รับคำท้าฯ
ตอนที่ 41
“ได้” ปริมาแอบซ่อนยิ้มเอาไว้ หลังจากที่หนุ่มผมยาวสะกดคำว่า แฟน ขอเป็นแฟนกับเธอ
“จริงหรอ” น้ำเสียงของปฏิการตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง แต่เอะใจ! ทำไมมันง่ายผิดปกตินะ!
“แต่…กับคนอื่นนะ ไม่ใช่แฟนฉัน” ปริมาหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ เขาทำดีด้วย ก็เพราะอยากเป็นแฟนกับเธอเท่านั้นหรือ? ถ้าไม่อยากเป็นแฟน
กัน คงจะไม่อยากทำดีกับเธอสินะ! จะมีใครที่ทำดีกับใครโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นอะไรเลยได้ไหม? หญิงสาวแอบสงสัยอยู่ลึก ๆ ในใจ
“ปริม! พูดแบบนี้ได้ไง!” หนุ่มผมยาวโวยวาย โกรธเธอจริง ๆ ทำไมเอาความรู้สึกของเขามาล้อเล่นอย่างนี้ อารมณ์ที่พุ่งขึ้นด้วยความดีใจสุด ๆ ลดลงดิ่งพสุธา ยิ่งกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นเสียอีก พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเฉยเลย
“ฉันอยากเป็นแฟนกับเธอคนเดียว คนที่ชื่อ ปริมา” หนุ่มนักดนตรีย้ำให้เธอเข้าใจให้ถูกต้องอีกครั้ง
คำตอบนั้นทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไปต่อไม่ได้เลย ก่อนจะรีบแก้เก้องัดเงื่อนไขข้อสุดท้าย
“แล้วนายตัดผมหรือยังล่ะ! ถ้าทำไม่ได้ก็อย่ามาเป็นแฟนกับฉัน!” น้ำเสียงของเธอชัดถ้อยชัดคำ แล้วขยับตัวลุกขึ้นทันที
“ถ้าจะคุยเรื่องนี้ ฉันไปนอนก่อนนะ”
สายลมเย็นพัดมาต้องกายทั้งคู่อย่างอ่อนโยน แต่หัวใจของหนุ่มหน้าหวานกลับหนักอึ้ง
“ทำไม!! ผมของฉันมันมีความผิดตรงไหน มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วยล่ะ”
“เก๊าะ!! ไม่เกี่ยวหรอก” ปริมายักไหล่ พลางลอยหน้าลอยตาอย่างยียวน เหมือนมันไม่สำคัญอะไรนักหนาจริง ๆ
“แต่ไม่ชอบ! คำเดียว เข้าใจมั้ย?” ประโยคสุดท้ายเน้นคำแข็งห้วนขึ้นมาทันที ยัยตัวแสบรีบเดินอ้าว ๆ หนีไปเฉยเลย อดรู้สึกกลุ้มใจไม่ได้ เวลาที่จะต้องยอมรับหมอนี่เป็นแฟนตามสัญญามันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เหลืออีกเพียงข้อเดียวจะต้องเป็นแฟนกับเขาแล้ว หมดกัน! ชีวิตที่เคยอิสระของเธอ
ปฏิการรีบลุกขึ้นตามไป
“เดี๋ยวสิ! ปริม ผมของฉันมันไม่มีความผิดนะ อย่าเพิ่งไป”
“อะแฮ่ม!!” ปรามส่งเสียงกระแอมไอ แล้วคว้าแขนเพื่อนหนุ่มเอาไว้
“น้องข้าควรจะนอนได้แล้ว ดึกมากแล้วนะ” แล้วดึงแขนเพื่อนหนุ่มให้นั่งลง เขามีเรื่องอยากคุยกับปฏิการเรื่องน้องสาวของเขาเสียที
“นี่แก หยุดมองตามตาละห้อยได้แล้ว หันมาคุยกันหน่อย” ปรามตบบ่าเพื่อนแรง ๆ ทีหนึ่งเป็นการเตือนสติ
“แกชอบปริมจริงหรอวะ คิดดี ๆ นะ” ปรามถามด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“ฉันรู้สึกดี มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ปริม”
