มาว่าถึงความน่ารักของ
เด็กก่อนนะครับ
เขาละ..เด็กชายนพล
หัวก็โต แขนก็สั้น(บอกให้ยกมือปลายนิ้วมือเขาเสมอ
หัวเท่านั้นเองครับ😅)
ผมไม่รู้ว่านี่คือปกติของเด็ก
เล็กหรือเปล่า จนมีลูกนี่แหละครับถึงได้รู้ว่า นพลชูแขนไม่พ้นหัว ตอนแรกก็
แอบตกใจเหมือนกัน
ตอนรู้ว่าแม่เขาท้อง ผมตื่นเต้นมาก หน้าเด็กผู้ชายลอยมาเลย..แบบว่า
เคยฝันไว้..ถ้าใครแต่งงานก่อน(สามพี่น้อง) ลูกคนแรก
หลานคนโตอยากให้เป็น
ผู้ชายมากๆ
เขาจะได้ปกป้องและดูแล
น้องๆผู้หญิง
ส่วนคนที่สอง,สาม,สี่
ค่อยให้เป็นผู้หญิง
จริงๆผมชอบเด็กผู้หญิงมาก
แต่...ผมคงห่วงมั้ง เลยอยากได้ผู้ชายก่อน
นพลเดินได้ตั้งแต่เก้าเดือน
แต่พูดไม่ได้ครับ สอนกันไปลุ้นกันไปว่าจะเรียกชื่อใครได้ก่อน กว่าจะพูดได้
รอถึงสิบห้าเดือนเลย
วันนั้นเขากอดคอผม
มองหน้าไปมองหน้ามา
เขาก็เรียก"พ่อ" ชัดเจนมาก
พ่อนี่น้ำตาคลอเลย
ผมไม่เสียชาติเกิดแล้วละ
ถึงโสดแต่ผมมีลูกนะครับ😄
หลังจากเขาพูดได้ เราก็สอนให้เขาพูดอย่างบ้าคลั่ง
(เห่ออ่ะแหละ)มีเวลาว่างไม่ได้ สอนกันอุตลุดหมด แต่..ชีวิตไม่ใช่นิยาย นพลพูดได้ แต่...ไม่ชัด
สักคำ อย่าง สีแดง เจอภาษานพลก็กลายเป็น"ถีแดม" "ถีเหลือม" "ถีม่วม"
และถีเถียว"
อีกทั้งความคลั่งดาราก็มา
นะครับ เขาชอบ"น้าเดช"
เห็นใครหล่อๆหน่อยเขาจะบอก"น้าเดช"หมดรวมทั้งตัวเขาเองด้วย
ลักษณะนิสัย กินเก่ง กินเป็นทุกอย่าง(ผักก็กินครับ)
ครั้งหนึ่งเธอกินพริกขี้หนู
เข้าไป คงเห็นแดงๆสวยๆ
ด้วยแหละ โอ้โห..หูไม่พอใส่เลยครับ ทั้งจากเสียงร้องของลูก และจากเสียงด่าของแม่(แม่ผมเนี่ยแหละ😄) แต่..ผมก็ผิดจริงที่..
