ตอนได้ยินข่าวเจเจต้าเหนิง คือช๊อคมากครับ เพราะทั้งคู่เรียกว่าเป็นตัวท๊อปของค่ายเลย และเป็นคนท้ายๆเลยที่คิดว่าจะออก อารมณ์เหมือน เเบงค์ ธิติ, บิวกิ้น พีพี และอีกหลายๆคน ผมเข้าใจข้อเสียของค่ายคือ เรื่องแรกคือค่ายไม่ค่อยดันผู้หญิงในค่ายเท่าไหร่ ดันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเอาไปจับลงเรื่องนู้นเรื่องนี้ แต่เป็นการเอาบทนำให้นักแสดงหญิงที่มีน้อยมาก ที่นึกออกก็มีแค่รักฉุดใจ(แต่ก็ไม่ใช่เด็กนาดาวอีก) ฮอร์โมนกับ hate love ไม่นับเพราะมันเด่นทุกคนอยู่แล้ว รอดูเรื่อง W ที่รวมนักแสดงหญิงของค่าย อย่างที่สองถึงจะมีซีรีย์ดังๆหลายเรื่องและเป็นกระแสพูดถึงในโซเชี่ยลเสมอ แต่การผลิตซีรีย์ต่อปี ถือว่าน้อยมาก ถ้าพูดแบบเห็นภาพชัดคือ การที่นักแสดงในสังกัดจะได้เล่นซีรีย์ของค่ายซักเรื่องเหมือนลุ้นหวย ไม่ได้บอกว่าใช้โชคนะค้าบ กว่าจะผ่านแคสก็คือความสามารถน้องๆแหละ ถ้าได้เล่นก็ดังพลุแตก แต่ด้วยกำลังการผลิตทำให้มีนักแสดงแค่หยิบมือที่จะได้เล่นซีรีย์ของค่ายเลยบอกว่าเหมือนลุ้นหวยเพราะโอกาสน้อย ที่เหลือจะเป็นงานนอกซะมากกว่า ทั้งที่หลายๆคนมีฝีมือมากๆ เช่น บิวกิ้นงี้เห็นผ่านหน้าผ่านตามาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วในค่าย จากรายการต่างๆบ้าง แต่กว่าจะดังและได้เล่นซีรีย์เป็นตัวหลักจริงๆก็ไม่กี่ปีนี้เอง
ค่ายพยายามแก้ปัญหาโดยมี รายการวาไรตี้บ้างเล็กน้อย และค่ายเพลงนาดาวมิวสิค แต่รายการที่ยังออน(กล้องวงจรเปิด)มีแค่รายการเดียว ส่วนงานเพลงคือไม่รู้ว่าจะเรียกกำลังการผลิตน้อยหรือไม่หลากหลายดี เพราะ มีแค่ไม่กี่คนที่หมุนวนออกซิงเกิ้ล(ถ้าแปลรัก อันนี้เข้าใจได้เพราะเป็นกระแส+โปรโมทซีรีย์) แต่บางคนไม่ได้มีซีรี์แต่มีผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ ในขณะที่บางคนมีออกมาเพลงเดียวแล้วหายไปเลย คือไม่ได้พูดในเชิงอิจฉานะครับ แต่เรามองในเรื่องการเสพผลงานเพลงจากศิลปินที่มันหลากหลายคน และกระจายงาน
แต่ที่พูดข้อเสียมาทั้งหมดนั้น จะส่งผลเสียกับเฉพาะนักแสดงที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากกว่า จะบอกว่าโอกาศโตน้อยก็ไม่ผิด แต่ถ้าอดทนจนวันนึงได้เล่นซีรีย์ก็คือคุ้มมากเพราะการันตีความดังได้ แต่ถ้าในกรณีที่เป็นนักแสดงที่ดังอยู่แล้ว เช่น ต่อ แบงค์ เจเจ ไอซ์ และอีกหลายคน ผมว่ามันแทบจะไม่มีผลเลยกลับเป็นข้อดีซะอีก เพราะค่ายนาดาวสามารถให้อิสระศิลปินไปเล่นช่องอื่นได้ประหนึ่งนักแสดงอิสระ
ในกรณีของเจเจ ได้มีอิสระตอนทำเพลงตอนอยู่ที่ค่ายนาดาวมิวสิก ได้เล่นหนังจีดีเอช(พอเข้าใจว่าเขาก็แคส แค่รู้สึกว่าถ้าเป็นเด็กนาดาวจะมีโอกาสได้รับเล่นมากกว่าคนนอกค่ายนิดนึง) รับซีรีย์นอกค่ายได้ คือนอกจากเจเจอยากได้ภาพลักษณ์ที่โตขึ้นก็นึกเหตุผลที่ออกค่ายไม่ออกเลย
ทำไมพักหลังๆ ถึงมีแต่คนออกจาก นาดาวครับ ??
