[CR] รีวิว Macbook Pro 16 สเปก M1 Pro ความแรงระดับเทพ จอ 120Hz พร้อมพอร์ตที่คุ้นเคย !


 
Macbook ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์พกพาที่ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะสายทำงานหนักๆหรือสายโปรแกรมเมอร์ ออกแบบ ตัดต่อ แน่นอนว่าใช้งานค่ายนี้กันเยอะมากเช่นกัน ด้วยการทำงานที่แรงโหด ระบบที่ลื่นไหลทำให้หลายๆคนยังคงติดใจและใช้งาน Macbook กันหลากหลายมากกว่าเดิมและตัวผมเองก็เช่นกันจริงๆหลังจากที่ใช้งาน Macbook Pro 2013 มานานมากๆทำงานเป็นเครื่องหลักเวลาออกไปนอกสถานที่ และก็เฝ้ารอวันที่ Macbook จะมี SDXC และพอร์ตต่างๆกลับมา และจนมาถึงปี 2021 นี้ทาง Apple ได้เอากลับมาทั้งหมดทำให้พอร์ตภาพรวมไม่ต่างกับ ปี 2013 ที่ใช้อยู่ จึงถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนขยับมาเป็นรุ่นใหม่และบอกเลยว่าแรงขึ้นมากๆและทุกๆด้านมีการพัฒนาเลยจะมาเล่ารีวิวในมุมมองการใช้งานจริงเทียบกับการขยับจากรุ่นปี 2013 ในรีวิวนี้กันครับ
 

 
MacBook Pro รุ่นใหม่นี้มีการพัฒนาใช้งาน ชิป Apple M1 Pro รุ่น CPU 10-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 8 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 16-core, ทั้งสองรุ่นมี Neural Engine 16-core, แบนด์วิดท์ความจำ 200GB/s  พร้อม หน้าจอ Liquid Retina XDR mini-LED แบบเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro ให้เลือกสองขนาดคือ 14.2 นิ้วและ 16.2 นิ้ว ที่มีความสว่างแบบเต็มจอเฉลี่ย 1,000nits รวมทั้งมาพร้อม P3 wide colour gamut และรองรับการแสดงสี 1 พันล้านสี ฟีเจอร์ ProMotion ที่มีรีเฟรชเรทแบบปรับได้อัตโนมัติสูงสุด 120Hz เพื่อประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ตัวหน้าจอยังมีรอยบากบริเวณขอบบนของหน้าจอที่เป็นที่อยู่ของกล้อง FaceTime HD 1080p บอดี้ตัวเครื่องทำจากอลูมิเนียมที่มีการปรับแต่งภายในให้มีพื้นที่เอื้อต่อประสิทธิภาพและฟีเจอร์ที่มากขึ้น รวมทั้งมีระบบระบายความร้อนที่อากาศถ่ายเทได้ดีกว่ารุ่นก่อนหน้า 50% MacBook Pro รุ่นใหม่มาพร้อม Magic Keyboard สีดำแบบ double-anodised ที่มีแสง backlit อยู่ในปุ่มคีย์บอร์ด รวมทั้งมีปุ่ม escape ที่ใหญ่ขึ้น และไม่มี Torch Bar แล้ว นอกจากนั้นตัวแล็บท็อปยังมาพร้อมแทร็คแพด Force Touch และช่องใส่ SDXC card, พอร์ต HDMI และพอร์ต MagSafe ที่สามารถชาร์จแบต 50% ได้ในเวลา 30 นาที
 

 

 
เรียกได้ว่าเป็น Mac ที่กลับมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบ และสเปกที่แรงที่สุดเท่าที่เคยทำมากันเลยนั้นเองครับ และมีให้เลือกโดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่
 