ดูแลลูกไม่ดี ถ้าเป็นของมีพิษ ลูกคงแย่กว่านี้
ที่โดนด่าก็สมควรแล้วละ
สมน้ำหน้า
เธอเป็นเด็กติดเปล ด้วยความเห่อหลานคนแรก
เฮีย(พี่ชายผม)เลยทำเปล
ไม้อย่างวิจิตรให้เลย
ซึ่งก็ได้ใช้จนคุ้มค่า
เพราะนพลก็นอนจนขายาวเกินเปลออกมาเลย
เขาจะกินง่ายนอนง่ายพอเริ่มตาปรือ ก็เอาลงเปล
แต่ไม่ต้องไกวนะครับ เดี๋ยวแกก็หลับเอง
เปลเป็นอาณาจักรของนพล
ถูกดุก็วิ่งลงเปล
กลัวอะไรก็วิ่งลงเปล
รวมทั้งเวลางอนก็ลงไปงอน
อยู่ในเปล
นอกจากเป็นเด็กพูดเพราะ
แล้วนพลยังช่างออดอ้อน
ด้วย เวลาประจบ แกก็จะเอาแก้มป่องๆถู ทุกที่ของเราที่แกอยากถู เป็นหัวไหล่
เป็นหน้าอก เป็นแก้ม
(พออนุมานได้ว่า..แกติดมา
จากแมว เพราะแกถูกเลี้ยงมาคู่กับแมว) บางอย่างคนติดมาจากแมว แต่บางอย่างแมวก็ติดไปจากคน
พอคนนอนแมวก็นอนด้วย
บางทีคนก็ร้องกินข้าวคลุกปลาทูแบบแมว แทบว่าเห็น
แมวที่ไหนก็เห็นคนที่นั่น
แถมกลัวน้ำเหมือนกันเป๊ะ😅
พอนพลอายุได้ห้าขวบเราก็ทำห้องให้ เพราะเราอยากให้แกชิน เผื่อเวลาแกโตจะได้นอนคนเดียวได้
แต่จนแล้วจนรอดห้องก็ยัง
เป็นแค่ห้องว่างๆ
เพราะพอมืดเธอก็หอบน้อง
เน่า ตระเวนไปตามห้องต่างๆ ตามแต่จะพอใจ
อารมณ์ดีก็นอนกับพ่อ
อยากดูหนังหรือการ์ตูน
ก็นอนกับลุง
วันธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษก็นอนกับผม แต่ถ้างอนขึ้น
มาละก็ ห้องแม่ยายเป็นแหล่งสุดท้ายครับ
แต่ก็ดีอยู่อย่างตรงที่ไม่ใช่เด็กงอแงและค่อนข้างจะเลี้ยงง่าย กินอะไรก็ได้
อยู่กับใครก็ได้ เพียงแต่พอเวลาจะนอนเธอจะต้องเข้านอนพร้อมน้องเน่า(ยูนิคอร์น)เท่านั้นเอง
การมีเด็กเล็กอยู่ในบ้านนี้
นอกจากทำให้บ้านมีชีวิต
ชีวาแล้ว บางทีก็เป็นบทเรียนที่ดีให้เราเหมือนกัน
อย่างตอนนพลเดินได้ใหม่ๆ
ใครทำน้ำหกไว้ก็ไม่ทราบ
ด้วยความขี้เกียจ ผมก็ใช้เท้าลากผ้าขี้ริ้วมาเช็ดๆ
แบบไม่คิดอะไร แต่นพลคิดครับ เขาก็เลยใช้เท้าลากผ้าขี้ริ้วเช็ดโน่นเช็ดนี่
ไปทั่วบ้านเลย
โอ้โห..ตั้งแต่นั้นผมสุดจะเข็ดเลยครับ
ก็เล่นเห็นปั๊บทำตามปุ๊บ
ขนาดนั้น คราวหลังๆมา
ต้องมองหาลูกก่อน .กลัวลูก
เห็น😅
แต่บางสิ่งพ่อก็ไม่เคยทำ แต่ลูกทำเองก็มีครับอย่าง..
ที่บ้านผมจะมีอ่างเลี้ยงปลา
พวกปลาสอดชนิดต่างๆกับปลาหางนกยูง
วันหนึ่งผมก็เห็นว่าแหนในอ่างปลาเริ่มเยอะ
ก็เลยเอาสวิงเล็กมานั่งช้อนออก นพลก็นั่งเล่น
อยู่ข้างๆ สักพักนพล
หายไปครับ ผมก็ลุกไปเดิน
ตามหาลูก หาจนทั่วบ้านทั่ว
ช่อง พอเดินกลับมาปรากฏว่าแกกลับมานั่งที่เดิมแถม
ทำไม่รู้ไม่ชี้ด้วย
แต่ด้วยความเป็นพ่อ
ผมเลยรู้ว่าลูกต้องทำอะไร
ผิดไว้แน่ๆ
พอเห็นมือเท่านั้นละครับ
โห..แหนเลอะ
แขนทั้งสองข้างเลย
มีการฆาตกรรมปลาท้อง
แล้วซ่อนศพไว้ใต้แหนด้วยครับคุณผู้ชม
กลายเป็นคนใจร้ายได้ยังไง พ่อละกลุ้ม..
