บุคคลที่มีธรรมะเป็นสรณะอย่างแท้จริง จะไม่ทำตนไปสู่ที่ต่ำลง..จริงหรือไม่?

กระทู้คำถาม
คนเรามีการทำกรรมได้ใน ๓ ทวาร..กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม

มโนกรรม..เป็นสิ่งสำคัญ เป็นจุดเริ่มให้มีวจีกรรม และ/หรือ กายกรรม ที่สุจริต หรือทุจริต
ตามมา

มโนกรรมที่สุจริต..ย่อมยังให้เกิด วจีสุจริต และ/หรือ กายสุจริต
มโนกรรมที่ทุจริต..ก็ย่อมยังให้เกิด วจีทุจริต และ/หรือ กายทุจริต 

บุคคลที่ไม่ได้ศึกษาธรรม..อาจไม่ทราบว่าสิ่งใดถูกหรือผิด กระทำไปโดยไม่รู้ว่า
เป็นโทษหรือเป็นประโยชน์ เป็นกุศลหรืออกุศล

กรรมที่เกิดในทวารทั้งสาม ย่อมสุจริตบ้าง ทุจริตบ้าง คละกันไปตามเหตุตามปัจจัย

บุคคลที่ศึกษาธรรม...ย่อมทราบดีว่า สิ่งใดเป็นโทษหรือเป็นประโยชน์ เป็นกุศลหรืออกุศล

หากเป็นผู้ที่เข้าถึงธรรม เป็นผู้ทรงธรรมอย่างแท้จริงแล้ว
ธรรมย่อมเข้าไปเปลี่ยนแปลงตัวตนจิตใจของผู้นั้นได้อย่างหมดจด
จนละซึ่งสิ่งอันเป็นโทษ เป็นอกุศล ตลอดจนการกระทำอันวิญญูชนอาจติเตียนได้ 

ธรรมจะแทรกซึมเข้าไปภายในจิตใจของบุคคลนั้น
นับแต่วินาทีที่เขาได้สัมผัสความลึกซึ้งแยบคายของธรรมนั้น
ไม่ว่าสถานภาพของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม
เช่น จากคนรวยเป็นคนจน จากคนทั่วไปเป็นนักโทษ จากข้าราชการเป็นคนเกษียณอายุ
จากร.ม.ต.เป็นชาวบ้านธรรมดา แม้กระทั่งจากพระภิกษุเป็นฆราวาส เป็นต้น

กรรมที่แสดงออกมาในสามทวาร..ย่อมเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ คงเส้นคงวา
ไม่ขึ้นๆลงๆ ตามอารมณ์ต่างๆที่มากระทบ

เฉกนั้นจึงจะเป็นผู้ทรงธรรม เป็นผู้ที่ปฏิบัติโดยธรรมอย่างแท้จริง

โดยนัยกลับกัน..หากสถานภาพที่เปลี่ยนไป เช่น จากพระภิกษุมาสู่ฆราวาส
สามารถทำให้กรรมที่แสดงออกมานั้น ไหลไปสู่ที่ต่ำกว่าเดิม
ย่อมบ่งบอกเป็นนัยได้ว่า..ธรรมใดๆหาได้มีทรงอยู่ในบุคคลนั้นอย่างที่ใครเคยคิดไว้ไม่

หากเป็นเช่นนั้นจริง..
ธรรมที่บุคคลนั้นเคยแสดงก็คงเป็นเพียงบทบาทการแสดงแบบหนึ่งเท่านั้น
หาใช่ธรรมที่แสดงเนื่องด้วยซาบซึ้งในรสพระธรรม หรือเกิดจากผลของการปฏิบัติ
ในธรรมใดๆไม่

ก็หวังเพียงว่าบุคคลที่ยังอยู่ในสถานะที่แสดงธรรม ไม่ว่าสถานที่แห่งใด ในโอกาสเช่นไรก็ตาม
คงมีไม่มากนัก เพื่อยังศรัทธาไทยไม่ให้ตกไปกว่านี้

เราจะเรียกบุคคลที่เป็นเช่นนี้ ว่าเป็นบุคคลที่ไม่ได้ทรงธรรมอย่างแท้จริง
กระทำจิตใจให้ไหลไปสู่ที่ต่ำ..ได้หรือไม่?

ป.ล. ร่างกายนี้ไม่ได้อยากปะทะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่