“เขาดื้อและเอาแต่ใจนะ จะบอกให้ แกไม่เคยเห็นฤทธิ์หรือไง โดนอะไรมาตั้งเยอะแยะ ยังไม่เข็ดอีกเหรอ” แล้วเอนตัวพิงกองฟางอย่างสบายใจ สายตาจับเพชรสุกใสที่กำลังส่องแสงเจิดจรัสบนท้องฟ้า
“ตกลงแกจะมาให้กำลังใจฉัน หรือว่ายังไงกันแน่วะ”
“แกจะเล่น ๆ กับน้องข้าไม่ได้นะเว้ย” เขาหันมาจ้องหน้าเพื่อนสนิทอย่างจริงจัง
“ถ้าแกทำให้น้องข้าเสียใจล่ะก้อ น่าดู!!” ปรามเน้นเสียงเข้ม
“แล้วข้าเคยจีบใครเล่น ๆ หรือเปล่าวะ” ปฏิการพูดเสียงเครียดขึ้นมาทันที
ปรามเงียบเสียงลง สัมผัสได้ถึงความจริงจังจากน้ำเสียงนั้น ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา เขาไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้สนใจผู้หญิงคนไหนเลย และไม่เคยมีเรื่องเสียหายเกี่ยวกับผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะมีสาว ๆ ตามชอบมากมาย ก็เห็นเอาแต่หลบหน้า เดินหนีตลอดมา
“แล้วปริมเขาเคยถามอะไรถึงฉันบ้างมั้ย” หนุ่มนักดนตรีหันมาจ้องหน้าเพื่อนซี้
ปรามยิ้ม “ไม่เคยเลยว่ะ”
สีหน้าเพื่อนหนุ่มหงอยลงทันที
“เฮ้ย! อย่าทำเป็นหงอย เหมือนไก่คอตกอย่างงั้นสิวะการ หรือว่าแกเป็นไข้หวัดนกวะ แบบนี้แกต้องอยู่ห่าง ๆ น้องข้านะเว้ย” ปรามแกล้งแหย่เพื่อน
“ปราม! อย่าเพิ่งเล่นมุกสิวะ คนยิ่งจ๋อย ๆ อยู่”
ปรามตบต้นแขนเพื่อนป้าบใหญ่ “ปริมเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกนะ แต่ก็มีมาแอบถามถึงแกบ้างเหมือนกัน”
“แล้ว…ถามอะไรถึงฉันบ้างล่ะ” สีหน้าหนุ่มนักดนตรีแจ่มใสขึ้นมาอย่างออกนอกหน้าทันที แววตาที่มองเพื่อนซี้นั้นอยากรู้เต็มที่ มือรีบเขย่าแขนเพื่อนจนหัวสั่นหัวคลอน
“ก็เวลาแกหายหน้าไปนาน ๆ เขาก็มาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามถึงแกแหละ แต่ไม่ถามตรง ๆ หรอก ลีลาเยอะจะตายไป แต่ข้ารู้ เขาถามถึงแกแหละ”
ปฏิการจึงยิ้มแก้มปริออกมาได้
“ข้าจะบอกให้ว่า ปริมรักใครยากนะ แล้วก็มีปมในใจเกี่ยวพ่อ ที่เลิกกับแม่ไปแต่งงานใหม่ ที่สำคัญความรักบังคับกันไม่ได้นะ ข้ากลัวแกจะทุ่มเทเปล่าประโยชน์ น้องข้าเป็นคนใจแข็ง กับพ่อ เขายังไม่ยอมใจอ่อนเลย ยังโกรธพ่ออยู่จนถึงทุกวันนี้”
“ฉันไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก แต่ก็จะไม่บังคับปริม เพียงแค่จะทำให้รู้ว่า ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ และจะทำเพื่อเขาอย่างดีที่สุดแล้วเท่านั้น” หนุ่มหน้าหวานหันไปยิ้มให้เพื่อนอย่างมั่นใจ
