บันทึกรักที่ทุ่งสีดา







บันทึกรักที่ทุ่งสีดา
 
โดย ล. วิลิศมาหรา
 
ฉันชื่อฉวี มีพี่ชายชื่อนพพร เราสองคนเป็นลูกของคหบดีใหญ่ มีที่พักอาศัยอยู่ในเขตพระนคร ตอนที่พี่ชายของฉันเสียชีวิตลง จากอุบัติเหตุรถคว่ำ เขาเพิ่งอายุได้สิบเก้าปี คุณอำนาจกับคุณละเอียด พ่อและแม่ของฉันมีความเสียใจอย่างหนัก โดยเฉพาะคุณแม่ ท่านเสียใจมาก จนแทบจะทนมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ กับการต้องสูญเสียลูกชายคนโตไปก่อนวัยอันควร

คุณพ่อหาทางคลายเศร้าให้คุณแม่ ด้วยการชวนพวกเราให้ละจากบ้านหลังใหญ่ในพระนคร ไปเยี่ยมบ้านเกิดของคุณแม่ที่ทุ่งสีดา หวังให้บรรยากาศของบ้านริมน้ำกับธรรมชาติสองฝั่งคลอง ลดความหม่นหมองในใจของคุณแม่ลง

ที่บ้านของคุณอาผัน น้องชายของคุณแม่นั่นเอง คุณแม่ได้พบกับลูกชายคนเดียวของคุณอา ชื่อว่าพี่จอม ลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของฉัน เขาคนนี้มีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวกายสีคล้ำ ดูสง่าผึ่งผายเหนือกว่าผู้ชายแถวบ้านทุ่งทั่วไป เขามีหน้าตาที่ละม้ายคล้ายคลึงกับพี่ชายของฉันที่ตายไปแล้วเป็นอันมาก

และนั่นคือปฐมบทเรื่องราวความรักอันแสนรันทด เต็มไปด้วยความระทึกใจ ของไอ้หนุ่มกับอีสาวชาวบ้านทุ่ง พวกเขารักกัน ช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคของความรัก อยู่ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและน้ำตา ฉันจะเล่าเรื่องราวความรักของพี่จอมกับนวลให้คุณฟัง

ผีเสื้อpinkrosewhiteroseredroseyellowroseผีเสื้อredrosepinkrosewhiteroseyellowroseผีเสื้อ


บรรยากาศใกล้ค่ำของลำคลองสีดา เย็นระรื่นด้วยสายลมพัดโชย ริ้วน้ำใสไหวเป็นระลอก นาน ๆ ที จะมีเสียงปลาฮุบเหยื่อดังโผงผางให้ได้ยิน ทั่วบริเวณคุ้งน้ำใสมีทุ่งนาเขียวสลับเหลืองโอบโดยรอบ ลำน้ำกว้างที่กั้นกลางระหว่างสองทุ่ง ไหวกระเพื่อมอยู่ในแสงตะวันชิงพลบ ฝั่งซ้ายคือทุ่งทองกวาว เหลืองอร่ามไปด้วยรวงข้าว ฝั่งขวาคือทุ่งสีดา ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่หาเลี้ยงชีพด้วยการปลูกผักเลี้ยงปลา

ใต้ต้นไทรใหญ่ใกล้ท่าน้ำของบ้านผู้ใหญ่แผน ผู้ใหญ่บ้านคนดังแห่งทุ่งสีดา ขณะนี้มีเงาตะคุ่มของหนุ่มสาวคู่หนึ่ง กำลังเดินเหมือนย่อง เลาะเลียบริมตลิ่งเข้ามาหากัน ซึ่งพอพบหน้ากัน หนุ่มสาวทั้งสองต่างผวาเข้ากอดกันกลมดิก

"นวลมาได้เดี๋ยวเดียวนะพี่ สบช่องตอนพ่อเมาหลับอยู่พอดี นวลเลยได้โอกาสหนีพ่อมา พี่จอมมีอะไรเหรอจ๊ะ ถึงให้ไอ้จุกมันมาบอกเอาจนมืดค่ำแบบนี้"

นวล ลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่แผน กระซิบถามไอ้หนุ่มอีกฟากฝั่งคลอง ผู้ลอบลอยคอข้ามคลองมาหาเธอถึงท่าน้ำข้างบ้าน ในเวลาใกล้ค่ำ อย่างไม่กลัวกระสุนปืนลูกซองของพ่อผู้ใหญ่  

"พี่ต้องมาหานวลให้ได้ในวันนี้ ไม่งั้นจะไม่มีโอกาสมาอีก"

