คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 36
ผม ทำงานด้านการลงทุนที่จีนมาเกิน 10ปี การทำงานจำเป็นต้องค้นหาข้อเท็จจริง ไม่ใช่คำบอกเล่า
ข้อเท็จจริงคือ
1) จีนโดนโลกตะวันตกและญีุ่่ปุ่น จำกัดการเข้าถึง core technology มากถึง 35 ตัว จึงพัฒนาได้ช้ากว่า South Korea/Taiwan
2) งบ R&D อยู่ที่ 2.4% และเติบโตเร็วเกิน >10% ทุนวิจัยถ้าปรับตาม GPD per capita จะเท่ากับ US ปี 2022 ถ้าไม่ปรับก้อ 2028
3) งบ R&D ในขนาดมากเกินว่า Japan มาเกิน 10 ปี จึงเริ่มเห็นบริษัท Japan ที่ควบคุม core technology เช่น high-end capacitor, RF front-end, RV /harmonic gear, high-end baring steel, carbon fiber, semiconductor equipment (except EUV) อ้างอิงจาก Bloomberg consensus outlook มีการเติบโตช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ 3-4 ปีก่อน และขณะนี้ก็เริ่มมีการฟ้องร้องกันในหลายๆเรื่อง ผมคาดว่า อีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าญี่ปุ่นจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันลงอย่างรุนแรง มากกว่าในปัจจุบัน
4) ในกลุ่ม core technology ทั้ง 35 ตัว ส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Semiconductor จีนจะมุ่งเน้นที่ Mature node >14nm และพัฒนาไปทั้ง value chain ของ semiconductor ตั้งแต่ etching, sputtering, lithography, photo resistant, cleaning, inspection ซึ่งหลายบริษัทมีการทำรายได้เติบโตมากๆ และมีขนาด Market cap เกิน 10B USD เช่น Naura, AMEC
5) จีนยังไม่สามารถตามทัน US ในอีก 10ปีข้างหน้า ก้อจริง แต่ผมสังเกตจาก Phd และจำนวน Scientist ที่เรียนจบจาก US และกลับจีนกันมากในช่วง 2018 เป็นต้นมาทำให้แนวโน้มนี้เป็นผลกระทบรุนแรงมากต่อ US science supremacy ในอนาคต US จำเป็นต้องหา Phd student จาก Asia มาทดแทน
7) ที่นำตอนนี้คือ 5G แต่ 6G จำเป็นต้องใช้ Laser communication (Mynaric) โดน Sanction แล้ว แต่จีนก้อพัฒนาได้ทันแทบจะทันที่เพราะนักวิจัยเป็นคนจีน ที่นำอยู่จริงคือ Non-linear crystal ที่ใช้สร้าง photon-based quantum computer และ quantum communication ส่วนที่อยากจะนำคือ Thorium nuclear reactor แต่สหรัฐก้อ Sanction อีกเช่นกัน แต่ไม่มีผลมากนัก
สรุป ผมว่าจีนลำบากและทรมานมากจริงๆ แต่คนจีนเป็นคนฉลาด และอดทนมากเกินกว่าคนส่วนใหญ่รับได้ ถ้าจีนสามารถ master core 35 technology ทั้งหมดกว่า 3/4 ได้แค่นี้ผมว่า โลกตะวันตกก้อนอนไม่หลับแล้ว จำเป็นต้องหยุดจีนให้ได้ หรือไม่ก้อตัดขาดจีนออกจากการค้าโลก ไม่ฉะนั้น global wealth จะมีการไหลเข้าสู่จีน มากกว่าที่เห็นในปัจจุบัน
ผมแนบภาพกลุ่ม R&D จาก nature science index ปี 2020 จีนไม่เน้น healthcare ฉะนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าจีนจะทำได้ดีในกลุ่มนี้
source: https://www.natureindex.com/country-outputs/generate/all/global
ข้อเท็จจริงคือ
1) จีนโดนโลกตะวันตกและญีุ่่ปุ่น จำกัดการเข้าถึง core technology มากถึง 35 ตัว จึงพัฒนาได้ช้ากว่า South Korea/Taiwan
2) งบ R&D อยู่ที่ 2.4% และเติบโตเร็วเกิน >10% ทุนวิจัยถ้าปรับตาม GPD per capita จะเท่ากับ US ปี 2022 ถ้าไม่ปรับก้อ 2028