หนุ่มผมยาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงรู้สึกอยากทุ่มเทเพื่อเธอขนาดนี้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม เหมือนมีสิ่งหนึ่งคอยบอกตัวเองมาตลอดว่า หัวใจของปริมามีค่ามากพอที่เขาจะต้องฝ่าฟันเอามาครอบครองให้ได้ และรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่คนอย่างเธอจะยอมรับใครในฐานะคนพิเศษของหัวใจสักคน เพราะนั่นหมายถึง คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่เธอแคร์ที่สุด ใส่ใจที่สุด และได้รับความพิเศษที่สุดจากเธอ เป็นคนแรกที่เธอจะคิดถึงก่อนใคร เหมือนที่เขาเคยเห็นยัยตัวแสบคอยดูแลเอาใจใส่พี่ชายคนเดียวของเธอมาตลอดเป็นอย่างดีเสมอ
“ไม่ว่าปริมจะยอมรับข้าฐานะไหน ข้าก็พร้อมจะยอมรับทั้งนั้นแหละ จะไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทุ่มเทลงไปแน่นอน”
“งั้นต่อไป ข้าก็จะได้เห็นแกตัดผมสั้นซักทีสิวะ” ปรามพูดพลางหัวเราะร่วน แกล้งเย้าเพื่อนเล่น เพราะรู้ดีว่าปฏิการรักผมยาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ข้าก็กำลังหนักใจอยู่เหมือนกัน ผมมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ” คิ้วเข้มขมวดย่นขึ้นมาทันทีกับคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้
“แต่ถ้าข้าแน่ใจว่า ข้ารักเขาจริง ๆ เมื่อไหร่ เมื่อนั้นข้าจะยอมตัดผม” ประกายสายตานั้นดูจริงจังเป็นพิเศษ เรื่องเดียวที่เขารู้สึกอึดอัดใจหากจะต้องตัดผมทิ้ง คงรู้สึกเสียดาย และคงต้องขอทำใจอีกสักระยะหนึ่ง
“พรุ่งนี้เราจะไปสมทบกับทีมค่ายจิตอาสา ได้ข่าวว่า คุณษาของแกก็มาด้วยนะ” เขานึกถึงพิธีกรสาวสวยรายการสุขภาพดีวิถีไทย
ปฏิการหันขวับมามองหน้าเพื่อนทันที
“อะไร! ของข้าที่ไหน ข้ากับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น” หนุ่มนักดนตรีโวยวายลั่น
“ระวัง! รถไฟชนกันล่ะ!” เจ้าของรีสอร์ทอดแซวเพื่อนไม่ได้
“เขาเคยเจอกันแล้ว ไม่เห็นปริมหึงฉันบ้างเลย” คนพูดทำหน้างออย่างน้อยใจ อยากรู้เธอมีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า?
“รอดูพรุ่งนี้แล้วกัน แกอย่าลืม...เหยียบเบรกรถไฟล่ะ คุณษาคงจะพุ่งชนแกเต็ม ๆ แน่” เพื่อนหน้าหวานมักมาบ่นรำคาญลูกสาวผู้อำนวยการให้ฟังอยู่บ่อย ๆ
“แกมาเป็นกันชนให้ทีสิ!”
“ไม่ได้! เดี๋ยวปิ่นเข้าใจผิด” เจ้าของบ้านไร่ทะเลฝันรีบปฏิเสธทันที
ปรามมองหน้าเพื่อนพลางยิ้มอย่างให้กำลังใจ เขารู้สึกดีใจที่เห็นเพื่อนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักมีพลังและอนุภาพขนาดนี้เชียวหรือ ทำให้คน ๆ หนึ่งเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ อดรู้สึกขำและแปลกใจไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาและเพื่อนทุกคนเฝ้าบอกปฏิการ ให้หยุดใส่ใจเรื่องทางบ้านของเขาเสียทีมาตลอด ให้หันมาทำตามหน้าที่ของตัวเอง แต่เพื่อนหน้าหวานก็ไม่เคยเชื่อถ้อยคำของเขาและเพื่อน ๆ เลย แต่กลับมาเชื่อคำพูดไม่กี่คำของน้องสาวตัวแสบของเขาได้
*******************
รับคำท้า(หัวใจ)ยัยตัวแสบ ตอนที่ 41 แฟนฉัน?
