สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เราจะเล่าเรื่องจริงโดยไม่กั๊กให้มองว่าเราดูดี
เรากำลังจะเลิกกับแฟนค่ะ และยังมีปัญหามือที่ 3
เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามักจะมีแฟนที่อายุน้อยกว่ามาเสมอๆเลยตั้งแต่ 2-7 ปี โดยส่วนมากคนที่เข้ามาก็มีความเป็นผู้ใหญ่และดูแลเราได้ในระดับนึง ปัจจุบันแฟนเราอายุน้อยกว่า 3 ปี คบกันมา 3 ปีเป็นคนที่คบแล้วไม่มีอนาคตที่สุดทั้งเราและเขาต่างพากันล่มจม เรามีครอบครัวซัพพอร์ตเขาก็เช่นกันทำให้เราใช้ชีวิตแบบชิวๆไม่ได้ทำงานอะไรมา2ปีกว่า แล้วเพิ่งจะย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงจังได้ครึ่งปีทำให้มองเห็นอะไรๆได้มากขึ้น พอย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านก็ซัพพอร์ตเราน้อยลง เริ่มจากเรื่องงานเราทำงานเป็นพนักงานออฟฟิตบริษัทแห่งนึง เรารับผิดชอบจ่ายค่าห้องค่าน้ำค่าไฟ รวมทั้งค่ากินอยู่ของเราทั้งหมด ใน4 เดือนแรกเขาไม่ได้ทำงานเลย นอนอยู่ห้องและเล่นเกมเท่านั้นจะมีล้างจานบ้านกวาดห้องบ้างซักผ้าบ้างแต่ผู้ชายก็ทำพอลวกๆเราไม่ได้รู้สึกว่าห้องมันสะอาดเลยเริ่มทะเลาะกันบ่อยๆ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้เพราะเราต้องให้เงินเขาทุกวันแม้เขาจะอยู่ห้องเฉยๆก็ตามเขาติดกาแฟและบุหรี่แบบขาดไม่ได้ พอมีปัญหาเรื่องเงินเราต้องยืมเงินแม่มาบ้างทั้งที่เขารู้และไม่รู้ บางครั้งเขาก็จะขอแม่เขาบ้าง เพื่อเอาไว้ใช้ส่วนตัว มันเป็นความเหนื่อยล้าที่สะสม จนวันนึงเราอยากจะยุติทุกอย่าง อยากจะออกจากงานแล้วอยู่เฉยๆ แบบว่าถ้าเขาไม่หาจะอยู่กันบบนี้ได้ก็ให้มันรู้ไป เราเลยบอกเขาว่ามีแพลนจะลาออกจากงานให้เขาหางานทำ เราดูแลเรื่องช่วยเขาหางานทุกอย่าง จนในที่สุดก็ได้งาน หลังจากที่เขาทำงานได้ครึ่งเดือน เราก็ลาออกจากงาน (ที่จริงงานค่อนข้างมีปัญหาและเราต้องการเปลี่ยนงานอยู่แล้วเป็นสาเหตุนึงที่ลาออก) ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดีเราบอกว่าขอพักสักเดือนนึงเดี๋ยวจะหางานทำอีก ระหว่างนี้เราก็เป็นแม่บ้านที่ดี จะกระทั่ง... ผ่านมาอีกครึ่งเดือนจุดแตกหักก็เกิดขึ้น เขาถูกให้ออกจากงาน และเราก็ทะเลาะกัน เพราะเราว่างงานทั้งคู่ ทำไมชีวิตคู่เราอนาคตมันมืดมนขนาดนี้(ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาอารมณ์รุนแรงและกร้าวร้าวมากเกือบจะทำร้ายเราหลายครั้งชอบขู่ฆ่าเราอยู่บ่อยๆดังนั้นเวลาเขาโมโหเรสจะพยายามนิ่งเงียบ) เขาบอกจะรีบหางานใหม่ แต่ในความจริงไม่ได้รีบเลยเขานอนเล่นเกมสบายใจเพราะยังไงเราทั้งคู่ก็ขอพ่อแม่ได้ เขาเล่นเกมแล้วมีความสุขมากกับเพื่อนไปในเกม ซึ่งที่จริงเราทั้งคู่ต่างเป็นเกมเมอร์ แต่เราเลิกเล่นเกมมาหลายปีแล้ว เราเลยพูดไปว่างั้นเราจะทำบ้างนะ (เล่นเกมคุยกับคนในเกม) เขาก็ไม่ว่าอะไร เราเลยเริ่มกลับมาเล่นเกมและคุยกับน้องคนนึง เรารู้จักกันมา 8-9 ปี เคยคุยกันบ้างประปรายไม่ได้จริงจังคุยๆหายๆมาตลอด แต่ครั้งนี้มันต่างไป เพราะน้องก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ครั้งแรกที่รู้จักกันน้องอยู่มัธยมอายุ 15-16 ได้มั้ง ตอนนี้น้องเรียนจบทำงานแล้วเราอายุห่างกัน 6-7ปี แต่คุยกันแล้วมันมีความโคตรสบายใจ เลยทำให้สถานะแค่พี่น้องมันเปลี่ยนไป น้องก็รู้สถานการณ์ความรักของเราดี เรื่องมันยาวน่ะค่ะเลยจับต้นชนปลายมาไม่หมด มีอีกหลายอย่างเลยที่อาจจะข้ามไป เรากับแฟนอยู่ด้วยกันแบบต่างคนต่างอยู่ และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน รวมทั้งรู้ดีแก่ใจทั้งคู่ว่าเรารักกันน้อยลงมาเรื่อยๆและเราจะเลิกกันมานานแล้ว แต่จุดแตกหักก็มาถึง..ตอนนี้ใกล้สิ้นปี น้องก็อยากให้เราไปเคาท์ดาวน์ด้วย แต่เราไม่ได้อยู่ในสถานะโสดที่จะทำอะไรตามใจนัก เราเลยเปิดใจคุยกับแฟนถึงสถานการณ์ที่ผ่านมาและขอเลิกกับเขา เขาได้แต่ถามว่าเขาผิดอะไร? นั่นแหล่ะค่ะเขาไม่ผิด แต่เราผิด เราไม่ได้เลือกคนใหม่ แต่เราก็ไม่ได้อยากมีเขาอีกแล้ว เราไม่ได้อยากคบกับน้องจริงจังเราแค่ต้องการอิสระที่จะคุยกับใครก็ได้ อยากใช้ชีวิต อยากเห็นโลกให้มากๆทำสิ่งที่ยังไม่ได้ทำอีกมากโดยไม่เอาตัวเองไปยึดติดกับใครและเป็นคู่ชีวิต แค่อยากคุยแล้วสบายใจไม่ต้องผูกมัดเรื่องสถานะความสัมพันธ์ ตรงนี้เรารู้ตัวเองดีว่าเห็นแก่ตัว แต่เขาควรเจอคนอื่นที่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาและตอนนี้ไม่ว่าใครก็ดีกว่าเราทั้งนั้น อาจเป็นเหตุผลนางเอก แต่เราโคตรนางร้าย ผลจากนี้แน่นอนเราต้องเสียใจ แต่เราเลือกให้เขาเจ็บเพียงแค่นี้ ใครออกจากเราไปก็ดีหมด เราเป็นคนที่ไม่เหมาะกับใครเลย เหมาะจะอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตเสเพลในอายุเลข 3 ไม่มีอนาคตแฟนเรายังอายุเลข 2 และยังมีโอกาสเจอคนอีกมาก เราทำถูกแล้วที่ปล่อยเขาไปใช่ไหมคะ? แม้มันคือความเห็นแก่ตัว แต่ยังดีกว่าปล่อยเอาไว้ให้ค้างคา
เรารู้ว่าถ้ามีคนเข้ามาอ่านเราคงโดนด่าเยอะแน่ๆ อย่าด่าแรงมากนะคะ แค่นี้ก็รู้สึกผิดไม่ทันแล้วค่ะ ขออภัยหากแท๊กผิด ขอบคุณค่ะ
ปลอบใจว่าตัวเองว่าเลือกทางที่ทุกคนเจ็บน้อยที่สุด หรือเราแค่เห็นแก่ตัว?