3) งบ R&D ในขนาดมากเกินว่า Japan มาเกิน 10 ปี จึงเริ่มเห็นบริษัท Japan ที่ควบคุม core technology เช่น high-end capacitor, RF front-end, RV /harmonic gear, high-end baring steel, carbon fiber, semiconductor equipment (except EUV) อ้างอิงจาก Bloomberg consensus outlook มีการเติบโตช้าลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ 3-4 ปีก่อน และขณะนี้ก็เริ่มมีการฟ้องร้องกันในหลายๆเรื่อง ผมคาดว่า อีกไม่เกิน 5 ปีข้างหน้าญี่ปุ่นจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันลงอย่างรุนแรง มากกว่าในปัจจุบัน
4) ในกลุ่ม core technology ทั้ง 35 ตัว ส่วนใหญ่เกี่ยวกับ Semiconductor จีนจะมุ่งเน้นที่ Mature node >14nm และพัฒนาไปทั้ง value chain ของ semiconductor ตั้งแต่ etching, sputtering, lithography, photo resistant, cleaning, inspection ซึ่งหลายบริษัทมีการทำรายได้เติบโตมากๆ และมีขนาด Market cap เกิน 10B USD เช่น Naura, AMEC
5) จีนยังไม่สามารถตามทัน US ในอีก 10ปีข้างหน้า ก้อจริง แต่ผมสังเกตจาก Phd และจำนวน Scientist ที่เรียนจบจาก US และกลับจีนกันมากในช่วง 2018 เป็นต้นมาทำให้แนวโน้มนี้เป็นผลกระทบรุนแรงมากต่อ US science supremacy ในอนาคต US จำเป็นต้องหา Phd student จาก Asia มาทดแทน
7) ที่นำตอนนี้คือ 5G แต่ 6G จำเป็นต้องใช้ Laser communication (Mynaric) โดน Sanction แล้ว แต่จีนก้อพัฒนาได้ทันแทบจะทันที่เพราะนักวิจัยเป็นคนจีน ที่นำอยู่จริงคือ Non-linear crystal ที่ใช้สร้าง photon-based quantum computer และ quantum communication ส่วนที่อยากจะนำคือ Thorium nuclear reactor แต่สหรัฐก้อ Sanction อีกเช่นกัน แต่ไม่มีผลมากนัก
สรุป ผมว่าจีนลำบากและทรมานมากจริงๆ แต่คนจีนเป็นคนฉลาด และอดทนมากเกินกว่าคนส่วนใหญ่รับได้ ถ้าจีนสามารถ master core 35 technology ทั้งหมดกว่า 3/4 ได้แค่นี้ผมว่า โลกตะวันตกก้อนอนไม่หลับแล้ว จำเป็นต้องหยุดจีนให้ได้ หรือไม่ก้อตัดขาดจีนออกจากการค้าโลก ไม่ฉะนั้น global wealth จะมีการไหลเข้าสู่จีน มากกว่าที่เห็นในปัจจุบัน
ผมแนบภาพกลุ่ม R&D จาก nature science index ปี 2020 จีนไม่เน้น healthcare ฉะนั้นไม่ต้องคาดหวังว่าจีนจะทำได้ดีในกลุ่มนี้
source: https://www.natureindex.com/country-outputs/generate/all/global

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
นี่ไง จีนยังทำไม่ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
จีน2021 ไล่ตามเทคโนโลยีฝรั่งมา100ปี เหลือเทคโนโลยีเหล่านี้ยังไม่ทัน
สิ้น2021
ตาม10ปีขึ้นไป
CPU fabrication
High end CNC
Precision industry
เกือบทัน ตามประมาณ5ปี
Jet engine&gas turbine
เครื่องบินพาณิชย์
เครื่องบินรบ
ทันแล้ว คือช้ากว่าในระดับR&D
เครื่องยนต์รถยนต์
Ultrahigh Voltage.ทันแล้ว ความมั่นใจ30%
CPU design
High speed train
รถเครน, รถแมคโคร, heavy press
AI, Drones
Electric vehicle, Power electronic
จรวดขนส่งสู่อวกาศและเทคโนโลยีอวกาศ
ปืนใหญ่, ปืนเล็ก, รถถัง, อาวุธสงคราม
นิวเคลียร์
Hypersonic missiles
เหนือกว่า
5G
Wind tunnel
นำหน้าสิบปีขึ้นไป
การถลุงแร่หายาก
ไม่รู้
เรือดำน้ำ