ห้อง 504 … 🧿

สวัสดีสมาชิกทุกท่าน ใครชอบอ่านเรื่องลี้ลับ ชวนขนหัวลุกเชิญมาทางนี้ 👻👻

เราขอเกริ่นนิสนึงนะว่าเรื่องที่เราจะเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องที่เราฟังเขาเล่ามาอีกทีแล้วคิดว่ามันน่ากลัวเลยอยากมาแบ่งปันให้ทุกคนฟัง เอาละเริ่ม ‼️
 
ความหลอนจากต่างแดนครั้งนี้ เกิดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องราวของคำสาป ผีและวิญญาณ แต่ใครจะเชื่อว่าท่ามกลางเมืองใหญ่ศิวิไลซ์ กลับมีสถานที่ที่มีเรื่องราวสุดหลอนซ่อนอยู่ 
ลงไปทางใต้ของกรุงโซล ใกล้กับเชิงเขานัมซาน จะพบกับแมนชั่นเก่าขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1968 ที่นี่คือ ควังลิมแมนชั่น แมนชั่นแห่งแรก ๆ ของกรุงโซล ด้วยขนาดใหญ่จึงทำให้ที่นี่มีห้องมากว่า 300 ห้อง สูง 10 ชั้น แต่ด้วยโครางสร้างเก่าไม่มีลิฟท์ ที่นี่จึงมีสร้างสะพานเชื่อมไปยังชั้นที่ 6 และ 7​
ด้วยโครงสร้างที่ดูซับซ้อน และมีหลายร้อยครอบครัวเคยอาศัยอยู่ที่นี่ ทำให้ควังลิมแมนชั่นมีเรื่องเล่าลีกลับมากมาย บ้างก็บอกว่าที่นี่มีคำสาป บ้างก็บอกว่าเป็นเรื่องโกหก แต่เรื่องเดียวที่คุณต้องรู้ นั่นก็คือ อย่าได้เข้าไปยังสถานที่แห่งนี้เป็นอันขาด

​หนึ่งในเรื่องเล่าขนหัวลุกก็คงจะไม่พ้นเรื่องจากห้อง 504 ที่เคยเป็นที่ห้องพักของครอบครัวนักเขียนนิยาย ประกอบด้วยพ่อ แม่และลูกชายวัย 1 ขวบ ด้วยความที่เป็นแมนชั่นขนาดใหญ่ ทำให้ควังลิมแมนชั่น มีครอบครัวและเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงห้องข้างล่างของครอบครัวนักเขียน ที่มีเสียงเด็กร้องดังตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลากลางคืน ทำให้นักเขียนที่เพิ่งย้ายมาไม่มีสมาธิกับงานเขียนใหม่ ทำให้เขาต้องปลีกตัวออกไปหาที่เงียบๆทำงานบ่อยครั้ง จึงทำให้ภรรยาเกิดความไม่พอใจ และมีปากเสียงกันเสมอ 
​และเมื่อเวลาผ่านไป ความโกรธก็กลับเพิ่มขึ้น เพราะในคืนนั้นเอง ระหว่างที่ชายนักเขียนนั่งทำงานชิ้นใหม่ เสียงกระทุ้งไม้กวาดจากห้องข้างล่างก็ดังขึ้น เมื่อเขาตะโกน กระทืบเท้ากลับไป กลับมีเสียงเด็กหัวเราะคิกคักสวนกลับมา ยิ่งทำให้เขาโมโหและไม่สามารถทำงานต่อได้ วันรุ่งขึ้นเขาจึงรีบไปแจ้งยังผู้ดูแลตึก แต่กลับไม่ได้รับความสนใจและได้คำตอบมาเพียงแค่ว่า ห้อง 404 ไม่มีคนอยู่ และเมื่อเขาไปถึงหน้าห้อง 404 ก็กลับมีแม่กุญแจล็อกอยู่ นักเขียนจึงจินตนาการในหัวเอาว่าอาจจะมีเด็กเปรตที่ไหนงัดประตูเข้าไปรวมหัวกันสร้างความวุ่นวายให้กับเขาและครอบครัว

หลังจากนั้นไม่นาน ชายนักเขียนก็พบว่าห้องของเขาถูกรื้อค้น และคอมพิวเตอร์ก็เสีย ทำให้เขายิ่งโมโหและอาละวาดครอบครัวตัวเอง ก่อนที่จะคิดขึ้นได้ว่าเป็นฝีมือของเด็กกลุ่มเดิม ที่พยายามจะแกล้ง เอาคืนหลังจากที่เขาไปแจ้งกับผู้ดูแล ระหว่างนั้นชายนักเขียนกลับได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กดังมากจากห้องด้านข้างแต่ภรรยาเขาบอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เมื่อรู้อย่างนั้นยิ่งทำให้เขาสติขาด คว้ามีดวิ่งตรงไปห้องข้างๆ แต่กลับพบว่ามันล็อกจากด้านนอก เขาลงมือพังกลอนและกุญแจข้าไป ภายในห้องว่างเปล่า ไร้สิ่งมีชีวิต ความเงียบเข้าปกคลุม ทันใดนั้นเอง เขากลับได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ความบ้าคลั่งเข้าครอบงำ เขาวิ่งตรงไปยังต้นตอของเสียงและใช้มีดแทงลงไปไม่ยั้ง พร้อมกับตะโกนบอกให้หยุด หยุดเสียงพวกนั้นสักที สิ้นเสียงตะโกน เสียงร้องเด็กหายไป เขาค่อยๆลืมตาพบว่า ต้นตอของเสียงร้องนั้น คือร่างลูกและภรรยาของเขาที่นอนตาเหลือกจมกองเลือดนั่นเอง เสียงคลุ้มคลั่งสิ้นสติดังขึ้นทั่วแมนชั่น ก่อนที่เสียงหัวเราะของเด็กๆจะดังกลบเสียงเขามิด หลังจากที่ถูกจับกุม ชายนักเขียนรู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้เขาฆ่าตัวตัวตายในเรือนจำในที่สุด
ก่อนที่เรื่องราวจะจบลง ความลับของควังลิมแมนชั่นที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อนว่าชั้น 4 และ 5 ของที่นี่เคยเปิดเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก่อนที่จะถูกไฟไหม้ครั้งใหญ่ และพบศพเด็กหลายร้อยคน
 
**เป็นไงมั้งคะ อ่านแล้วรู้สึกยังไง คอมเมนท์บอกกันได้นะคะถ้าชอบเราจะหาเรื่องเล่ามาเล่าอีกนะคะ**
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่