วันนี้ผมจะมารีวิวการจัดงานหมั้นงานเล็กๆในคาเฟ่ และรีวิวคาเฟ่นี้ไปพร้อมกันเลย ว่ามีอุปสรรคหรือข้อควรระวังอะไรบ้างในการจัดงานแบบนี้
ผมและแฟนอยากจะจัดงานหมั้นวันที่ 26 ธค 64 จึงได้เข้าไปนัดชิมอาหารกับคาเฟ่ ในวันที่ 3 ตค 64 ทางร้านยินดีให้จัดได้แต่ก็แอบบอกว่าช่วงเทศกาลลูกค้าเยอะ เราจึงเลื่อนงานหมั้นเราเป็นวันที่ 19 ธค 64 เพื่อร้านจะได้รับลูกค้าในช่วงเทศกาลได้เต็มที่
เมื่อชิมอาหารเสร็จ จึงคุยรายละเอียดในการเช่าจัดงานกับเจ้าของร้านคือ จะเช่าพื้นที่ที่เป็นโซนในอาคาร และจะมีการวางฉากด้านนอกอาคาร ช่วงเวลา 09.00-13.00 น. จำนวนแขกในตอนแรกประมาณ 28 คน
**ทางร้านจึงทำการเสนอราคามาให้คือ “ค่าเช่าสถานที่ 6,000 บาท ค่าน้ำ 70 บาท ทุกเมนูน้ำ น้ำแข็งฟรี ค่าน้ำเปล่าคิดตามจริง ค่าอาหารคิดตามจริง ค่าข้าวคิดตามจริง และลดค่าอาหารให้ 5% เพิ่มเติม” เจ้าของร้านได้ถามว่าราคานี้ จะให้ปิดทั้งร้านเลยหรือไม่ ผมจึงบอกว่าใช้สถานที่ตามที่ตกลงก็พอ โซนที่เหลือรับลูกค้าได้ปกติเลย ทางร้านก็ตกลง
ผมจึงโอนเงินมัด 6,500 บาท และ***ออแกไนซ์ก็ได้พาเจ้าของร้าน เดินดูว่าจะวางฉากตรงไหน ขนาดเท่าไหร่(ชี้ให้ดูว่าขนาดนี้คือจากตรงนี้ถึงตรงนี้) เจ้าของร้านก็ยินยอมให้จัดได้ และนัดให้ออแกไนซ์เข้าไปจัดฉากคืนก่อนวันหมั้น เวลาที่ให้เข้าไปได้คือ 1-2ทุ่ม
ในช่วงต้นเดือนธันวาคม แฟนผมได้พาแม่ยายไปลองทานอาหารที่คาเฟ่อีกครั้ง และมีการปรับรายละเอียดเมนูอาหารเล็กน้อย ให้เสริฟอาหารโต๊ะละ 2 ชุด และให้ทำชุดนึงให้ทานได้ 6 คน และจำนวนแขกที่จะมา เป็น 36 คน นั่งโต๊ะละ 12 คน ทางร้านก็ตกลง
ในคืนก่อนวันหมั้น ทางออแกไนซ์ได้เข้าไปถึงร้าน 2ทุ่ม แต่ทางเจ้าของร้านทานอาหารกันอยู่ในโซนที่จะตั้งฉากทำพิธีหมั้นด้านในอาคาร ออแกไนซ์จึงได้ทำการจัดฉากที่ด้านนอกอาคารไปก่อน เมื่อจัดใกล้เสร็จ จึงได้เดินไปขอให้ทางร้านเคลียสถานที่ด้านในให้ เมื่อเคลียพื้นที่เสร็จ ทางออแกไนซ์ก็ได้เข้าไป
จัดฉากด้านในอาคาร 2 คน 1ในนั้นเป็นน้องสาวของผม เจ้าของร้านได้ชวนออแกไนซ์คุยไปเรื่อยๆ และถามว่า ที่จัดทั้งหมดนี้คิดราคาเท่าไหร่ จัดงานสวยเผื่ออยากจะจ้างมาจัดให้ประจำ ออแกไนซ์ก็ได้ตอบว่า ทั้งหมดนี้ 19,000 บาท และได้บอกทางร้านว่า ทำไปคุยไปมันจะช้านะพี่ เดี๋ยวขอทำงานก่อน และได้ออกไปจัดฉากโซนด้านนอกต่อ ทางร้านก็หันไปคุยกันเองว่าจัดแค่นี้จะจ้างทำไม ทำกันเองก็ได้แค่ปักๆดอกไม้ แต่น้องสาวผมยืนจัดฉากด้านในอยู่จึงได้ยินทั้งหมด