จอมกอดกระชับร่างบางไว้แนบอก ซุกจมูกดอมดมเส้นผมทรงดอกกระทุ่มของคนรักด้วยความคิดถึง เหลียวมองไปรอบข้างอย่างระแวดระวัง ท่าน้ำตรงนี้ที่แอบมาพบกัน มันอยู่ใกล้บ้านของหญิงสาวจนเกินไป ทั้งยังไม่เคยใช้มันเป็นที่นัดพบกันมาก่อน จอมกับนวลมักแอบไปพลอดรักกันเวลาเอาควายไปลงปลักในนา หรือเวลาล่องเรือไปเก็บสายบัวในลำคลอง เพราะพ่อของฝ่ายหญิงไม่ชอบขี้หน้าของฝ่ายชายสักเท่าไหร่ ออกจะเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หากรู้ว่านวลแอบมาเจอจอม นวลจะต้องถูกผู้เป็นพ่อเฆี่ยนตีเอา หรือไม่ก็ถูกจับกร้อนผมเป็นการประจาน เพื่อให้ลูกสาวอับอายจนไม่อยากออกจากบ้านไปไหน ผู้ใหญ่แผนเป็นคนโมโหร้าย และมักลงไม้ลงมือกับลูกเมียของตัวเองเป็นประจำ

เหตุที่จอมถูกผู้ใหญ่แผนชังน้ำหน้า เกิดมาจากความบาดหมางระหว่างสองครอบครัว สุกแม่ของนวลเคยรักอยู่กับผันพ่อของจอมมาก่อน แต่ด้วยความช่วยเหลือของเสือเมฆ อดีตโจรร้ายผู้กลับกลายมาเป็นกำนันของตำบลสุขสันต์ไปได้อย่างน่ากังขา ช่วยกีดกันผันให้ห่างออกจากสุก จนแผนได้สุกมาครอบครองแทน แถมยังช่วยผลักดันแผนให้ขึ้นเป็นผู้ใหญ่บ้านแทนผัน

อดีตผู้ใหญ่บ้านผันจึงต้องย้ายบ้านหนีไปอยู่อีกทุ่ง ตั้งแต่นั้นมา ครอบครัวของทั้งสองก็ไม่มองหน้ากันอีกเลย

แต่ลูกชายหญิงของสองครอบครัวกลับผูกสมัครรักใคร่กัน นวลมักลอบมาพบกับจอมอยู่เสมอ เธอยอมเสี่ยงถูกบทลงโทษจากพ่อเธอ ที่ยังผูกใจเจ็บคนรักเก่าของเมียอยู่ไม่วาย ผิดกับอดีตผู้ใหญ่ผันที่ละจากความแค้นแบบนั้นไปนานแล้ว แกจึงไม่คิดจะขัดขวางหนทางรักของลูกชายตัวเอง ในเมื่อพ่อของฝ่ายหญิงยังคงคอยกีดกัน ความรักของจอมกับนวลจึงเต็มไปด้วยอุปสรรค จนยากจะมาลงเอยกันได้

"ถ้าห้ามไม่ฟัง ข้าจะยกนังนวลให้กำนันเมฆ"

เพราะนอกจากคอยขัดขวางความรักของลูกสาวแล้ว ผู้ใหญ่แผนยังเคยประกาศจะยกนวลให้กำนันเมฆไปเสียเลย หากนวลยังขืนขัดคำสั่งพ่อ ทำให้นวลกลัวจนตัวสั่น เพราะตัวของกำนันเมฆเอง ก็ชอบทำหูตาแพรวพราวใส่หญิงสาวคราวลูก สร้างความหนักใจให้กับนวลตลอดมา

"พี่จอมมีอะไรหรือจ๊ะ ถึงมาเอาเวลาใกล้ค่ำแบบนี้"

นวลถามซ้ำ เริ่มใจคอไม่ดีกับท่าทีของชายคนรัก เพราะปกติจอมมักเป็นห่วงเธอเสมอ คอยเตือนเธอไม่ให้ออกจากบ้านในเวลาใกล้ค่ำ เนื่องจากเกรงจะเป็นอันตราย

"พี่ต้องไปบางกอกวันพรุ่งนี้" จอมตอบเสียงพร่า สายตามองใบหน้าของสาวคนรักอย่างสุดอาลัย

"หา! อะไรนะพี่" นวลเองก็อุทานเสียงหลง คำพูดของคนรักทำเอาหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

"ญาติของพี่ที่บางกอกมาตามตัวพี่ให้ไปเรียนหนังสือที่นั่น เราต้องไปกันพรุ่งนี้แต่เช้ามืด ที่มาวันนี้เพราะพี่มีเรื่องสำคัญจะมาถามเอ็ง ต้องเร่งถามเสียแต่ในยามนี้เท่านั้น"

"ต้องไปถึงบางกอกเชียวหรือพี่" สาวบ้านทุ่งใจหายวาบ ครางถามออกมาเสียงแผ่วโหย

"ป้าละเอียดแกมาขอพี่ไปเป็นลูกบุญธรรม บอกว่าจะอุปถัมภ์ให้ถึงขนาด พ่อพี่ตกปากรับคำแกไปแล้วด้วย พ่อสงสารป้าที่ลูกชายแกมาด่วนตายไป เลยขอร้องให้พี่ตอบตกลงแก นวลเอ้ย...พี่นี้ลำบากใจนัก รักเอ็งก็แสนรัก จะขัดใจพ่อก็ไม่ได้ พี่จึงจะมาถามเอ็งว่าจะหนีไปกับพี่พรุ่งนี้ได้หรือไม่ ถ้าหากเอ็งจะตัดสินใจหนีไปด้วยกัน รถของคุณป้าจะแล่นผ่านถนนทุ่งสีดาในเวลาตีสี่ พี่จะพาเอ็งหนีไปแต่งงานกันที่บางกอก แล้วค่อยกลับมาขอขมาพ่อนวลในภายหลัง"

