จากการสอบถามถึงกรณี จังหวัดเชิญผู้ขมังเวทย์ มาร่วมงานพิธีบวงสรวงเปิดเมือง และงานช้างเมืองสุรินทร์ ว่าเหมาะสมหรือไม่นั้น
ได้เกิดกระแสวิภาควิจารณ์กันอย่างหนักว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยมีผู้ให้ความเห็นหลากหลายความคิด และขอให้ผู้ว่าชี้แจง ตัวอย่างเช่น
ทางด้าน นายสุดใจ สะอาดยิ่ง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ โพสทางเพสบุ๊คส่วนตัวว่า พิธีบวงสรวงพ่อเมืองและศาลประกำก่อนมีงานช้างนั้น
เดิมทีก็ได้เชิญ ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด มาร่วมพิธี ก็แค่นั้น ซึ่งไม่เคยปรากฏเหตุการณ์แบบนี้ เห็นแล้วก็ไม่สบายใจ
ทางด้านนายดาวรุ่ง ผลเกิด ในฐานะลูกหลานคนเลี้ยงช้าง และหนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจกรรมงานช้างทางเลือก กล่าวว่า " ศาสตร์ ของช้าง เป็น ศาสตร์
ชั้นสูง วิชาช้าง วิชาคชศาสตร์ เป็นวิชาที่มีข้อคะลำ ข้อห้ามมากมาย ที่ทำให้คนที่ ไปจับช้าง รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงในป่า
หรือแม้แต่ลูกเมียที่รอที่บ้าน ก็มีข้อคะลำ ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ชาวช้างจะนับถือบรรพบุรุษ และถืออาวุโสตามลำดับ ผมเกิดมาเกือบจะ ๖๐ ปี
แม้ไม่เคยไปจับช้าง แต่ไม่เคยปรากฏว่าได้ยินปู่ย่าตายาย เล่าให้ฟังว่ามีการบวงสรวงด้วยฤาษี หรือเจ้าสำนักต่างๆ ช้างป่า ช้างบ้านเรา มีครูบาใหญ่
ช้างหลวง หรือช้างในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกพระองค์ก็จะมีพิธี บวงสรวงตามโบราณที่ทำมาทุกปี เรามีพ่อแก้ว บุตรชาติ ที่เป็นควาญ ผู้อภิบาล
พระเศวตฯ องค์ใหญ่ องค์เล็ก จะไม่มีท่านผู้ไดเลยที่จะบวงสรวงแบบที่เห็นในภาพ เห็นแล้วผมไม่สบายใจเลย !!"
ทางด้าน นายพิรุณ บานเย็น กล่าวว่า
"เชื่อว่าคนสุรินทร์ เกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยแน่นอน แต่อำนาจผู้ปกครองย่อมมีอำนาจสูงกว่าอยู่ภายใต้การปกครอง
จึงอยากเรียนถามท่านผู้ว่า มีเหตุผลอะไรจึงต้องทำอย่างนั้น ในฐานะคนสุรินทร์คนหนึ่ง อายเขาตั้วะ .ยับคลังมนึเจิ้ตหลอน"
.
ทางด้าน Kecha Poonsawat ให้ความเห็นว่า
"วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีที่สืบทอดและสืบสาน พิธีกรรม พิธีการ มีความเฉพาะเจาะจงในตัวเองของแต่ละพื้นที่ มีการเตรียมการทางความเชื่อ
และองค์ความรู้หลักการที่มีระดมความคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่ อย่างไร ในการตัดสินใจ
เหมาะสมหรือไม่? ประชาชนคนท้องถิ่นอยากได้คำตอบ คำอธิบาย คำชี้แจงอย่างชัดเจนกันครับ"

ปรากฏการณ์ประเทศไทย มูได้มูดี มูกันทุกจังหวัด มูกันทั้งประเทศ
ได้เกิดกระแสวิภาควิจารณ์กันอย่างหนักว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง โดยมีผู้ให้ความเห็นหลากหลายความคิด และขอให้ผู้ว่าชี้แจง ตัวอย่างเช่น
ทางด้าน นายสุดใจ สะอาดยิ่ง ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ โพสทางเพสบุ๊คส่วนตัวว่า พิธีบวงสรวงพ่อเมืองและศาลประกำก่อนมีงานช้างนั้น
เดิมทีก็ได้เชิญ ผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัด มาร่วมพิธี ก็แค่นั้น ซึ่งไม่เคยปรากฏเหตุการณ์แบบนี้ เห็นแล้วก็ไม่สบายใจ
ทางด้านนายดาวรุ่ง ผลเกิด ในฐานะลูกหลานคนเลี้ยงช้าง และหนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจกรรมงานช้างทางเลือก กล่าวว่า " ศาสตร์ ของช้าง เป็น ศาสตร์
ชั้นสูง วิชาช้าง วิชาคชศาสตร์ เป็นวิชาที่มีข้อคะลำ ข้อห้ามมากมาย ที่ทำให้คนที่ ไปจับช้าง รอดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวงในป่า
หรือแม้แต่ลูกเมียที่รอที่บ้าน ก็มีข้อคะลำ ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ชาวช้างจะนับถือบรรพบุรุษ และถืออาวุโสตามลำดับ ผมเกิดมาเกือบจะ ๖๐ ปี
แม้ไม่เคยไปจับช้าง แต่ไม่เคยปรากฏว่าได้ยินปู่ย่าตายาย เล่าให้ฟังว่ามีการบวงสรวงด้วยฤาษี หรือเจ้าสำนักต่างๆ ช้างป่า ช้างบ้านเรา มีครูบาใหญ่
ช้างหลวง หรือช้างในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกพระองค์ก็จะมีพิธี บวงสรวงตามโบราณที่ทำมาทุกปี เรามีพ่อแก้ว บุตรชาติ ที่เป็นควาญ ผู้อภิบาล
พระเศวตฯ องค์ใหญ่ องค์เล็ก จะไม่มีท่านผู้ไดเลยที่จะบวงสรวงแบบที่เห็นในภาพ เห็นแล้วผมไม่สบายใจเลย !!"
ทางด้าน นายพิรุณ บานเย็น กล่าวว่า
"เชื่อว่าคนสุรินทร์ เกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยแน่นอน แต่อำนาจผู้ปกครองย่อมมีอำนาจสูงกว่าอยู่ภายใต้การปกครอง
จึงอยากเรียนถามท่านผู้ว่า มีเหตุผลอะไรจึงต้องทำอย่างนั้น ในฐานะคนสุรินทร์คนหนึ่ง อายเขาตั้วะ .ยับคลังมนึเจิ้ตหลอน"
.
ทางด้าน Kecha Poonsawat ให้ความเห็นว่า
"วัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีที่สืบทอดและสืบสาน พิธีกรรม พิธีการ มีความเฉพาะเจาะจงในตัวเองของแต่ละพื้นที่ มีการเตรียมการทางความเชื่อ
และองค์ความรู้หลักการที่มีระดมความคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์หรือไม่ อย่างไร ในการตัดสินใจ
เหมาะสมหรือไม่? ประชาชนคนท้องถิ่นอยากได้คำตอบ คำอธิบาย คำชี้แจงอย่างชัดเจนกันครับ"