
🤑🤑🤑
เป็นหนัง Original Netflix ที่เปิดตัวได้แบบสุดปัง เมื่อทำสถิติเปิดตัววันแรกดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Netflix ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลก เพราะแค่ดาราสามคนที่มานำแสดงอย่าง Dwyane Johnson, Ryan Reynolds, และ Gal Gadot ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดแบบสุดยอดแล้ว บวกกับการที่หนังได้ทุนสร้างค่อนข้างมาก ก็เลยทำให้เป็นที่คาดหวังของนักดูหนังทั้งหลาย

🤑🤑🤑
เรื่องราวเล่าถึง หมายแดง หรือ Red Notice ที่ออกโดยตำรวจสากลเป็นหมายจับระดับโลกที่ใช้ตามล่าและจับกุมอาชญากรที่ทั้งโลกต้องการตัวมากที่สุด แต่เมื่อการปล้นอย่างอุกอาจทำให้สายลับตัวท็อปของเอฟบีไอ (ดเวย์น จอห์นสัน) และอาชญากรคู่อริ 2 คน (แกล กาด็อดและไรอัน เรย์โนลส์) ต้องโคจรมาเจอกัน งานนี้จะเกิดอะไรขึ้นต้องตามลุ้นกัน

🤑🤑🤑
ว่ากันตามตรงหนังค่อนข้างจะอยู่ใน Safe Zone แบบว่า save ตัวเองไม่ให้หลุดกรอบมากเกินไป เพื่อให้หนังสามารถดูได้ง่ายและเสพย์ความสนุกได้ง่าย ทำให้หนังเหมือนกับเอาสูตรหนังโจรกรรมเรื่องดังๆ มาประกอบรวมร่างกันไว้ในเรื่องนี้ จนออกมาเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูง ดาราตัวท็อปสามคนมานำแสดง และประเด็นเรื่องราวที่เราเคยเห็นมาจากหนังหลายๆ เรื่องมายำรวมๆ กันให้ดูเพลินแต่ไม่มีความแตกต่าง

🤑🤑🤑
ตัวประเด็นบางอย่างที่หนังใส่เข้ามา แทบจะไม่มีผลอะไรกับตัวหนังเลย เรื่องราวของ Red Notice ที่หนังอุตส่าห์เกริ่นมาตอนต้นเรื่อง เล่าเป็นบทความยื้ดยาว กลับไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับในหนังสักเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่องค์ประกอบแค่ฝุ่นผงที่บอกว่านี่คือหนังที่มีตัวละครเป็นนักโจรกรรมระดับที่ต้องออกหมายแดงเพื่อล่าตัว แค่นั้น แล้วก็ไม่ได้มีความหมายอะไรต่อจากนั้นจนเรื่องจบ

🤑🤑🤑
ตัวเรื่องราวของไข่ทองคำของคลีโอพัตราก็เช่นกัน ประเด็นนี้ควรจะเป็นประเด็นใหญ่ที่หนังน่าจะเกาะเอาไว้เพื่อเป็นแกนหลักของเรื่อง แต่หนังก็ไม่ได้จับประเด็นอะไรมากมาย กลับพาคนดูผจญภัยไปนั่นไปนี่ตลอดทั้งเรื่อง แล้วค่อยมาตามไข่กันในตอนท้ายเพื่อจบเรื่องราว แต่สุดท้ายแล้ว ดูยังไง ไข่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องอยู่ดี

🤑🤑🤑
ในส่วนของนักแสดง ตัว The Rock กับ Ryan Reynolds สำหรับผมถือว่าเป็นการรับบทที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ออกจะซ้ำซากด้วยซ้ำ กับบทตำรวจตัวล่ำของ The Rock และผู้ชายทะเล้นของ Ryan Reynolds ซึ่งทั้งสองคนเราเพิ่งได้เห็นบทบาทกันไปจาก Jungle Cruise และ Free Guy ซึ่งลักษณะท่าทางและมิติตัวละครไม่ได้แตกต่างจากเรื่องนี้ มีเพียง Gal Gadot คนเดียวที่ออกจะดูฉีกจากบทเดิมหน่อย แต่ก็ทำให้นึกไปถึงบท จีเซล ใน Fast and Furious ซะด้วยซ้ำ

