ผิดไหมที่บอกเลิกแฟนก่อน เราทำถูกแล้วใช่ไหม... ?

เรื่องค่อนข้างจะยาว แต่อยากจะเล่า อยากระบายค่ะ T^T

คือเราและแฟนถ้านับระยะเวลาในการคบกับแฟนตอนนี้ก็ 5 ปี แล้ว แต่จริงๆ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ปี 1 แต่ไม่ได้คบกัน เนื่องจากระยะทางและอะไรในหลายๆ อย่าง เค้าอาจจะยังไม่มั่นใจในตัวเราด้วยมั้งคะ เราเจอกันในโลกออนไลน์ค่ะ ... 

จนเริ่มขึ้นปี 3 เราอกหักแบบหนักมากๆ เค้าก็เลยทักมาหา คุยกันไปกันมาก็เลยลองตกลงจะคบกัน แต่ยังไม่ได้เจอกันนะคะ ตอนนั้นเราเคยขอไปเจอเค้าหลายครั้งมากๆ เค้าก็บ่ายเบี่ยงตลอด จนผ่านไปได้ 3 เดือน เราเลยตัดสินใจหาเค้าค่ะ (ตอนนั้นเค้าทำงาน ส่วนเรายังเรียนอยู่) ไปแบบไม่ได้บอกด้วยนะคะ ตอนนั้นกะว่าถ้าเจออะไรที่มันบาดตาบาดใจก็จะได้จบๆ ไป แบบไม่ลองดูก็ไม่รู้ไรแบบนั้น ตอนนั้นเป็นคนที่คลั่งรักมากกกกกก หลังจากนั้นเลยตกลงคบกัน แล้วก็คุยกันตลอดมา เค้าก็ดูแล เอาใจใส่ดีนะคะ แต่ด้วยการที่เราอยู่คนละจังหวัด อาจจะไปหาได้ไม่บ่อย สมัยเรียน จขกท จะเป็นคนไปหาตลอด ไปค้างที่โรงแรม ไม่ได้เคยได้เข้าบ้านฝ่ายชาย เค้าก็อ้างว่าครอบครัวเค้ายังไม่พร้อม รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม เราก็เข้าใจเค้านะคะ แล้วก็คบกันตลอดจนกระทั่งทำงาน เราก็ยังคบกันอยู่ 

จนเราเริ่มทำงานค่ะ ตอนนั้นทำในหน่วยงานราชการ ตัวเราเองได้งานราชการก็จริง แต่อยู่ไกลบ้าน เลยต้องเช่าบ้านอยู่ ส่วนเค้าทำอยู่ในโรงงาน(เป็นวิศวกร) ในช่วงแรกเราก็ยังคงเป็นคนไปหาเค้าตลอดนะคะ หลังๆ งานเราเริ่มเยอะขึ้น เราเลยไม่ได้ไปหาเค้า เลยบ่นว่าทำไมเค้าไม่มาหาเราบ้าง จนบางครั้งน้อยใจมากๆ จนทะเลาะกันก็มี ในที่สุดเค้าก็ยอมมาหาค่ะ ตอนนั้นคือดีใจแบบมากๆ ไม่คิดว่าเค้าจะมาหาจริงๆ (ตอนนั้นเราทั้งคู่ยังไม่มีรถส่วนตัว ไปไหนมาไหนก็ขนส่งสาธารณะตลอด) หลังจากนั้นเค้าก็มาหาเราบ่อยขึ้นเดือนนึง 1- 2 ครั้ง ได้ แต่มาหาก็จริงนะคะ แต่ส่วนใหญ่เราจะไม่ได้ไปเที่ยวไหนกัน เพราะคิดว่าทำงานมาเหนื่อยๆ อยากพักอยู่บ้านเฉยๆ ก็แค่ออกไปหาซื้ออะไรกิน แล้วก็กลับมากินที่บ้าน แค่นั้นคือจบ แต่ใจจริงก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้างนะคะ แต่ด้วยเวลา การเดินทาง เลยเลือกว่าไม่ไปกันดีกว่า แล้วก็ช่วงนึงเค้าก็เริ่มมีปัญหากับที่ทำงาน เค้าเลยออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ เราก็บ่นเค้าไปเยอะเหมือนกัน ว่าทำไมไม่ไปหางาน เค้าก็บอกว่าไม่ชอบนุ้นนี่นั่น เราก็ไม่ได้บังคับนะคะ แต่แค่บอกว่า อยู่เฉยๆ แล้วจะเอาไรกิน เค้าก็บอกว่าเค้ามีทางของเค้า เราก็เลยไม่ยุ่งค่ะ แต่ตอนนั้นยังไปมาหาสู่กันอยู่นะคะ แต่ไม่ได้บ่อยแบบเมื่อก่อน 

