เมื่อตัวตนที่แท้จริงของSpider-Manถูกเปิดเผย Peter Parkerจึงไปขอความช่วยเหลือจากDoctor Strangeเพื่อทำให้ทุกคนลืมตัวตนที่แท้จริงของSpider-Man แต่กลับเกิดข้อผิดพลาดขึ้นระหว่างการร่ายคาถาทำให้ภัยอันตรายจากจักรวาลต่างๆหลุดลอดเข้ามาในโลกปัจจุบัน นำมาซึ่งบทพิสูจน์ครั้งใหม่ที่ปีเตอร์ต้องเผชิญ เพื่อค้นหาความหมายที่แท้จริงของการเป็นSpider-Man

 

เรียกได้ว่าเป็นภาคที่ทำได้ดีมากทั้งตัวนักแสดง ฉาก โดยเฉพาะในเรื่องของบท บทละครถูกเขียนขึ้นมาอย่างชาญฉลาด สามารถเชื่อมโยงผูกเรื่องราวได้อย่างไหลลื่นสมเหตุสมผล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักแสดงหน้าเก่าอย่างเช่น William Dafoe และคนอื่นๆ ถึงยอมกลับมาเล่นในเรื่องนี้ ใครที่เคยติดตามสไปเดอร์แมนมาโดยตลอดสมควรไปดูอย่างยิ่ง (แม้จะไม่ใช่แฟนคลับของMCUก็ตาม) ไม่ใช่แค่การได้เห็นตัวละครที่น่าคิดถึงแต่การเติมเต็มเรื่องราวของพวกเขาให้สมบูรณ์ของภาคนี้ทำให้เราน้ำตาซึมได้ไม่ยาก แม้ว่าจะมีสะดุดบ้างเพราะตัวละครเยอะแต่เวลาน้อย ทำให้การตัดสินใจหรือการแสดงออกบางอย่างดูแหม่งๆก็ตาม แต่โดยรวมแล้วการวางโครงเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบทำได้อย่างชาญฉลาด ทั้งทำให้อยากรู้เรื่องราวในอนาคตและเปิดเส้นทาง/โอกาสหลายๆอย่างให้ได้เล่นอีกเยอะ

มู้ดแอนด์โทนยังคงสดใสแต่เมื่อดำเนินเรื่องไปก็เริ่มเห็นความดาร์ค เรียกได้ว่าสถานการณ์และการตัดสินใจค่อนข้างรับมือได้ยากและท้าทายกว่าสองภาคที่ผ่านมาของไตรภาคนี้ Tom Hollandแบกเรื่องได้อยู่หมัด ภาคนี้สามารถดึงพลังการแสดงของเขาออกมาอย่างเต็มที่จนเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า Spider-Manของ Tom Holland เป็นหนึ่งใน Spider-Man ที่น่าจดจำมากที่สุดอีกคนหนึ่ง ตัวละครเพื่อนซี้อย่างMJและNedก็เป็นตัวละครสบทบที่ดี เรียกเสียงหัวเราะและความประทับใจในมิตรภาพของสามเพื่อนรักมากๆ 

ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับหนังฮีโร่บ่อยเท่าเรื่องนี้ ด้วยความที่เคยติดตามหนังSpider-Manมาตั้งแต่ไตรภาคแรก (ราวกับเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่ยังเด็กๆ) กราบขออนุญาติยกเรื่องนี้ให้สูงกว่าหนังมาร์เวลทั้งมวล (จะว่าอวยก็อวย แต่มันดีงามประทับใจมาก​แบบพูดไม่ถูก)

คะแนน: 4.8/5

คะแนนส่วนตัว: 10/5