- 73,900 บาท ในรุ่น 14 นิ้ว – ชิป M1 Pro CPU 8-Core, 512GB SSD
- 89,900 บาท ในรุ่น 14 นิ้ว – ชิป M1 Pro CPU 10-Core, 1TB SSD
- 89,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิป M1 Pro CPU 10-Core, 512GB SSD
- 96,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิป M1 Pro CPU 10-Core, 1TB SSD
- 124,900 บาท ในรุ่น 16 นิ้ว – ชิป M1 Max CPU 10-Core, 1TB SSD
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องเองนั้นแน่นอนว่ายังคงมีรูปตัวเครื่องเป็นมาตรฐานแต่ละครั้งก็มีการวางหมุนซ้ายขวา ขอบเครื่องกันไปบ้าง และครั้งนี้มาเป็นด้านหน้าตรงที่องศาหน้าจอจะตั้งตรงมากกว่ารุ่นก่อนๆพร้อมกับสีตามตัวเครื่องเป็นสีเงินนั้นเอง ตัวกล่องเน้นขนาดพอดีกับตัวเครื่องเป๊ะๆและมีอุปกรณ์พร้อมใช้งาน เน้นการรักษ์โลกมากขึ้น วัสดุหุ้มทุกอย่างเป็นกระดาษไม่มีพลาสติกหุ้มในกล่องเลยแม้แต่น้อย แต่ซีลรอบกล่องข้างนอกยังคงมีพลาสติกบางๆใส่เข้ามาให้เหมือนเดิม
 

 

 

 
เมื่อแกะข้างในเราจะเห็นว่าสาย Magsafe 3 แบบใหม่ได้สายแบบสายถักสีขาวสวยงาม และมีความยาว 2 เมตรส่วนทางด้านหัวชาร์จได้แบบ USB-C ที่ต้องบอกว่าเป็นตัวที่กำลังไฟเยอะที่สุดเท่าที่เคยทำมา 140W และขนาดไม่ได้ใหญ่มากกว่าเดิมเท่าไรแต่กำลังไฟโหดขึ้นเท่าตัวที่สามารถชาร์จแบต 50% ได้ในเวลา 30 นาที โหดมากๆครับจุดนี้
 
- ตัวเครื่อง Macbook Pro 16
- สายชาร์จแบบสายถัก Magsafe 3 ไป USB-C
- Adaptor 140W USB-C
- คู่มือการใช้งาน
- สติกเกอร์ Apple สีดำ 2 ชิ้น
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบแน่นอนว่ายังคงมีเอกลักษณ์ในหลายๆส่วนแต่ถ้ามองกันดีๆมีการเปลี่ยนแปลงชัดเจนในเรื่องของขอบเครื่องที่มีความตัดขอบตรงมากกว่าเดิมทำให้ฝาหลัง และ ฐานเครื่องเป็นแนวราบมากกว่าเดิม แต่เราจะได้งานออกแบบที่ย้อนยุคไปยัง เจนแรกของ Macbook Pro เลยทีเดียวทำให้ตัวเครื่องดูหนาตันมากกว่าเดิม แม้จริงๆแล้วถ้าเทียบกับตัว 15 นิ้ว 2013 หรือ 16 นิ้วก็ไม่ได้หนากว่าเดิมเท่าไรนักต่างกันแค่ 1 มิล และหนักกว่า 100 กรัมเท่านั้น แต่เส้นสายการออกแบบถือว่ามีผลพอสมควรในตัวเครื่องรอบนี้ทำให้มันดูตันๆหนาๆ แต่เมื่อเปิดข้างในนั้นจะเห็นขอบหน้าจอที่บางมาก และติ่งหน้าจอ รวมถึงการออกแบบข้างในที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของทางค่ายนี้ได้ลงตัว
 

 

 