ทีนี้มาว่าเรื่องแมวกันบ้าง
แมวเด็กตัวนี้ผมเลี้ยงไว้
เป็นเพื่อนกับนพลครับ
น้องเป็นเหมียวจร เก็บมาจากข้างทางตอนยังเล็กมากแมวก็ติดเด็ก
เด็กก็ติดแมว
เล่นด้วยกัน นอนด้วยกัน
น้องก็เลยสอนนพลให้อ้อน
ด้วยการเอาแก้มถู
เวลาโดนดุนี่ ทำตาแป๋วได้
ใกล้เคียงกันมากเลย
มีอย่างเดียวที่นพลไม่ทำตามเหมียวคือ
เหมียวชอบนอนกอดปลั๊กไฟ แต่นพลไม่ สงสัยเหมียวจะลืมสอน😆
เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยกัน
พี่นพลกับน้องเสือโหย
ก็เลยเป็นคู่ซี้กันไปโดย
ปริยาย ตอนเช้าพาพี่ไปป้อนข้าว น้องมีหางก็จะวิ่ง
ตามไปด้วย พอพี่กินนม
น้องก็ขอกินด้วย เลี้ยงด้วย
นมตัวเดียวกันครับ(ตอนนั้น
ไม่รู้จักนมแพะเลย)
สรุปว่าถ้านพลไปนอนกับ
ใคร เสือโหยก็จะติดสอย
ห้อยตามไปด้วยแบบ
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเสมอ
(ยกเว้นเวลานอนกับแม่ยาย
เพราะแม่ยายไม่ชอบแมว)
ทีนี้มาว่าถึงคุณฉันบ้าง(ชื่อ
แม่ผมเองครับ)
คุณฉันเนี่ย เค้าไม่รักแมว
ถึงจะมีลูกและหลานรักแมว
เค้าก็ไม่รู้ แมวอุตส่าห์ออดอ้อนหวังผูกมิตร เค้าก็ไม่ยอมรู้ เค้าบอกว่า"มันดื้อ"
แล้วเค้าก็ถือไม้ไว้หวดแมว
ตลอด(แต่ก็..ไม่เคยตีหรอก
ครับฮึ่มฮั่มไปงั้น)
ครั้งแรก คุณฉันจะให้เอาเสือโหยไปไว้บ้านในป่ายาง
แต่เพราะนพลร้องไห้ ศาลที่เคารพก็เลยลดโทษให้จำเลยเหลือแค่ ด่าทั้งวัน
เหมือนเดิม(ไม่ด่าหยาบคายนะครับแค่เสียงจะดัง
หน่อยกับสรรพนามสมัยพ่อ
ขุนรามบางคำ)
ถึงเสือโหยจะเป็นแค่แมว
แต่เค้าฉลาดและรู้ว่าเขาดื้อกับใครได้และกับใครที่ดื้อไม่ได้
ผมเพิ่งเลี้ยงแมวจริงจังชนิด
คลุกข้าวให้กินแค่สามตัว
เพราะปกติชีวิตคืองาน
แต่ผมก็รู้ ว่าแมวน่ารักยังไง
แต่คุณฉันนี่สิอยู่บ้านกับแมวทั้งวัน กลับไม่รู้
และเมื่อไหร่จะรู้ก็ไม่ทราบ
...เฮ้อ...
เวรของกรรม
..........จบ......
