ฉันควรทำยังไงดี

กระทู้คำถาม
ฉันเป็นพนักรายวันในบริษัทขายเครื่องทำความเย็น ที่ทำงานเป็นทั้งบ้านและบริษัทในตัว  ฉันทำงานมาได้ 5 เดือนแล้ว มันรู้สึกไม่โอเคกับที่นี่เอามากๆ เกิดภาวะเครียดจนต้องพบจิตแพทย์ ฉันรู้สึกไม่โอเคจากการต้องค่อยรองรับอารมณ์ เพราะเป็นบ้านเวลาครอบครัวเขาทะเลาะกัน เราก้ต้องมารับรุ้แล้วรับแรงกดดันจากตรงนั้นด้วย ฉันจึงแจ้งเจตนาที่จะลาออกตอนถูกเรียกประเมิน แต่เจ้าของก็ไม่รับฟังเหตุผลนั้นเพราะเขาบอกว่า เหตุผลมันคือปันหาของฉัน ความเคลียดความกดดัน เป็นเปันหาของเราไม่ใช่ของเขา วันนั้นก่อนนอนฉันได้กินยานอนหลับทำให้ตื่นสาย ตอนที่นอนอยู่ก็มีพนักจากทางร้านบุกมาถึงห้องพัก เปิดประตูเข้ามาก่อนได้รับอนุญาต มาเอากุญแจเกะเงินไป ตอนนั่นคือตกใจมาก ช็อคไปเลยคือมีสิทธิ์อะไรเข้ามาในห้องนอนกัน  เราเลยหนี้ไปต่างจังหวัดไม่ติดต่อใครกะเพราะตามสัญญาขาดการติดต่อ3วัน คือการลาออก แต่พอผ่านไป12วันฉันกลับมาที่พัก ก้มีพนักงานบุกมาอีก เขาบอกจะลาออกใช่มั้ย งั้นก็เซ็นเอกสารสะ ด้วยความเราเพิ่งตื่น เราก็เลยเซ็น ทีนี้มันไม่ใช่เอกสารลาออก มันเป็นเอกสารดำเนินคดีความ  เราเพิ่งมาเห็นว่ามีทีหลัง 
จากการขาดงานทำให้ห้างเกิดความเสียหาย 

  -หาข้มูลงานไม่พบ ทำให้งานล่าช้า
-จำนวนสินค้าในสต็อค
-เงินสำรอง 2000 ยังไม่ได้ส่งคืน 
-ค้าสินค้าสูญหายค้างชำนะ 3992.-

เงินจำนวน2000บาท อยู่ในเกะที่ร้าน วันที่พนักงานบุกมาที่ห้อง ก็ได้เอากุญแจไปแล้ว กล้องวงจรปิดในห้องเรามี 5-6ตัว ก็ดูสิ 
ค้าสินค้าหาย ทางห้างได้มีการหักเงินประกันร้านไว้เรียบร้อยแล้วทุกเดือน จำนวน5000บ แล้วได้มีหักเพิ่มาอีก2000 เป็นจำนวนเงิน7000บ.  ของไม่ได้มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เขาก้ไม่ดูกล้อง หลักฐานที่เราหามาเขาก็ไม่ดู  และการที่เรากลับไปทำงานให้ฟรี ไปรับสินค้าให้ถ้าสินค้าหาย อีกเราก้ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ระหว่างที่เราไม่อยู่สินค้าถูกโยกย้ายไม่ได้อยู่ที่เดิม เราก็ต้องรับผิดชอบ  เราต้องทำยังไงดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่