...ในบางเวลา ที่ จู่ๆ ในจิตก็เกิดมีอาการ ร้อน หรือ ฟุ้งซ่าน หรือ ซึมเศร้าหมดกำลัง...ฯลฯ โผล่ขึ้นมาเองโดยไม่ได้รับเชิญ.. ก่อให้เกิดความทุกข์โทมนัสขึ้นมา.../ นั่นก็เป็นเพราะ อกุศลวิบาก หรือกิเลสต่างๆ ที่สะสมเก็บไว้ในจิต มันกำลังเริ่มปรุงแต่งส่งผลออกมา โดยจิตไม่ได้มีเจตนาจะทำ แต่มันโผล่ออกมาเอง จากที่เคยเก็บสะสมไว้ก่อนหน้านั้น....อาการแบบนี้ สติปัญญา จะเหลือน้อยหรือไม่มี ...วิธีแก้ในตอนนั้น คือ ต้องระวังใรระวังตัวอย่างสุดๆ อย่าไปคิดอะไร อย่าไปพูดอะไร อย่าไปทำอะไร เพราะ จะทำให้เกิด การคิดผิดๆมีทัศนคติที่ผิดๆ หรือ พูดผิดๆ ทำผิดๆ ก่อเรื่องก่อราว ก่อปัญหาต่างๆขึ้นมาสารพัด ยิ่งจะเพิ่มทุกข์หนักมากขึ้นไปอีก.. ถ้าหนักมากๆก็จะย่ำแย่เลย อาจจะถึงตายหรือสูญเสียอะไรมากมาย... / วิธีแก้ ในภาวะแบบนั้น คือ. ให้หลบหลีกปลีกตัวห่างจากทุกๆคน อยู่เงียบๆ อย่าไปนึกไปพูดหรือไปทำอะไรโดยเด็ดขาด แต่ให้ฝึกกำหนดจิตภาวนาไปเรื่อยๆ พยายามกำหนดจิตให้เป็นกลางวางเฉยให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้(บางทีอาจจะใช้เวลาหลายๆวัน) จนกว่าภาวะย่ำแย่ในจิตนั้นจางหายไป จิตกลับคืนปกติ จึงค่อยกลับคืนติดต่อสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ดำรงชีวิตได้ตามปกติ ปัญหาอะไรก็ไม่เกิด ... คล้ายๆดำดิ่งลงไปใต้น้ำชั่วคราว แล้วโผล่คืนกลับมา
ถ้าบางโอกาส จิตใจเกิดมีอาการทุกข์ร้อนต่างๆขึ้นมาเอง.. เช่น ซึมเศร้า เหี่ยวเฉา หม่นหมอง..ฯลฯ / มีวิธีแก้ ดังนี้..