เรากำลังจะเลิกกับแฟนค่ะ และยังมีปัญหามือที่ 3
เรื่องมันมีอยู่ว่า เรามักจะมีแฟนที่อายุน้อยกว่ามาเสมอๆเลยตั้งแต่ 2-7 ปี โดยส่วนมากคนที่เข้ามาก็มีความเป็นผู้ใหญ่และดูแลเราได้ในระดับนึง ปัจจุบันแฟนเราอายุน้อยกว่า 3 ปี คบกันมา 3 ปีเป็นคนที่คบแล้วไม่มีอนาคตที่สุดทั้งเราและเขาต่างพากันล่มจม เรามีครอบครัวซัพพอร์ตเขาก็เช่นกันทำให้เราใช้ชีวิตแบบชิวๆไม่ได้ทำงานอะไรมา2ปีกว่า แล้วเพิ่งจะย้ายมาอยู่ด้วยกันจริงจังได้ครึ่งปีทำให้มองเห็นอะไรๆได้มากขึ้น พอย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านก็ซัพพอร์ตเราน้อยลง เริ่มจากเรื่องงานเราทำงานเป็นพนักงานออฟฟิตบริษัทแห่งนึง เรารับผิดชอบจ่ายค่าห้องค่าน้ำค่าไฟ รวมทั้งค่ากินอยู่ของเราทั้งหมด ใน4 เดือนแรกเขาไม่ได้ทำงานเลย นอนอยู่ห้องและเล่นเกมเท่านั้นจะมีล้างจานบ้านกวาดห้องบ้างซักผ้าบ้างแต่ผู้ชายก็ทำพอลวกๆเราไม่ได้รู้สึกว่าห้องมันสะอาดเลยเริ่มทะเลาะกันบ่อยๆ ทั้งยังมีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้เพราะเราต้องให้เงินเขาทุกวันแม้เขาจะอยู่ห้องเฉยๆก็ตามเขาติดกาแฟและบุหรี่แบบขาดไม่ได้ พอมีปัญหาเรื่องเงินเราต้องยืมเงินแม่มาบ้างทั้งที่เขารู้และไม่รู้ บางครั้งเขาก็จะขอแม่เขาบ้าง เพื่อเอาไว้ใช้ส่วนตัว มันเป็นความเหนื่อยล้าที่สะสม จนวันนึงเราอยากจะยุติทุกอย่าง อยากจะออกจากงานแล้วอยู่เฉยๆ แบบว่าถ้าเขาไม่หาจะอยู่กันบบนี้ได้ก็ให้มันรู้ไป เราเลยบอกเขาว่ามีแพลนจะลาออกจากงานให้เขาหางานทำ เราดูแลเรื่องช่วยเขาหางานทุกอย่าง จนในที่สุดก็ได้งาน หลังจากที่เขาทำงานได้ครึ่งเดือน เราก็ลาออกจากงาน (ที่จริงงานค่อนข้างมีปัญหาและเราต้องการเปลี่ยนงานอยู่แล้วเป็นสาเหตุนึงที่ลาออก) ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดีเราบอกว่าขอพักสักเดือนนึงเดี๋ยวจะหางานทำอีก ระหว่างนี้เราก็เป็นแม่บ้านที่ดี จะกระทั่ง... ผ่านมาอีกครึ่งเดือนจุดแตกหักก็เกิดขึ้น เขาถูกให้ออกจากงาน และเราก็ทะเลาะกัน เพราะเราว่างงานทั้งคู่ ทำไมชีวิตคู่เราอนาคตมันมืดมนขนาดนี้(ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาอารมณ์รุนแรงและกร้าวร้าวมากเกือบจะทำร้ายเราหลายครั้งชอบขู่ฆ่าเราอยู่บ่อยๆดังนั้นเวลาเขาโมโหเรสจะพยายามนิ่งเงียบ) เขาบอกจะรีบหางานใหม่ แต่ในความจริงไม่ได้รีบเลยเขานอนเล่นเกมสบายใจเพราะยังไงเราทั้งคู่ก็ขอพ่อแม่ได้ เขาเล่นเกมแล้วมีความสุขมากกับเพื่อนไปในเกม ซึ่งที่จริงเราทั้งคู่ต่างเป็นเกมเมอร์ แต่เราเลิกเล่นเกมมาหลายปีแล้ว เราเลยพูดไปว่างั้นเราจะทำบ้างนะ (เล่นเกมคุยกับคนในเกม) เขาก็ไม่ว่าอะไร เราเลยเริ่มกลับมาเล่นเกมและคุยกับน้องคนนึง เรารู้จักกันมา 8-9 ปี เคยคุยกันบ้างประปรายไม่ได้จริงจังคุยๆหายๆมาตลอด แต่ครั้งนี้มันต่างไป เพราะน้องก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ครั้งแรกที่รู้จักกันน้องอยู่มัธยมอายุ 15-16 ได้มั้ง ตอนนี้น้องเรียนจบทำงานแล้วเราอายุห่างกัน 6-7ปี แต่คุยกันแล้วมันมีความโคตรสบายใจ เลยทำให้สถานะแค่พี่น้องมันเปลี่ยนไป น้องก็รู้สถานการณ์ความรักของเราดี เรื่องมันยาวน่ะค่ะเลยจับต้นชนปลายมาไม่หมด มีอีกหลายอย่างเลยที่อาจจะข้ามไป เรากับแฟนอยู่ด้วยกันแบบต่างคนต่างอยู่ และไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กัน รวมทั้งรู้ดีแก่ใจทั้งคู่ว่าเรารักกันน้อยลงมาเรื่อยๆและเราจะเลิกกันมานานแล้ว แต่จุดแตกหักก็มาถึง..ตอนนี้ใกล้สิ้นปี น้องก็อยากให้เราไปเคาท์ดาวน์ด้วย แต่เราไม่ได้อยู่ในสถานะโสดที่จะทำอะไรตามใจนัก เราเลยเปิดใจคุยกับแฟนถึงสถานการณ์ที่ผ่านมาและขอเลิกกับเขา เขาได้แต่ถามว่าเขาผิดอะไร? นั่นแหล่ะค่ะเขาไม่ผิด แต่เราผิด เราไม่ได้เลือกคนใหม่ แต่เราก็ไม่ได้อยากมีเขาอีกแล้ว เราไม่ได้อยากคบกับน้องจริงจังเราแค่ต้องการอิสระที่จะคุยกับใครก็ได้ อยากใช้ชีวิต อยากเห็นโลกให้มากๆทำสิ่งที่ยังไม่ได้ทำอีกมากโดยไม่เอาตัวเองไปยึดติดกับใครและเป็นคู่ชีวิต แค่อยากคุยแล้วสบายใจไม่ต้องผูกมัดเรื่องสถานะความสัมพันธ์ ตรงนี้เรารู้ตัวเองดีว่าเห็นแก่ตัว แต่เขาควรเจอคนอื่นที่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาและตอนนี้ไม่ว่าใครก็ดีกว่าเราทั้งนั้น อาจเป็นเหตุผลนางเอก แต่เราโคตรนางร้าย ผลจากนี้แน่นอนเราต้องเสียใจ แต่เราเลือกให้เขาเจ็บเพียงแค่นี้ ใครออกจากเราไปก็ดีหมด เราเป็นคนที่ไม่เหมาะกับใครเลย เหมาะจะอยู่คนเดียวและใช้ชีวิตเสเพลในอายุเลข 3 ไม่มีอนาคตแฟนเรายังอายุเลข 2 และยังมีโอกาสเจอคนอีกมาก เราทำถูกแล้วที่ปล่อยเขาไปใช่ไหมคะ? แม้มันคือความเห็นแก่ตัว แต่ยังดีกว่าปล่อยเอาไว้ให้ค้างคา
เรารู้ว่าถ้ามีคนเข้ามาอ่านเราคงโดนด่าเยอะแน่ๆ อย่าด่าแรงมากนะคะ แค่นี้ก็รู้สึกผิดไม่ทันแล้วค่ะ ขออภัยหากแท๊กผิด ขอบคุณค่ะ