‘ชูศักดิ์’ ชี้คดี ‘สิระ’ มี 3 ส่วนต้องรับผิดชอบ เจ้าตัว-พรรคที่ส่งลงสมัคร-กกต.ผู้ตรวจคุณสมบัติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3099522
‘ชูศักดิ์’ ชี้คำวินิจฉัยศาล รธน.ปม ‘สิระ’ มี 3 ส่วนต้องรับผิดชอบ เจ้าตัว-พรรคการเมืองที่ส่งลงสมัคร-กกต.ที่ตรวจคุณสมบัติ
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นาย
ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านาย
สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขาดคุณสมบัติในความเป็นผู้สมัคร ส.ส. เพราะเคยถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา จึงต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) นั้น ในส่วนของนาย
สิระได้มี พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 กำหนดไว้ชัดเจนว่ามีความผิด มีโทษทางอาญาและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งจะต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น
นาย
ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคการเมืองนั้นมี พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดความผิดกรณีหัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นเท็จ โดยมีโทษทางอาญาและอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กรณีพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ คงจะต้องมีการพิสูจน์กันว่าพรรคการเมืองนั้นได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกผู้สมัครโดยรอบคอบรัดกุมหรือไม่เพียงไร
นาย
ชูศักดิ์กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นเรื่องของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง มีหน้าที่ตรวจสอบทั้งในขั้นตอนสมัครรับเลือกตั้ง และขั้นตอนก่อนประกาศผลเลือกตั้ง โดยสามารถที่จะไม่สมัครรับเลือกตั้ง หรือส่งเรื่องให้กรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยก่อนประกาศผลเลือกตั้ง โดยมิได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครไว้โดยตรง
“กรณีที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความบกพร่อง ขาดข้อมูลในการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของทางราชการ หาได้ไม่ยาก โดยส่วนตัวเราคงจะไม่ไปร้องเรียนกล่าวหาบุคคล หรือพรรคการเมืองใดว่ามีความผิดฐานใดอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงก็ชัดเจนอยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณาวินิจฉัยหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ของ กกต.ต่อไป” นาย
ชูศักดิ์กล่าว
อังกฤษดับจาก"โอมิครอน"14 ราย ติดเชื้ออันดับ 1 ของยุโรป
https://www.nationtv.tv/news/378857670
ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ในอังกฤษพุ่ง ตายเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 14 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อสูงอันดับ 1 ของยุโรป
คมชัดลึก ออนไลน์ อัปเดตสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 1 ของยุโรป ล่าสุด นางกิลเลียน คีแกน กระทรวงสาธารณสุข สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าว เสียชีวิตสะสมเป็น 14 ราย จนถึงวันที่22 ธ.ค. 64
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64 องค์กรความมั่นคงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA รายงานว่า ผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าวเสียชีวิตสะสมเป็น 6 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมอครอน ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 129 ราย จากในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 25 รายเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.64) จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหราชอาณาจักร พุ่งขึ้น 90,629 ราย ทำสถิติมากเป็นอันดับ 2 รองจากสถิติมากเป็นประวัติการณ์ที่ 91,207 ราย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 11,542,143 ราย มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของยุโรป ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 172 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น147,433 ราย
กนง.เสียงเอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี โอไมครอนเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รายได้เปราะบาง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3098954
โอไมครอนเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รายได้เปราะบาง ‘กนง.’ เสียงเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยที่ 0.50%
นาย
ปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนง. ในวันที่ 22 ธันวาคม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากราคาพลังงานเป็นหลัก แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการเงินเฟ้อโลกและการส่งผ่านต้นทุน
ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในระยะข้างหน้า จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป คณะกรรมการเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ประกอบกับมาตรการทางการเงินการคลังที่มีความต่อเนื่อง เน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง
คณะกรรมการคาดว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัว 0.9% ปี 2564 และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 ที่ 3.4% และ 4.7% ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะทยอยกลับมามากขึ้น ทั้งนี้ การฟื้นตัวในหลายสาขาธุรกิจมีแนวโน้มปรับดีขึ้นสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนจะกระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2565 โดยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่ผลกระทบอาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่าคาด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดและความเข้มงวดของมาตรการควบคุม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาด
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลางคาดว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2564 2565 และ 2566 จะอยู่ที่ 1.2% 1.7% และ 1.4% ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากปัจจัยด้านอุปทานโดยเฉพาะราคาพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ทั้งนี้ โอกาสที่แรงกดดันเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องยังมีไม่มากจากความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่ยังจำกัดจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังเปราะบาง
