนี้วะ ฮะฮ่า” เขาร้องด้วยความสะใจ หัวเราะอย่างสุขสม เหยียบคันเร่งพารถพุ่งทะยานต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เเขาเปิดเพลงฟังใหม่ เร่งเสียงดังยิ่งขึ้น แหกปากร้องตามลั่นรถ
I'm on the highway to hell
On the highway to hell
Highway to hell
I'm on the highway to hell...
ขับรถมาได้อีกสักพัก รู้สึกถนนสายนี้ผิดแผกไปจากเดิม จะว่ามาผิดทางก็ไม่ใช่ เพราะเคยวิ่งรถมาทางนี้นับครั้งไม่ถ้วน แต่ทำไมคราวนี้ดูมันยาวไกลผิดไปจากที่เคยเป็น
ขณะกำลังเริ่มรู้สึกเป็นกังวลกับเส้นทาง ทันใดนั้นเอง ไฟหน้ารถก็สาดจับร่างของคน ๆ หนึ่ง กำลังยืนอยู่ข้างถนน มือสองข้างโบกไหว ๆ เหนือศีรษะ ดิ๊กส์แสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น มีของเล่นมาให้เล่นแก้เซ็งอีกรายแล้ว ไม่ยอมลดความเร็วรถลงแม้แต่นิดเดียว ขณะพุ่งเข้าชนเต็มแรง
โครม!!!
เสร็จไปอีกหนึ่ง...เขายิ้มร่า หน้าตาบอกถึงความสุขสุดยอด เหลือบมองผลงานทางกระจกมองหลังแวบหนึ่ง...เจ็บมากไหมวะ ช่วยไม่ได้ อยากมาเดินเกะกะเอง...ความคึกคะนองทำให้ดิ๊กส์ลืมนึกถึงความเป็นจริง ทำไมเจ้าคนนี้มันถึงได้มายืนอยู่บนถนนสายนี้เพียงลำพัง?
พลันแสงไฟหน้ารถคู่หนึ่งก็สว่างจ้าขึ้นมาในความมืด แสงจ้าพุ่งเข้าแยงตาเขาจนมองไม่เห็นทาง
ดิ๊กส์เหยียบเบรกรถโดยไม่ตั้งใจ รถสะดุดกระตุกวูบ พร้อมเสียงล้อบดถนนดังสนั่น รถคู่ชีพเสียหลักหมุนคว้าง พลิกกลิ้งออกไปนอกเส้นทางหลายตลบ ก่อนปะทะเข้ากับต้นไม้ใหญ่ข้างทางดังสนั่น รถเก๋งคันงามกลายเป็นเศษเหล็กทันที
โอ้ย! เกิดเรื่องห่ะอะไรขึ้นวะ ทำไมซวยแบบนี้
เคราะห์ยังดีที่ตัวเองกระเด็นออกมานอกรถโดยไม่เป็นอะไรเลย แม้จะเจ็บจุกจนลุกไม่ไหวก็ตาม เขาหมอบนิ่งอยู่กับพื้นชั่วครู่ เพื่อรอดูว่าตัวเองจะบาดเจ็บสาหัสขนาดไหน ครั้นแน่ใจว่าไม่มีส่วนใดของร่างกายหักเดาะก็เกิดใจชื้นขึ้น
ไอ้รถบ้านั่นมันมาจากไหน มันพุ่งออกมาจากความมืดเหมือนรถปีศาจ ชนรถเขาจนหลุดตกจากถนนแล้วเผ่นหนีไป ชนิดไม่ยอมเหลียวหลังมาดู ดิ๊กส์คิดอย่างเคียดแค้นพลางกวาดตามองไปโดยรอบ ท่ามกลางความสลัวของแสงจันทร์ เขาห็นรถตัวเองพังยับอยู่ไม่ไกล คงหมดหวังจะใช้มันเป็นพาหนะขับไปต่อ
ถนนอยู่ห่างออกไป ยังไงต้องไปให้ถึง เขาประคองตัวลุกขึ้นยืน เดินกะโผลกกะเผลกไปยังเนินซึ่งคาดว่าเป็นถนน...ใช่ถนนจริงอย่างที่คิดไว้ ยังไม่ดึกจนเกินไป น่าจะพอมีรถใครแล่นผ่านไปมาบ้าง
พลันเสียงคำรามก้องของเครื่องยนต์รถก็ดังกระหึ่มขึ้นให้ดีใจ แสงไฟสว่างจ้าหน้ารถพุ่งมาตามถนนให้เห็น โชคดีเป็นบ้า มีรถผ่านมาคันหนึ่งแล้ว ดิ๊กส์เอามือข้างหนึ่งป้องตา โผผวาออกไปยืนข้างถนน โบกแขนไปมาขอความช่วยเหลือ
แต่ทันทีนั้นเขาก็ต้องตกใจ ร้องเฮ้ย!!!...เมื่อรถคันนั้นกลับพุ่งเข้าใส่ โดยไม่ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อย
โครมมมม!!!
