ต้องออกตัวก่อนว่าผมเป็นแค่คนที่ชอบดูหนังดูซีรีย์มากๆ ส่วนใหญ่จะเป็นฝั่ง US ไม่ก็เกาหลีครับ มีซีรีย์ไทยบ้างบางเรื่อง นานๆทีจะหลุดมาดูละครไทย(นับแค่ช่อง 3 7 8) และผมเป็นคนที่ชอบดูแล้วคิดตาม วิเคราะห์ตามตลอด ซึ่งก็มักจะเห็นความไม่สมเหตุสมผลของหนัง หรือจุดผิดพลาดเสมอๆอยู่ที่จะมากหรือน้อย แต่สุดท้ายแล้วผมก็เอ็นจอยกับการทำแบบนี้นะครับ ดังนั้นแต่ละคนก็มีวิธีการรับชมที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะดูเรื่อยๆไม่ต้องคิดอะไรก็ไม่ผิดเป็นสิทธ์ของเขา และแน่นอนว่ามีคนประเภทแบบผมที่ตั้งใจดูแล้วคิดตามเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่ได้แบ่งแยกนะครับ ดังนั้นเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกันด้วยนะครับ >< แต่ถ้าจะแย่งในส่วนเนื้อเรื่อง(ด้วยเหตุผล) พร้อมยินดีแลกเปลี่ยนครับ
อย่างที่บอกว่าผมมักจะดูผลงานต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ แต่พอมาดูเรื่องนี้เนี่ยเราก็ล้างมาตรฐานเดิมๆออกครับ ถ้าดูละครไทยแต่ใช่ไม้บรรทัดเมกามันก็ดูไม่แฟร์ แล้วดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไร ต้องขอบอกว่าละครเรื่อง เกมล่าทรชน ทำได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มากในแง่ของ โปรดักชั่น มุมกล้อง โทนภาพ คุณภาพสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานซีรีย์ไทยครับ ที่สำคัญที่สุดคือ เกมล่าทรชนได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ที่ละครไทยอาจจะยังไม่ค่อยมีนัก เช่น ตัวละครริต้าที่เป็นนักฆ่าฝั่งมาเฟีย เป็นตัวละครเลสเบี้ยนแถมยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน มีนิสัยโรคจิตที่ให้อารมณ์เหมือน ฮาลีย์ ควินน์ (จริงๆมันใช่เลยแหละทั้งคอสตูม ฮา แต่เดี๋ยวไว้พูดในส่วนของข้อเสีย) นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินเรื่องที่ตัวเอกไม่ใช่ one man show นึกกลับไปสมัยก่อนละครมักจะมีบทเด่นๆแค่ พระ-นาง หรือเต็มที่ก็ พระรอง-นางรอง ตัวโกง คือบทจะอยู่แค่นี้ที่เหลือเหมือนเป็นตัวประกอป ไม่มีมิติ ตัวละครแบนๆ
แต่เรื่องนี้ต่างออกไป กระจายบทได้ดีมากๆ ทุกตัวจะมี background ของตัวเอง มีplotของตัวเองแทบจะทุกตัว ไม่ได้ผูกติดเรื่องไว้กับตัวเอกคนเดียว กลายเป็นว่าตัวละครทุกตัวมีส่วนสำคัญทำให้เนื้อเรื่องมันเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งผมชอบตรงส่วนนี้มากๆครับ เช่น มีการเล่าถึงฝั่งมาเฟียหลายขั้วอำนาจ การขัดผลประโยชน์ หักหลังกัน ด้วยเหตุผลที่พูดมาทั้งหมดมันทำให้เห็นว่าทั้งคนเขียนบท และทีมงานที่เกี่ยวข้องเปิดรับสิ่งใหม่มากขึ้น ทั้งเรื่องเพศที่สาม(ที่ไม่ใช่ตัวตลก) ตื่นตัวกับการพัฒนาคุณภาพในหลายๆด้านให้ทันต่างชาติ อย่างฉากจบแต่ละตอนนี้ เหมือนดูซีรีย์เกาหลีชัดๆ 5555 แต่ผมไม่ได้ติดอะไรนะ ref บางอย่างที่เอามาจากเกาหลี มันทำให้รับรู้ถึงความตั้งใจของทีมงานในการพัฒนาครับ ถ้าคนที่เคยดูซีรีย์เกาหลีมาจะอ๋อเลย5555555 เรื่องการแสดง(เฉพาะนักแสดงหลัก) แสดงดีทุกคนไม่ติดกับคนไหนเลย เพลงประกอปละครเพราะเข้ากับเรื่องดี แต่ถ้ามีเพลงบู๊เดือดอีกซัดเพลงจะดีมาก