ตอนได้ยินข่าวเจเจต้าเหนิง คือช๊อคมากครับ เพราะทั้งคู่เรียกว่าเป็นตัวท๊อปของค่ายเลย และเป็นคนท้ายๆเลยที่คิดว่าจะออก อารมณ์เหมือน เเบงค์ ธิติ, บิวกิ้น พีพี และอีกหลายๆคน ผมเข้าใจข้อเสียของค่ายคือ เรื่องแรกคือค่ายไม่ค่อยดันผู้หญิงในค่ายเท่าไหร่ ดันในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเอาไปจับลงเรื่องนู้นเรื่องนี้ แต่เป็นการเอาบทนำให้นักแสดงหญิงที่มีน้อยมาก ที่นึกออกก็มีแค่รักฉุดใจ(แต่ก็ไม่ใช่เด็กนาดาวอีก) ฮอร์โมนกับ hate love ไม่นับเพราะมันเด่นทุกคนอยู่แล้ว รอดูเรื่อง W ที่รวมนักแสดงหญิงของค่าย อย่างที่สองถึงจะมีซีรีย์ดังๆหลายเรื่องและเป็นกระแสพูดถึงในโซเชี่ยลเสมอ แต่การผลิตซีรีย์ต่อปี ถือว่าน้อยมาก ถ้าพูดแบบเห็นภาพชัดคือ การที่นักแสดงในสังกัดจะได้เล่นซีรีย์ของค่ายซักเรื่องเหมือนลุ้นหวย ไม่ได้บอกว่าใช้โชคนะค้าบ กว่าจะผ่านแคสก็คือความสามารถน้องๆแหละ ถ้าได้เล่นก็ดังพลุแตก แต่ด้วยกำลังการผลิตทำให้มีนักแสดงแค่หยิบมือที่จะได้เล่นซีรีย์ของค่ายเลยบอกว่าเหมือนลุ้นหวยเพราะโอกาสน้อย ที่เหลือจะเป็นงานนอกซะมากกว่า ทั้งที่หลายๆคนมีฝีมือมากๆ เช่น บิวกิ้นงี้เห็นผ่านหน้าผ่านตามาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วในค่าย จากรายการต่างๆบ้าง แต่กว่าจะดังและได้เล่นซีรีย์เป็นตัวหลักจริงๆก็ไม่กี่ปีนี้เอง
ค่ายพยายามแก้ปัญหาโดยมี รายการวาไรตี้บ้างเล็กน้อย และค่ายเพลงนาดาวมิวสิค แต่รายการที่ยังออน(กล้องวงจรเปิด)มีแค่รายการเดียว ส่วนงานเพลงคือไม่รู้ว่าจะเรียกกำลังการผลิตน้อยหรือไม่หลากหลายดี เพราะ มีแค่ไม่กี่คนที่หมุนวนออกซิงเกิ้ล(ถ้าแปลรัก อันนี้เข้าใจได้เพราะเป็นกระแส+โปรโมทซีรีย์) แต่บางคนไม่ได้มีซีรี์แต่มีผลงานเพลงออกมาเรื่อยๆ ในขณะที่บางคนมีออกมาเพลงเดียวแล้วหายไปเลย คือไม่ได้พูดในเชิงอิจฉานะครับ แต่เรามองในเรื่องการเสพผลงานเพลงจากศิลปินที่มันหลากหลายคน และกระจายงาน
แต่ที่พูดข้อเสียมาทั้งหมดนั้น จะส่งผลเสียกับเฉพาะนักแสดงที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากกว่า จะบอกว่าโอกาศโตน้อยก็ไม่ผิด แต่ถ้าอดทนจนวันนึงได้เล่นซีรีย์ก็คือคุ้มมากเพราะการันตีความดังได้ แต่ถ้าในกรณีที่เป็นนักแสดงที่ดังอยู่แล้ว เช่น ต่อ แบงค์ เจเจ ไอซ์ และอีกหลายคน ผมว่ามันแทบจะไม่มีผลเลยกลับเป็นข้อดีซะอีก เพราะค่ายนาดาวสามารถให้อิสระศิลปินไปเล่นช่องอื่นได้ประหนึ่งนักแสดงอิสระ ในกรณีของเจเจ ได้มีอิสระตอนทำเพลงตอนอยู่ที่ค่ายนาดาวมิวสิก ได้เล่นหนังจีดีเอช(พอเข้าใจว่าเขาก็แคส แค่รู้สึกว่าถ้าเป็นเด็กนาดาวจะมีโอกาสได้รับเล่นมากกว่าคนนอกค่ายนิดนึง) รับซีรีย์นอกค่ายได้ คือนอกจากเจเจอยากได้ภาพลักษณ์ที่โตขึ้นก็นึกเหตุผลที่ออกค่ายไม่ออกเลย