มีช่วงนึงที่ จขกท เคยถามเค้าเรื่องแต่งงานนะคะ ว่าถ้าเค้าไม่ทำงาน เค้าจะเอาเงินไหนมาเลี้ยงครอบครัว แล้วทางบ้านเราจะยอมรับเค้าหรอ? จนเราคิดว่าเราก็จริงจังกับเค้าพอสมควร เลยตัดสินใจพาครอบครัวไปเจอเค้า พาครอบครัวไปเจอเค้า ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด เราหลอกเค้าให้มาหาโดยไม่บอกว่าพาครอบครัวไปด้วย เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร งงนิดหน่อย แต่ก็คุยกันได้ เข้ากับครอบครัวเราได้ หลังจากนั้นมาเค้าก็ปรับปรุงตัวดีขึ้น เริ่มทำงาน เริ่มอะไรที่เป็นของตัวเองมากขึ้น เค้าก็เปรยๆ นะคะ ว่าเค้าสร้างไว้เพื่ออนาคตของเรา สร้างไว้เพื่อเรา ตอนนั้นใจชื้นมากค่ะ โคตรรักแฟนเลยยยยย เค้าบอกกับครอบครัวว่า เค้าตั้งเป้าว่า 35 จะมาขอเราค่ะ อย่างมีความหวังเลย แต่เราไม่เคยเจอครอบครัวเค้าเลยนะคะ ไม่เคยรู้จักกับเพื่อน พี่น้อง ลุง ป้า น้าอา เค้าซักคน

จนเราได้ที่ทำงานใหม่ที่มั่นคงกว่าเดิม และใกล้บ้าน เลยกลับมาอยู่กับครอบครัว เค้าก็ไม่ได้มาหาเราแบบเมื่อก่อน ส่วนใหญ่จะเจอก็ตอนที่เรา ตจว ประมาณนั้น แค่นั้นจริงๆ ค่ะ 2 - 3 เดือนเจอครั้งนึง และก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนกันเลยแบบจริงจัง จนมีบ้างครั้งที่นอยด์ น้อยใจ เศร้าใจ เหงามากกก แต่ก็ทำใจ เพราะคิดว่ามันคงน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม อดทนไปก่อนประมาณนั้น รออายุ 35 ละกัน (ตลอดเวลาที่คบกันก็มีทะเลาะกันบ้าง นอกใจกันบ้าง เป็นเราที่นอกใจเค้า 2-3 ครั้งได้  แต่ไม่ได้มีไรเกินเลย แค่คุย แต่เราเป็นฝ่ายผิดเอง เราก็ขอโทษเค้า เลือกเค้า ก็กลับมาคบกันเหมือนเดิม) ตลอดเวลาที่คบกันก็มีความสุขดีนะคะ แบบตามประสารักทางไกล ... 