อ่านข้อดีไปแล้วมาฝั่งข้อเสียกันบ้างครับ
พยายามจะสร้างความแตกต่างมากเกินไป คือด้วยเจตนาและความตั้งใจผมเข้าใจทีมงานนะครับ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่ทำออกมาดีไม่ดีก็คืออีกเรื่อง ซึ่งผมรู้สึกว่าพยายามจนมันขัดกับบริบทของละครไปครับ เช่น ตัวของริต้าที่พยายามใส่บุคลิคให้บ้าๆ โรคจิต หลุดโลกเหมือน ฮารีย์ ควินน์ มันเหมือนมากเกินไป จนผมดูตัวละครนี้เเล้วรู้สึกขัดๆและตลกแปลกๆ บทพูดไม่เป็นธรรมชาติ(แต่นักแสดงถือว่างานดีครับ555 เชื่อว่าคงโดนบรีฟมาให้เล่นแบบนี้) คิดว่าส่วนหนึ่งมาจากบริบทของไทยที่มันไม่น่าจะมีคนลักษณะนี้ เลยขัดๆ ถ้าเทียบกับเมกาตัวละครลักษณะนี้มันจะดูไม่แปลกเลย
พัฒนาการตัวละครที่ก้าวกระโดดหน้ามือเป็นหลังมือ ที่เห็นชัดๆคือตัวของอัญญา ที่เปิดเรื่องเป็นเด็กเกเร นิสัยเสียมาก หยิ่ง แต่พอโดนจับไปจนกลับมา กลายเป็นคนละคนแบบ...คนละคนจริงๆ จะสำนึกผิดอะไรก็แล้วแต่ อย่างมากคือmindsetเปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนบุคลิกจากเด็กเกเรเป็นคุณหนูน่ารักสดใสในเวลาคืนสองคืนมันไม่ได้เด้อ อย่างน้อยมันก็ต้องมีช่วงเปลี่ยนผ่านบ้าง
ความสัมพันธ์ของตัวละครที่เหมือนจับยัด จริงๆเคมีของ มาวิน(ท้อป จรณ) กับลลิษา(ตูน) คือดีมากกก แต่เสียดายที่เรื่องมันเล่าลวกๆไปหน่อย ดูเเล้วไม่เชื่อตามว่าลิลษาไปทำให้มาวินชอบหัวปักหัวปำ คำถามไม่ใช่ตอนไหน แต่คือได้ยังไง??? เพราะดูแล้วมันไม่มีอะไรเลยแค่ไปช่วยตัวประกันด้วยกัน หลังจากนั้นมาวินก็ตาหวานใส่ลลิษาปิ๊งๆ ห๊ะ??? แล้วไอ้การตามจีบเขาไปกินเหล้ากับเขาด้วย ในขณะที่ทั้งโต๊ะคือแก็งค์ตำรวจ โดยที่ตำรวจก็รู้นะว่ามาวินค้ายาแต่อาจจะแค่ไม่มีหลักฐานมัดตัว แต่ก็นั่งกินเหล้าเฮฮากัน ถึงเคมีของทั้งคู่จะดีแต่มันดูจับยัดมากไปหน่อย หลายๆฉากพยายามจะโรแมนติกแต่มันแปลกๆ อาจจะเพราะว่าเราไม่อินแต่แรกที่มาวินตกหลุมรักลลิษา
บทพูดที่ดูไม่เป็นธรรมชาติจน cringe จริงๆมีหลายตอนมากๆ แต่ที่จำได้แล้วรู้สึกฮาสุดคือ พวกตำรวจไปถล่มตึกโจร คนอื่นรออยู่บทรถ จนพระเอกฝ่าระเบิดออกมายืนเท่ๆ แล้วพูดว่า "มีที่นั่งเหลือไหม" ซึ่งอันนี้คือความรู้สึกผมอะครับ แต่คนอื่นอาจจะเฉยๆก็ได้ ผมแค่รู้สึกบทพูดมันดูไม่ธรรมชาติ ยังไม่รวมการเรียกสรรพนามที่มีในละครทุกเรื่อง เช่น ฉันกับนาย จะเลี่ยงหยาบยังไงก็ได้แต่ในชีวิตจริงยิ่งผู้ชาย ผมไม่เคยเจอใครเรียกสรรพนามแบบนี้เลย55555 ได้แต่สงสัยว่าเมื่อไหร่ละครจะเปลี่ยนการเรียกแบบนี้ซะที
[[สนใจแต่ภาพรวมจนลืมมองในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย]] จริงๆเรื่องนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับข้อก่อนๆด้วย แต่ที่ผมผิดหวังคือ เรื่องนี้เป็นละครที่ทุนหน้าเรื่องนึง แต่กับแค่ฉากโรงงานผลิตยากลับไม่ลงทุนเลย แค่เป็นโกดังใหญ่ มีโต๊ะยาวโง่ๆตัวนึง และหลอดแก้วทดลองหลากสี3-4หลอด??
