สวัสดี......ก่อนอื่นเราขอเท้าความก่อนเลยนะ เราเป็นเด็กทุนที่ได้รับทุนในการเรียนพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ซึ่งเมื่อเราเรียนจบแล้วจำเป็นต้องใช้ทุนโดยการทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นเวลา ประมาณ 7 ปี (แต่นี่ก็ทำมาได้ 3 ปีเข้าแล้ว) ออกก่อนเสีย 3M
เมื่อพูดถึงโรงพยาบาลเอกชน เราว่าทุกคนต้องคิดว่าต้องดีเลิศ ดีทุกอย่าง มันก็แล้วแต่ระบบของโรงพยาบาลหรือเปล่า? แต่โดยรวมๆก็ถือว่าน่าจะโอเคระดับนึงแหละ เราเองก็ทำงานอยู่ทุกๆวันแต่เรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุขในการทำงานเลย เราก็พยายามจะไม่คิดอะไรแล้วเลิกงานก็ทิ้งไว้ที่ทำงานให้หมด กลับบ้านไปนอนพักสบายๆ แต่ตอนตื่นขึ้นมาที่จะไปทำงานนี่แหละเรารู้สึกเบื่อมากต้องไปทำงานอีกแล้วหรอ?
ยิ่งช่วงนี้นะเป็นสถานการณ์ COVID ไม่ต้องพูดถึงเลยวุ่นวายมากๆ ไหนจะโดนตัดอัตรากำลังจากผู้บริหารอีกคนทำงานก็ไม่ค่อยจะมี แต่คนไข้ก็ไม่ได้ลดตามไปด้วยกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปอีก เราขอพูดอย่างนึงนะจากที่ตัวเองเคยเจอมาคนไข้ส่วนใหญ่ เขาไม่ค่อยจะให้เกียรติเราเท่าไหร่ก็เค้ามีเงิน(เบิกประกัน)เค้าจะทำอะไรก็ได้ต้องได้อย่างที่หวัง(รอไม่ได้ เหมือนในชีวิตนี้ไม่เคยรออะไร) ส่วนที่ดีก็ดีไปดีเลยแหละน่ารักที่สุด
ในมุมมองของเราโรงพยาบาลรัฐต่างจังหวัด คุณลุง คุณป้า เค้าก็ดูน่ารักดีนะ เราเคยพายายไปหาหมอตอนเด็กๆ ต้องไปเอาคิวให้ยายตั้งแต่ตี 5 แล้วกลับมานอนรอที่บ้านสายๆก็พายายออกไปที่โรงพยาบาลคนเยอะมากๆ ได้ตรวจจริงๆนู้น บ่ายยยยยยยย แต่เค้าก็รอได้นะไม่เห็นบ่นอะไรกันนั่งคุยกันเฉยเลยพอถึงคิวก็ไปตรวจๆ ตรวจเสร็จรับยากลับบ้านต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
แต่ตอนนี้ปัจจุบันเราก็มีพร้อมเกือบทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ ทุกอย่าอยู่ที่กรุเทพ ยกเว้นครอบครัว...แฮร่ เราก็เลยฉุกคิดขึ้นมาว่าอยากย้ายไปทำงานที่บ้านต่างจังหวัด ตอนแรกก็คิดนะว่าจะไปอยู่เอกชนเหมือนเดิมแต่อยู่ในเมืองมันก็ห่างจากบ้านเรา 30กว่ากิโลได้ขับรถก็ไม่ได้นานซักเท่าไหร่ ไม่เหมือนในกรุงเทพบ้านก็ไม่ได้ไกลเลยแต่ต้องออกจากบ้านก่อนอย่างน้อย 1.30 ชั่วโมง เห้อเสียเวลานอน ก็อย่างที่ว่าแหละล่าสุดตอนนี้ได้ข่าวว่าโรงพยาบาลประจำอำเภอที่บ้านกำลังจะสร้างใหม่เราคิดว่าเราหมดทุนพอดีเค้าน่าจะสร้างเสร็จพอดี ก็เลยชั่งใจว่าเราจะอยู่หรือจะไปดี
งานเอกชน & งานรัฐบาล ก็ดีข้อเสียมันก็อาจจะแตกต่างกันไป
เอกชน เหนื่อยใจ ไม่มีความสุข
รัฐบาล เหนื่อยกาย มีความสุขหรือเปล่าไม่รู้ (อยู่บ้านกับครอบครัวกินข้าวกับ แม่ ยาย ครอบครัว)
แต่ตอนนี้ก็ยังมีเวลาเหลือให้คิดอีกประมาณ 3 ปีได้ว่าจะเอายังไงต่อดี
ย้ายงานจากโรงพยาบาลเอกชน > โรงพยาบาลอำเภอต่างจังหวัด
เมื่อพูดถึงโรงพยาบาลเอกชน เราว่าทุกคนต้องคิดว่าต้องดีเลิศ ดีทุกอย่าง มันก็แล้วแต่ระบบของโรงพยาบาลหรือเปล่า? แต่โดยรวมๆก็ถือว่าน่าจะโอเคระดับนึงแหละ เราเองก็ทำงานอยู่ทุกๆวันแต่เรารู้สึกว่าเราไม่มีความสุขในการทำงานเลย เราก็พยายามจะไม่คิดอะไรแล้วเลิกงานก็ทิ้งไว้ที่ทำงานให้หมด กลับบ้านไปนอนพักสบายๆ แต่ตอนตื่นขึ้นมาที่จะไปทำงานนี่แหละเรารู้สึกเบื่อมากต้องไปทำงานอีกแล้วหรอ?
