[KNY] ระหว่างดอกฮิกังสีน้ำเงินและสีแดง คิดว่าสีไหนดูลึกลับน่ากลัวกว่ากัน 🥀

Cr.
aphanta [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้🥀 ประวัติของดอกฮิกังบานะ
ชื่อ “ฮิกันบานะ” มีที่มาจากไหน? 🥀
ชื่อ “ฮิกันบานะ” มีที่มาจากการที่ดอกฮิกันบานะมักจะบานในช่วงวันศารทวิษุวัต (秋分の日: Autumn Equinox) ในฤดูใบไม้ร่วง
ซึ่งทั้งในช่วงวันวสันตวิษุวัต (Spring Equinox) และวันศารทวิษุวัตจะมีการฉลองวันหยุดทางศาสนาพุทธของญี่ปุ่นเป็นเวลา 7 วัน
ที่เรียกว่า “ฮิกัน (彼岸)”
จึงเป็นที่มาของชื่อ “ฮิกันบานะ” ซึ่งหมายถึงดอกไม้ที่บานในช่วงฮิกัน (ของวันศารทวิษุวัต)
นอกจากชื่อ “ฮิกันบานะ” แล้ว ดอกฮิกันบานะยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งคือ “มันจูชาเงะ (曼珠沙華)”
โดยชื่อนี้มีที่มาจากรากศัพท์ภาษาสันสกฤต
โดยดอกมันจูชาเงะถือเป็นดอกไม้แห่งสวรรค์ (天上の花) ในศาสนาพุทธ
ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อกำลังจะมีเรื่องน่ายินดีหรือเรื่องมงคลเกิดขึ้น
ก็จะมีดอกไม้สีแดงโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง
อย่างไรก็ตาม ดอกฮิกันบานะยังมีชื่ออื่นที่น่ากลัวอยู่
เช่น “ชิบิโตะบานะ (死人花)” ที่แปลว่า “ดอกไม้คนตาย”
และ “จิโกคุบานะ (地獄花)” ที่แปลว่า “ดอกไม้นรก” เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่นเช่น คิทสึเนะบานะ (狐花: ดอกไม้จิ้งจอก)
สุเตโกะบานะ (捨て子花: ดอกไม้เด็กกำพร้า)
ยูเรบานะ (幽霊花: ดอกไม้วิญญาณ)
และ คามิโซริบานะ (剃刀花: ดอกใบมีดโกน)
ทำไมดอกฮิกันบานะจึงถูกเชื่อมโยงเข้ากับความตาย? 🥀
เนื่องจากดอกฮิกันบานะมีหัวซึ่งอุดมไปด้วยแป้ง ทำให้คนญี่ปุ่นสมัยก่อนนิยมขุดมาทำอาหารกินกันในช่วงขาดแคลน
โดยจะนำหัวมาล้างให้สะอาดเพื่อให้พิษที่อยู่ในหัวละลายไปกับน้ำ
อย่างไรก็ตาม หากล้างไม่สะอาดก็จะมีพิษหลงเหลืออยู่และทำให้เสียชีวิตได้
ถึงอย่างนั้น อาการจากการถูกพิษของฮิกันบานะก็มีทั้งแบบไม่หนักมาก
เช่น ท้องเสียและอาเจียน เป็นต้น
แต่หากอาการหนักก็อาจถึงเส้นประสาทเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ ในอดีตคนญี่ปุ่นเคยใช้วิธีการปลูกฮิกันบานะไว้รอบๆ หลุมศพ
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตุ่นหรือสัตว์กินเนื้อต่างๆ เข้ามาทำลายหลุมศพอีกด้วย
ทำให้ดอกฮิกันบานะเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับหลุมศพนั่นเอง
ดอกฮิกันบานะแต่ละสีมีความหมายว่าอย่างไร? 🥀
นอกจากดอกฮิกันบานะสีแดงที่คุ้นเคยแล้ว
ดอกฮิกันบานะยังมีสีเหลืองและสีขาวอีกด้วย ซึ่งแต่ละสีจะมีความหมายต่างกันออกไปดังนี้
🟥 สีแดง: ความคลั่งไคล้/ อิสรภาพ/ การกลับมาพบกันใหม่/ มีเพียงคุณเท่านั้นที่ฉันคิดถึง
🟨 สีเหลือง: การคิดถึงความหลัง/ น้ำใจที่ลึกซึ้ง
⬜️ สีขาว: ที่ฉันปรารถนานั้นมีเพียงคุณคนเดียว/ ฉันเฝ้ารอวันที่เราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
ปล. สีน้ำเงินไม่มีอยู่จริงนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจากคุณ
kinyoubi
มาถึงคำถามอีกทีค่ะ ตามหัวข้อกระทู้เลย คิดว่าสีไหนดูลึกลับน่ากลัวมากกว่ากันคะ
เรายกให้สีน้ำเงิน เพราะดูเย็น ๆ แล้วก็สวยมากเลยค่ะ 💙
.
.
สีน้ำเงิน

สีแดง

[KNY] ระหว่างดอกฮิกังสีน้ำเงินและสีแดง คิดว่าสีไหนดูลึกลับน่ากลัวกว่ากัน - ดาบพิฆาตอสูร 🥀
Cr. aphanta
ทำไมดอกฮิกันบานะจึงถูกเชื่อมโยงเข้ากับความตาย? 🥀
เนื่องจากดอกฮิกันบานะมีหัวซึ่งอุดมไปด้วยแป้ง ทำให้คนญี่ปุ่นสมัยก่อนนิยมขุดมาทำอาหารกินกันในช่วงขาดแคลน
โดยจะนำหัวมาล้างให้สะอาดเพื่อให้พิษที่อยู่ในหัวละลายไปกับน้ำ
อย่างไรก็ตาม หากล้างไม่สะอาดก็จะมีพิษหลงเหลืออยู่และทำให้เสียชีวิตได้
ถึงอย่างนั้น อาการจากการถูกพิษของฮิกันบานะก็มีทั้งแบบไม่หนักมาก
เช่น ท้องเสียและอาเจียน เป็นต้น
แต่หากอาการหนักก็อาจถึงเส้นประสาทเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ ในอดีตคนญี่ปุ่นเคยใช้วิธีการปลูกฮิกันบานะไว้รอบๆ หลุมศพ
เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวตุ่นหรือสัตว์กินเนื้อต่างๆ เข้ามาทำลายหลุมศพอีกด้วย
ทำให้ดอกฮิกันบานะเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับหลุมศพนั่นเอง
นอกจากดอกฮิกันบานะสีแดงที่คุ้นเคยแล้ว
ดอกฮิกันบานะยังมีสีเหลืองและสีขาวอีกด้วย ซึ่งแต่ละสีจะมีความหมายต่างกันออกไปดังนี้
🟥 สีแดง: ความคลั่งไคล้/ อิสรภาพ/ การกลับมาพบกันใหม่/ มีเพียงคุณเท่านั้นที่ฉันคิดถึง
🟨 สีเหลือง: การคิดถึงความหลัง/ น้ำใจที่ลึกซึ้ง
⬜️ สีขาว: ที่ฉันปรารถนานั้นมีเพียงคุณคนเดียว/ ฉันเฝ้ารอวันที่เราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
ปล. สีน้ำเงินไม่มีอยู่จริงนะคะ
ขอขอบคุณที่มาจากคุณ kinyoubi
เรายกให้สีน้ำเงิน เพราะดูเย็น ๆ แล้วก็สวยมากเลยค่ะ 💙
.
.
สีแดง