สวัสดีค่ะ อยากสอบถามความคิดเห็นจากทุกคนค่ะ เกี่ยวกับเรื่องหุ้นส่วนธุรกิจ พอดีว่าเราเริ่มทำธุรกิจตัวนึงมาคนเดียวก่อนค่ะ ทำได้ประมาณครึ่งปี ก็นึกโปรเจคขึ้นมาได้อีกโปรเจคนึง ซึ่งเราจำได้ว่าเราเคยคุยเรื่องธุรกิจนี้ไว้กับคนที่เรารู้จักคนนึง ด้วยความที่เราใหม่มาก และคิดว่าตัวเองเป็นคนหยวนๆ ให้คนรอบข้างได้พอสมควร เราเลยชวนเค้าเข้ามาทำด้วย คือให้เค้าเริ่มเข้ามาจับตั้งแต่โปรเจคแรกที่เราทำเลยค่ะ เริ่มทำด้วยกันตั้งแต่ธุรกิจที่เราเคยทำอยู่แล้วเพราะจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการยิงโฆษณาแล้วไป Effective กับโปรดักในร้านเก่าๆ ซึ่งต่างคนต่างมีงานประจำ และเค้าเองก็มีธุรกิจส่วนตัวรวมถึงธุระปะปังของตัวเองมากพอสมควร
พอเริ่มทำมาได้สักพัก เราเริ่มรู้สึกเหนื่อย จากธุรกิจที่เราทำคือ ธุรกิจเสื้อผ้า เราเป็นคนสั่งของ ขนของ Unpack คุยกับ Supplier ถ่ายแบบเอง แต่งรูป คุมโทนร้านใน IG แพ็คของ ตอบลูกค้า คิดแคปชั่น ส่วนหุ้นส่วนเรา เราให้เค้าเข้ามาช่วยเรื่อง Marketing ค่ะ เรื่องของเรื่องคือ ตัวเราคาดหวังว่า เค้าจะสามารถแต่งภาพ ทำ Graphic Design ได้ คิดโปรโมชั่นเจ๋งๆ ยิง Ads โดยที่ใช้ความรู้มายิง เช่น ควรยิงตอนไหน เท่าไร คือเราอยากยุ่งกับตัว Product ให้มากที่สุด แล้วสำหรับงานขาย คือให้เค้าทำไปเลย ทำยังไงให้ขายได้โดยคงมาตรฐานร้าน แต่ผลปรากฏคือ เค้าทำไรไม่เป็นเลยค่ะ คือเราก็ค่อนข้าง suffer กับตรงนี้ จริงๆ เค้าเป็น Marketing ของบริษัท แล้วก็ผ่านการเรียนคอร์สการยิง Ads มาแล้ว แถมยังเป็น Graphic แต่อาจจะเป็นเพราะว่าลักษณะ Product คือคนละอย่างกัน เลยทำให้เค้ายังจับทางไม่ถูก เราก็โอเคกับตรงนี้ ถ้าาาาา เค้าเข้าใจตัวเองและยอมรับว่าความสามารถของตัวเองมันยังช่วยงานเราไม่ได้มากขนาดนั้น และยอมลดสัดส่วนลง เพราะปัจจุบันเราให้เค้า 50:50 ไปเลย จริงๆ ก่อนหน้าที่จะเริ่มทำด้วยกัน เราเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เค้าหนักแน่นว่าเค้าสมควรได้ 50:50 ด้วยเหตุผลนานาประการ เราเลยยอมและผลที่ตามมาก็คือความคาดหวังอย่างที่ได้กล่าวไป แต่ก็นั่นแหละค่ะ เราผิดหวังนะ เราเชื่อว่าเค้าจะทำได้อย่างที่เราคาดหวัง "ในภายภาคหน้า" แต่"ตอนนี้" ที่เค้ายังทำไม่ได้ เราก็ไปคุยกับเค้าว่ายอมลดสัดส่วนให้หน่อยได้ไหม เพราะตอนนี้เราเหมือนทำเท่าเดิมแต่เหนื่อยกว่าเดิมเพราะต้องแบกผลตอบแทนของอีกฝั่งไว้ด้วย จริงๆ เราแฟร์ๆ นะคะ ให้ได้หมด ให้ได้มากกว่าด้วยซ้ำถ้าผลงานออกมาเกินคาด ทำได้เท่าไรก็สมควรได้เท่านั้น นี่คือสิ่งที่เราเป็น
เหตุผลนึงที่เรายกไปคุยนอกเหนือจากภาระหนักอึ้งที่เราต้องทำ คือเรื่อง เวลา ตัวเราเองมีงานประจำกับ งานธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งหลังเลิกงานเรามีเวลาทั้งหมดในการคิด จัดการ บริหารธุรกิจนี้ได้ตลอด ตัวเค้าเองที่ซึ่งมีงานประจำ และธุรกิจส่วนตัวซึ่งเป็นงานบริการ มีเวลาในการคุยงานกับเราคือหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป บางทีปวดเมื่อยเนื้อตัวก็นอน 5 ทุ่ม ทุกคนคะ เราเข้าใจได้นะคะว่าทุกคนมีภาระ แต่ทำไมคุณไม่ยอมรับตัวเองหน่อย และเห็นใจว่าอีกคนเค้าอุทิศตัวเองเพื่องานมากกว่า
