[CR] รีวิว "ลาภปาก (Laappaak Dining room)" ร้านอาหารไทยรสจัดจ้าน ในบรรยากาศคาเฟ่แสนร่มรื่นติด MRT หัวลำโพง

ร้านอาหารไทยรสชาติถึงเครื่องในบรรยากาศอันสวยงามไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป เพราะวันนี้ผมพาครอบครัวออกมาทานมื้อเย็นสุดพิเศษด้วยกันที่ "ลาภปาก (Laappaak Dining room)" เป็นอีกร้านซึ่งตั้งอยู่ค่อนข้างลึกลับเพราะต้องสังเกตป้ายชื่อกับทางเข้าดีๆหน่อยถึงจะรู้ว่าตั้งอยู่บริเวณนี้ ส่วนตัวเคยสั่งอาหารเดลิเวอรี่ไปทานบ้านช่วงประกาศ Lock Down จำได้ว่าอร่อยให้ปริมาณเยอะและคุ้มค่าดีมากๆเมื่อเทียบกับราคา จุดเด่นอีกอย่างที่เชิญชวนให้เราต้องแวะมานั่นก็คือการตกแต่งสวยงามราวกับนั่งอยู่ภายในร้านคาเฟ่สุดหรูใจกลางย่านสุขุมวิท-ทองหล่อ ส่วนวิธีการเดินทางก็ถือว่าสะดวกมากเพราะติดกับ MRT สถานีหัวลำโพงฝั่งเดียวกับพิพิธภัณฑ์รถไฟไทยเดินออกมาจุดหมายจะอยู่ทางด้านขวามือทันที หากนำรถยนต์ส่วนตัวมาเองรอบๆบริเวณนี้มีลานจอดให้บริการอยู่มากมายแต่ค่อนข้างไกลมากแนะนำว่าให้เดินทางด้วยบริการขนส่งสาธารณะดีที่สุด หน้าร้านมีจุดสังเกตง่ายๆนั่นคือเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้สีสันสวยงามนานาชนิดตกแต่งหนาแน่นทั้งพื้นที่พร้อมกับป้ายชื่อตรงริมรั้วสีขาวๆเขียนว่า "Lลลp Pลลk Thai Cuisine" แบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วโดยจะมีอะไรให้เราสั่งบ้างนั้นมาดูที่เล่มเมนูหน้าประตูทางเข้ากันก่อนครับ

เมนูหน้าร้านถูกแบ่งออกเป็น 2 เล่มหลัก เริ่มจากปกแข็งก่อนหน้าแรกก็คืออาหารเรียกน้ำย่อยต่างๆราคาเริ่มต้นที่จานละ 109-189 บาท ส้มตำหลากหลายชนิดกว่า 14 รายการสุดแซ่บราคาเริ่มต้นที่ 89-169 บาท ลาบ-น้ำตกและเมนูอีสานไว้กินเป็นกับแกล้มราคาเริ่มต้นที่ 99-149 บาท สารพัดยำใส่เครื่องต่างๆมีให้สั่งรวมกว่า 12 รายการราคาเริ่มต้นที่ 109-139 บาท เมนูผัด/แกงไทยและน้ำพริกมาพร้อมผักสดๆเลือกเปลี่ยนเนื้อสัตว์ได้ตามใจราคาเริ่มต้นที่ 129 จนถึงเสิร์ฟบนหม้อไฟขนาดใหญ่ราคา 269 บาท จานไหนสามารถเสิร์ฟเป็นมังสวิรัติทานได้จะมีตัวอักษรเขียนว่า "VG" สีแดงกำกับอยู่ที่ท้ายชื่อของเมนูนั้น ส่วนราคาจะสมเหตุผลหรือไม่ต้องมาดูที่ปริมาณ/รสชาติกันครับ

หน้าต่อไปเป็นต้มยำและแกงจืดเสิร์ฟทั้งแบบถ้วยและหม้อไฟราคาเริ่มต้นที่ 149-279 บาท เมนูทำจากปลายกทั้งตัวมีกะพง/ช่อนกับทับทิมราคาตัวละ 300-350 บาท อาหารจานเส้นทั้งผัดไทย/ก๋วยเตี๋ยว/สปาเก็ตตี้เลือกได้ว่าจะเปลี่ยนเป็นเส้นใหญ่-เส้นหมี่-เส้นเล็ก-มาม่าหรือวุ้นเส้นได้ตามใจราคาเริ่มต้นที่ 89-119 บาท ข้าวผัดและอาหารจานเดียวพร้อมทานราคาก็เริ่มต้นที่จานละ 89-119 บาท หน้าสุดท้ายเป็นเมนูของทอด/ย่างและลวกจิ้มราคาเริ่มต้นที่ 89-189 บาท เมนูสำหรับมังสวิรัติโดยเฉพาะ 6 รายการราคาเริ่มต้นที่ 89-109 บาท ข้าวเปล่า/ข้าวเหนียว/เส้นขนมจีนและข้าวผัดกระเทียมราคาที่ละ 25-35 บาท หรือจะสั่งเป็นโถใหญ่ราคา 70-80 บาท เล่มเมนูที่เป็นปกอ่อนหน้าแรกคือ "กุ้งแม่น้ำทวิน" ทั้งสปาเก็ตตี้/ข้าวผัด/ผัดไทย/ผัดมาม่าและก๋วยเตี๋ยวคั่วเสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำเผา 2 ตัวจานละ 159 บาท ส่วนตัวเคยสั่งไปกินที่บ้านแล้วกุ้งแม่น้ำสดเด้งดีมาหน้าร้านย่างให้ใหม่ๆคงฟินขึ้นอีกหลายเท่าครับ