สุดท้ายทางร้านได้เดินออกมาแล้วบอกว่า ฉากที่จัดมันกระจายเกินไป ทางร้านจะคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท แล้วเหมาทั้งร้านไป (ทั้งๆที่ฉากทั้งหมดอยู่ในจุดที่ตกลงกันแล้ว) ทางออแกไนซ์จึงบอกว่าพรุ่งนี้จะจัดงานแล้วจะคิดเงินเพิ่มเวลานี้ไม่เหมาะสม ถ้าอย่างนั้นก็จะเอาฉากมารวมไว้โซนเดียวกัน และได้ถามเจ้าของร้านว่ามีฉากไหนที่อยากให้เอาออกหรือให้ปรับขนาดเล็กลงไหม เจ้าของร้านก็ได้บอกว่าฉากแบคดรอปใหญ่เกินไป จะต้องเหมาทั้งร้านนะ ทางออแกไนซ์ก็บอกว่าฉากมันย่อให้เล็กลงได้ หรือจะให้รื้อออกก็ได้ “เจ้าของร้านก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรจัดได้เลยตามนี้”ออแกไนซ์จึงบอกว่าถ้าถึงเวลาเปิดร้านจะรีบนำชื่อบ่าวสาวออก จะได้เหลือแต่ฉากเผื่อลูกค้าจะมาถ่ายรูปได้ เจ้าของร้านก็ตกลงยินดี เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ออแกไนซ์จัดฉากเสร็จก็แยกย้ายกันไปทานอาหารและกลับบ้าน
แต่ในตอน 4ทุ่ม เจ้าของร้านได้ไปคุยกับทางแฟนของผมว่า ฉากใหญ่เกินไปกินพื้นที่โซนนอกร้านไปถึงครึ่งหนึ่ง และยังต้องจ้างพนักงานมาเพิ่มอีก ขอคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท แฟนของผมนอนไปแล้วเพราะต้องตื่นนอน ตอนตี4 จึงยังไม่ทันได้สอบถามกับออแกไนซ์จึงได้ตอบตกลงไป แล้วโทร มาบอกผม ผมจึงโทรถามออแกไนซ์ และโทรไปขอเหตุผลจากทางร้านที่จะคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท ทางร้านให้เหตุผลว่า เป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าสถานที่ ค่าเสียเวลา ตอบสลับไปสลับมา ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนี้คิดค่าใช้จ่ายกันไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนจ่ายมัดจำ ผมจึงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพิ่ม
สุดท้ายลูกสาวจึงมาคุยแทน และให้เหตุผลวนไปวนมาเหมือนเดิม ผมจึงปฏิเสธเหมือนเดิม เมื่อคุยกันไม่ลงตัว ลูกสาวจึงพูดในเชิงที่ว่าจะไม่ให้จัดงานแล้ว ผมจึงพูดว่า ถ้าจะยกเลิก คุณต้องคืนมัดจำ รวมถึงค่าจ้างออแกไนซ์ ทางลูกสาวก็บอกว่าไม่จ่าย และถามว่า เงินแค่ 2,000 จะจ่ายไม่ได้เลยหรอ (แต่ไม่คิดนะว่ากะอีแค่ 2,000 ทำไมต้องมาเก็บเพิ่มในเวลานี้) ผมจึงสรุปไปว่าอะไรที่ตกลงสัญญากันไปแล้วก็ควรจบที่สัญญาไว้ ไม่ควรคิดเงินเพิ่ม แค่ 5 บาท ยังไม่ควรเพิ่มเลย ลูกสาวเจ้าของร้านก็สวนมาว่างั้นเพิ่ม 1 บาทจะจ่ายป้ะ