นั่นแหละค่ะ ปัญหาคือ เราไม่รู้ว่าเราเหนื่อย เราเลยคิดมากไปเองหรือเปล่า ถ้ามันเป็นปัญหาจริงๆ เราแก้ยังไงดีคะ แก้ที่ตัวเอง แก้ที่เค้า ให้เค้าถอนหุ้นไปเลย แล้วเรื่องการแบ่งผลตอบแทนควรแบ่งยังไงคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ
ว่าด้วยเรื่องหุ้นส่วนธุรกิจกับปัญหาหยุมหยิม
พอเริ่มทำมาได้สักพัก เราเริ่มรู้สึกเหนื่อย จากธุรกิจที่เราทำคือ ธุรกิจเสื้อผ้า เราเป็นคนสั่งของ ขนของ Unpack คุยกับ Supplier ถ่ายแบบเอง แต่งรูป คุมโทนร้านใน IG แพ็คของ ตอบลูกค้า คิดแคปชั่น ส่วนหุ้นส่วนเรา เราให้เค้าเข้ามาช่วยเรื่อง Marketing ค่ะ เรื่องของเรื่องคือ ตัวเราคาดหวังว่า เค้าจะสามารถแต่งภาพ ทำ Graphic Design ได้ คิดโปรโมชั่นเจ๋งๆ ยิง Ads โดยที่ใช้ความรู้มายิง เช่น ควรยิงตอนไหน เท่าไร คือเราอยากยุ่งกับตัว Product ให้มากที่สุด แล้วสำหรับงานขาย คือให้เค้าทำไปเลย ทำยังไงให้ขายได้โดยคงมาตรฐานร้าน แต่ผลปรากฏคือ เค้าทำไรไม่เป็นเลยค่ะ คือเราก็ค่อนข้าง suffer กับตรงนี้ จริงๆ เค้าเป็น Marketing ของบริษัท แล้วก็ผ่านการเรียนคอร์สการยิง Ads มาแล้ว แถมยังเป็น Graphic แต่อาจจะเป็นเพราะว่าลักษณะ Product คือคนละอย่างกัน เลยทำให้เค้ายังจับทางไม่ถูก เราก็โอเคกับตรงนี้ ถ้าาาาา เค้าเข้าใจตัวเองและยอมรับว่าความสามารถของตัวเองมันยังช่วยงานเราไม่ได้มากขนาดนั้น และยอมลดสัดส่วนลง เพราะปัจจุบันเราให้เค้า 50:50 ไปเลย จริงๆ ก่อนหน้าที่จะเริ่มทำด้วยกัน เราเคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เค้าหนักแน่นว่าเค้าสมควรได้ 50:50 ด้วยเหตุผลนานาประการ เราเลยยอมและผลที่ตามมาก็คือความคาดหวังอย่างที่ได้กล่าวไป แต่ก็นั่นแหละค่ะ เราผิดหวังนะ เราเชื่อว่าเค้าจะทำได้อย่างที่เราคาดหวัง "ในภายภาคหน้า" แต่"ตอนนี้" ที่เค้ายังทำไม่ได้ เราก็ไปคุยกับเค้าว่ายอมลดสัดส่วนให้หน่อยได้ไหม เพราะตอนนี้เราเหมือนทำเท่าเดิมแต่เหนื่อยกว่าเดิมเพราะต้องแบกผลตอบแทนของอีกฝั่งไว้ด้วย จริงๆ เราแฟร์ๆ นะคะ ให้ได้หมด ให้ได้มากกว่าด้วยซ้ำถ้าผลงานออกมาเกินคาด ทำได้เท่าไรก็สมควรได้เท่านั้น นี่คือสิ่งที่เราเป็น
เหตุผลนึงที่เรายกไปคุยนอกเหนือจากภาระหนักอึ้งที่เราต้องทำ คือเรื่อง เวลา ตัวเราเองมีงานประจำกับ งานธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งหลังเลิกงานเรามีเวลาทั้งหมดในการคิด จัดการ บริหารธุรกิจนี้ได้ตลอด ตัวเค้าเองที่ซึ่งมีงานประจำ และธุรกิจส่วนตัวซึ่งเป็นงานบริการ มีเวลาในการคุยงานกับเราคือหลัง 4 ทุ่มเป็นต้นไป บางทีปวดเมื่อยเนื้อตัวก็นอน 5 ทุ่ม ทุกคนคะ เราเข้าใจได้นะคะว่าทุกคนมีภาระ แต่ทำไมคุณไม่ยอมรับตัวเองหน่อย และเห็นใจว่าอีกคนเค้าอุทิศตัวเองเพื่องานมากกว่า
นั่นแหละค่ะ ปัญหาคือ เราไม่รู้ว่าเราเหนื่อย เราเลยคิดมากไปเองหรือเปล่า ถ้ามันเป็นปัญหาจริงๆ เราแก้ยังไงดีคะ แก้ที่ตัวเอง แก้ที่เค้า ให้เค้าถอนหุ้นไปเลย แล้วเรื่องการแบ่งผลตอบแทนควรแบ่งยังไงคะ รบกวนช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