หน้าต่อไปเป็นทรีโอซึ่งคล้ายๆกับเมนูทวินแต่เปลี่ยนเป็นกุ้งแม่น้ำเผา 1 ตัวกับหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ 2 ตัวแทนในราคาจานละ 159 บาทเท่าเดิม หมวดสุดท้ายเป็น Special Menu ที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษทั้งข้าวผัดปู/กะเพราปูเสิร์ฟพร้อมไข่ดาวปุยเมฆราคาเริ่มต้นที่ 189-209 บาท ต้มยำมันกุ้งแม่น้ำ 139 บาท/แกงส้มไข่ชะอมกุ้งสด 144 บาท/ปลากะพงยำสมุนไพร 292 บาท/ทอดมันกุ้งผสมเนื้อปู 189 บาท/ไก่ทอดตะไคร้ 89 บาท/ส้มตำไทยใส่ไข่เค็ม 99 บาท/ต้มยำใส่เนื้อปลากะพง 159 บาท/เนื้อปูก้อนผัดพริกเหลือง-ผัดผงกะหรี่ 219 บาท/ยำทะเลรวมลาภปาก 189 บาท/หอยแมลงภู่ผัดฉ่า 139 บาท/ปลากะพงทอดราดซอสน้ำปลา 272 บาท/ลาบหมูทอดกับไก่ซอสส้ม 109 บาท/โดนัทกุ้งทอด 99 บาท/ห่อหมกทะเลกระทงละ 69 บาท/ต้มยำแห้งห่อไข่และแกงจืดปลาหมึกยัดไส้ 120 บาท ราคาโดยรวมในเล่มนี้รู้สึกว่าจะถูกกว่าในปกหนาเล็กน้อยและดูน่าทานหลายเมนูดี แต่จะอร่อยแค่ไหนต้องรอชิมครับ

ใครแวะมาทานข้าวที่ร้านนี้ก็ต้องยกกล้องออกมาถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความประทับใจเพราะมีฉากสวยงามหลากหลายมุมเริ่มต้นจากโซน Outdoor ตกแต่งด้วยสไตล์คาเฟ่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้นานาพรรณทำให้รู้สึกร่มรื่นราวกับอยู่ภายในป่าแห่งความฝันอันสดใส พร้อมภาพกราฟฟิกบนผนังขนาดใหญ่วาดด้วยมือเป็น Signature ของทางร้านให้ยืนโพสต์คู่กัน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทั้งโต๊ะ/เก้าอี้และโซฟาต่างๆเลือกใช้เฉพาะดีไซน์ทันสมัยสีสันสดใสเข้าชุดกันได้ดีเข้ากับบรรยากาศโดยรวม เพิ่มความอบอุ่นชวนนั่งนานๆด้วยโคมระย้ากับไฟหิ่งห้อยดวงกลมเล็กโทนสีส้มทั่วทั้งบริเวณร้าน ใครที่เป็นสายถ่ายรูปหรือเสพบรรยากาศชิลล์ๆรับรองว่าต้องถูกใจสถานที่นี้มากอย่างแน่นอนครับ

ก่อนจะเข้าไปโซนห้องแอร์ด้านในก็มาสะดุดตากับรางวัล "Thai Select Award 2020" หมวด Classic จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งการันตีได้เลยว่าอาหารแต่ละจานภายในร้านนี้ใช้วัตถุดิบและปรุงรสชาติตามแบบต้นฉบับไทยแท้ผ่านเกณฑ์ประเมินต่างๆมาแล้วทั้งอร่อย/สะอาด/บริการดีในบรรยากาศอันสวยงามไม่ผิดหวังกลับบ้านอย่างแน่นอน เปิดประตูกระจกมาการตกแต่งค่อนข้างแตกต่างจากภายนอกเพราะดูเป็นทางการมากกว่าเหมาะสำหรับพาครอบครัวหรือผู้ใหญ่มาทาน พื้นกับผนังร้านเป็นปูนเปลือยสไตล์ลอฟต์ผสมกับดอกไม้นานาชนิดเถาวัลย์เลื้อย-ภาพวาดด้วยมือกับลายกราฟฟิคดูสวยงามทันสมัยตามมุมต่างๆ เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้สีขาว-สีดำและสีฟ้าเป็นหลักบุด้วยนวมนุ่มๆทุกตัวพร้อมโซฟายาวมีหมอนอิงสำหรับต่อโต๊ะมานั่งฉลองกับเพื่อนจำนวนมาก โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ตัว "ล" สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางร้านแปลกตาไม่เหมือนใคร หน้าต่างกว้างพิเศษช่วยเปิดรับแสงธรรมชาติผสานโคมไฟภายในร้านโทนสีส้มเพิ่มความอบอุ่นนั่งสบายเปิดแอร์เย็นฉ่ำกับเพลงสากลยุค 90 ให้ฟังเพลินๆรู้สึกดีไปอีกแบบครับ