นี้มันโรงงานผลิตยาของมาเฟียหรือเด็กมัธยมทดลองวิทยาศาตร์??? ผมไม่ได้คาดหวังว่ามันต้องสมจริงแบบ breaking bad ที่มีเตาปฏิกรณ์ เครื่องจักรบลาๆ แต่อย่างน้อยช่วยทำให้มันเหมือนโรงงานผลิตยาหน่อยได้ไหมอะ นี่ยังไม่รวม extra หลายๆคนที่เล่นโคตรแข็ง ผมเชื่อว่า extra ที่เล่นเก่งๆมีเยอะมากก ไม่รู้ผกกปล่อยผ่านได้ยังไง
จริงๆข้อสุดท้ายก็คือสรุปโดยรวมได้แล้วว่า ทีมงานมีความตั้งใจที่ดี เปิดรับแนวคิดใหม่ๆเยอะที่ไม่ค่อยได้เห็นในละคร มีแนวโน้มที่มาตรฐานละครไทยจะพัฒนาไปอีกขั้น แต่ยังไม่ค่อยใส่ใจในรายละเอียดเท่าไหร่ในหลายๆช่วง จนบางอย่างก็เหมือนจับยัดมาดื้อๆ ขัดๆ และมันทำให้เราไม่อินกับส่วนนั้นที่เรื่องพยายามจะนำเสนอ เช่น ฉากกุ๊กกิ๊กของมาเฟัยกับตำตวจ ที่งงว่าไปรักเขาหัวปักหัวปำตอนไหน, อัญญาที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เมื่อคอซีรีย์มาดู [[เกมล่าทรชน]] ละครที่มาตรฐานสูงขึ้น แต่ยังมีแผลเยอะ
อย่างที่บอกว่าผมมักจะดูผลงานต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ แต่พอมาดูเรื่องนี้เนี่ยเราก็ล้างมาตรฐานเดิมๆออกครับ ถ้าดูละครไทยแต่ใช่ไม้บรรทัดเมกามันก็ดูไม่แฟร์ แล้วดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไร ต้องขอบอกว่าละครเรื่อง เกมล่าทรชน ทำได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้มากในแง่ของ โปรดักชั่น มุมกล้อง โทนภาพ คุณภาพสูงกว่าค่าเฉลี่ยมาตรฐานซีรีย์ไทยครับ ที่สำคัญที่สุดคือ เกมล่าทรชนได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ที่ละครไทยอาจจะยังไม่ค่อยมีนัก เช่น ตัวละครริต้าที่เป็นนักฆ่าฝั่งมาเฟีย เป็นตัวละครเลสเบี้ยนแถมยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน มีนิสัยโรคจิตที่ให้อารมณ์เหมือน ฮาลีย์ ควินน์ (จริงๆมันใช่เลยแหละทั้งคอสตูม ฮา แต่เดี๋ยวไว้พูดในส่วนของข้อเสีย) นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินเรื่องที่ตัวเอกไม่ใช่ one man show นึกกลับไปสมัยก่อนละครมักจะมีบทเด่นๆแค่ พระ-นาง หรือเต็มที่ก็ พระรอง-นางรอง ตัวโกง คือบทจะอยู่แค่นี้ที่เหลือเหมือนเป็นตัวประกอป ไม่มีมิติ ตัวละครแบนๆ แต่เรื่องนี้ต่างออกไป กระจายบทได้ดีมากๆ ทุกตัวจะมี background ของตัวเอง มีplotของตัวเองแทบจะทุกตัว