

สวัสดีค่ะ สวัสดีมากค่ะ ทุกคน Say Hi !!! กันหน่อยเพื่อนๆ จากที่เราห่างหายจากการท่องเที่ยวมานาน วันนี้เราขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวกับเราที่ ที่ ที่ ที่นี้เลย เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลคร่า!!!


เพื่อนๆอาจสงสัยว่าทำไมเราถึงมาเที่ยวที่นี้ สำหรับเราคิดว่า บรรยากาศที่นี้ดี สดชื่น รู้สึกได้อยู่กับธรรมชาติ และที่สำคัญเลย น้ำทะเลใส๊ใส ชายหาดก็ข๊าวขาว ถึงแม้ว่าการเดินทางจะเดินทางหลายขั้นตอนไปสักหน่อย แต่อยากบอกเพื่อนๆว่ามันคุ้มจริงๆนะคะ ถ้าได้มาสัมผัสบรรยากาศที่นี้ งั้นไม่รอช้าเลยดีกว่าค่ะ เริ่มจากการเดินทางกันก่อนเลยนะคะ ทางเราเลือกเดินทางโดยเครื่องบินไปด้วยสายการบิน Thai Lion Air และกลับด้วย สายการบิน T้hai Smile (ไม่ได้ค่าโฆษณานะคะ 555+)

เริ่มต้นวันที่ 1 >> จุด Check-in

เริ่มต้นเลยสนามบิน ดอนเมือง เวลา 05.20 น. มาด้วยความตื่นเต้นเกือบไม่ทัน เพราะเที่ยวบินคือรอบ 06.00 น. เป็นไงหล่ะคะ ควรตื่นเต้นมัย 555+ โชคยังดี ทางสายการบิน เครื่องที่เราโดยสารน้ำมันหมดพอดี เลยอยู่ระหว่างการเติมน้ำมัน จึงทำให้เราไม่ตกเครื่อง เพื่อนๆอาจสงสัยว่าทำไมต้องออกเช้าขนาดนี้ เพราะว่าการเดินทางเรามีด้วยกัน 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 โดยสารทางเครื่องบิน ขั้นตอนที่ 2 โดยสารทางรถ และ สุดท้ายโดยสารทางเรือค่ะ ทุกๆการเดินทางจะต้องสอบถามกับทาง โรงแรมที่เราพัก เพื่อเช็คเวลาการขึ้นเครื่อง รอบเรือออกจากท่า เพราะถ้าเลยเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็จะทำให้การเดินทางอื่นๆสะดุดได้นะคะ ของเราขาไปจะมีรอบโดยสารดังนี้ค่ะ
>>>> เที่ยวบิน กรุงเทพสู่สนามบินหาดใหญ่ <<<<<
- เที่ยวบินเช้าสุด ถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 9:00 น. เพื่อลงเรือรอบแรก 11:30 น.
- เที่ยวบินถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 11:00 น.เพื่อลงเรือรอบสอง 13:30 น.
(ออกจากท่าเรือปากบารา - เกาะหลีเป๊ะ) แนะนำมี 2 รอบค่ะ
รอบแรก 11:30 น. ถึงเกาะหลีเป๊ะประมาณ 14:00 น.เรือแวะเกาะตะรุเตาและเกาะไข่
รอบสอง 13:30 น. ถึงเกาะหลีเป๊ะประมาณ 15:00 น. เรืออาจแวะเกาะไข่
หลังจากที่รีบวิ่งเหมือนฝูงแมวแล้วนั้น ก็ได้นั่งประจำทีพร้อมออกเดินทางแล้วค่า (ค่าตั๋วไป-กลับ 2,200 THB. จองผ่าน Trip)
>> Check-in ที่ 2 สนามบินหาดใหญ่ เวลา 07.25 น. วิวข้างล่างคือดีมากค่ะ มองลงไปนี่อยากเอาตัวไปสัมผัสกับน้ำทะเลแล้วค่ะ งื้อออออ!!!

