JJNY : ห่วงคุม'โอมิครอน'ไม่อยู่ กระทบส่งออก│สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งหมด│จี้อย่าบริหารผิดซ้ำ│“โอมิครอน”โผล่เชียงราย

นักวิชาการห่วง ทั่วโลกคุม 'โอมิครอน' ไม่อยู่ กระทบส่งออกไทย
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6794099
 
 
โควิด : นักวิชาการห่วงทั่วโลกคุม โอมิครอน ไม่อยู่ กระทบส่งออกไทย พร้อมติดตามสถานการณ์ปี 65 ใกล้ชิด โควิด , เงินเฟ้อ , ราคาน้ำมัน ยังถ่วงเศรษฐกิจ
 
เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2564 นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย กล่าวถึงผลการศึกษา “วิเคราะห์ส่งออกไทย ปี 2565” ว่า ได้ทำการวิเคราะห์ภายใต้ปัจจัยบวก ปัจจัยลบ และปัจจัยที่ต้องติดตามต่าง ๆ โดยแบ่งเป็น 2 กรณี
 
1) คือกรณีถ้าโอมิครอนระบาดในโลกไม่รุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 275,074 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ270,952 – 279,082 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัว 4.8% (3.2%-6.3%)
 
2) กรณีถ้าโอมิครอนระบาดในโลกอย่างรุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 262,991 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ หรือ 259,050 – 266,822 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือขยายตัว 0.2% (-1.3%-1.6%)
 
สำหรับปัจจัยบวก ปัจจัยลบ และปัจจัยที่ต้องติดตามที่สำคัญดังนี้ ปัจจัยบวกต่อการส่งออกที่สำคัญคือ 
1) เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 
2) เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า 
3) หลายประเทศมีการฉีดวัคซีน โควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น 
4) แนวโน้มความต้องการสินค้าสุขภาพและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่มากขึ้น
 
ปัจจัยลบต่อการส่งออกที่สำคัญคือ 
1) การระบาดของไวรัส โควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศจากสายพันธุ์โอมิครอน 
2) ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศต่าง ๆ ที่ลดทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค 
3) นโยบาย ZERO COVID ของจีน 
4) ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางสูง 
5) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น 
6) ปัญหาการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน
 
ส่วนประเด็นที่ต้องติดตาม 
1) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 65 
2) รถไฟลาว-จีน 
3) นโยบายการเปิดปิดประเทศของประเทศคู่ค้าหรือมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่อาจเข้มงวดขึ้นของประเทศคู่ค้า 
4) สงครามการค้า เทคโนโลยี ค่าเงินระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ 
5) ภาษีคาร์บอนตลาดยุโรปในปี 2566
 

 
ด่วน! นายกฯ สั่งปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งหมด ตั้งแต่วันนี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_3097424

‘บิ๊กตู่’ เผย ศบค. เคาะ ระงับรับ นักท่องเที่ยวTest and go ตั้งแต่วันนี้ เร่งเคลียร์ยอดที่เหลืออีก 9 หมื่นคน ก่อนกลับไปใช้ระบบกักตัวคนเข้า ปท. ยังไม่งดจัดปีใหม่
 
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ขณะนี้มีคนมีเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 1.1 แสนคนผ่าน ช่องทางแซนบ็อกซ์และ Test and Go จากที่มีที่ขออนุมัติเข้าประเทศไว้แล้วทั้งหมด 2 แสนคน จึงเหลือคนที่จะเข้ามาอีก 9 หมื่นคน ในส่วนนี้จึงมีความจำเป็นที่เราต้องดูแลติดตาม
 
“จะไม่ให้มีการลงทะเบียนเพิ่มอีกแล้ว จนกว่าจะมีการพิจารณาสถานการณ์ในวันที่ 4 ม.ค. 2565 อีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันก็ต้องสอบถามไปว่า วันนี้มีความพร้อมที่เราจะรับมือ ถ้ามีการติดเชื้อในคนที่เข้ามาแล้วกับคนใหม่ ที่อยู่ในกล่องที่ขออนุญาตมาแล้ว เราสามารถจะรองรับได้ไหม เขายืนยันว่ารองรับได้ และข้อสำคัญต่อไปนี้ในเรื่องของความรุนแรงค่อนข้างที่จะควบคุมได้อยู่ โดยเฉพาะโอมิครอน ซึ่งติดเชื้อเร็วแต่รักษาง่ายกว่า ยังไม่มีผลกระทบรุนแรงมากนักในขณะนี้ เราต้องฟังทั้ง 2 ทางทั้งแพทย์ด้วย ซึ่งเราอยู่ในส่วนของการบริหาร” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
 
