ผลกระทบของเงินเฟ้อใกล้เข้ามาทุกทีๆ แล้วครับ จริงอยู่ว่ามันเห้อทุกปีแต่ทำไมปีนี้ผมรู้สึกว่ามันหนัก

ร้านอาหารในกรุงเทพส่วนใหญ่ปรับขึ้นราคากันหมดแล้วครับ ร้านที่มีทุนเยอะก็เปลี่ยนเมนูยกเล่ม ร้านที่ทุนน้อยหน่อยก็เอาสติ๊กเกอร์มาแปะทับราคาเก่า แต่สิ่งที่อึ้งมากหลังจากไม่ได้อยู่กรุงเทพแบบถาวรมา3 ปี คือร้านส่วนใหญ่ คิด++ เพิ่มเกือบทุกร้านเลยซึ่งตอนที่ผมอยู่ส่วนใหญ่ร้านที่คิด ++ก็จะเป็นร้านหรูหน่อยมีบริการที่ดี(หรือเรากินร้านหรูขึ้นวะ) ราคาต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แต่รายได้ยังเท่าเดิม นายจ้างที่ไหนจะยอมขึ้นค่าจ้างให้ถ้าไม่สุดจริงๆ ยื้นกันสุดฤทธิ์ทุกที่ ขนาดผมรายได้จัดในเกณฑ์ที่สูงนะ ผมยังรู้สึกว่ารายจ่ายเพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ แต่สิ่งที่แปลกอีกอย่างคือสมัยนี้ห้างที่มีแบรนเนมทุกห้างมีแต่คนต่อคิวเข้าซื้อ ย้ำนะว่าทุกห้างจริงที่มีขาย แล้วคนไทยด้วยนะต่างชาติแทบไม่มี ไม่ใช่แค่แบรนเนมด้วย ห้างใหญ่ๆใจกลางเมือง คนขวักไขว่มาก บางทีก็งงว่า ตกลงเศรษฐกิจไม่ดีจริงหรือคนบ่นหาเงินไม่เป็น???

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เงินเฟ้อที่ลอนดอนประมาณ 6-8% เมืองไทยน่าจะใกล้เคียงกัน
คนร้อยละสิบ จะเป็นเจ้าของเงินร้อบละ90 ของเงินทั้งหมด
คนที่เข้าแถวซื้อของราคาสูง น่าจะเป็นคนสิบเปอร์เซ็นต์แรก ไม่ได้เป็นตัวแทนของคนทั้งประเทศ
ในยุคนี้ คนรวยจะยิ่งรวยขึ้นไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้ทำงานอะไร ส่วนคนจน ยิ่งจนไปเรื่อยๆ ตามกลไกของทุนนิยม
ไม่ต้องอาศัยดอกเบี้ยธนาคาร
การที่ธนาคารให้ดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี เป็นการกำจัดคนชั้นกลางอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เหลือแต่คนชายขอบ ขอบบนคือรวยมาก และขอบล่างคือจนมาก
ยิ่งมีการค้าออนไลน์ มือถือ อินเตอร์เน็ต ทำให้กลไกนี้ดำเนินได้เร็วและแรงมากขึ้น สร้างผู้บริโภคขึ้นมาในระบบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่