จากที่อ่านบทความในอินเทอร์เน็ต พอสรุปได้ว่าผลจากการอบรมเลี้ยงดูก็เป็นส่วนหนึ่ง
เด็กคนดังกล่าว เป็นคนเรียบร้อย หัวดี แต่แล้งน้ำใจเป็นที่สุด แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อยในบ้าน 
เช่นช่วยเหลือทางเทคโนโลยี เปิดปิดไฟ รวมไปถึงเก็บเสื้อผ้าที่กำลังจะเปียกฝน
   
   ครอบครัวนี้แต่เดิมมีลูกชายเพียงคนเดียว เพราะลูกคนกลางได้เสียไปก่อนที่ลูกคนโตจะจำความได้
ลูกคนโตในวัยเด็ก เป็นเด็กอารมณ์ดี ซุกซนมาก แต่มีน้ำใจกับทุกคน พ่อของเขามักใช้อำนาจ ใช้กำลัง
บังคับให้เป็นไปตามใจตน ส่วนแม่คอยปกป้องดูแลอย่างดี พอโตขึ้นหน่อยเขากลายเป็นเด็กพัฒนาการทางอารมณ์ช้า
หวาดระแวง วิตกกังวล ขาดความมั่นใจ ตั้งแต่หลังจากที่ลูกคนเล็กคลอด แม่ขาดความเอาใจใส่ ดุด่า ต่อว่า
แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย จนเขาไม่กล้าที่จะออกความคิดเห็น ส่วนพ่อก็ทวีความรุนแรงขึ้น
ถึงขั้นทุบตีอย่างทารุณ แม่เองกับเห็นด้วยกับการกระทำของพ่อ ในวัยเด็กเขาเคยคิดสั้นลงมือฆ่าตัวตาย
แต่ไม่สำเร็จ ในวัยเพียง 12 13 เท่านั้น จากเด็กที่อ่อนโยน กลายเป็นเด็กที่หดหู่
ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม รู้สึกว่าการอยู่เพียงลำพังสบายใจที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถเข้าสังคมได้
โดนบูลลี่รังแกจากกลุ่มเพื่อน แม่สอนเพียงให้ยอมและปล่อยวาง เมื่อหมดความอดทน เขาลุกขึ้นสู้
ไม่ฟังใครอีกต่อไป จนกลายเป็นคนไม่ยอมคน ไม่ประณีประนอม พร้อมไฝว้กับทุกคนที่ประสงค์ร้าย
รวมถึงญาติพี่น้อง ที่พ่อเขาเคารพรัก และเทิดทูนกว่าภรรยาตนเอง 

    กล่าวถึงพ่อและแม่ สามีภรรยาคู่นี้อยู่ด้วยกันโดยความจำใจ กล่าวคืออยู่เพื่อลูกในตอนนี้
พ่อ เป็นคนหูเบา อารมณ์ร้าย ใช้อำนาจ ใช้กำลัง ส่วนแม่ เป็นคนมั่นใจในตัวเอง หลงตัวเอง
คิดว่าในโลกของเธอ เธอและสามีเท่านั้นที่เจ๋งและแน่ ทั้งที่ทุกอย่างค่อย ๆ ถอยหลังลงไป

    ลูกคนเล็กในวัยเด็ก ไม่ต่างจากลูกคนโต จะต่างก็คือซุกซนน้อยกว่า ขี้แย และเอาแต่ใจ 
เมื่อเธอต้องการอะไรก็ตาม ลูกคนพี่ต้องเสียสละ แม้กระทั่งโทรศัพท์สุดหวงที่มีค่าสำหรับเด็กวัย 12
ที่ได้มาจากญาติผู้ใหญ่ ก็ต้องสละให้เด็กวัย 2 ขวบ ไปเล่นจนป่นปี้ เมื่อลูกคนโตไม่ยินยอม
ก็จะถูกไล่ออกจากบ้าน หรือด่าทอทุบตี ต่างนา ๆ นานวันทุกอย่างยิ่วเลวร้ายขี้น
น้องคนเล็กฉีดสมุดพี่คนโต แม่กลับลงโทษลูกคนโตที่เก็บของไว้ไม่ดี ลูกคนเล็กงอแง
อยากเล่นคอมพิวเตอร์ แม่ต้องปลุก บีบบังคับลูกคนโตให้ตื่นในรุ่งเช้าเพื่อไปเปิดคอมและจัดสรรเกมไว้
ขณะในปัจจุบัน อุปกรณ์ไอทีแม่มีปัญหา ลูกคนเล็กยังมองข้าม ทำเป็นหูทวนลม

   อย่างไรก็ตาม แม้ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องจะไม่ค่อยราบรื่น เพราะถูกจับแยกจากกันตั้งแต่
คนเล็กอายุ 5 ขวบ คนโต 15 ปี พ่อแม่พยายามชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดของลํกคนโต
ทั้งเรื่องการมีปัญหา ทะเลาะวิวาท การเรียนปริญญาตรีที่ต้องเริ่มต้นใหม่ เปลี่ยนคณะตามอำเภอใจ
แต่พี่คนโตทุ่มเททุกอย่างเพื่อน้อง สะสมออมเงินเพื่อซื้อของขวัญ
รวมถึงทำงานพาร์ตไทม์เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว แต่พ่อและไม่ยังไม่เคยยอมรับในตัวลูกคนโตสักครั้ง
แม้ในวัยเด็กที่เขาเคยสร้างชื่อเสียง สร้างความประทับใจ กวาดรางวัลมาให้พ่อแม่ชื่นชม
ยังมองว่าเป็นเด็กเสเพล ทำตัวไร้สาระไปวันวัน มองไม่เห็นอนาคต ต่างจากลูกคนเล็กที่การเรียนดี
ลูกคนโตพยายามจะอธิบาย ถึงเหตุผลที่ลูกคนเล็กกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่แคร์สังคม ไม่มีสังคม
แม่กลับย้อนกลับว่า เลี้ยงเขามาอย่างไร ก็เลี้ยงน้องอย่างนั้น เธอก็ได้แต่พร่ำพรรณนาน้อยใจชะตาชีวิต
ที่ลูกและสามีไม่ได้ดั่งใจ เพราะปัจจุบันพ่อไม่ได้ประกอบอาชีพแล้ว อยู่แต่บ้าน ไม่ได้มีอะไรให้ภรรยาเชิดหน้าชูตา
จริง ๆ แล้ว เธอไม่เคยพอใจใครเลย ทั้งสามี ทั้งลูก ทั้งเจ้านายรวมถึงเพื่อนร่วมงาน เธอยังเป็นคนดีเพียงคนเดียว
ทุกคนล้วนเบียดเบียน โลกนี้โหดร้ายกับเธอนัก แม้จะเข้าวัดปฏิบัติธรรมเพื่อปล่อยวางก็ตาม

จากเรื่องราวข้างต้น พอจะแก้ไข พัฒนา น้องคนเล็ก และ แม่ ได้หรือไม่
หรือควรปล่อยไปตามกฏของธรรมชาติ
หากมีวิธี จะทำอย่างไรได้บ้าง นอกจากหลอกล่อไปพบจิตแพทย์ หรือ พบนักจิตวิทยา