คุณแม่ผมเห็นว่าไม่น่าจะคุยรู้เรื่องจึงบอกว่าไม่ต้องคุยหรอก เสียเวลา และทางพี่สาวผมก็เข้ามาคุยแทน ลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดมาว่า “ใครเป็นคนพูดว่าเสียเวลา เอามาพูด เรียกมาพูดเดี๋ยวนี้” ทางพี่สาวผมก็ถามหาสาเหตุที่เก็บเงินเพิ่ม ทางลูกสาวก็บอกว่าค่าสถานที่ ค่าเสียเวลา พี่สาวผมก็ถามว่า ค่าเสียเวลาที่ว่าคืออะไร ลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดมาว่า “อย่าพูดจากระแนะกระแหน” พี่สาวผมบอกว่าที่ถามคือเราจะได้รู้เหตุผล ทางลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดว่า “มันบ้าไปแล้ว มันบ้ากันทั้งตระกูล”
สุดท้ายคุณแม่ผมจึงคุยกับทางเจ้าของร้านเอง ก็ยังให้เหตุผลสลับไปมาเหมือนเดิม คุณแม่จึงบอกว่า คนละครึ่งทางแล้วกัน 1,000 บาท เจ้าของร้านก็ไม่ยอม คุณแม่เลยถามอีกว่าสรุปมันคือค่าอะไร เจ้าของร้านก็บอกเพราะจะเริ่มงานกัน 07.30 คุณแม่เลยบอกว่าไม่ค่ะ เวลางาน 09.00-13.00 เจ้าของร้านก็อึ้งๆไป แล้วบอกว่าก็จะเก็บ 2,000 แล้วก็บอกว่า แค่ 2,000 ไม่มีจะจ่ายเลยหรอ ไม่คุยละจะขับรถ แล้วตัดสายไป
ประมาณเที่ยงคืนแฟนผมโทรมาบอกว่าทางร้านให้จัดงานปกติ และส่วนที่ผมมารู้ทีหลังคือ ร้านโทรไปบอกแฟนผมว่าไม่เต็มใจจะให้จัดงานแล้ว ถ้าทางบ้านเจ้าบ่าวไม่ยอมไปขอโทษเขา แม่ยายจึงขอโทษแทนไป แล้วถามว่าทางร้านจะตัดสินใจยังไง ทางร้านก็บอกว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 30,000 ถึงจะยอมจัดงานให้ แต่เป็นเงินที่มากเกินไป สุดท้ายเลยตกลงที่โอนเงินไปเพิ่มอีก 15,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้รวม 2,000 ที่เจ้าของจะเก็บแบบไม่มีเหตุผลไปด้วย และได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าบ้านเจ้าบ่าวได้เห็นเงินในบัญชี 8หลักของเขา จะต้องยอมขอโทษ
วันงาน มีญาติไปถึงร้าน 07.43 และไปจอดรอหลังร้าน ส่วนตัวผมไปถึงตอน 8.25 ก็ยังไม่เห็นใครเลย แม้แต่พนักงานก็ยังไม่มี จน 09.00 พนักงานเพิ่งจะมาเปิดพื้นที่ด้านในอาคาร และกวาดใบไม้โซนนอกอาคาร(เจ้าของร้านมาเวลา 9โมงกว่า และลูกสาวแต่งชุดดำมา) เมื่อเจ้าของร้านมาถึงก็เรียกแม่ยายผมไปคุยในห้อง และพูดทำนองที่ว่าสามีเขาอยู่กองปราบไม่กลัวที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ตัวลูกสาวก็พูดทำนองเดียวกันใส่น้องสาวผม