🤑🤑🤑
พอดูจนจบ ส่วนตัวแล้วผมนึกถึงหนังโจรกรรมในยุคต้น 2000 หลายๆ เรื่อง ทั้ง National Treasures, Tomb Riders, Indiana Jones, Sahara และอีกหลายเรื่องที่มันก็จะมีบางฉากบางตอนของ Red Notice ทำใหเรานึกไปถึงหนังเหล่านั้น เพียงแต่ว่ามันคือยุคใหม่ที่เราได้ดูหนังพวกนั้นมามากมายหลายเรื่องแล้ว พอมาดูเรื่องนี้มันเลยกลายเป็นแค่หนังที่ดูเพลินๆ กับโปรดักชั่นเจ๋งๆ และดาราตัวบิ๊กๆ มารวมกัน แค่นั้นเอง
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Red Notice - หนังโจรกรรมแบบสูตรสำเร็จ ที่สนุกแบบไม่มีอะไรแปลกใหม่
🤑🤑🤑
เป็นหนัง Original Netflix ที่เปิดตัวได้แบบสุดปัง เมื่อทำสถิติเปิดตัววันแรกดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Netflix ซึ่งมันก็ไม่น่าแปลก เพราะแค่ดาราสามคนที่มานำแสดงอย่าง Dwyane Johnson, Ryan Reynolds, และ Gal Gadot ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็กที่มีแรงดึงดูดแบบสุดยอดแล้ว บวกกับการที่หนังได้ทุนสร้างค่อนข้างมาก ก็เลยทำให้เป็นที่คาดหวังของนักดูหนังทั้งหลาย
🤑🤑🤑
เรื่องราวเล่าถึง หมายแดง หรือ Red Notice ที่ออกโดยตำรวจสากลเป็นหมายจับระดับโลกที่ใช้ตามล่าและจับกุมอาชญากรที่ทั้งโลกต้องการตัวมากที่สุด แต่เมื่อการปล้นอย่างอุกอาจทำให้สายลับตัวท็อปของเอฟบีไอ (ดเวย์น จอห์นสัน) และอาชญากรคู่อริ 2 คน (แกล กาด็อดและไรอัน เรย์โนลส์) ต้องโคจรมาเจอกัน งานนี้จะเกิดอะไรขึ้นต้องตามลุ้นกัน
🤑🤑🤑
ว่ากันตามตรงหนังค่อนข้างจะอยู่ใน Safe Zone แบบว่า save ตัวเองไม่ให้หลุดกรอบมากเกินไป เพื่อให้หนังสามารถดูได้ง่ายและเสพย์ความสนุกได้ง่าย ทำให้หนังเหมือนกับเอาสูตรหนังโจรกรรมเรื่องดังๆ มาประกอบรวมร่างกันไว้ในเรื่องนี้ จนออกมาเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้างสูง ดาราตัวท็อปสามคนมานำแสดง และประเด็นเรื่องราวที่เราเคยเห็นมาจากหนังหลายๆ เรื่องมายำรวมๆ กันให้ดูเพลินแต่ไม่มีความแตกต่าง
🤑🤑🤑
ตัวประเด็นบางอย่างที่หนังใส่เข้ามา แทบจะไม่มีผลอะไรกับตัวหนังเลย เรื่องราวของ Red Notice ที่หนังอุตส่าห์เกริ่นมาตอนต้นเรื่อง เล่าเป็นบทความยื้ดยาว กลับไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับในหนังสักเท่าไหร่ เป็นเพียงแค่องค์ประกอบแค่ฝุ่นผงที่บอกว่านี่คือหนังที่มีตัวละครเป็นนักโจรกรรมระดับที่ต้องออกหมายแดงเพื่อล่าตัว แค่นั้น แล้วก็ไม่ได้มีความหมายอะไรต่อจากนั้นจนเรื่องจบ
🤑🤑🤑
ตัวเรื่องราวของไข่ทองคำของคลีโอพัตราก็เช่นกัน ประเด็นนี้ควรจะเป็นประเด็นใหญ่ที่หนังน่าจะเกาะเอาไว้เพื่อเป็นแกนหลักของเรื่อง แต่หนังก็ไม่ได้จับประเด็นอะไรมากมาย กลับพาคนดูผจญภัยไปนั่นไปนี่ตลอดทั้งเรื่อง แล้วค่อยมาตามไข่กันในตอนท้ายเพื่อจบเรื่องราว แต่สุดท้ายแล้ว ดูยังไง ไข่ ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเนื้อเรื่องอยู่ดี
🤑🤑🤑
ในส่วนของนักแสดง ตัว The Rock กับ Ryan Reynolds สำหรับผมถือว่าเป็นการรับบทที่ไม่มีอะไรแปลกใหม่เลย ออกจะซ้ำซากด้วยซ้ำ กับบทตำรวจตัวล่ำของ The Rock และผู้ชายทะเล้นของ Ryan Reynolds ซึ่งทั้งสองคนเราเพิ่งได้เห็นบทบาทกันไปจาก Jungle Cruise และ Free Guy ซึ่งลักษณะท่าทางและมิติตัวละครไม่ได้แตกต่างจากเรื่องนี้ มีเพียง Gal Gadot คนเดียวที่ออกจะดูฉีกจากบทเดิมหน่อย แต่ก็ทำให้นึกไปถึงบท จีเซล ใน Fast and Furious ซะด้วยซ้ำ
🤑🤑🤑
พอดูจนจบ ส่วนตัวแล้วผมนึกถึงหนังโจรกรรมในยุคต้น 2000 หลายๆ เรื่อง ทั้ง National Treasures, Tomb Riders, Indiana Jones, Sahara และอีกหลายเรื่องที่มันก็จะมีบางฉากบางตอนของ Red Notice ทำใหเรานึกไปถึงหนังเหล่านั้น เพียงแต่ว่ามันคือยุคใหม่ที่เราได้ดูหนังพวกนั้นมามากมายหลายเรื่องแล้ว พอมาดูเรื่องนี้มันเลยกลายเป็นแค่หนังที่ดูเพลินๆ กับโปรดักชั่นเจ๋งๆ และดาราตัวบิ๊กๆ มารวมกัน แค่นั้นเอง
ชอบอ่านรีวิวหนัง แวะมาพูดคุยกันได้นะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้