ร่างของเขาถูกรถชนกระเด็นขึ้นไปบนฝากระโปรงหน้ารถ ก่อนหล่นกระแทกพื้นถนนเสียงดังสนั่น
รสชาติการถูกชนเป็นแบบนี้เอง มันเจ็บชนิดที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน สองขาดูเหมือนจะหัก แขนขวางอผิดรูป กระดูกในตัวเหมือนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
“ไอ้บ้าเอ้ย!!!” เขาแผดเสียงสบถลั่น
นอนกองเป็นเศษเนื้ออยู่พักใหญ่ ความรู้สึกเจ็บปวดค่อยคลายลงอย่างน่าประหลาดใจ เลยลองขยับตัวดู ก็พบว่าน่าจะพอลุกไหวอยู่ จึงยันกายขึ้นอย่างทุลักทุเล ลุกยืนมาได้แม้จะไม่ถนัดนัก แปลกใจกับสภาพร่างกายที่ยับเยินขนาดนี้ แต่เขาก็ยังไม่ตาย
นี่เราควรทำยังไงต่อไป แต่ถ้ายังเดินได้ก็ต้องไปโบกรถคันใหม่น่ะสิ...บอกกับตัวเองแล้วกัดฟันเดินโซซัดโซเซกลับไปริมถนนใหม่อีกครั้ง...ไอ้นั่นขับรถไม่มองคนบ้างเลย...เขาก่นด่าเจ้าคนขับที่ขับรถชนตัวเอง...ขอให้มีรถผ่านมาอีกสักคันหนึ่งเถอะ...พร้อมวิงวอนในใจ
ทันทีนั้นเขาก็มองเห็นแสงไฟหน้ารถสว่างจ้ามาตามถนนอีกครั้ง ดิ๊กส์เผยอยิ้มอย่างยินดี โผออกไปยืนข้างถนนให้เห็นเด่นชัด ชูแขนสองข้างโบกไปมา
ฉับพลัน เขาก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าขาตัวเองกลับก้าวต่อไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้
โอ้ย! ตายแล้ว
หนุ่มชุดหนังตาเหลือก นี่เขากำลังจะออกไปยืนกลางถนน และรถคันนั้นก็ไม่ได้ผ่อนความเร็วลงแม้แต่น้อย มันพุ่งชนเขาเต็มแรง
โครม!!!
ร่างเขาตีลังกากลางอากาศก่อนฟาดโครมลงบนพื้นถนน รู้สึกได้ถึงกระดูกกระเดี้ยวหักกร๊อบแกร๊บอยู่ในร่าง เนื้อหนังฉีกขาดปริแตกออก
ฝันร้าย...มันต้องเป็นเพียงฝันร้าย
ดิ๊กกี้ร่ำร้องในใจ ขณะร่างกายบิดเบี้ยวหักงอเริ่มประกอบเข้าด้วยกันใหม่อีก แล้วโงนเงนลุกขึ้นยืนอย่างไม่อาจควบคุมได้ ขาสองข้างก้าวโซเซออกไปหาแสงไฟหน้ารถที่ส่องสว่างจ้ามาราวดวงตาปีศาจ มันกำลังพุ่งตรงมาหาเขาอีกครั้ง
พระเจ้า ช่วยลูกด้วย!!!
ดิ๊กกี้ผู้ไม่เคยศรัทธาต่อสิ่งใดนอกจากเงิน ร้องวิงวอนเสียงโหยหวน
“ใครบอกให้แกมาเดินแถวนี้วะ ฮะฮ่า”
ในรถเก๋งคันโตที่แล่นตะบึงต่อไป ชายคนขับในชุดหนังสีดำร้องออกมาด้วยความสะใจ จำไม่ได้แล้วว่าชนคนเป็นครั้งที่เท่าไหร่ บนถนนอันยาวไกลสายนี้ เขาอ้าปากหัวเราะ พลางโยกไหล่เข้ากับจังหวะเพลงร็อกอันร้อนแรง
I'm on the highway to hell
On the highway to hell
Highway to hell
I'm on the highway to hell...