คณะกรรมการประเมินว่ายังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าคาดในบริบทที่เงินเฟ้อโลกปรับสูงขึ้นเร็ว โดยจะติดตามพัฒนาการของปัจจัยข้างต้นอย่างใกล้ชิด สภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง แต่ความเสี่ยงด้านเครดิตยังเป็นอุปสรรคต่อการกระจายตัวของสินเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SMEs ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมทรงตัว สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในระดับสูง จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจรุนแรงขึ้นและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อในระดับสูง คณะกรรมการเห็นควรให้ติดตามพัฒนาการของตลาดการเงินโลกและไทยอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เห็นควรให้ผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
คณะกรรมการเห็นว่ามาตรการภาครัฐและการประสานนโยบายมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมาตรการสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาดที่เอื้อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องยังมีความสำคัญ มาตรการการคลังควรสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างตรงจุด โดยเน้นการสร้างรายได้และเร่งเตรียมมาตรการเพื่อฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายการเงินช่วยสนับสนุนให้ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลายต่อเนื่อง สำหรับมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อควรเร่งกระจายสภาพคล่องไปสู่ผู้ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดและลดภาระหนี้ อาทิ มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการอื่นๆ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ควบคู่กับการผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งสนับสนุน การรวมหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ (debt consolidation) และปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน (มาตรการแก้หนี้ระยะยาว 3 ก.ย. 64) ให้เห็นผลในวงกว้างและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในระยะยาวภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน
คณะกรรมการยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ คณะกรรมการจะติดตามปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ได้แก่ พัฒนาการของการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ความเพียงพอของมาตรการการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ และการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้น โดยพร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น
JJNY : 4in1 ‘ชูศักดิ์’ชี้คดี‘สิระ’│อังกฤษดับจาก"โอมิครอน"14 ราย│กนง.คงดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี│เสรีพิศุทธ์เย้ยสภาสูงขึ้นเยอะ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3099522
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขาดคุณสมบัติในความเป็นผู้สมัคร ส.ส. เพราะเคยถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา จึงต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (10) นั้น ในส่วนของนายสิระได้มี พ.ร.ป.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 กำหนดไว้ชัดเจนว่ามีความผิด มีโทษทางอาญาและถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง อีกทั้งจะต้องคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่น
นายชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ในส่วนของพรรคการเมืองนั้นมี พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 กำหนดความผิดกรณีหัวหน้าพรรคการเมืองออกหนังสือรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นเท็จ โดยมีโทษทางอาญาและอาจถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กรณีพรรคการเมืองจะต้องรับผิดชอบอย่างไรหรือไม่ คงจะต้องมีการพิสูจน์กันว่าพรรคการเมืองนั้นได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกผู้สมัครโดยรอบคอบรัดกุมหรือไม่เพียงไร
นายชูศักดิ์กล่าวว่า ขณะที่ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้น อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นเรื่องของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้ง มีหน้าที่ตรวจสอบทั้งในขั้นตอนสมัครรับเลือกตั้ง และขั้นตอนก่อนประกาศผลเลือกตั้ง โดยสามารถที่จะไม่สมัครรับเลือกตั้ง หรือส่งเรื่องให้กรรมการการเลือกตั้งวินิจฉัยก่อนประกาศผลเลือกตั้ง โดยมิได้กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.ในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครไว้โดยตรง
“กรณีที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความบกพร่อง ขาดข้อมูลในการตรวจสอบขององค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลของทางราชการ หาได้ไม่ยาก โดยส่วนตัวเราคงจะไม่ไปร้องเรียนกล่าวหาบุคคล หรือพรรคการเมืองใดว่ามีความผิดฐานใดอย่างไร เพราะข้อเท็จจริงก็ชัดเจนอยู่แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของ กกต.ที่จะต้องพิจารณาวินิจฉัยหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ของ กกต.ต่อไป” นายชูศักดิ์กล่าว
อังกฤษดับจาก"โอมิครอน"14 ราย ติดเชื้ออันดับ 1 ของยุโรป
https://www.nationtv.tv/news/378857670
ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ในอังกฤษพุ่ง ตายเพิ่มอีก 2 รวมเป็น 14 ราย ขณะที่ยอดติดเชื้อสูงอันดับ 1 ของยุโรป
คมชัดลึก ออนไลน์ อัปเดตสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ซึ่งตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับ 1 ของยุโรป ล่าสุด นางกิลเลียน คีแกน กระทรวงสาธารณสุข สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง ส่งผลให้มีผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าว เสียชีวิตสะสมเป็น 14 ราย จนถึงวันที่22 ธ.ค. 64