 
ตัวเครื่องภาพรวมถ้ามองเทียบกับรุ่นที่ขยับมาบอกเลยว่าไม่มีความแตกต่างในแง่ของความรู้สึก น้ำหนัก ขนาดของตัวบอดี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรือปรับตัวมากนัก และความหนักใหญ่ในการพกพาเองนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย แต่เราจะได้ขนาดหน้าจอใหญ่กว่าเดิมในขนาดที่เท่าเดิมจุดนี้ถือว่าดี วัสดุงานประกอบ ความแข็งแรงไว้ใจได้และด้านในเปลี่ยนบริเวณแป้นคีย์บอร์ดเป็นสีดำล้วนทั้งหมดเป็นจุดที่แตกต่างกันหลักๆ และโลโก้ด้านหลังใหญ่ขึ้นแต่น่าเสียดายไม่มีไฟข้างหลังมาให้แล้ว และที่ชอบคือ Touchpad เองนั้นขนาดใหญ่มากสะใจและใช้งานได้จริง สะดวกเวลาพกพา
 

 

 

 
ขอบหน้าจอบางขึ้น เต็มตามากกว่าเดิมแต่ก็จะแลกมากับติ่งหน้าจอ แน่นอนว่าส่วนนี้ส่วนตัวในการใช้งานจริงไม่เจอปัญหาอะไร เมื่อเข้าแอปอื่นๆก็จะเป็นการบังแถบข้างบนไปในตัว และหลายๆแอปก็สามารถใช้งานข้างๆ เป็นเมนูต่างๆได้แบบสบายๆ แต่อาจจะขัดใจแค่ว่าไม่มีสแกนใบหน้ามาให้แม้จะมีพื้นที่ติ่งเยอะพอสมควร และขอบด้านบนจะเป็นแบบโค้งมนตามหน้าจอ แต่ขอบล่างหน้าจอนั้นกลายเป็นแบบตัดเลี่ยมคมทำให้ขอบบนและล่างทำมุมคนละแบบกันและจะไม่มีโลโก้ Macbook Pro ใส่เข้ามาให้แล้วนะครับ แต่การออกแบบขอบหน้าจอช่องระบายความร้อนทำได้ดีเช่นเดิมยิงออกด้านหลัง 3 ช่องพร้อมกับการดูดอากาศจากขอบซ้าย และ ขวาม เรียกได้ว่าจัดการได้ดีมาก
 

 

 
ข้อพับบานพับต่างๆนั้นซ่อนได้เนียนเปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อนๆในแง่ของการออกแบบข้อพับต่างๆเล็กน้อยมีความแข็งแรง และสามารถเปิดด้วยมือเดียวได้แบบสบายๆเช่นเดิมเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ เรียกได้ว่าระยะห่างต่างๆในแต่ละงานประกอบทำได้เป๊ะมากๆในแง่ของการออกแบบเวลาใช้งานรวมถึงความแน่นต่างๆถือว่าทำได้ดีเช่นกันครับตัวนี้
 

 

 

 
ช่องดูดอากาศ Macbook เองใช้งานแนวนี้มาหลากหลายรุ่นในการใส่ไว้ขอบข้างเครื่องซ้าย และ ขวาครับ แทนที่จะเป็นด้านล่างแบบคอมพิวเตอร์ทั่วไปแน่นอนว่าข้อดีคือสามารถควบคุมทิศทางลมได้แบบเป๊ะๆเลยนั้นเองและรวมถึงป้องกันเรื่องฝุ่นทั้งหมดได้ดีกว่าทั่วไปด้วยเช่นกัน เราจะเห็นเลยว่ามีช่องที่เยอะมากทั้ง ซ้าย  ขวารองรับได้ดีและมีการออกแบบหลบมุมมากกว่าเดิมครับส่วนด้านหลังฝาฐานเครื่องแบบเรียบๆไม่มีความโค้งแบบรุ่นก่อนแล้ว รวมถึงมียางรองเครื่องทั้งหมด 4 มุมแบบเรียบและเสริมโลโก้ Macboook Pro เข้ามาให้ที่แตกต่างกับรุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา และเราจะเห็นช่องว่างงานประกอบในแต่ละส่วนบอกเลยว่ายังคงเป็นจุดเด่นของค่ายนี้ทั้งบานพับ ฝาฐานเครื่องต่างๆ
 