ตอนที่ 41
“ได้” ปริมาแอบซ่อนยิ้มเอาไว้ หลังจากที่หนุ่มผมยาวสะกดคำว่า แฟน ขอเป็นแฟนกับเธอ
“จริงหรอ” น้ำเสียงของปฏิการตื่นเต้นดีใจเป็นพิเศษแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง แต่เอะใจ! ทำไมมันง่ายผิดปกตินะ!
“แต่…กับคนอื่นนะ ไม่ใช่แฟนฉัน” ปริมาหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ เขาทำดีด้วย ก็เพราะอยากเป็นแฟนกับเธอเท่านั้นหรือ? ถ้าไม่อยากเป็นแฟน
กัน คงจะไม่อยากทำดีกับเธอสินะ! จะมีใครที่ทำดีกับใครโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นอะไรเลยได้ไหม? หญิงสาวแอบสงสัยอยู่ลึก ๆ ในใจ
“ปริม! พูดแบบนี้ได้ไง!” หนุ่มผมยาวโวยวาย โกรธเธอจริง ๆ ทำไมเอาความรู้สึกของเขามาล้อเล่นอย่างนี้ อารมณ์ที่พุ่งขึ้นด้วยความดีใจสุด ๆ ลดลงดิ่งพสุธา ยิ่งกว่าความผันผวนของตลาดหุ้นเสียอีก พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเฉยเลย
“ฉันอยากเป็นแฟนกับเธอคนเดียว คนที่ชื่อ ปริมา” หนุ่มนักดนตรีย้ำให้เธอเข้าใจให้ถูกต้องอีกครั้ง
คำตอบนั้นทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ไปต่อไม่ได้เลย ก่อนจะรีบแก้เก้องัดเงื่อนไขข้อสุดท้าย
“แล้วนายตัดผมหรือยังล่ะ! ถ้าทำไม่ได้ก็อย่ามาเป็นแฟนกับฉัน!” น้ำเสียงของเธอชัดถ้อยชัดคำ แล้วขยับตัวลุกขึ้นทันที
“ถ้าจะคุยเรื่องนี้ ฉันไปนอนก่อนนะ”
สายลมเย็นพัดมาต้องกายทั้งคู่อย่างอ่อนโยน แต่หัวใจของหนุ่มหน้าหวานกลับหนักอึ้ง
“ทำไม!! ผมของฉันมันมีความผิดตรงไหน มันเกี่ยวอะไรกับผมด้วยล่ะ”
“เก๊าะ!! ไม่เกี่ยวหรอก” ปริมายักไหล่ พลางลอยหน้าลอยตาอย่างยียวน เหมือนมันไม่สำคัญอะไรนักหนาจริง ๆ
“แต่ไม่ชอบ! คำเดียว เข้าใจมั้ย?” ประโยคสุดท้ายเน้นคำแข็งห้วนขึ้นมาทันที ยัยตัวแสบรีบเดินอ้าว ๆ หนีไปเฉยเลย อดรู้สึกกลุ้มใจไม่ได้ เวลาที่จะต้องยอมรับหมอนี่เป็นแฟนตามสัญญามันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เหลืออีกเพียงข้อเดียวจะต้องเป็นแฟนกับเขาแล้ว หมดกัน! ชีวิตที่เคยอิสระของเธอ
ปฏิการรีบลุกขึ้นตามไป
“เดี๋ยวสิ! ปริม ผมของฉันมันไม่มีความผิดนะ อย่าเพิ่งไป”
“อะแฮ่ม!!” ปรามส่งเสียงกระแอมไอ แล้วคว้าแขนเพื่อนหนุ่มเอาไว้
“น้องข้าควรจะนอนได้แล้ว ดึกมากแล้วนะ” แล้วดึงแขนเพื่อนหนุ่มให้นั่งลง เขามีเรื่องอยากคุยกับปฏิการเรื่องน้องสาวของเขาเสียที
“นี่แก หยุดมองตามตาละห้อยได้แล้ว หันมาคุยกันหน่อย” ปรามตบบ่าเพื่อนแรง ๆ ทีหนึ่งเป็นการเตือนสติ
“แกชอบปริมจริงหรอวะ คิดดี ๆ นะ” ปรามถามด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“ฉันรู้สึกดี มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ปริม”
