การทำกายภาพบำบัดในผู้ป่วยหมอนรองกระดูกคอเสื่อม

ในผู้ที่อายุมากและผ่านการใช้งานคอมานานจะมีการเสื่อมของข้อต่างๆบริเวณคอเกิดขึ้นเช่นเดียวกับข้อต่อบริเวณอื่นๆ
ในร่างกาย โดยเริ่มจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูก ซึ่งพบว่าในระยะเริ่มต้นจะมีการแห้งของเจลที่อยู่ในหมอนรองกระดูก
ร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโปรตีนที่มีส่วนช่วยในการกระจายแรงของหมอนรองกระดูก
ทำให้กระดูกต้องรับแรงกระทำมากขึ้น เกิดการฉีกขาดของโครงสร้างและผิวข้อต่อถูกทำลาย ทำให้ความมั่นคงของข้อต่อลดลง
และความเว้าของแนวกระดูกสันหลังช่วงคอลดลง

        อาการและอาการแสดง
                ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการปวดบริเวณคอ โดยไม่สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างแน่ชัด ในผู้ป่วยบางรายจะไม่มีอาการปวดคอ
แต่จะปวดบริเวณท้ายทอย หัวไหล่ หรือทรวงอกทางด้านหน้า  อาการปวดมักจะเป็นมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวและอาการจะลดเมื่อพัก  
                ซึ่งอาการที่มักจะมีร่วมกับการปวดคอ ได้แก่ ปวดศีรษะ ปวดร้าวไปหัวไหล่และแขน เวียนศีรษะ
ซึ่งจะส่งผลให้การทำงานของกล้ามเนื้อระดับคอ  สะบัก ไหล่ และหลังส่วนอก มีความบกพร่อง
                จากสาเหตุดังกล่าวพบว่าในคนไข้บางรายมีการจำกัดการเคลื่อนไหว, กล้ามเนื้อคอ สะบัก และไหล่ เกิดการฝ่อลีบ
อ่อนแรงและมีอาการล้า โดยลักษณะที่สังเกตได้ในผู้ป่วยที่ปวดคอได้แก่ มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของกระดูกสันหลังส่วนคอ
มีจุดกดเจ็บบริเวณคอและบ่ารวมไปถึงสะบัก ในรายที่มีอาการมากๆจะมีอาการชาบริเวณแขนร่วมด้วย รวมไปถึงการทรงท่าที่ผิดปกติของคอ
เช่นคอยื่นไปข้างหน้า เป็นต้น

         การรักษาทางกายภาพบำบัด
                    1. ใส่ปลอกดามคอ เพื่อจำกัดการเคลื่อนในรายที่มีอาการปวดมากๆ
                    2. ลดอาการปวดและจุดกดเจ็บโดยการใช้อัลตร้าซาวด์, การวางแผ่นร้อน, การใช้กระแสไฟฟ้าหรือใช้เทคนิคการติดเทปลดปวด
                    3. ลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อและเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อโดยการใช้ manual technique
                    4. ออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
                    5. การใช้เครื่องดึงคอเพื่อลดการกดทับของเส้นประสาทคอ
                    6. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปรับท่าทางให้ถูกต้อง

บทความโดย ฟิสิคอลคลินิกกายภาพบำบัด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่