 
SPEC
 
- ชิป Apple M1 Pro – รุ่น CPU 10-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 8 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 14-core, มี Neural Engine 16-core, แบนด์วิดท์ความจำ 200GB/s
- หน้าจอ Liquid Retina XDR ขนาด 16.2 (3,456×2,234พิกเซล), มาพร้อมเทคโนโลยี ProMotion ที่ปรับรีเฟรชเรทอัตโนมัติได้สูงสุด 120Hz, ความสว่างสูงสุด 1,600nits, อัตราส่วน 10,00,000:1
- Unified memory (คล้าย RAM) สูงสุด 32GB (สูงสุด 64GB ในรุ่น M1 Max)
- ความจำภายในสูงสุด (SSD) 1TB  (ปรับแต่งได้เป็น: 2TB, 4TB หรือ 8TB)
- ระบบปฏิบัติการ macOS Monterey
- คีย์บอร์ด Backlit Magic Keyboard ที่มี Touch ID, เซนเซอร์ Ambient light,
- แทร็คแพดแบบ Force Touch เพื่อความแม่นยำและตรวจจับแรงกด
- Wi-Fi 6 802.11ax, Bluetooth 5.0
- กล้องเว็บแคม FaceTime HD 1080p พร้อมหน่วยประมวลผลรูปภาพและวิดีโอ
- ไมโครโฟนเกรดสตูดิโอ 3 ตัวที่มีระบบลดเสียงรบกวนและตรวจจับทิศทางของเสียง,
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm ที่รองรับหูฟังที่มีความต้านทานในวงจรสูง,
- ลำโพง 6 ตัวมาพร้อม force-cancelling woofers,
- ระบบเสียง stereo sound แบบกว้าง รองรับระบบเสียง spatial audio เมื่อเล่นเพลงหรือหนังผ่านระบบ Dolby Atmos, Spatial audio ที่ตรวจจับตำแหน่งศีรษะเมื่อใช้งาน AirPods (รุ่น 3rd), AirPods Pro และ AirPods Max
- พอร์ตการเชื่อมต่อ Thunderbolt x 3 3 USB Type-C รองรับการชาร์จ DisplayPort Thunderbolt 4 (สูงสุด 40 Gbps), USB 4 (สูงสุด 40 Gbps), SDXC card HDMI 2.0 MagSafe 3
- ขนาดตัวเครื่องรุ่น 16 นิ้ว : 1.68 x 35.57 x 24.81 ซม.; น้ำหนัก: 2.1กก.
- แบตเตอรี่ lithium-polymer 100-watt-hour รองรับการชาร์จเร็ว 140W ผ่านหัวชาร์จ USB-C,
- โดยใช้สาย USB-C to MagSafe 3
 

 

 
PERFORMANCE
 
แน่นอนว่าประสิทธิภาพตัวนี้มาพร้อมกับ  CPU 10-core มาพร้อม core เน้นประสิทธิภาพจำนวน 8 ตัวและ core เน้นประหยัดพลังงาน 2 ตัว, GPU 14-core, มี Neural Engine 16-core, แบนด์วิดท์ความจำ 200GB/s และ มาพร้อมกับ มี Hardware accelerated เข้ารหัสและ ถอดรหัสไฟล์ H.264, HEVC, ProRes และ ProRes RAW และสามารถสตีมไฟล์วิดีโอ ProRes 4K, 8K ได้สบาย อีกทั้งยังมี รองรับการต่อใช้งานหลายหน้าจอพร้อมกัน และมี Thunderbolt I/O พร้อมกับหน่วยความจำรวมเริ่มต้นที่ 16GB สูงสุด 32GB นะครับ แต่ถ้าอยากได้ 64GB ต้องขยับไป M1 MAX  เลยนั้นเอง ถือว่าสเปกที่ให้มาเหลือเฟือในการใช้งานและถือว่าแรงมากๆเช่นกัน
 
ชื่อสินค้า:   Macbook Pro 16
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่