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.64 องค์กรความมั่นคงสาธารณสุขแห่งสหราชอาณาจักรหรือ UKHSA รายงานว่า ผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 ราย ส่งผลให้มีผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ดังกล่าวเสียชีวิตสะสมเป็น 6 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ จำนวนผู้ป่วยโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมอครอน ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 129 ราย จากในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นถึง 25 รายเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.64) จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสหราชอาณาจักร พุ่งขึ้น 90,629 ราย ทำสถิติมากเป็นอันดับ 2 รองจากสถิติมากเป็นประวัติการณ์ที่ 91,207 ราย ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา
ส่งผลให้ยอดติดเชื้อสะสมเป็น 11,542,143 ราย มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของยุโรป ขณะที่พบผู้เสียชีวิตรายใหม่อีก 172 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น147,433 ราย
กนง.เสียงเอกฉันท์ คงดอกเบี้ย 0.50% ต่อปี โอไมครอนเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รายได้เปราะบาง
https://www.matichon.co.th/economy/news_3098954
โอไมครอนเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ รายได้เปราะบาง ‘กนง.’ เสียงเอกฉันท์ คงดอกเบี้ยที่ 0.50%
นายปิติ ดิษยทัต เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ กนง. ในวันที่ 22 ธันวาคม มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากราคาพลังงานเป็นหลัก แต่ยังต้องติดตามพัฒนาการเงินเฟ้อโลกและการส่งผ่านต้นทุน
ทั้งนี้ การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมในระยะข้างหน้า จึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป คณะกรรมการเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่องจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ ประกอบกับมาตรการทางการเงินการคลังที่มีความต่อเนื่อง เน้นการฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้รายได้ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง
คณะกรรมการคาดว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัว 0.9% ปี 2564 และขยายตัวต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 ที่ 3.4% และ 4.7% ตามลำดับ จากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะทยอยกลับมามากขึ้น ทั้งนี้ การฟื้นตัวในหลายสาขาธุรกิจมีแนวโน้มปรับดีขึ้นสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ประเมินว่าการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอนจะกระทบเศรษฐกิจในช่วงแรกของปี 2565 โดยยังมีความเสี่ยงด้านต่ำที่ผลกระทบอาจรุนแรงและยืดเยื้อกว่าคาด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์การระบาดและความเข้มงวดของมาตรการควบคุม นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังอยู่ต่ำกว่าช่วงก่อนการระบาด
สำหรับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในระยะปานกลางคาดว่าจะอยู่ในกรอบเป้าหมาย และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2564 2565 และ 2566 จะอยู่ที่ 1.2% 1.7% และ 1.4% ตามลำดับ โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเพิ่มขึ้นชั่วคราวจากปัจจัยด้านอุปทานโดยเฉพาะราคาพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ทั้งนี้ โอกาสที่แรงกดดันเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องยังมีไม่มากจากความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่ยังจำกัดจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงการจ้างงานและรายได้แรงงานที่ยังเปราะบาง
คณะกรรมการประเมินว่ายังมีความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าคาดในบริบทที่เงินเฟ้อโลกปรับสูงขึ้นเร็ว โดยจะติดตามพัฒนาการของปัจจัยข้างต้นอย่างใกล้ชิด สภาพคล่องในระบบการเงินยังอยู่ในระดับสูง แต่ความเสี่ยงด้านเครดิตยังเป็นอุปสรรคต่อการกระจายตัวของสินเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SMEs ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยโดยรวมทรงตัว สำหรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในระดับสูง จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์โควิด-19 ที่อาจรุนแรงขึ้นและการดำเนินนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักภายใต้แรงกดดันเงินเฟ้อในระดับสูง คณะกรรมการเห็นควรให้ติดตามพัฒนาการของตลาดการเงินโลกและไทยอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เห็นควรให้ผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น
คณะกรรมการเห็นว่ามาตรการภาครัฐและการประสานนโยบายมีความสำคัญต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยมาตรการสาธารณสุขเพื่อควบคุมการระบาดที่เอื้อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่องยังมีความสำคัญ มาตรการการคลังควรสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างตรงจุด โดยเน้นการสร้างรายได้และเร่งเตรียมมาตรการเพื่อฟื้นฟูและยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจ ขณะที่นโยบายการเงินช่วยสนับสนุนให้ภาวะการเงินโดยรวมยังผ่อนคลายต่อเนื่อง สำหรับมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อควรเร่งกระจายสภาพคล่องไปสู่ผู้ได้รับผลกระทบให้ตรงจุดและลดภาระหนี้ อาทิ มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู มาตรการพักทรัพย์พักหนี้ และมาตรการอื่นๆ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ควบคู่กับการผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งสนับสนุน การรวมหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ (debt consolidation) และปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน (มาตรการแก้หนี้ระยะยาว 3 ก.ย. 64) ให้เห็นผลในวงกว้างและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ในระยะยาวภายใต้กรอบการดำเนินนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพราคา ควบคู่กับดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน
คณะกรรมการยังคงให้น้ำหนักกับการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ทั้งนี้ คณะกรรมการจะติดตามปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ได้แก่ พัฒนาการของการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ความเพียงพอของมาตรการการคลังและมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อ และการส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้น โดยพร้อมใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมหากจำเป็น