ส่วนโซนในอาคารทางร้านยังจัดไม่เรียบร้อย ทำให้ญาติๆต้องรอโซนนอกอาคาร และถ่ายรูปเล่นกัน และทางร้านยังใช้ให้ออแกไนซ์จัดโต๊ะอาหารให้อีก เมื่อสถานที่จัดเสร็จประมาณ 10.00 ญาติๆก็ทยอยเข้าไปรอในร้านโซนพิธีกันได้ทั้งหมด และแทบไม่ได้ออกมาเลย เพราะทุกคนอยู่ร่วมพิธีหมั้น และทานอาหารกันต่อเลย เวลา 11.00 ลูกค้ากลุ่มแรกถึงเข้ามาทานอาหารที่ร้านตามปกติ
ซึ่งการบริการในวันนี้ของร้านคือหน้าบึ้งตึง ให้ทำอะไรก็ไม่เต็มใจทำให้ ผมต้องยกเก้าอี้เสริมให้ญาติเอง ผมสั่งข้าวก็ไม่รับออเดอร์ ต้องให้เจ้าสาวสั่ง ช่วงพิธีแม่ยายผมบอกว่าหยุดเสริฟน้ำที่โต๊ะก่อน แต่ป้าผมไปสั่งน้ำซึ่งอยู่ข้างโซนพิธี ทางร้านก็พูดเสียงแข็งใส่ว่าก็เขาไม่ให้เสริฟ ป้าผมจึงเดินออกจากร้านไป เจ้าของร้านก็เดินตามไปบอกว่า แล้วจะทำไม ก็เขาไม่ให้เสริฟไง อาหารที่มาก็น้อยมาก สลัดกุ้งทอดได้กุ้ง 5 ตัว พล่าแซลม่อนได้แซลม่อนชิ้นเล็กๆ 5 ชิ้น ต้มยำกุ้งมีกุ้ง 5 ตัว ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ มีปูนิ่ม 1 ตัว เรียกได้ว่าปริมาณต่างจากวันที่ชิมสิ้นเชิง ทั้งยังมีการสั่งให้ผมเลื่อนรถไปจอดโซนด้านหลังเพราะลูกค้าเขาไม่มีที่จอด แต่ร้านคงลืมว่าผมก็เป็นลูกค้าเหมือนกันแต่ผมก็เลื่อนให้
สุดท้ายเมื่อผมตั้งโพสต์รีวิว ทางร้านก็ตั้งโพสต์โกหกต่างๆนาๆมาด่าว่าผม ให้เพื่อนๆมาช่วยปั่นว่าผมเป็นคนผิด ทั้งๆที่ทางร้านรับเงิน 2,000 เพิ่มไปแล้ว สถานที่ที่ผมได้ใช้ก็เท่าเดิม บริการก็ไม่ดี ผิดสัญญา ลดสเปคอาหาร ไม่มีคำขอโทษ แถมยังจะให้ผมไปขอโทษอีก ขอให้ผมลบโพสต์เพื่อจะนัดเจรจา พอผมลบให้ก็ไม่ติดต่อมา แถมยังไม่ลบโพสต์ตัวเอง เดินหน้าด่าผมต่อไป จนคนเริ่มเห็นความจริงถึงเพิ่งลบ
การรีวิวนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ว่าจะจัดงานใหญ่หรือเล็ก ควรทำสัญญาให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร้านที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพแบบนี้
ส่วนในวันงานทุกอย่างออกมาได้ราบรื่นส่วนหนึ่งมากจากการที่ตัวผมไม่ได้จะใส่ใจร้านมากนักในวันนั้น และออแกไนซ์ที่ดีที่ช่วยอำนวยการต่างๆ ขอบคุณเพื่อนๆญาติๆที่มาร่วมงาน และขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้นี้ครับ








[CR] รีวิว จัดงานหมั้นน่ารักๆในคาเฟ่เล็กๆ แถวปากเกร็ด ห่วยจัด!! ถ้ารู้ว่าร้านไหนอย่ามา!! หนีไป!!