จนในช่วง 3 เดือนหลัง ในช่วงสถานการณ์โควิด เราก็ไม่ได้เจอกันเลย ด้วยจังหวัดเราและเค้าค่อนข้างเคร่งเรื่องมาตรการ แต่หลังๆ เค้าก็เริ่มผ่อนลงแล้ว จังหวัดเราและเค้าอยู่ห่างกันแค่ประมาณ 200 กิโลกว่าๆ ส่วนตัวคิดว่ามันก็ไม่ได้ไกล แต่เค้าก็อ้างนุ้นอ้างนั้น เราก็เข้าใจคอยให้สถานการณ์มันดีกว่าเดิม เดี๋ยวไป ตจว เราค่อยไปเจอเค้าก็ได้ ก็เลยยอมรอ จนมาระยะหลังๆ รู้สึกเค้าเริ่มทำงานแบบไม่มีเวลาแม้จะทักมาหาเราตอนว่างๆ เวลาที่เราจะได้คุยกันแบบเมื่อก่อนก็น้อยลง เริ่มไม่ใส่ใจกันมากขึ้น เริ่มรู้สึกห่าง แต่ในทุกๆวัน เราจะคอล facebook หลังจากเลิกงานกันตลอดนะคะ ถ้าไม่ได้คุยก็วางกล้องทิ้งไว้ ต่างคนต่างดูนุ้นนี่กันไปเรื่อย แต่ก็ไม่ค่อยได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ตามประสาคนคบกันมานาน แค่รู้ว่าวันนี้เรายังคุยกัน คอลหากัน ก็โอเคแล้วมั้งคะ แต่บางครั้งเราเคยขอคำปรึกษากับเค้า เค้าก็ไม่ใส่ เหมือนทำเหมือนตังใจฟังนะคะ แต่พอถามอีกก็อะไรนะ ให้เราเล่าอีกรอบ ซึ่งเราว่ามันไม่ใช่อะ เริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้น พูดหยาบใส่ ไม่ให้เกียรติกันบ้าง พอเราเงียบไปก็หาว่าคุยกับคนอื่นหาว่าเรานอกใจเค้าอีก แล้วก็คุ้ยปัญหาเก่ามาทะเลาะกัน คือทำไรก็ผิดไปหมด บางทีโกรธเค้า เค้าไม่ง้อนะคะ หนีไปนอนเฉย บอกแค่ว่าง่วง นอนก่อนนะ กลายเป็นเรากลายเป็นคนบ้าไปฝ่ายเดียวเลยค่ะ ส่วนเรื่องเซอร์ไพร์ทวันเกิด ครบรอบอะไรแบบนี้ แทบจะน้อยมากๆ แค่ให้จำได้บ้างก็บุญแล้ว จนกระทั่งเรามาลองคิดทบทวนตัวเองมากขึ้น ว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้มันเหมือนไม่ใช่แฟนกันเลย ไม่มีเวลา ไม่ใส่ใจ ...ทั้งนอยด์ ทั้งน้อยใจ ทั้งซึมและเศร้า อยากมีโมเม้นหวานๆ แบบคู่อื่นบ้าง แต่หาไม่เลยยยย 

จนคิดไปคิดมา เราเลยตัดสินใจเลิกกับเขา เพราะรู้สึกว่าที่เป็นแฟนกันแบบนี้ เหมือนอยู่ตัวคนเดียวเลยค่ะ บางวันนี่ทะเลาะกันแล้วยิ่งดิ่งไปอีก เราไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่ไหมคะ ? ที่ผ่านมามันก็ไม่ได้เป็นความรักที่แย่นะคะ แต่แค่คิดว่ามันคงไปต่อกันไม่ได้แล้ว

ปล. เราคุยกันใน massenger facebook แต่ไม่เคยโพสหรือแท็กหากัน / ช่วงหลังก็เจอกันแค่เวลาเราไป ตจว / ตลอดระยะเวลาที่คบกัน เราไม่เคยเจอหรือรู้จักคนในชีวิตเค้าเลย / ตอนนี้ จขกท อายุ 27 แฟนอายุ 32
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่