“เขาดื้อและเอาแต่ใจนะ จะบอกให้ แกไม่เคยเห็นฤทธิ์หรือไง โดนอะไรมาตั้งเยอะแยะ ยังไม่เข็ดอีกเหรอ” แล้วเอนตัวพิงกองฟางอย่างสบายใจ สายตาจับเพชรสุกใสที่กำลังส่องแสงเจิดจรัสบนท้องฟ้า
“ตกลงแกจะมาให้กำลังใจฉัน หรือว่ายังไงกันแน่วะ”
“แกจะเล่น ๆ กับน้องข้าไม่ได้นะเว้ย” เขาหันมาจ้องหน้าเพื่อนสนิทอย่างจริงจัง
“ถ้าแกทำให้น้องข้าเสียใจล่ะก้อ น่าดู!!” ปรามเน้นเสียงเข้ม
“แล้วข้าเคยจีบใครเล่น ๆ หรือเปล่าวะ” ปฏิการพูดเสียงเครียดขึ้นมาทันที
ปรามเงียบเสียงลง สัมผัสได้ถึงความจริงจังจากน้ำเสียงนั้น ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา เขาไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้สนใจผู้หญิงคนไหนเลย และไม่เคยมีเรื่องเสียหายเกี่ยวกับผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะมีสาว ๆ ตามชอบมากมาย ก็เห็นเอาแต่หลบหน้า เดินหนีตลอดมา
“แล้วปริมเขาเคยถามอะไรถึงฉันบ้างมั้ย” หนุ่มนักดนตรีหันมาจ้องหน้าเพื่อนซี้
ปรามยิ้ม “ไม่เคยเลยว่ะ”
สีหน้าเพื่อนหนุ่มหงอยลงทันที
“เฮ้ย! อย่าทำเป็นหงอย เหมือนไก่คอตกอย่างงั้นสิวะการ หรือว่าแกเป็นไข้หวัดนกวะ แบบนี้แกต้องอยู่ห่าง ๆ น้องข้านะเว้ย” ปรามแกล้งแหย่เพื่อน
“ปราม! อย่าเพิ่งเล่นมุกสิวะ คนยิ่งจ๋อย ๆ อยู่”
ปรามตบต้นแขนเพื่อนป้าบใหญ่ “ปริมเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกนะ แต่ก็มีมาแอบถามถึงแกบ้างเหมือนกัน”
“แล้ว…ถามอะไรถึงฉันบ้างล่ะ” สีหน้าหนุ่มนักดนตรีแจ่มใสขึ้นมาอย่างออกนอกหน้าทันที แววตาที่มองเพื่อนซี้นั้นอยากรู้เต็มที่ มือรีบเขย่าแขนเพื่อนจนหัวสั่นหัวคลอน
“ก็เวลาแกหายหน้าไปนาน ๆ เขาก็มาเลียบ ๆ เคียง ๆ ถามถึงแกแหละ แต่ไม่ถามตรง ๆ หรอก ลีลาเยอะจะตายไป แต่ข้ารู้ เขาถามถึงแกแหละ”
ปฏิการจึงยิ้มแก้มปริออกมาได้
“ข้าจะบอกให้ว่า ปริมรักใครยากนะ แล้วก็มีปมในใจเกี่ยวพ่อ ที่เลิกกับแม่ไปแต่งงานใหม่ ที่สำคัญความรักบังคับกันไม่ได้นะ ข้ากลัวแกจะทุ่มเทเปล่าประโยชน์ น้องข้าเป็นคนใจแข็ง กับพ่อ เขายังไม่ยอมใจอ่อนเลย ยังโกรธพ่ออยู่จนถึงทุกวันนี้”
“ฉันไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก แต่ก็จะไม่บังคับปริม เพียงแค่จะทำให้รู้ว่า ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ และจะทำเพื่อเขาอย่างดีที่สุดแล้วเท่านั้น” หนุ่มหน้าหวานหันไปยิ้มให้เพื่อนอย่างมั่นใจ