หลังจากที่เราถึงสนามบินหาดใหญ่ ก็เริ่มหิวๆแล้วค่ะ เลยขอแวะทานข้าวกับร้านนี่เลย ชื่อร้าน KOPI TIAM (โกปี๊เตี่ยม) อาหารของร้านนี้ขึ้นชื่อหลายอย่าง เราเลยลองสั่งมา 2 อย่าง มีโจ๊ก กับข้าวมันไก่ เพราะเราทานแค่พอรองท้องเท่านั้นนะคะ เหตุเพราะเราต้องเดินทางต่ออีก 2 ต่อ ทั้งรถ และก็สุดท้ายโดยสารทางเรือ

หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว ก็โทรหาพี่คนขับรถ ที่เราได้ทำการจองมาก่อนหน้านี้ กับทาง Jolly Travel (จอลลี่ทราเวล) พี่เขาบริการดีมากนะคะ ขับรถปลอดภัย นั่งไปหลับไป ก็มาถึงท่าเรือปากบาราแล้วค่ะ (ค่ารถ+เรือ ไป-กลับ 1,200 THB. โรงแรมที่เราพักแนะนำมาค่ะ)


>> Check-in ที่ 3 พี่คนขับรถก็จะพาเราไปถึงหน้าที่ซื้อตั๋ว ซึ่งไม่ไกลจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (อยู่ตรงข้าม เดินเท้าได้ค่ะ ไม่น่าจะเกิน 500 เมตร) ส่วนขั้นตอนนี้เราจะต้องจ่ายค่าโดยสารทางเรือเพิ่ม อีก 60 บาท เพื่อเข้าไปข้างในทางเรือ แต่การจ่าย 60 บาทนี้เราจะได้ตั๋วเพื่อเข้าอุทยานต่างๆ ที่จังหวัดสตูลด้วยนะคะ ก็ถือว่าไม่ขาดทุน

พอเข้าไปถึงนะคะ เราก็จะต้องนำตั๋วที่ได้จาก Jolly Travel นำไปรับบัตรคิวเพื่อทำการรอขึ้นเรือ ส่วนทาง Jolly Travel ก็จะนำกระเป๋าของเราลงเรือ (กระเป๋าเล็กๆสามารถสะพายได้ ส่วนกระเป๋าลาก หรืออะไรที่ค่อนข้างใหญ่ จะต้องเอาไว้ใต้ที่นั่งเท่านั้น) เพราะที่นั่งค่อนข้างนั่งได้พอดีคนค่ะ ไม่สามารถถือกระเป๋าใหญ่ๆได้ ทางพนักงานจะดำเนินการทำให้ค่ะขั้นตอนนี้ ของเราก็แค่ถ่ายรูปและรอทาง Jolly Travel เรียกบัตรคิว+ลงเรือ และออกเดินทางตามกำหนดการต่อไปค่ะ


ก่อนเข้าไปในท่าเรือ เจ้าหน้าที่จะให้เราแสดงเอกสารที่เราฉีดวัคซีนมาแล้ว 2 เข็ม หากผู้ใดไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ก็ไม่สามารถไปยังเกาะหลีเป๊ะได้นะคะ (ไม่มีการตวรจ ATK หรือขอผล RT-PCR นะคะ) ของเราไม่ได้ปริ้นเอกสาร และยังไม่ได้ทำ วัคซีนพาสสปอร์ต เลยแสดงหลักฐานผ่านแอพพลิเคชั่น "หมอพร้อม" แทนได้เลยค่ะ จากนั้นก็ได้เวลาขึ้นเรือแล้วค่ะ

ก็นั่งยาวๆไปเลยค่ะ มีแวะถ่ายรูปตามเกาะต่างๆด้วยค่ะ อากาศดีมาก ท้องฟ้าใส น้ำทะเลสวยมากค่ะ นั่งไปด้วยความฟินได้ไม่นาน ก็ถึงหาดซันไรส์แล้วค่ะ หลังจากขึ้นฝั่งที่เกาะหลีเป๊ะแล้ว ก็จะมีรถของทางรีสอร์ทมาคอยรับ เพื่อไปยังที่พักค่ะ


