JJNY : 4in1 ลาวต่อยอดรถไฟจีน│1ปี รถไฟฟ้าสายสีทอง ผู้โดยสารไม่ถึงเป้า│อินโดฯพบ“โอมิครอน”รายแรก│‘ปริญญา’หนุนทำไพรมารีโหวต

ลาวต่อยอดรถไฟจีน เปิดฮับขนส่งท่านาแล้ง-ศูนย์โลจิสติกส์เวียงจันทร์
https://www.prachachat.net/world-news/news-822658
 
 
ลาวเปิดแลนด์ลิงก์ท่านาแล้ง-ศูนย์โลจิสติกส์เวียงจันทร์ เชื่อมการค้าทางเรือ เดินหน้าถกแผนสร้างทางหลวงเชื่อมเวียดนาม เขตศก.มหานทีสีทันดอน
 
วันที่ 16 ธันวาคม 2564 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงวางแผนและการลงทุนของลาว เปิดเผยว่า หลังจากที่ลาวประสบความสำเร็จเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงเส้นทางบ่อเต็น-หลวงพระบาง ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟเชื่อมกับจีนแล้วนั้น โครงการพัฒนาท่าบกท่านาแล้ง (Thanaleng dry port) และเขตโลจิสติกส์นครหลวงเวียงจันทร์ เสร็จสมบูรณ์และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

รองนายกลาว ยังเผยอีกว่า รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างแผนศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างทางด่วนระหว่างประเทศเชื่อมเวียงจันทน์-กรุงฮานอย ของเวียดนาม ทางด่วนเวียงจันทน์-ปากซาน ทางด่วนหมายเลขหนึ่งน้ำทา-ห้วยไซ และเขตเศรษฐกิจพิเศษมหานทีสีทันดอน ที่เมืองโขง ชายแดน-ลาว กัมพูชา โดยสำหรับแผนการศึกษาโครงการดังกล่าว จะเป็นหนึ่งในวาระการประชุมเพื่อทบทวนการวางแผนและการลงทุนระดับชาติสำหรับปี 2564 และกำหนดทิศทางสำหรับปี 2565 ของลาว

ขณะเดียวกัน รัฐบาลเผยว่ายังมีความคืบหน้าในการหารือกับเอกชนในโครงการริเริ่มเมืองอัจฉริยะหลวงน้ำทา และในจังหวัดอุดมไซ ซึ่งอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจของลาว กัมพูชา และเวียดนามด้วย ข้อตกลงกับเอกชนนี้นอกจากจะพัฒนาเมืองอัจฉริยะแล้วยังออกแบบให้ครอบคลุมการพัฒนาที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยวระหว่างสามชาติและบริการจุดผ่านแดนที่คล่องตัวมากขึ้น
 
“เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 2565 จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผมขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการประชุมนี้ ดำเนินการจัดการกับอุปสรรคทั้งในแง่เศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย และเอกสารทางเทคนิคที่มีความสำคัญอย่างเร่งด่วนและจริงจัง เพื่อให้บรรลุความหวังสำหรับแผนการพัฒนาชาติในปีหน้า”
 
“ผมหวังอย่างยิ่งว่า แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปี 2565 จะบรรลุเป้าหมายเพื่อเป็นรากฐานที่เอื้ออำนวยต่อการดำเนินตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ในอนาคตซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของลาวในการแก้ไขปัญหาข้อจำกัดด้านเศรษฐกิจและการเงิน” นายสอนไซ กล่าว
 

---

รีวิว 1 ปีรถไฟฟ้าไร้คนขับ ‘สายสีทอง’ กรุงธนบุรี-คลองสาน ผู้โดยสารยังไม่ถึงเป้า
https://www.matichon.co.th/economy/news_3090039

เปิดบริการครบ 1 ปีในวันนี้พอดี สำหรับรถไฟฟ้าสายสีทองระยะแรก “สถานีกรุงธนบุรี-สถานีคลองสาน” ระยะทาง 1.7 กิโลเมตร หลังกรุงเทพมหานคร (กทม.) กดปุ่มเปิดหวูดไปเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563
 
สำหรับ “สายสีทอง” เป็นรถไฟฟ้าล้อยาง วิ่งบนรางคอนกรีต นอกจากจะมีระยะทางที่สั้นที่สุด ยังเป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของประเทศไทย
โครงการใช้เงินก่อสร้าง 2,080 ล้านบาท โดย “กลุ่มสยามพิวรรธน์” เจ้าของศูนย์การค้าไอคอนสยาม สนับสนุนเงินลงทุนผ่านการซื้อพื้นที่โฆษณาและพื้นที่เชิงพาณิชย์ 30 ปี และ กทม.นำรายได้มาใช้ในการก่อสร้าง โดยมีบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด(KT)  วิสาหกิจ กทม. เป็นผู้ดำเนินการ และมีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBTSC  เป็นผู้รับจ้างเดินรถ 30 ปี
 