หนุ่มผมยาวไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงรู้สึกอยากทุ่มเทเพื่อเธอขนาดนี้ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ตาม เหมือนมีสิ่งหนึ่งคอยบอกตัวเองมาตลอดว่า หัวใจของปริมามีค่ามากพอที่เขาจะต้องฝ่าฟันเอามาครอบครองให้ได้ และรู้ดีว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่คนอย่างเธอจะยอมรับใครในฐานะคนพิเศษของหัวใจสักคน เพราะนั่นหมายถึง คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่เธอแคร์ที่สุด ใส่ใจที่สุด และได้รับความพิเศษที่สุดจากเธอ เป็นคนแรกที่เธอจะคิดถึงก่อนใคร เหมือนที่เขาเคยเห็นยัยตัวแสบคอยดูแลเอาใจใส่พี่ชายคนเดียวของเธอมาตลอดเป็นอย่างดีเสมอ
“ไม่ว่าปริมจะยอมรับข้าฐานะไหน ข้าก็พร้อมจะยอมรับทั้งนั้นแหละ จะไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทุ่มเทลงไปแน่นอน”
“งั้นต่อไป ข้าก็จะได้เห็นแกตัดผมสั้นซักทีสิวะ” ปรามพูดพลางหัวเราะร่วน แกล้งเย้าเพื่อนเล่น เพราะรู้ดีว่าปฏิการรักผมยาวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ข้าก็กำลังหนักใจอยู่เหมือนกัน ผมมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ” คิ้วเข้มขมวดย่นขึ้นมาทันทีกับคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้
“แต่ถ้าข้าแน่ใจว่า ข้ารักเขาจริง ๆ เมื่อไหร่ เมื่อนั้นข้าจะยอมตัดผม” ประกายสายตานั้นดูจริงจังเป็นพิเศษ เรื่องเดียวที่เขารู้สึกอึดอัดใจหากจะต้องตัดผมทิ้ง คงรู้สึกเสียดาย และคงต้องขอทำใจอีกสักระยะหนึ่ง
“พรุ่งนี้เราจะไปสมทบกับทีมค่ายจิตอาสา ได้ข่าวว่า คุณษาของแกก็มาด้วยนะ” เขานึกถึงพิธีกรสาวสวยรายการสุขภาพดีวิถีไทย
ปฏิการหันขวับมามองหน้าเพื่อนทันที
“อะไร! ของข้าที่ไหน ข้ากับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น” หนุ่มนักดนตรีโวยวายลั่น
“ระวัง! รถไฟชนกันล่ะ!” เจ้าของรีสอร์ทอดแซวเพื่อนไม่ได้
“เขาเคยเจอกันแล้ว ไม่เห็นปริมหึงฉันบ้างเลย” คนพูดทำหน้างออย่างน้อยใจ อยากรู้เธอมีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า?
“รอดูพรุ่งนี้แล้วกัน แกอย่าลืม...เหยียบเบรกรถไฟล่ะ คุณษาคงจะพุ่งชนแกเต็ม ๆ แน่” เพื่อนหน้าหวานมักมาบ่นรำคาญลูกสาวผู้อำนวยการให้ฟังอยู่บ่อย ๆ
“แกมาเป็นกันชนให้ทีสิ!”
“ไม่ได้! เดี๋ยวปิ่นเข้าใจผิด” เจ้าของบ้านไร่ทะเลฝันรีบปฏิเสธทันที
ปรามมองหน้าเพื่อนพลางยิ้มอย่างให้กำลังใจ เขารู้สึกดีใจที่เห็นเพื่อนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักมีพลังและอนุภาพขนาดนี้เชียวหรือ ทำให้คน ๆ หนึ่งเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ อดรู้สึกขำและแปลกใจไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาและเพื่อนทุกคนเฝ้าบอกปฏิการ ให้หยุดใส่ใจเรื่องทางบ้านของเขาเสียทีมาตลอด ให้หันมาทำตามหน้าที่ของตัวเอง แต่เพื่อนหน้าหวานก็ไม่เคยเชื่อถ้อยคำของเขาและเพื่อน ๆ เลย แต่กลับมาเชื่อคำพูดไม่กี่คำของน้องสาวตัวแสบของเขาได้
*******************