ถ้านกเกาะสายไฟของรถไฟฟ้าเเบบระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัวจะโดนไฟดูดไหมครับ

คลิปนี้ อธิบายได้ดี

ร่างกายของสิ่งมีชีวิต ถือว่าเป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้าอย่างนึง

หากเราร่างกายของเรา จับสายไฟฟ้าเส้นนึง แต่เท้าเราเหยียบอยู่บนพื้น
กระแสไฟฟ้าที่ เข้ามาอยู่ในตัวเราแล้ว แม้ว่าเราจะไม่รู้สึกตัวก็ตาม
แต่เมื่อไหร่ที่ ตัวเรานั้น สื่อนำไฟฟ้าอีกเส้นนึง หรือเอาเท้าแตะพื้นดินโดยตรง
ความต่างศักดิ์ของกระแสไฟฟ้าจะเล่นงานเราทันที

เคยเห็นหลอดไฟกลมๆใสๆไหม?
จะมีขา 2 ขา ยื่นอยู่ข้างใน แล้วมีเส้นที่เชื่อมระหว่างทั้ง 2 ข้าง
ขาทั้งสองข้าง มีค่าความต่างศักย์ อยู่
เมื่อเปิดไฟแล้วส่งกระแสไฟฟ้ามา
เส้นที่เชื่อมระหว่าง สองขานั้น จึงเกิดแสงไฟขึ้นมา
เป็นดวงไฟที่เราใช้กัน

ฉะนั้น นก เกาะสายไฟฟ้า 1 เส้น กระแสไฟฟ้าก็ไหลเข้ามาในตัวนกแล้ว
แต่มันจะอันตรายใดๆขึ้น ถ้าหากขาอีกข้างนึงมันไม่ได้พัดไว้กับสายไฟฟ้าอีกเส้นนึง

เช่นเดียวกัน คนที่กำลังประกอบคอมพิวเตอร์ ที่เคสคอมพิวเตอร์ เป็นเหล็ก
หากคอมพิวเตอร์เสียบปลั๊กเปิดอยู่ เขาจะต้องหารองเท้า ที่ป้องกันเท้าของเขานั้น สัมผัสกับพื้นโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพื้นดิน พื้นปูน พื้นไม้ ที่มันเชื่อมกับพื้นดิน ก็ไม่ได้สัมผัสโดยตรง
ไฟฟ้าอ่อนๆ อยู่ในตัวเขานั่นแหละ แต่มันไม่ครบวงจร จึงไม่โดนช็อตตัวเขานั่นเอง


ดังนั้น จากคลิปดังกล่าวนี้
คนที่อยู่บนรถนั้น จะไม่โดนช็อต หากแต่ว่า มีฉนวนมากันไฟฟ้า ให้เกิด ลัดวงจรขึ้นมาได้
ในคลิปก็บอกอยู่ว่า คนแรก กระโดดเลย ปล่อยมือจาก สื่อนำประแสไฟฟ้า นั่นคือประตูเหล็กของรถไปแล้ว
แต่ว่าอีกคน มือข้างนึงก็จับเหล็กที่รถอยู่ แล้วเอาขาอีกข้างนึงไปแตะพื้นทันทีเลย ไฟฟ้าจึงเกิดลัดวงจรขึ้น

แล้วทำไมรถ ก็อยู่บนถนน เหมือนกัน รถถึงไม่ลัดวงจร
ก็เพราะล้อยางรถ มันไม่ใช่เหล็กนี่นา มันไม่นำไฟฟ้า

แล้วสายไฟฟ้าเหล่านี้ เขาก็คิดมาแล้วว่า
แต่ละขั้ว จะไม่ได้อยู่ใกล้ๆกัน
นกจะโดนช็อตได้ นกนั้น ต้องขายาวมากๆ ยาวจนไปแตะอีกเส้นได้