ผมและแฟนอยากจะจัดงานหมั้นวันที่ 26 ธค 64 จึงได้เข้าไปนัดชิมอาหารกับคาเฟ่ ในวันที่ 3 ตค 64 ทางร้านยินดีให้จัดได้แต่ก็แอบบอกว่าช่วงเทศกาลลูกค้าเยอะ เราจึงเลื่อนงานหมั้นเราเป็นวันที่ 19 ธค 64 เพื่อร้านจะได้รับลูกค้าในช่วงเทศกาลได้เต็มที่
เมื่อชิมอาหารเสร็จ จึงคุยรายละเอียดในการเช่าจัดงานกับเจ้าของร้านคือ จะเช่าพื้นที่ที่เป็นโซนในอาคาร และจะมีการวางฉากด้านนอกอาคาร ช่วงเวลา 09.00-13.00 น. จำนวนแขกในตอนแรกประมาณ 28 คน
**ทางร้านจึงทำการเสนอราคามาให้คือ “ค่าเช่าสถานที่ 6,000 บาท ค่าน้ำ 70 บาท ทุกเมนูน้ำ น้ำแข็งฟรี ค่าน้ำเปล่าคิดตามจริง ค่าอาหารคิดตามจริง ค่าข้าวคิดตามจริง และลดค่าอาหารให้ 5% เพิ่มเติม” เจ้าของร้านได้ถามว่าราคานี้ จะให้ปิดทั้งร้านเลยหรือไม่ ผมจึงบอกว่าใช้สถานที่ตามที่ตกลงก็พอ โซนที่เหลือรับลูกค้าได้ปกติเลย ทางร้านก็ตกลง
ผมจึงโอนเงินมัด 6,500 บาท และ***ออแกไนซ์ก็ได้พาเจ้าของร้าน เดินดูว่าจะวางฉากตรงไหน ขนาดเท่าไหร่(ชี้ให้ดูว่าขนาดนี้คือจากตรงนี้ถึงตรงนี้) เจ้าของร้านก็ยินยอมให้จัดได้ และนัดให้ออแกไนซ์เข้าไปจัดฉากคืนก่อนวันหมั้น เวลาที่ให้เข้าไปได้คือ 1-2ทุ่ม
ในช่วงต้นเดือนธันวาคม แฟนผมได้พาแม่ยายไปลองทานอาหารที่คาเฟ่อีกครั้ง และมีการปรับรายละเอียดเมนูอาหารเล็กน้อย ให้เสริฟอาหารโต๊ะละ 2 ชุด และให้ทำชุดนึงให้ทานได้ 6 คน และจำนวนแขกที่จะมา เป็น 36 คน นั่งโต๊ะละ 12 คน ทางร้านก็ตกลง
ในคืนก่อนวันหมั้น ทางออแกไนซ์ได้เข้าไปถึงร้าน 2ทุ่ม แต่ทางเจ้าของร้านทานอาหารกันอยู่ในโซนที่จะตั้งฉากทำพิธีหมั้นด้านในอาคาร ออแกไนซ์จึงได้ทำการจัดฉากที่ด้านนอกอาคารไปก่อน เมื่อจัดใกล้เสร็จ จึงได้เดินไปขอให้ทางร้านเคลียสถานที่ด้านในให้ เมื่อเคลียพื้นที่เสร็จ ทางออแกไนซ์ก็ได้เข้าไป
จัดฉากด้านในอาคาร 2 คน 1ในนั้นเป็นน้องสาวของผม เจ้าของร้านได้ชวนออแกไนซ์คุยไปเรื่อยๆ และถามว่า ที่จัดทั้งหมดนี้คิดราคาเท่าไหร่ จัดงานสวยเผื่ออยากจะจ้างมาจัดให้ประจำ ออแกไนซ์ก็ได้ตอบว่า ทั้งหมดนี้ 19,000 บาท และได้บอกทางร้านว่า ทำไปคุยไปมันจะช้านะพี่ เดี๋ยวขอทำงานก่อน และได้ออกไปจัดฉากโซนด้านนอกต่อ ทางร้านก็หันไปคุยกันเองว่าจัดแค่นี้จะจ้างทำไม ทำกันเองก็ได้แค่ปักๆดอกไม้ แต่น้องสาวผมยืนจัดฉากด้านในอยู่จึงได้ยินทั้งหมด