นวลตะลึง นิ่งอึ้งอยู่ในอ้อมกอดของชายคนรัก สีหน้าเธอทำให้จอมหายใจไม่ทั่วท้อง รอฟังคำตอบจากสาวคนรักอย่างใจจดใจจ่อ นวลหันมองออกไปนอกคุ้งน้ำ นิ่งอยู่อย่างนั้นไปหลายอึดใจ จนจอมต้องถามซ้ำ ใบหน้างามจึงค่อยหันมาหา

"มันกะทันหันเหลือเกินพี่จ๋า นวลไม่มีเวลาคิด...ขอเวลาคิดก่อนนะจ๊ะ พี่ก็รู้ นวลเป็นห่วงแม่"

ถึงคราวจอมต้องอึ้งไปบ้าง นางสุกแม่ของนวลไม่ค่อยสบาย แล้วไหนจะต้องทนกับอารมณ์ร้ายของผัวตัวเองอยู่เป็นประจำ นวลถึงได้เป็นห่วงแม่นัก เพราะถ้าหากเธอยอมหนีไปกับเขาจริง แล้วคนเป็นแม่เล่า ถ้านวลทิ้งแม่ไว้ที่นี่ สุกจะต้องพลอยรับกรรมจากการกระทำของลูกสาว แต่ถึงอย่างนั้นจอมก็ยังใจชื้นขึ้นมาหน่อย เมื่อนวลยังไม่ดับความหวังเสียเลยทีเดียว

"เอาอย่างนี้นะจ๊ะพี่ ถ้าตกลงใจไปกับพี่ นวลจะมายืนรออยู่ปากทางเข้าทุ่งสีดา แต่ถ้าหากไม่เห็นนวลมา ก็แสดงว่านวลตัดสินใจจะรอพี่อยู่ที่บ้านทุ่ง"

"นวล...นวลเอ้ย เอ็งอยู่ไหนลูก พ่อเอ็งให้แม่มาตาม ถ้าอยู่ที่ท่าน้ำก็รีบขึ้นมา"

ขณะนั้นเอง เสียงสุกก็ตะโกนส่งสัญญาณบอกลูกสาว แม่ของนวลแอบเป็นใจให้รักกันกับจอมมาตั้งแต่ต้น

"ถ้างั้นพี่จะให้คนขับหยุดรถรอเอ็งตรงปากทางเข้าทุ่งสีดา พี่จะรอเอ็งนะนวล"

จอมรีบกระซิบสั่ง ก่อนที่คนรักจะผละจากไป หวังในใจว่านวลจะยอมทำตามที่ตนบอก ชายหนุ่มหันไปอธิษฐานต่อศาลเจ้าพ่อไทรใหญ่ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ยืนคุยกัน ขอให้ท่านช่วยดลใจสาวคนรัก พร้อมเอ่ยคำสาบานให้นวลได้ยิน

"หากต้องจากกันไปไกล ลูกขอสาบานกับศาลเจ้าพ่อไทรใหญ่ ถึงอยู่ไกลแค่ไหนก็จะรักแต่นวลคนเดียว...หากลูกนอกใจนวลเมื่อใด ขอให้มีอันเป็นไปภายในห้าวันเจ็ดวัน”

นวลหันมามองคนรักอย่างซาบซึ้ง ยกมือขึ้นพนม กล่าวคำสาบานออกมาบ้าง

"ฉันก็ขอสาบานต่อเจ้าพ่อไทรใหญ่ ชาตินี้ฉันจะรักพี่จอมคนเดียวเท่านั้น หากผิดคำสาบานเมื่อใด ก็ขอให้มีอันเป็นไปเช่นกัน” จอมเดินมาโอบร่างนวลเข้ามากอดไว้อีกครั้ง กระซิบย้ำด้วยเสียงที่สั่นเครือลง

"พรุ่งนี้พี่จะรอเอ็งนะนวล”

เสียงสุกตะโกนเรียกลูกสาวซ้ำ นวลเลยจำต้องผละจากอ้อมแขนคนรัก กระซิบบอกเสียงเบา

"นวลต้องไปแล้วจ้ะพี่”

จอมปล่อยมือจากนวลอย่างไม่ค่อยเต็มใจ สองหนุ่มสาวได้แต่มองสบตากันด้วยความอาลัย ต่างมีน้ำตาคลอตา หญิงสาวกล้ำกลืนก้อนสะอื้นลงลำคอ ก่อนตัดใจหันหลังเดินจากไป จอมจึงลงน้ำเพื่อว่ายกลับไปเช่นกัน

(มีต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่