เริ่มต้นจานแรกด้วยออเดิร์ฟง่ายๆและเป็นของโปรดประจำครอบครัวเราก็คือ "โดนัทกุ้ง" เสิร์ฟ 4 ชิ้นใหญ่แบบนี้ราคาแค่ 99 บาท เป็นเนื้อกุ้งบดละเอียดแน่นเนื้อเด้งหนึบๆหอมกลิ่นสามเกลอทั้งรากผักชี/กระเทียม/พริกไทยเตะจมูกปั้นเป็นก้อนกลมทรงแบนเจาะรูตรงกลางให้คล้ายรูปโดนัทเพื่อให้ทอดง่ายและสุกอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ทานกับน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยสูตรเข้มข้นพิเศษของทางร้านรสหวานอมเปรี้ยวช่วยตัดเลี่ยนไขมันได้เป็นอย่างดี จานต่อไปไม่เคยเห็นเสิร์ฟที่ร้านไหนเลยสั่งมาลองก็คือ "ไก่ทอดซอสส้ม" ราคา 109 บาท เนื้อไก่ส่วนสะโพกล้วนไร้กระดูกชิ้นใหญ่พิเศษชุบเกล็ดขนมปังทอดกรอบวางบนใบคะน้าฝอยทอด ราดด้วยซอสส้มหวานอมเปรี้ยวหอมสดชื่นเผลอแปปเดียวหมดจานแล้วเพราะกินเพลินดีมากๆ ปกติเจอเคยแต่เมนูไก่ทอดซอสมะนาวเปลี่ยนเป็นส้มแบบนี้ก็อร่อยไม่แพ้เลยกันครับ

เมนูต่อไปสั่งมาไม่คิดว่าจะเสิร์ฟจานใหญ่ขนาดนี้คือ "กุ้งกระเบื้อง" ราคา 149 บาท ปกติสูตรร้านอื่นจะเอาเนื้อกุ้งสับปรุงรสสอดไส้ระหว่างกลางของเกี๊ยวประกบกันแล้วค่อยลงทอด แต่สูตรร้านนี้เป็นเนื้อกุ้งล้วนไร้แป้งเอามาทำเป็นแผ่นบางราวกับกระเบื้องความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตร โรยด้วยงาขาวแล้วก่อนลงกระทะและตัดชิ้นพอดีคำก่อนเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยมายองเนสวาดให้เป็นลวดลายสวยงามล้อมรอบทั้งจานด้วยใบคะน้าซอยเป็นเส้นทอดกรอบๆพร้อมทานทันที ในเนื้อกุ้งสับทางร้านได้ปรุงรสชาติมากลมกล่อมผสมกับเครื่องเทศสามเกลอเรียบร้อยแล้ว ได้ความหอมมันงาขาวกับมายองเนสหวานอมเปรี้ยวนิดๆเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมนูต่อไปก็ไม่เคยเห็นเสิร์ฟที่ร้านไหนเลยสั่งมาลองก็คือ "ปลาหมึกสอดลาภ" ราคา 159 บาท เป็นลาบหมูผสมเนื้อไก่สับและวุ้นเส้นปรุงรสชาติให้เปรี้ยว/เค็มหอมกลิ่นข้าวคั่วเผ็ดร้อนจัดจ้านสไตล์อีสานแท้ๆ สอดไส้ลงในตัวปลาหมึกก่อนจะนำไปชุบเกล็ดขนมปังทอดจนมีสีเหลืองกรอบเสิร์ฟแบบหั่นครึ่งให้เห็นลาบที่อัดแน่นอยู่ภายใน มาพร้อมซอสพริกศรีราชากับผักสดได้หลากหลายสัมผัสเวลาเคี้ยวทั้งความกรุบกรอบเนียนนุ่มและเหนียวหนึบสู้ฟันนิดๆในคำเดียวกัน เป็นอีกเมนูที่อร่อยแปลกไม่เหมือนใครครับ

******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขออนุญาตเขียนรีวิวต่อในช่อง Comment แทนนะครับ *******
ชื่อสินค้า:   ลาภปาก (Laappaak Dining room)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่