>> Check-in ที่ 4 เวลาประมาณ 14.00 น. และแล้วเราก็มาถึงที่พักนั้นก็คือ คือ!!! คือ!!! ทำให้ลุ้นทำมัย 55+ นั้นก็คือ "โรงแรม ไอดิลลิค คอนเซปท์ รีสอร์ท (Idyllic Concept Resort)" พอเราไปถึงห้องพักได้เห็นทะเลแบบเต็มตาแล้ว บรรยากาศแบบนี้ โอ้ย ฟินมากเลยคร่าา ประกอบกับที่เราเลือกห้องที่สามารถเห็นวิวทะเล และ พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าๆ แสงแดดอ่อนๆ ลมเบาๆ แค่คิดก็ฟินแล้ว เราเลยเลือกห้อง Deluxe Sea View Cabana และแถมช่วงที่เราจองยังมีโปรลดราคาแบบสุดๆ เลยนะเพื่อนๆ ฟินอีกต่อจริงๆ จ้า (ค่าที่พัก 3 วัน 2 คืน 9,120 THB. จากเดิม 38,556 THB.) ลดเวอร์วังมากแม่ งั้นอย่ารอช้าเลยเพื่อนๆไปดูภายในห้องกันเลยดีกว่าค่ะ


Sea View มัยหล่ะคะ อิอิ มีความฟินเต็มๆเลยค่ะ คุ้มมากเลยค่ะที่มารับลมที่นี้ค่ะ ไม่ใช่แค่คุ้มเรื่องบรรยากาศ ส่วนเครื่องอุปโภคบริโภคภายในห้อง ก็จะมี มีแปรงสีฟัน+ยาสีฟัน ,หวี , สำลีปั่นหู , ที่โกนหนวด , หมวกคลุมผม , สบู่+ยาสระผม+ครีมนวดผม, กระติกน้ำร้อน, ไดร์เป่าผม , สลิปเปอร์, ชุดคลุมอาบน้ำ , กระเป๋าหวาย , ตระกร้าผ้า , ร่ม , ตู้เซฟ , ตู้เย็น , แอร์+ทีวี , เครื่องดื่มชา+กาแฟ+น้ำเปล่า และ เครื่องทำน้ำอุ่น+น้ำเย็น โดยภาพรวมแล้วทุกอย่างคือโอเคค่ะ





และมีสระว่ายน้ำส่วนกลาง ใกล้ๆที่หน้าหาด พร้อมกับบาร์น้ำ ที่สามารถจิบไวน์ เล่นน้ำได้แบบฟินๆอีกด้วยค่ะ


>> Check-in ที่ 5 หลังจากที่พักผ่อนตามอัธยาศัยกันแล้ว เราได้สอบถามกับทางโรงแรมว่าที่นี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ทางพนักงานก็ได้แนะนำว่า ช่วงเวลา 18.00 น. ทางโรงแรมจะมีรถรับ-ส่ง เพื่อพานักท่องเที่ยวไปยัง ตลาดคนเดินประจำเกาะนี้ ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากโรงแรมมากนะคะ (แต่นั่งรถของโรงแรมไปดีกว่าค่ะ เพราะจะได้ไม่เมื่อยมาก อิอิ) จุดนัดพบคือหน้า ล็อบบี้ ของทางโรงแรมนะคะ

หลังจากที่ชิวๆกันมาสักพัก รถรับ-ส่งเพื่อไปยังตลาดคนเดินก็มาถึงแล้วค่ะ รถคันนี้นั่งได้ประมาณ ไม่เกิน 14 ท่านค่ะ มีเวลาในการเดินเที่ยว ซื้อของ ทานข้าว ประมาณ 2 ชม.นะคะ นั้นคือ 18.00 - 20.00 น. ค่ะ รถรับ-ส่งก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