*จริงๆแล้วเรื่องนี้ผมเขียน
เพื่อเข้าโครงการ"ชื่อ
เดียวเอี่ยวทุกเรื่องของคุณน้ำอยู่นะครับ. แต่แกล้งต่อ
ชื่อให้มันยาวเล่นๆไปงั้น
ต้องขออภัยคุณน้ำไว้ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ
เด็กกับแมวน่ารักเหมือนกัน ทำไม"ฉันไม่รู้"
เด็กก่อนนะครับ
เขาละ..เด็กชายนพล
หัวก็โต แขนก็สั้น(บอกให้ยกมือปลายนิ้วมือเขาเสมอ
หัวเท่านั้นเองครับ😅)
ผมไม่รู้ว่านี่คือปกติของเด็ก
เล็กหรือเปล่า จนมีลูกนี่แหละครับถึงได้รู้ว่า นพลชูแขนไม่พ้นหัว ตอนแรกก็
แอบตกใจเหมือนกัน
ตอนรู้ว่าแม่เขาท้อง ผมตื่นเต้นมาก หน้าเด็กผู้ชายลอยมาเลย..แบบว่า
เคยฝันไว้..ถ้าใครแต่งงานก่อน(สามพี่น้อง) ลูกคนแรก
หลานคนโตอยากให้เป็น
ผู้ชายมากๆ
เขาจะได้ปกป้องและดูแล
น้องๆผู้หญิง
ส่วนคนที่สอง,สาม,สี่
ค่อยให้เป็นผู้หญิง
จริงๆผมชอบเด็กผู้หญิงมาก
แต่...ผมคงห่วงมั้ง เลยอยากได้ผู้ชายก่อน
นพลเดินได้ตั้งแต่เก้าเดือน
แต่พูดไม่ได้ครับ สอนกันไปลุ้นกันไปว่าจะเรียกชื่อใครได้ก่อน กว่าจะพูดได้
รอถึงสิบห้าเดือนเลย
วันนั้นเขากอดคอผม
มองหน้าไปมองหน้ามา
เขาก็เรียก"พ่อ" ชัดเจนมาก
พ่อนี่น้ำตาคลอเลย
ผมไม่เสียชาติเกิดแล้วละ
ถึงโสดแต่ผมมีลูกนะครับ😄
หลังจากเขาพูดได้ เราก็สอนให้เขาพูดอย่างบ้าคลั่ง
(เห่ออ่ะแหละ)มีเวลาว่างไม่ได้ สอนกันอุตลุดหมด แต่..ชีวิตไม่ใช่นิยาย นพลพูดได้ แต่...ไม่ชัด
สักคำ อย่าง สีแดง เจอภาษานพลก็กลายเป็น"ถีแดม" "ถีเหลือม" "ถีม่วม"
และถีเถียว"
อีกทั้งความคลั่งดาราก็มา
นะครับ เขาชอบ"น้าเดช"
เห็นใครหล่อๆหน่อยเขาจะบอก"น้าเดช"หมดรวมทั้งตัวเขาเองด้วย
ลักษณะนิสัย กินเก่ง กินเป็นทุกอย่าง(ผักก็กินครับ)
ครั้งหนึ่งเธอกินพริกขี้หนู
เข้าไป คงเห็นแดงๆสวยๆ
ด้วยแหละ โอ้โห..หูไม่พอใส่เลยครับ ทั้งจากเสียงร้องของลูก และจากเสียงด่าของแม่(แม่ผมเนี่ยแหละ😄) แต่..ผมก็ผิดจริงที่..