ไม่ได้ผูกติดเรื่องไว้กับตัวเอกคนเดียว กลายเป็นว่าตัวละครทุกตัวมีส่วนสำคัญทำให้เนื้อเรื่องมันเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งผมชอบตรงส่วนนี้มากๆครับ เช่น มีการเล่าถึงฝั่งมาเฟียหลายขั้วอำนาจ การขัดผลประโยชน์ หักหลังกัน ด้วยเหตุผลที่พูดมาทั้งหมดมันทำให้เห็นว่าทั้งคนเขียนบท และทีมงานที่เกี่ยวข้องเปิดรับสิ่งใหม่มากขึ้น ทั้งเรื่องเพศที่สาม(ที่ไม่ใช่ตัวตลก) ตื่นตัวกับการพัฒนาคุณภาพในหลายๆด้านให้ทันต่างชาติ อย่างฉากจบแต่ละตอนนี้ เหมือนดูซีรีย์เกาหลีชัดๆ 5555 แต่ผมไม่ได้ติดอะไรนะ ref บางอย่างที่เอามาจากเกาหลี มันทำให้รับรู้ถึงความตั้งใจของทีมงานในการพัฒนาครับ ถ้าคนที่เคยดูซีรีย์เกาหลีมาจะอ๋อเลย5555555 เรื่องการแสดง(เฉพาะนักแสดงหลัก) แสดงดีทุกคนไม่ติดกับคนไหนเลย เพลงประกอปละครเพราะเข้ากับเรื่องดี แต่ถ้ามีเพลงบู๊เดือดอีกซัดเพลงจะดีมาก
อ่านข้อดีไปแล้วมาฝั่งข้อเสียกันบ้างครับ พยายามจะสร้างความแตกต่างมากเกินไป คือด้วยเจตนาและความตั้งใจผมเข้าใจทีมงานนะครับ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่ทำออกมาดีไม่ดีก็คืออีกเรื่อง ซึ่งผมรู้สึกว่าพยายามจนมันขัดกับบริบทของละครไปครับ เช่น ตัวของริต้าที่พยายามใส่บุคลิคให้บ้าๆ โรคจิต หลุดโลกเหมือน ฮารีย์ ควินน์ มันเหมือนมากเกินไป จนผมดูตัวละครนี้เเล้วรู้สึกขัดๆและตลกแปลกๆ บทพูดไม่เป็นธรรมชาติ(แต่นักแสดงถือว่างานดีครับ555 เชื่อว่าคงโดนบรีฟมาให้เล่นแบบนี้) คิดว่าส่วนหนึ่งมาจากบริบทของไทยที่มันไม่น่าจะมีคนลักษณะนี้ เลยขัดๆ ถ้าเทียบกับเมกาตัวละครลักษณะนี้มันจะดูไม่แปลกเลย
พัฒนาการตัวละครที่ก้าวกระโดดหน้ามือเป็นหลังมือ ที่เห็นชัดๆคือตัวของอัญญา ที่เปิดเรื่องเป็นเด็กเกเร นิสัยเสียมาก หยิ่ง แต่พอโดนจับไปจนกลับมา กลายเป็นคนละคนแบบ...คนละคนจริงๆ จะสำนึกผิดอะไรก็แล้วแต่ อย่างมากคือmindsetเปลี่ยน แต่จะเปลี่ยนบุคลิกจากเด็กเกเรเป็นคุณหนูน่ารักสดใสในเวลาคืนสองคืนมันไม่ได้เด้อ อย่างน้อยมันก็ต้องมีช่วงเปลี่ยนผ่านบ้าง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่เหมือนจับยัด จริงๆเคมีของ มาวิน(ท้อป จรณ) กับลลิษา(ตูน) คือดีมากกก แต่เสียดายที่เรื่องมันเล่าลวกๆไปหน่อย ดูเเล้วไม่เชื่อตามว่าลิลษาไปทำให้มาวินชอบหัวปักหัวปำ คำถามไม่ใช่ตอนไหน