ระหว่างที่เดินลงหาด ร้านข้างทางค่อนข้างปิดเยอะพอสมควรนะคะ อาจเพราะ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง คนขายของที่นี้เลยลดน้อยลงค่ะ แต่ร้านอาหารยังพอมีอยู่นะคะ ทั้งร้าน ซีฟู๊ด , ร้านอาหารไทย , ร้านอาหารอิตาลี , บาร์ , 7-11 , มินิมาร์ท ก็ยังพอดีอยู่นะคะ ไม่ถึงกับไม่มีเลยนะคะ


เดินได้ไม่นานท้องก็เริ่มหิวแล้วค่ะ เลยเดินหาร้านอาหารแถวนั้นทานก่อนเข้าโรงแรมค่ะ ตอนแรกจะไปทานร้านอาหาร ซีฟู๊ด แต่คนเยอะมากค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวน่าจะมาเดินและมาทานอาหารในเวลาเดียวกันเยอะ เราเลยไปร้านอาหารไทยแทนค่ะ แต่บอกเลยร้านนี้อร่อยค่ะ รสชาติดีมาก จัดว่าเด็ดค่ะ เราไปดูเมนูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้าง เมนูแรกเลยนะคะ "แกงส้มไข่ปลาริวกิว"

เมนูที่ 2 "ยำทะเล"

เมนูที่ 3 "ตำถาดทะเล"

เมนูที่ 4 "ไก่ย่าง"

เมนูที่ 4 "ปลานึ่งมะนาว"

หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วก็ถึงเวลากลับที่พักแล้วนะคะ สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์นะคะ


>>> เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 เวลา 07.00 น. เริ่มต้นกับอาหารเช้าสุดพิเศษ (อาหารเช้าที่โรงแรม อิอิ)
>> Check-in ที่ 1 ห้องอาหารของเราจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำนะคะ อาหารเช้าที่นี้มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เมนูมีเยอะมากๆค่ะ ส่วนห้องอาหารที่นี้จะเปิดให้ทานได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 10.00 น. โดยประมาณนะคะ สามารถเข้าดูอาหารได้ได้ตามลิงค์นี้นะคะ
https://pantip.com/topic/41144082/comment1-1

>> Check-in ที่ 2 ด้วยความที่เห็นทะเลอยู่ต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ จะไม่ลงไปเล่นเลยมันก็คงทำไม่ได้ เดี๋ยวจบทริปกลับกรุงเทพแล้วจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าน้ำทะเลที่เกาะหลีเป๊ะใสขนาดไหน เลยต้องขอลงสักหน่อยคร่า

>> Check-in ที่ 3 ไม่ได้ไปไหนไกลเลยค่ะ นั่งทานอาหารริมชายหาดของโรงแรมที่เราพักค่ะ อิอิ เล่นน้ำจนเหนื่อยเลยขอทานใกล้ๆแล้วกันนะคะ พร้อมกับทั้งมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะคะเพื่อนๆ ส่วนอาหารที่เราสั่งมาวันนี้ ก็จะมีดังนี้ค่ะ
เมนูแรกเลยนะคะ : บล็อกโคลี่ผัดกุ้งแม่น้ำ

เมนูที่ 2 : ปลานึ่งมะนาว

เมนูที่ 3 : ต้มยำทะเล

เมนูเครื่องดื่ม 1 : น้ำมะนาวปั่น

เมนูเครื่องดื่ม 2 : Mojitos (โมจีโต้)

สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ
https://pantip.com/topic/41144082/comment1-1
[CR] รีวิว เกาะหลีเป๊ะ ช่วงปลายปี 2021 โรงแรมหรู หาดทรายขาว น้ำทะเลใส งบไม่เกิน 20,000 บาท 3 วัน 2 คืน กันเลยจ้า
>>>> เที่ยวบิน กรุงเทพสู่สนามบินหาดใหญ่ <<<<<
- เที่ยวบินเช้าสุด ถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 9:00 น. เพื่อลงเรือรอบแรก 11:30 น.
- เที่ยวบินถึงสนามบินหาดใหญ่ไม่เกิน 11:00 น.เพื่อลงเรือรอบสอง 13:30 น.
(ออกจากท่าเรือปากบารา - เกาะหลีเป๊ะ) แนะนำมี 2 รอบค่ะ
รอบแรก 11:30 น. ถึงเกาะหลีเป๊ะประมาณ 14:00 น.เรือแวะเกาะตะรุเตาและเกาะไข่
รอบสอง 13:30 น. ถึงเกาะหลีเป๊ะประมาณ 15:00 น. เรืออาจแวะเกาะไข่
หลังจากที่รีบวิ่งเหมือนฝูงแมวแล้วนั้น ก็ได้นั่งประจำทีพร้อมออกเดินทางแล้วค่า (ค่าตั๋วไป-กลับ 2,200 THB. จองผ่าน Trip)
>> Check-in ที่ 2 สนามบินหาดใหญ่ เวลา 07.25 น. วิวข้างล่างคือดีมากค่ะ มองลงไปนี่อยากเอาตัวไปสัมผัสกับน้ำทะเลแล้วค่ะ งื้อออออ!!!
หลังจากที่เราถึงสนามบินหาดใหญ่ ก็เริ่มหิวๆแล้วค่ะ เลยขอแวะทานข้าวกับร้านนี่เลย ชื่อร้าน KOPI TIAM (โกปี๊เตี่ยม) อาหารของร้านนี้ขึ้นชื่อหลายอย่าง เราเลยลองสั่งมา 2 อย่าง มีโจ๊ก กับข้าวมันไก่ เพราะเราทานแค่พอรองท้องเท่านั้นนะคะ เหตุเพราะเราต้องเดินทางต่ออีก 2 ต่อ ทั้งรถ และก็สุดท้ายโดยสารทางเรือ
หลังจากที่ทานเสร็จแล้ว ก็โทรหาพี่คนขับรถ ที่เราได้ทำการจองมาก่อนหน้านี้ กับทาง Jolly Travel (จอลลี่ทราเวล) พี่เขาบริการดีมากนะคะ ขับรถปลอดภัย นั่งไปหลับไป ก็มาถึงท่าเรือปากบาราแล้วค่ะ (ค่ารถ+เรือ ไป-กลับ 1,200 THB. โรงแรมที่เราพักแนะนำมาค่ะ)
พอเข้าไปถึงนะคะ เราก็จะต้องนำตั๋วที่ได้จาก Jolly Travel นำไปรับบัตรคิวเพื่อทำการรอขึ้นเรือ ส่วนทาง Jolly Travel ก็จะนำกระเป๋าของเราลงเรือ (กระเป๋าเล็กๆสามารถสะพายได้ ส่วนกระเป๋าลาก หรืออะไรที่ค่อนข้างใหญ่ จะต้องเอาไว้ใต้ที่นั่งเท่านั้น) เพราะที่นั่งค่อนข้างนั่งได้พอดีคนค่ะ ไม่สามารถถือกระเป๋าใหญ่ๆได้ ทางพนักงานจะดำเนินการทำให้ค่ะขั้นตอนนี้ ของเราก็แค่ถ่ายรูปและรอทาง Jolly Travel เรียกบัตรคิว+ลงเรือ และออกเดินทางตามกำหนดการต่อไปค่ะ
ก็นั่งยาวๆไปเลยค่ะ มีแวะถ่ายรูปตามเกาะต่างๆด้วยค่ะ อากาศดีมาก ท้องฟ้าใส น้ำทะเลสวยมากค่ะ นั่งไปด้วยความฟินได้ไม่นาน ก็ถึงหาดซันไรส์แล้วค่ะ หลังจากขึ้นฝั่งที่เกาะหลีเป๊ะแล้ว ก็จะมีรถของทางรีสอร์ทมาคอยรับ เพื่อไปยังที่พักค่ะ
และมีสระว่ายน้ำส่วนกลาง ใกล้ๆที่หน้าหาด พร้อมกับบาร์น้ำ ที่สามารถจิบไวน์ เล่นน้ำได้แบบฟินๆอีกด้วยค่ะ