ดูแลลูกไม่ดี ถ้าเป็นของมีพิษ ลูกคงแย่กว่านี้
ที่โดนด่าก็สมควรแล้วละ
สมน้ำหน้า
เธอเป็นเด็กติดเปล ด้วยความเห่อหลานคนแรก
เฮีย(พี่ชายผม)เลยทำเปล
ไม้อย่างวิจิตรให้เลย
ซึ่งก็ได้ใช้จนคุ้มค่า
เพราะนพลก็นอนจนขายาวเกินเปลออกมาเลย
เขาจะกินง่ายนอนง่ายพอเริ่มตาปรือ ก็เอาลงเปล
แต่ไม่ต้องไกวนะครับ เดี๋ยวแกก็หลับเอง
เปลเป็นอาณาจักรของนพล
ถูกดุก็วิ่งลงเปล
กลัวอะไรก็วิ่งลงเปล
รวมทั้งเวลางอนก็ลงไปงอน
อยู่ในเปล
นอกจากเป็นเด็กพูดเพราะ
แล้วนพลยังช่างออดอ้อน
ด้วย เวลาประจบ แกก็จะเอาแก้มป่องๆถู ทุกที่ของเราที่แกอยากถู เป็นหัวไหล่
เป็นหน้าอก เป็นแก้ม
(พออนุมานได้ว่า..แกติดมา
จากแมว เพราะแกถูกเลี้ยงมาคู่กับแมว) บางอย่างคนติดมาจากแมว แต่บางอย่างแมวก็ติดไปจากคน
พอคนนอนแมวก็นอนด้วย
บางทีคนก็ร้องกินข้าวคลุกปลาทูแบบแมว แทบว่าเห็น
แมวที่ไหนก็เห็นคนที่นั่น
แถมกลัวน้ำเหมือนกันเป๊ะ😅
พอนพลอายุได้ห้าขวบเราก็ทำห้องให้ เพราะเราอยากให้แกชิน เผื่อเวลาแกโตจะได้นอนคนเดียวได้
แต่จนแล้วจนรอดห้องก็ยัง
เป็นแค่ห้องว่างๆ
เพราะพอมืดเธอก็หอบน้อง
เน่า ตระเวนไปตามห้องต่างๆ ตามแต่จะพอใจ
อารมณ์ดีก็นอนกับพ่อ
อยากดูหนังหรือการ์ตูน
ก็นอนกับลุง
วันธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษก็นอนกับผม แต่ถ้างอนขึ้น
มาละก็ ห้องแม่ยายเป็นแหล่งสุดท้ายครับ
แต่ก็ดีอยู่อย่างตรงที่ไม่ใช่เด็กงอแงและค่อนข้างจะเลี้ยงง่าย กินอะไรก็ได้
อยู่กับใครก็ได้ เพียงแต่พอเวลาจะนอนเธอจะต้องเข้านอนพร้อมน้องเน่า(ยูนิคอร์น)เท่านั้นเอง
การมีเด็กเล็กอยู่ในบ้านนี้
นอกจากทำให้บ้านมีชีวิต
ชีวาแล้ว บางทีก็เป็นบทเรียนที่ดีให้เราเหมือนกัน
อย่างตอนนพลเดินได้ใหม่ๆ
ใครทำน้ำหกไว้ก็ไม่ทราบ
ด้วยความขี้เกียจ ผมก็ใช้เท้าลากผ้าขี้ริ้วมาเช็ดๆ
แบบไม่คิดอะไร แต่นพลคิดครับ เขาก็เลยใช้เท้าลากผ้าขี้ริ้วเช็ดโน่นเช็ดนี่
ไปทั่วบ้านเลย
โอ้โห..ตั้งแต่นั้นผมสุดจะเข็ดเลยครับ
ก็เล่นเห็นปั๊บทำตามปุ๊บ
ขนาดนั้น คราวหลังๆมา
ต้องมองหาลูกก่อน .กลัวลูก
เห็น😅
แต่บางสิ่งพ่อก็ไม่เคยทำ แต่ลูกทำเองก็มีครับอย่าง..
ที่บ้านผมจะมีอ่างเลี้ยงปลา
พวกปลาสอดชนิดต่างๆกับปลาหางนกยูง
วันหนึ่งผมก็เห็นว่าแหนในอ่างปลาเริ่มเยอะ
ก็เลยเอาสวิงเล็กมานั่งช้อนออก นพลก็นั่งเล่น
อยู่ข้างๆ สักพักนพล
หายไปครับ ผมก็ลุกไปเดิน
ตามหาลูก หาจนทั่วบ้านทั่ว
ช่อง พอเดินกลับมาปรากฏว่าแกกลับมานั่งที่เดิมแถม
ทำไม่รู้ไม่ชี้ด้วย
แต่ด้วยความเป็นพ่อ
ผมเลยรู้ว่าลูกต้องทำอะไร
ผิดไว้แน่ๆ
พอเห็นมือเท่านั้นละครับ
โห..แหนเลอะ
แขนทั้งสองข้างเลย
มีการฆาตกรรมปลาท้อง
แล้วซ่อนศพไว้ใต้แหนด้วยครับคุณผู้ชม
กลายเป็นคนใจร้ายได้ยังไง พ่อละกลุ้ม..
