เย้...และแล้ว การเกี่ยวข้าว
ในนาก็สิ้นสุดเสียที
ปีนี้ค่อนข้างหารถยากนิด
หน่อยครับ แต่ก็จบลงด้วยดี
แล้วในวันนี้
โล่งมาก
ตัวก็โล่ง ใจก็โล่ง
ท้องนาก็โล่ง งุงิ😁
คงเป็นธรรมชาติของคน
ละมังครับที่ พอมุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว เมื่อไม่เป็นตาม
สเปคที่ตั้งไว้ก็จะแอบเซ็ง
แต่...ช่างเถอะ..ผ่านไปแล้ว
ปีนี้ได้ข้าวมากกว่า
ปีก่อนนิดหน่อย
เพราะน้ำค่อนข้างดี ประกอบกับ คันนาไม่ขาด
หญ้าน้อย แถมข้าวรวงใหญ่
ด้วย คงเพราะปุ๋ยคอกที่
ผมหว่านตอนช่วงก่อนไถดะด้วยส่วนหนึ่ง
แต่...อย่าเพิ่งดีใจไป(บอกตัวเอง)เพราะ ยังต้องตากข้าวอีกหลายแดดอยู่
และคนที่จะต้องนำข้าวออกตากก็คือผม
คืนนี้เป็นคืนแรกที่...ผมจะต้องลงไปนอนเฝ้าข้าว
จริงๆแถวบ้านผมก็ยังไม่เคยมีคดีลักขโมยเกิดขึ้น
หรอกครับ แต่เพื่อความ
สบายใจและเป็นการไม่ประมาท การเฝ้าจึงเป็น
ทางออกที่ดีที่สุด
คนที่ถูกลงมติว่าต้องทำหน้าที่นี้ก็คือผมครับ
ดังนั้นผมก็เลยต้องหอบเต็นท์กับหมอนและผ้าห่ม
ไปท้องนา
กลับมาอาบน้ำ
กินข้าวแล้วก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์คุณแก่กลับ
เต็นท์พร้อมมันเทศสิบกว่า
หัว
ก่อกองไฟไว้พออุ่นใจ
จากนั้นก็เอามันเทศไปซุกๆ
ไว้ กะจะกินเป็นของหวาน😄
ปีนี้ลมหนาวมาเร็วมากครับ
ที่บ้านผมอากาศเปลี่ยน
ร่วมๆสองอาทิตย์แล้ว
อ้อ..ลืมเล่าไปครับ..
ที่บ้านผมยังมีหมาจิ้งจอก
อยู่นะครับ เมื่อคืนก่อนเขา
หอนด้วย แอบดีใจครับ
แต่ก็แอบกลัวด้วย ตอนเด็ก
ได้ยินเสียงเขาครั้งแรก
ถึงกะคลุมโปงเลยครับ
เสียงเขาต่างจากหมาบ้าน
ค่อนข้างมากเหมือนกัน
เคยเห็นเขาไกลๆครั้งหนึ่ง
ที่รู้เพราะพวงหางเขานี่แหละ
จริงๆผมมีเถียงนาด้วยนะ
มีประตูปิดค่อนข้างมิดชิดดีอยู่แต่นายแม่บอกว่ากลาง
คืนลมแรงก็เลยให้เอาเต็นท์
มาด้วย
ถัดไปทางซ้ายประมาณ
ยี่สิบเมตรเป็นคลองหลอด
เล็กๆและ..ตอนนี้ผมก็กำลังจ้องหิ่งห้อยหก-เจ็ดตัวที่กำลังส่องแสงวูบๆวาบๆ
อยู่ทางโน้นทางนี้ จริงๆ
แถวนี้หิ่งห้อยเยอะครับ
แต่วันนี้คงยังไม่ตื่นนอน
หรือไงไม่ทราบเลยเห็นแค่นี้
นี่ถ้าเห็นพระจันทร์สักหน่อยคงโรแมนติกกว่านี้หลายเท่า แต่เอาเถอะ ดูดาวแทนก็ได้โน้ะ สวยไม่แพ้กันหรอก โดยเฉพาะดาว
ประจำเมือง คืนนี้สุกใสเป็น
พิเศษ สวยมากจริงๆครับ
เอาละ ผมขอจัดการมันเผา
ก่อนดีกว่า เริ่มมีลมพัดเอื่อยๆมาแล้ว เดี๋ยวจะได้
แปรงฟันแล้วไปนอนฟังเพลงในเต็นท์ อะไรก็ดีไป
หมดแหละ ยกเว้นยุงเนี่ย
ครับ เยอะเกิ๊น...