สุดท้ายทางร้านได้เดินออกมาแล้วบอกว่า ฉากที่จัดมันกระจายเกินไป ทางร้านจะคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท แล้วเหมาทั้งร้านไป (ทั้งๆที่ฉากทั้งหมดอยู่ในจุดที่ตกลงกันแล้ว) ทางออแกไนซ์จึงบอกว่าพรุ่งนี้จะจัดงานแล้วจะคิดเงินเพิ่มเวลานี้ไม่เหมาะสม ถ้าอย่างนั้นก็จะเอาฉากมารวมไว้โซนเดียวกัน และได้ถามเจ้าของร้านว่ามีฉากไหนที่อยากให้เอาออกหรือให้ปรับขนาดเล็กลงไหม เจ้าของร้านก็ได้บอกว่าฉากแบคดรอปใหญ่เกินไป จะต้องเหมาทั้งร้านนะ ทางออแกไนซ์ก็บอกว่าฉากมันย่อให้เล็กลงได้ หรือจะให้รื้อออกก็ได้ “เจ้าของร้านก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรจัดได้เลยตามนี้”ออแกไนซ์จึงบอกว่าถ้าถึงเวลาเปิดร้านจะรีบนำชื่อบ่าวสาวออก จะได้เหลือแต่ฉากเผื่อลูกค้าจะมาถ่ายรูปได้ เจ้าของร้านก็ตกลงยินดี เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ออแกไนซ์จัดฉากเสร็จก็แยกย้ายกันไปทานอาหารและกลับบ้าน
แต่ในตอน 4ทุ่ม เจ้าของร้านได้ไปคุยกับทางแฟนของผมว่า ฉากใหญ่เกินไปกินพื้นที่โซนนอกร้านไปถึงครึ่งหนึ่ง และยังต้องจ้างพนักงานมาเพิ่มอีก ขอคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท แฟนของผมนอนไปแล้วเพราะต้องตื่นนอน ตอนตี4 จึงยังไม่ทันได้สอบถามกับออแกไนซ์จึงได้ตอบตกลงไป แล้วโทร มาบอกผม ผมจึงโทรถามออแกไนซ์ และโทรไปขอเหตุผลจากทางร้านที่จะคิดเงินเพิ่ม 2,000 บาท ทางร้านให้เหตุผลว่า เป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าสถานที่ ค่าเสียเวลา ตอบสลับไปสลับมา ซึ่งเหตุผลทั้งหมดนี้คิดค่าใช้จ่ายกันไปหมดแล้วตั้งแต่ตอนจ่ายมัดจำ ผมจึงปฏิเสธที่จะจ่ายเงินเพิ่ม
สุดท้ายลูกสาวจึงมาคุยแทน และให้เหตุผลวนไปวนมาเหมือนเดิม ผมจึงปฏิเสธเหมือนเดิม เมื่อคุยกันไม่ลงตัว ลูกสาวจึงพูดในเชิงที่ว่าจะไม่ให้จัดงานแล้ว ผมจึงพูดว่า ถ้าจะยกเลิก คุณต้องคืนมัดจำ รวมถึงค่าจ้างออแกไนซ์ ทางลูกสาวก็บอกว่าไม่จ่าย และถามว่า เงินแค่ 2,000 จะจ่ายไม่ได้เลยหรอ (แต่ไม่คิดนะว่ากะอีแค่ 2,000 ทำไมต้องมาเก็บเพิ่มในเวลานี้) ผมจึงสรุปไปว่าอะไรที่ตกลงสัญญากันไปแล้วก็ควรจบที่สัญญาไว้ ไม่ควรคิดเงินเพิ่ม แค่ 5 บาท ยังไม่ควรเพิ่มเลย ลูกสาวเจ้าของร้านก็สวนมาว่างั้นเพิ่ม 1 บาทจะจ่ายป้ะ