แนวเส้นทางเริ่มจากกรุงธนบุรี เลาะไปตามถนนเจริญนคร ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยาไปถึงสำนักงานเขตคลองสาน มี 3 สถานี ได้แก่ 1.สถานีกรุงธนบุรี จะเชื่อมต่อบีทีเอส 2.สถานีเจริญนคร (ไอคอนสยาม) อยู่เจริญนคร 6 และ 3.สถานีคลองสาน เยื้องโรงพยาบาลตากสิน ในอนาคตจะมี sky walk เชื่อมโรงพยาบาลตากสิน เก็บค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสาย
 
นับเป็นรถไฟฟ้าอีกสายที่เข้ามาเติมเต็มโครงข่ายในพื้นที่ฝั่งธนบุรี บรรเทาการจราจรติดขัด เชื่อมแหล่งงานและการท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านเจริญนคร-คลองสาน อนาคตรถไฟฟ้าสายนี้มีแผนจะสร้างเพิ่ม 1 สถานี ไปถึงประชาธิปก จะไปเชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ “เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ” ที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กำลังเปิดประมูลและก่อสร้างโครงการ
 
ก่อนหน้านี้ “พลตำรวจเอก อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ส่วนต่อขยายสายสีทองอีก 1 สถานี จะใช้เงินลงทุนอีก 1,300 กว่าล้านบาท มีระยะทางกว่า 900 เมตร อาจจะเป็นการให้เอกชนร่วม PPP (ร่วมลงทุน)  ขณะที่สายสีทองเฟสแรก คาดว่าจะมีผู้โดยสารอยู่ที่ 42,000 เที่ยวคน/วัน
 
ด้านนายเกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ KT เปิดเผยว่า ภาพรวมการเปิดบริการสายสีทองช่วง 1 ปี ปริมาณผู้โดยสารยังต่ำกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ เนื่องจากมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้คนหยุดทำงานอยู่ที่บ้านและการให้บริการที่ภาครัฐจำกัดเวลาเปิด-ปิด เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด ทั้งหลังรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการ ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นบ้างแล้ว
 
สำหรับปริมาณผู้โดยสารตั้งแต่เปิดใช้วันที่ 16-31 ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 7,300 เที่ยวคน/วัน ในปี 2564 เดือนมกราคมอยู่ที่ 2,646 เที่ยวคน/วัน กุมภาพันธ์ 2,651 เที่ยวคน/วัน  มีนาคม 3,023 เที่ยวคน/วัน เมษายน 1,820 เที่ยวคน/วัน พฤษภาคม 900 เที่ยวคน/วัน มิถุนายน 1,263 เที่ยวคน/วัน กรกฎาคม 606 เที่ยวคน/วัน สิงหาคม 394 เที่ยวคน/วัน กันยายน 1,211 เที่ยวคน/วัน ตุลาคม 1,981 เที่ยวคน/วัน พฤศจิกายน 2,504 เที่ยวคน/วันและธันวาคม 2,418 เที่ยวคน/วัน
 
ขณะที่สัดส่วนผู้โดยสารรายสถานี  สถานีกรุงธนบุรีอยู่ที่ 46.56% สถานีเจริญนคร 42.41% และสถานีคลองสาน 11.04%
 

---

 
อินโดฯ พบป่วย “โอมิครอน” รายแรก-ทั่วโลกติดพุ่ง 2 หมื่นคนใน 88 ประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6786110

อินโดฯ พบป่วย “โอมิครอน” รายแรก-ทั่วโลกติดพุ่ง 2 หมื่นคนใน 88 ประเทศ  
 
อินโดฯ พบป่วย “โอมิครอน” – วันที่ 16 ธ.ค. รอยเตอร์และ สเตรตส์ไทมส์ รายงานว่า นายบูดี ดูนาดี ซาดีคิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย แถลงว่าพบผู้ป่วย สายพันธุ์โอมิครอน รายแรกของประเทศ โดยตรวจพบเมื่อเย็นวันพุธที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลวิสมา แอตเลต ในกรุงจาการ์ตา
 
เบื้องต้นยังไม่พบการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอนภายในชุมชน แต่เฝ้าจับตาบุคคลเสี่ยงติดเชื้อ 5 คนอย่างใกล้ชิด ในจำนวนนี้มีชาวอินโดนีเซีย 2 คนที่เพิ่งเดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ อีก 3 คนเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่อยู่ระหว่างแยกกักตัวในเมืองมานาโด จังหวัดสุลาเวสีเหนือ
 
สำหรับสถานการณ์โอมิครอนทั่วโลก พบผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 19,320 คนใน 88 ประเทศและเขตปกครอง และมีบุคคลต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่เฉพาะในอังกฤษมากถึง 200,000 คน