บ๊าย-บายครับ คืนนี้ผมจะ
ฝันดีเผื่อทุกคนเลย
ขอเข้าพื้นที่ปลอดภัยก่อน
นะครับ กลัวหมาจอกง่ะแฮ่
ลมหนาว หิ่งห้อยและมันเผา
ในนาก็สิ้นสุดเสียที
ปีนี้ค่อนข้างหารถยากนิด
หน่อยครับ แต่ก็จบลงด้วยดี
แล้วในวันนี้
โล่งมาก
ตัวก็โล่ง ใจก็โล่ง
ท้องนาก็โล่ง งุงิ😁
คงเป็นธรรมชาติของคน
ละมังครับที่ พอมุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว เมื่อไม่เป็นตาม
สเปคที่ตั้งไว้ก็จะแอบเซ็ง
แต่...ช่างเถอะ..ผ่านไปแล้ว
ปีนี้ได้ข้าวมากกว่า
ปีก่อนนิดหน่อย
เพราะน้ำค่อนข้างดี ประกอบกับ คันนาไม่ขาด
หญ้าน้อย แถมข้าวรวงใหญ่
ด้วย คงเพราะปุ๋ยคอกที่
ผมหว่านตอนช่วงก่อนไถดะด้วยส่วนหนึ่ง
แต่...อย่าเพิ่งดีใจไป(บอกตัวเอง)เพราะ ยังต้องตากข้าวอีกหลายแดดอยู่
และคนที่จะต้องนำข้าวออกตากก็คือผม
คืนนี้เป็นคืนแรกที่...ผมจะต้องลงไปนอนเฝ้าข้าว
จริงๆแถวบ้านผมก็ยังไม่เคยมีคดีลักขโมยเกิดขึ้น
หรอกครับ แต่เพื่อความ
สบายใจและเป็นการไม่ประมาท การเฝ้าจึงเป็น
ทางออกที่ดีที่สุด
คนที่ถูกลงมติว่าต้องทำหน้าที่นี้ก็คือผมครับ
ดังนั้นผมก็เลยต้องหอบเต็นท์กับหมอนและผ้าห่ม
ไปท้องนา
กลับมาอาบน้ำ
กินข้าวแล้วก็ซิ่งมอเตอร์ไซค์คุณแก่กลับ
เต็นท์พร้อมมันเทศสิบกว่า
หัว
ก่อกองไฟไว้พออุ่นใจ
จากนั้นก็เอามันเทศไปซุกๆ
ไว้ กะจะกินเป็นของหวาน😄
ปีนี้ลมหนาวมาเร็วมากครับ
ที่บ้านผมอากาศเปลี่ยน
ร่วมๆสองอาทิตย์แล้ว
อ้อ..ลืมเล่าไปครับ..
ที่บ้านผมยังมีหมาจิ้งจอก
อยู่นะครับ เมื่อคืนก่อนเขา
หอนด้วย แอบดีใจครับ
แต่ก็แอบกลัวด้วย ตอนเด็ก
ได้ยินเสียงเขาครั้งแรก
ถึงกะคลุมโปงเลยครับ
เสียงเขาต่างจากหมาบ้าน
ค่อนข้างมากเหมือนกัน
เคยเห็นเขาไกลๆครั้งหนึ่ง
ที่รู้เพราะพวงหางเขานี่แหละ
จริงๆผมมีเถียงนาด้วยนะ
มีประตูปิดค่อนข้างมิดชิดดีอยู่แต่นายแม่บอกว่ากลาง
คืนลมแรงก็เลยให้เอาเต็นท์
มาด้วย
ถัดไปทางซ้ายประมาณ
ยี่สิบเมตรเป็นคลองหลอด
เล็กๆและ..ตอนนี้ผมก็กำลังจ้องหิ่งห้อยหก-เจ็ดตัวที่กำลังส่องแสงวูบๆวาบๆ
อยู่ทางโน้นทางนี้ จริงๆ
แถวนี้หิ่งห้อยเยอะครับ
แต่วันนี้คงยังไม่ตื่นนอน
หรือไงไม่ทราบเลยเห็นแค่นี้
นี่ถ้าเห็นพระจันทร์สักหน่อยคงโรแมนติกกว่านี้หลายเท่า แต่เอาเถอะ ดูดาวแทนก็ได้โน้ะ สวยไม่แพ้กันหรอก โดยเฉพาะดาว
ประจำเมือง คืนนี้สุกใสเป็น
พิเศษ สวยมากจริงๆครับ
เอาละ ผมขอจัดการมันเผา
ก่อนดีกว่า เริ่มมีลมพัดเอื่อยๆมาแล้ว เดี๋ยวจะได้
แปรงฟันแล้วไปนอนฟังเพลงในเต็นท์ อะไรก็ดีไป
หมดแหละ ยกเว้นยุงเนี่ย
ครับ เยอะเกิ๊น...
บ๊าย-บายครับ คืนนี้ผมจะ
ฝันดีเผื่อทุกคนเลย
ขอเข้าพื้นที่ปลอดภัยก่อน
นะครับ กลัวหมาจอกง่ะแฮ่