แต่คือได้ยังไง??? เพราะดูแล้วมันไม่มีอะไรเลยแค่ไปช่วยตัวประกันด้วยกัน หลังจากนั้นมาวินก็ตาหวานใส่ลลิษาปิ๊งๆ ห๊ะ??? แล้วไอ้การตามจีบเขาไปกินเหล้ากับเขาด้วย ในขณะที่ทั้งโต๊ะคือแก็งค์ตำรวจ โดยที่ตำรวจก็รู้นะว่ามาวินค้ายาแต่อาจจะแค่ไม่มีหลักฐานมัดตัว แต่ก็นั่งกินเหล้าเฮฮากัน ถึงเคมีของทั้งคู่จะดีแต่มันดูจับยัดมากไปหน่อย หลายๆฉากพยายามจะโรแมนติกแต่มันแปลกๆ อาจจะเพราะว่าเราไม่อินแต่แรกที่มาวินตกหลุมรักลลิษา บทพูดที่ดูไม่เป็นธรรมชาติจน cringe จริงๆมีหลายตอนมากๆ แต่ที่จำได้แล้วรู้สึกฮาสุดคือ พวกตำรวจไปถล่มตึกโจร คนอื่นรออยู่บทรถ จนพระเอกฝ่าระเบิดออกมายืนเท่ๆ แล้วพูดว่า "มีที่นั่งเหลือไหม" ซึ่งอันนี้คือความรู้สึกผมอะครับ แต่คนอื่นอาจจะเฉยๆก็ได้ ผมแค่รู้สึกบทพูดมันดูไม่ธรรมชาติ ยังไม่รวมการเรียกสรรพนามที่มีในละครทุกเรื่อง เช่น ฉันกับนาย จะเลี่ยงหยาบยังไงก็ได้แต่ในชีวิตจริงยิ่งผู้ชาย ผมไม่เคยเจอใครเรียกสรรพนามแบบนี้เลย55555 ได้แต่สงสัยว่าเมื่อไหร่ละครจะเปลี่ยนการเรียกแบบนี้ซะที [[สนใจแต่ภาพรวมจนลืมมองในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย]] จริงๆเรื่องนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับข้อก่อนๆด้วย แต่ที่ผมผิดหวังคือ เรื่องนี้เป็นละครที่ทุนหน้าเรื่องนึง แต่กับแค่ฉากโรงงานผลิตยากลับไม่ลงทุนเลย แค่เป็นโกดังใหญ่ มีโต๊ะยาวโง่ๆตัวนึง และหลอดแก้วทดลองหลากสี3-4หลอด?? นี้มันโรงงานผลิตยาของมาเฟียหรือเด็กมัธยมทดลองวิทยาศาตร์??? ผมไม่ได้คาดหวังว่ามันต้องสมจริงแบบ breaking bad ที่มีเตาปฏิกรณ์ เครื่องจักรบลาๆ แต่อย่างน้อยช่วยทำให้มันเหมือนโรงงานผลิตยาหน่อยได้ไหมอะ นี่ยังไม่รวม extra หลายๆคนที่เล่นโคตรแข็ง ผมเชื่อว่า extra ที่เล่นเก่งๆมีเยอะมากก ไม่รู้ผกกปล่อยผ่านได้ยังไง
จริงๆข้อสุดท้ายก็คือสรุปโดยรวมได้แล้วว่า ทีมงานมีความตั้งใจที่ดี เปิดรับแนวคิดใหม่ๆเยอะที่ไม่ค่อยได้เห็นในละคร มีแนวโน้มที่มาตรฐานละครไทยจะพัฒนาไปอีกขั้น แต่ยังไม่ค่อยใส่ใจในรายละเอียดเท่าไหร่ในหลายๆช่วง จนบางอย่างก็เหมือนจับยัดมาดื้อๆ ขัดๆ และมันทำให้เราไม่อินกับส่วนนั้นที่เรื่องพยายามจะนำเสนอ เช่น ฉากกุ๊กกิ๊กของมาเฟัยกับตำตวจ ที่งงว่าไปรักเขาหัวปักหัวปำตอนไหน, อัญญาที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