ยิ่งช่วงนี้นะเป็นสถานการณ์ COVID ไม่ต้องพูดถึงเลยวุ่นวายมากๆ ไหนจะโดนตัดอัตรากำลังจากผู้บริหารอีกคนทำงานก็ไม่ค่อยจะมี แต่คนไข้ก็ไม่ได้ลดตามไปด้วยกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปอีก เราขอพูดอย่างนึงนะจากที่ตัวเองเคยเจอมาคนไข้ส่วนใหญ่ เขาไม่ค่อยจะให้เกียรติเราเท่าไหร่ก็เค้ามีเงิน(เบิกประกัน)เค้าจะทำอะไรก็ได้ต้องได้อย่างที่หวัง(รอไม่ได้ เหมือนในชีวิตนี้ไม่เคยรออะไร) ส่วนที่ดีก็ดีไปดีเลยแหละน่ารักที่สุด
ในมุมมองของเราโรงพยาบาลรัฐต่างจังหวัด คุณลุง คุณป้า เค้าก็ดูน่ารักดีนะ เราเคยพายายไปหาหมอตอนเด็กๆ ต้องไปเอาคิวให้ยายตั้งแต่ตี 5 แล้วกลับมานอนรอที่บ้านสายๆก็พายายออกไปที่โรงพยาบาลคนเยอะมากๆ ได้ตรวจจริงๆนู้น บ่ายยยยยยยย แต่เค้าก็รอได้นะไม่เห็นบ่นอะไรกันนั่งคุยกันเฉยเลยพอถึงคิวก็ไปตรวจๆ ตรวจเสร็จรับยากลับบ้านต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
แต่ตอนนี้ปัจจุบันเราก็มีพร้อมเกือบทุกอย่างแล้ว บ้าน รถ ทุกอย่าอยู่ที่กรุเทพ ยกเว้นครอบครัว...แฮร่ เราก็เลยฉุกคิดขึ้นมาว่าอยากย้ายไปทำงานที่บ้านต่างจังหวัด ตอนแรกก็คิดนะว่าจะไปอยู่เอกชนเหมือนเดิมแต่อยู่ในเมืองมันก็ห่างจากบ้านเรา 30กว่ากิโลได้ขับรถก็ไม่ได้นานซักเท่าไหร่ ไม่เหมือนในกรุงเทพบ้านก็ไม่ได้ไกลเลยแต่ต้องออกจากบ้านก่อนอย่างน้อย 1.30 ชั่วโมง เห้อเสียเวลานอน ก็อย่างที่ว่าแหละล่าสุดตอนนี้ได้ข่าวว่าโรงพยาบาลประจำอำเภอที่บ้านกำลังจะสร้างใหม่เราคิดว่าเราหมดทุนพอดีเค้าน่าจะสร้างเสร็จพอดี ก็เลยชั่งใจว่าเราจะอยู่หรือจะไปดี
งานเอกชน & งานรัฐบาล ก็ดีข้อเสียมันก็อาจจะแตกต่างกันไป
เอกชน เหนื่อยใจ ไม่มีความสุข
รัฐบาล เหนื่อยกาย มีความสุขหรือเปล่าไม่รู้ (อยู่บ้านกับครอบครัวกินข้าวกับ แม่ ยาย ครอบครัว)
แต่ตอนนี้ก็ยังมีเวลาเหลือให้คิดอีกประมาณ 3 ปีได้ว่าจะเอายังไงต่อดี