เมื่อถามย้ำว่า หมายความว่าตั้งแต่วันนี้จะไม่มีการรับนักท่องเที่ยวใหม่เข้ามาแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ตั้งแต่วันนี้ ไม่รับแล้วคนใหม่ นอกจาก 2 แสนคนที่ลงทะเบียนไว้”
 
เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร เพียงแต่ต้องติดตามคนเหล่านี้ ที่เข้ามาทางช่องทางต่างๆ แต่จะไม่มีการอนุมัติหรืออนุญาตอีก สำหรับการเดินทางเข้ามาของคนไทยก็เช่นเดียวกันที่มีการยื่นเรื่องไว้แล้ว เว้นแต่ว่าหลังจากวันนี้ไปแล้วก็ต้องเข้ามาในระบบใหม่ คือกลับมากักตัวเช่นเดิม 7 วัน 10 วันหรืออะไรก็แล้วแต่
  
เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มระยะเวลากับตัวมากกว่า 14 วันหรือไม่ เพราะช่วงดังกล่าวอาจยังไม่พบเชื้อโอมิครอน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “แหม่คุณก็ ถามให้มันเอาแค่ตรงนี้ก่อน ว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้อย่างไร ที่ว่าจะมีการพัฒนาเชื้อโรค สายพันธุ์ หรือจะดูแลมากขึ้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ได้ก่อน เราก็ไม่ทราบมาก่อนว่าโอมิครอนจะมาตอนนี้ ดังนั้นสิ่งที่เราวางไว้ที่เดิม มันก็เรียกว่าพันธะสัญญาเข้าใจไหม แต่เราก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนในประเทศ ต้องหามาตรการมาแก้ไขตรงนี้และจะทำอย่างไร ถ้าสถานการณ์อย่างครุกรุ่นและมีปัญหาแบบนี้ เราก็ต้องแก้ไปตามลำดับ”
  
เมื่อถามว่าในส่วนของประเทศไทยกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ยังคงจัดได้เหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ยังไม่ได้งดอะไรหนิ”
เมื่อถามต่อว่า จะมีการพิจารณาเป็นวันต่อวันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงสาธารณสุขพิจารณา
 

 
“ชมรมผู้ประกอบการฯ”  จี้ นายกฯ อย่าบริหารผิดซ้ำ ใช้ยาแรง ล็อกดาวน์ประเทศ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3097345
 
“ชมรมผู้ประกอบการฯ”  จี้ นายกฯ อย่าบริหารผิดซ้ำ ใช้ยาแรง ล็อกดาวน์ประเทศ
 
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม ที่ศูนย์เรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ชมรมผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากโควิด ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนมาตรการปิดประเทศและการกักตัวนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า 
 
ทางชมรมฯ ตั้งขึ้นมาอย่างเฉพาะกิจในกลุ่มที่ทำมาหากิน อาชีพเดียวกัน คือเป็นผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สายการบิน และการจัดงานอีเวนท์ การรวมตัวเฉพาะกิจครั้งนี้เพื่อเรียกร้องอย่างสันติ ขอให้นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค. ทบทวนนโยบายการกับตัวนักท่องเที่ยว รวมถึงมาตรการที่ให้งดจัดงานเคาท์ดาวน์เฉลิมฉลองปีใหม่ในหลายพื้นที่ เนื่องจากจะส่งผลให้ประชาชน และธุรกิจการท่องเที่ยว เดือดร้อนถึงขีดสุด
 
ที่สำคัญทางชมรมฯ กลัวเหลือเกินว่ารัฐบาล และศบค. จะมีนโยบายให้ล็อกดาวน์ จนนำไปสู่การปิดประเทศอีกครั้ง หากเป็นเช่นนั้น ผู้ประกอบการและประชาชนจะเดือดร้อนอย่างมาก จนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว
 
ขอย้ำว่า สิ่งที่พวกเรากลัวตอนนี้ไม่ใช่ โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หรือสายพันธุ์ใดๆ ที่มาก่อนหน้านี้ แต่ที่เรากลัวที่สุด คือสิ่งที่จะทำร้ายคนทั่วประเทศ คือการสร้างกระแสให้เกิดความหวาดกลัวเกินเหตุ โดยการประโคมข่าวจากสื่อทุกสื่อ จนแทบจะไม่มีข่าวใดให้หลงเหลือความเชื่อมั่นในระบบการท่องเที่ยวได้เลยเราขอร้องว่า โปรดอย่าบริหารนโยบายผิดซ้ำ ด้วยการล็อกดาวน์ประเทศไทยอีกเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่