คุณแม่ผมเห็นว่าไม่น่าจะคุยรู้เรื่องจึงบอกว่าไม่ต้องคุยหรอก เสียเวลา และทางพี่สาวผมก็เข้ามาคุยแทน ลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดมาว่า “ใครเป็นคนพูดว่าเสียเวลา เอามาพูด เรียกมาพูดเดี๋ยวนี้” ทางพี่สาวผมก็ถามหาสาเหตุที่เก็บเงินเพิ่ม ทางลูกสาวก็บอกว่าค่าสถานที่ ค่าเสียเวลา พี่สาวผมก็ถามว่า ค่าเสียเวลาที่ว่าคืออะไร ลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดมาว่า “อย่าพูดจากระแนะกระแหน” พี่สาวผมบอกว่าที่ถามคือเราจะได้รู้เหตุผล ทางลูกสาวเจ้าของร้านก็พูดว่า “มันบ้าไปแล้ว มันบ้ากันทั้งตระกูล”
สุดท้ายคุณแม่ผมจึงคุยกับทางเจ้าของร้านเอง ก็ยังให้เหตุผลสลับไปมาเหมือนเดิม คุณแม่จึงบอกว่า คนละครึ่งทางแล้วกัน 1,000 บาท เจ้าของร้านก็ไม่ยอม คุณแม่เลยถามอีกว่าสรุปมันคือค่าอะไร เจ้าของร้านก็บอกเพราะจะเริ่มงานกัน 07.30 คุณแม่เลยบอกว่าไม่ค่ะ เวลางาน 09.00-13.00 เจ้าของร้านก็อึ้งๆไป แล้วบอกว่าก็จะเก็บ 2,000 แล้วก็บอกว่า แค่ 2,000 ไม่มีจะจ่ายเลยหรอ ไม่คุยละจะขับรถ แล้วตัดสายไป
ประมาณเที่ยงคืนแฟนผมโทรมาบอกว่าทางร้านให้จัดงานปกติ และส่วนที่ผมมารู้ทีหลังคือ ร้านโทรไปบอกแฟนผมว่าไม่เต็มใจจะให้จัดงานแล้ว ถ้าทางบ้านเจ้าบ่าวไม่ยอมไปขอโทษเขา แม่ยายจึงขอโทษแทนไป แล้วถามว่าทางร้านจะตัดสินใจยังไง ทางร้านก็บอกว่าให้โอนเงินเพิ่มอีก 30,000 ถึงจะยอมจัดงานให้ แต่เป็นเงินที่มากเกินไป สุดท้ายเลยตกลงที่โอนเงินไปเพิ่มอีก 15,000 บาท ซึ่งในจำนวนนี้รวม 2,000 ที่เจ้าของจะเก็บแบบไม่มีเหตุผลไปด้วย และได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าบ้านเจ้าบ่าวได้เห็นเงินในบัญชี 8หลักของเขา จะต้องยอมขอโทษ
วันงาน มีญาติไปถึงร้าน 07.43 และไปจอดรอหลังร้าน ส่วนตัวผมไปถึงตอน 8.25 ก็ยังไม่เห็นใครเลย แม้แต่พนักงานก็ยังไม่มี จน 09.00 พนักงานเพิ่งจะมาเปิดพื้นที่ด้านในอาคาร และกวาดใบไม้โซนนอกอาคาร(เจ้าของร้านมาเวลา 9โมงกว่า และลูกสาวแต่งชุดดำมา) เมื่อเจ้าของร้านมาถึงก็เรียกแม่ยายผมไปคุยในห้อง และพูดทำนองที่ว่าสามีเขาอยู่กองปราบไม่กลัวที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ตัวลูกสาวก็พูดทำนองเดียวกันใส่น้องสาวผม