ทีนี้มาว่าเรื่องแมวกันบ้าง
แมวเด็กตัวนี้ผมเลี้ยงไว้
เป็นเพื่อนกับนพลครับ
น้องเป็นเหมียวจร เก็บมาจากข้างทางตอนยังเล็กมากแมวก็ติดเด็ก
เด็กก็ติดแมว
เล่นด้วยกัน นอนด้วยกัน
น้องก็เลยสอนนพลให้อ้อน
ด้วยการเอาแก้มถู
เวลาโดนดุนี่ ทำตาแป๋วได้
ใกล้เคียงกันมากเลย
มีอย่างเดียวที่นพลไม่ทำตามเหมียวคือ
เหมียวชอบนอนกอดปลั๊กไฟ แต่นพลไม่ สงสัยเหมียวจะลืมสอน😆
เพราะถูกเลี้ยงมาด้วยกัน
พี่นพลกับน้องเสือโหย
ก็เลยเป็นคู่ซี้กันไปโดย
ปริยาย ตอนเช้าพาพี่ไปป้อนข้าว น้องมีหางก็จะวิ่ง
ตามไปด้วย พอพี่กินนม
น้องก็ขอกินด้วย เลี้ยงด้วย
นมตัวเดียวกันครับ(ตอนนั้น
ไม่รู้จักนมแพะเลย)
สรุปว่าถ้านพลไปนอนกับ
ใคร เสือโหยก็จะติดสอย
ห้อยตามไปด้วยแบบ
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งเสมอ
(ยกเว้นเวลานอนกับแม่ยาย
เพราะแม่ยายไม่ชอบแมว)
ทีนี้มาว่าถึงคุณฉันบ้าง(ชื่อ
แม่ผมเองครับ)
คุณฉันเนี่ย เค้าไม่รักแมว
ถึงจะมีลูกและหลานรักแมว
เค้าก็ไม่รู้ แมวอุตส่าห์ออดอ้อนหวังผูกมิตร เค้าก็ไม่ยอมรู้ เค้าบอกว่า"มันดื้อ"
แล้วเค้าก็ถือไม้ไว้หวดแมว
ตลอด(แต่ก็..ไม่เคยตีหรอก
ครับฮึ่มฮั่มไปงั้น)
ครั้งแรก คุณฉันจะให้เอาเสือโหยไปไว้บ้านในป่ายาง
แต่เพราะนพลร้องไห้ ศาลที่เคารพก็เลยลดโทษให้จำเลยเหลือแค่ ด่าทั้งวัน
เหมือนเดิม(ไม่ด่าหยาบคายนะครับแค่เสียงจะดัง
หน่อยกับสรรพนามสมัยพ่อ
ขุนรามบางคำ)
ถึงเสือโหยจะเป็นแค่แมว
แต่เค้าฉลาดและรู้ว่าเขาดื้อกับใครได้และกับใครที่ดื้อไม่ได้
ผมเพิ่งเลี้ยงแมวจริงจังชนิด
คลุกข้าวให้กินแค่สามตัว
เพราะปกติชีวิตคืองาน
แต่ผมก็รู้ ว่าแมวน่ารักยังไง
แต่คุณฉันนี่สิอยู่บ้านกับแมวทั้งวัน กลับไม่รู้
และเมื่อไหร่จะรู้ก็ไม่ทราบ
...เฮ้อ...
เวรของกรรม
..........จบ......
*จริงๆแล้วเรื่องนี้ผมเขียน
เพื่อเข้าโครงการ"ชื่อ
เดียวเอี่ยวทุกเรื่องของคุณน้ำอยู่นะครับ. แต่แกล้งต่อ
ชื่อให้มันยาวเล่นๆไปงั้น
ต้องขออภัยคุณน้ำไว้ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