ทำยังไงถ้าพ่อมีนิสัยแบบนี้

ท้าวความก่อนเลยว่ากระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาว่าร้ายผู้มีพระคุณ แต่อยากได้รับคำแนะนำในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็เท่านั้น เริ่มจากสมัยตอนเป็นเด็กๆเรามักจะถูกพ่อทำร้ายเสมอ เช่น เทอมไหนเรียนไม่ดีเกรดตกก็จะโดนกระทืบ และขนข้าวของออกไปโยนหน้าบ้านไล่ให้ไปอยู่ที่อื่นจะไปไหนก็ไป ทั้งๆที่ความจริงแล้วตอนที่พ่อกับแม่เราเลิกกันแม่พยายามจะเอาเราไปด้วยแต่ถูกพ่อขวางเอาไว้ทุกทาง พาไปไหนก็จะไปตามกลับมาจนได้ จนเมื่อโตขึ้นมาสมัยมัธยมพ่อก็ได้แต่งงานใหม่แล้วมีลูกอีกคนนึง หลังจากวันนั้นมันทำให้เราเข้มแข็งขึ้นมาก เพราะพ่อแทบไม่เคยทำหน้าที่พ่ออีกเลย สมุดพกใบเกรดก็ไม่เคยดูอีก เงินไปรร.ก็ไม่ให้เพราะรู้ว่าแม่แอบโอนตังให้เราใช้แล้ว ตอนเช้าจะไปรร.กี่โมง ตอนเย็นมีกิจกรรมจะกลับดึกไม่มีรถกลับไม่เคยสนใจ เราเลยได้เดินจากบ้านไปขึ้นรถสองแถวระยะทางประมาณ4-5โลประจำ แล้วมีวันหนึ่งพ่อมาถามเราเรื่องจะขายบ้านที่พ่อกับแม่เราเคยซื้อไว้ด้วยกัน โดยอ้างกับเราว่าอยากได้มั้ยรถพ่อจะซื้อแล้วขับไปส่งที่รร. อยากได้อะไรก็จะได้ซื้อ ด้วยความที่ตอนนั้นเราไม่ทันคิดจึงตอบตกลงไปแต่พอขายไปแล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม เราเคยแอบดูเงินในบัญชีพ่อก็ไม่เหลือแล้ว แต่เราก็ไม่ได้ถามว่าเงินไปไหนหมดเพราะรู้ว่ายังไงพ่อก็ต้องโกหก และเรื่องราวทั้งหมดก็เงียบไปช่วงที่เราไปเรียนมหาลัยและอยู่หอพักซะส่วนใหญ่ ตอนนี้พ่อก็ได้เลิกกับเมียใหม่โดยที่เมียใหม่หอบลูกหนีไปแล้วไม่ได้เจอหน้ากันอีก คงไม่ต้องถามว่าเป็นเพราะอะไรเพราะเรื่องราวมันซ้ำรอยเดิมกับเรา จนเมื่อจบมหาลัยเราได้กลับมาอยู่บ้านอีกครั้งก็ทวงสัญญาที่พ่อเคยให้ไว้ว่าจะซื้อรถให้ แต่ผลปรากฎว่าพ่อกลับคำ ด้วยความที่ตอนนี้โตแล้วจึงกล้าพูดกล้าอะไรที่ตอนเด็กๆไม่เคยกล้า จนพ่อตอบตกลงจะซื้อให้อย่างไม่เต็มใจ วันรับรถนัดเซลล์ไว้9โมง จะถึงเวลาอยู่แล้วพ่อยังนั่งเฉยๆไม่แต่งตัวไม่ทำอะไรทั้งสิ้น จนเราต้องถามว่าจะไปกี่โมงถึงจะลุกแล้วทำเหวี่ยงๆใส่ จนรับรถเสร็จพ่อก็ไปโพทนาให้คนแถวบ้านฟังว่าออกรถให้ลูก บอกญาติไปต่างๆนา ซึ่งช่วงนั้นเรากำลังรอใบจบออกจึงคิดจะหาอะไรทำไปพลางๆเอามาจ่ายค่างวด เราก็เลยจะไปเริ่มต้นขายของกับเพื่อน แต่พ่อก็ดันขวางทุกวิถีทางยังไงก็ไม่ให้ไป บอกว่าไปไม่รอดหรอกจะขายได้ยังไง เดี๋ยวก็โดนหลอก แต่เราก็ยืนยันที่จะไปจนในที่สุดวันที่เราไปพ่อก็พูดกับเรามาคำนึงว่า "จะไปไหนก็ไปไม่ต้องมายุ่งกับกู" จุกพูดไม่ออก นี่หรือคำอวยพรของคนเป็นพ่อ หลังจากวันนั้นมาเราก็ไม่อยากคุยกับพ่ออีกเลย ค่างวดรถเราก็จะจ่ายเองเพราะรู้นิสัยพอดีแต่พ่อก็ไม่ยอมให้จ่ายเราพูดยังไงเค้าก็ไม่ยอม จนญาติๆโทรมาบอกว่าพ่อเอาเราไปว่าให้ญาติๆฟังว่าซื้อรถแล้วกูก็ต้องมาจ่ายให้มันลูกทรพี ญาติทุกคนพูดตรงกันหมด  เราโกรธมากจนพ่อโทรมาจึงถามไปตรงๆเลยว่าพูดทำไม แต่พ่อก็โกหกว่าไม่ได้พูด มาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราเชื่อญาติมากกว่าพ่อตนเอง นั่นก็เป็นเพราะเรารู้จักนิสัยพ่อเรายังไงละ เรื่องนี้ทำให้ทะเลาะกันยกใหญ่จนหวนคิดถึงเรื่องราวในอดีตอีกมากที่เราถูกกระทำมา จนวันนี้5 ธันวาเกือบเดือนแล้วที่ไม่ได้คุยกับพ่อไม่ได้กลับบ้านเลย อีกใจก็อยากโทรไป แต่อีกใจก็อยากให้เค้ารู้ตัวบ้างว่าเค้าทำผิดอะไรทุกอย่างและทุกคนจึงได้หนีจากเค้าไปกันหมด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่