ส่วนโซนในอาคารทางร้านยังจัดไม่เรียบร้อย ทำให้ญาติๆต้องรอโซนนอกอาคาร และถ่ายรูปเล่นกัน และทางร้านยังใช้ให้ออแกไนซ์จัดโต๊ะอาหารให้อีก เมื่อสถานที่จัดเสร็จประมาณ 10.00 ญาติๆก็ทยอยเข้าไปรอในร้านโซนพิธีกันได้ทั้งหมด และแทบไม่ได้ออกมาเลย เพราะทุกคนอยู่ร่วมพิธีหมั้น และทานอาหารกันต่อเลย เวลา 11.00 ลูกค้ากลุ่มแรกถึงเข้ามาทานอาหารที่ร้านตามปกติ
ซึ่งการบริการในวันนี้ของร้านคือหน้าบึ้งตึง ให้ทำอะไรก็ไม่เต็มใจทำให้ ผมต้องยกเก้าอี้เสริมให้ญาติเอง ผมสั่งข้าวก็ไม่รับออเดอร์ ต้องให้เจ้าสาวสั่ง ช่วงพิธีแม่ยายผมบอกว่าหยุดเสริฟน้ำที่โต๊ะก่อน แต่ป้าผมไปสั่งน้ำซึ่งอยู่ข้างโซนพิธี ทางร้านก็พูดเสียงแข็งใส่ว่าก็เขาไม่ให้เสริฟ ป้าผมจึงเดินออกจากร้านไป เจ้าของร้านก็เดินตามไปบอกว่า แล้วจะทำไม ก็เขาไม่ให้เสริฟไง อาหารที่มาก็น้อยมาก สลัดกุ้งทอดได้กุ้ง 5 ตัว พล่าแซลม่อนได้แซลม่อนชิ้นเล็กๆ 5 ชิ้น ต้มยำกุ้งมีกุ้ง 5 ตัว ปูนิ่มผัดผงกะหรี่ มีปูนิ่ม 1 ตัว เรียกได้ว่าปริมาณต่างจากวันที่ชิมสิ้นเชิง ทั้งยังมีการสั่งให้ผมเลื่อนรถไปจอดโซนด้านหลังเพราะลูกค้าเขาไม่มีที่จอด แต่ร้านคงลืมว่าผมก็เป็นลูกค้าเหมือนกันแต่ผมก็เลื่อนให้
สุดท้ายเมื่อผมตั้งโพสต์รีวิว ทางร้านก็ตั้งโพสต์โกหกต่างๆนาๆมาด่าว่าผม ให้เพื่อนๆมาช่วยปั่นว่าผมเป็นคนผิด ทั้งๆที่ทางร้านรับเงิน 2,000 เพิ่มไปแล้ว สถานที่ที่ผมได้ใช้ก็เท่าเดิม บริการก็ไม่ดี ผิดสัญญา ลดสเปคอาหาร ไม่มีคำขอโทษ แถมยังจะให้ผมไปขอโทษอีก ขอให้ผมลบโพสต์เพื่อจะนัดเจรจา พอผมลบให้ก็ไม่ติดต่อมา แถมยังไม่ลบโพสต์ตัวเอง เดินหน้าด่าผมต่อไป จนคนเริ่มเห็นความจริงถึงเพิ่งลบ
การรีวิวนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ว่าจะจัดงานใหญ่หรือเล็ก ควรทำสัญญาให้ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับร้านที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพแบบนี้
ส่วนในวันงานทุกอย่างออกมาได้ราบรื่นส่วนหนึ่งมากจากการที่ตัวผมไม่ได้จะใส่ใจร้านมากนักในวันนั้น และออแกไนซ์ที่ดีที่ช่วยอำนวยการต่างๆ ขอบคุณเพื่อนๆญาติๆที่มาร่วมงาน และขอบคุณทุกคนที่ติดตามกระทู้นี้ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้