หลังจากที่ชิวๆกันมาสักพัก รถรับ-ส่งเพื่อไปยังตลาดคนเดินก็มาถึงแล้วค่ะ รถคันนี้นั่งได้ประมาณ ไม่เกิน 14 ท่านค่ะ มีเวลาในการเดินเที่ยว ซื้อของ ทานข้าว ประมาณ 2 ชม.นะคะ นั้นคือ 18.00 - 20.00 น. ค่ะ รถรับ-ส่งก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ
ระหว่างที่เดินลงหาด ร้านข้างทางค่อนข้างปิดเยอะพอสมควรนะคะ อาจเพราะ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง คนขายของที่นี้เลยลดน้อยลงค่ะ แต่ร้านอาหารยังพอมีอยู่นะคะ ทั้งร้าน ซีฟู๊ด , ร้านอาหารไทย , ร้านอาหารอิตาลี , บาร์ , 7-11 , มินิมาร์ท ก็ยังพอดีอยู่นะคะ ไม่ถึงกับไม่มีเลยนะคะ
เดินได้ไม่นานท้องก็เริ่มหิวแล้วค่ะ เลยเดินหาร้านอาหารแถวนั้นทานก่อนเข้าโรงแรมค่ะ ตอนแรกจะไปทานร้านอาหาร ซีฟู๊ด แต่คนเยอะมากค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวน่าจะมาเดินและมาทานอาหารในเวลาเดียวกันเยอะ เราเลยไปร้านอาหารไทยแทนค่ะ แต่บอกเลยร้านนี้อร่อยค่ะ รสชาติดีมาก จัดว่าเด็ดค่ะ เราไปดูเมนูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรกันบ้าง เมนูแรกเลยนะคะ "แกงส้มไข่ปลาริวกิว"
เมนูที่ 2 "ยำทะเล"
เมนูที่ 3 "ตำถาดทะเล"
เมนูที่ 4 "ไก่ย่าง"
เมนูที่ 4 "ปลานึ่งมะนาว"
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วก็ถึงเวลากลับที่พักแล้วนะคะ สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์นะคะ
>> Check-in ที่ 1 ห้องอาหารของเราจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำนะคะ อาหารเช้าที่นี้มีให้เลือกมากมายทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เมนูมีเยอะมากๆค่ะ ส่วนห้องอาหารที่นี้จะเปิดให้ทานได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. ถึง 10.00 น. โดยประมาณนะคะ สามารถเข้าดูอาหารได้ได้ตามลิงค์นี้นะคะ https://pantip.com/topic/41144082/comment1-1
>> Check-in ที่ 2 ด้วยความที่เห็นทะเลอยู่ต่อหน้าต่อตาขนาดนี้ จะไม่ลงไปเล่นเลยมันก็คงทำไม่ได้ เดี๋ยวจบทริปกลับกรุงเทพแล้วจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าน้ำทะเลที่เกาะหลีเป๊ะใสขนาดไหน เลยต้องขอลงสักหน่อยคร่า
>> Check-in ที่ 3 ไม่ได้ไปไหนไกลเลยค่ะ นั่งทานอาหารริมชายหาดของโรงแรมที่เราพักค่ะ อิอิ เล่นน้ำจนเหนื่อยเลยขอทานใกล้ๆแล้วกันนะคะ พร้อมกับทั้งมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะคะเพื่อนๆ ส่วนอาหารที่เราสั่งมาวันนี้ ก็จะมีดังนี้ค่ะ
เมนูแรกเลยนะคะ : บล็อกโคลี่ผัดกุ้งแม่น้ำ
เมนูที่ 2 : ปลานึ่งมะนาว
เมนูที่ 3 : ต้มยำทะเล
เมนูเครื่องดื่ม 1 : น้ำมะนาวปั่น
เมนูเครื่องดื่ม 2 : Mojitos (โมจีโต้)
สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ https://pantip.com/topic/41144082/comment1-1
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้