JJNY : 4in1 ชาวบ้านลงขันซื้อน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำเอง│ท่วมถึงเอว2ด.หน่วยงานหาย│หมูเขียงอาจทะลุ 200│เตรียมจัดTruck Power

เพื่อไทย ลุยช่วยน้ำท่วมบางกอกน้อย อนาถชาวบ้านลงขันซื้อน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำเอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6724792
 
 
เพื่อไทย ลุยช่วยน้ำท่วมบางกอกน้อย หลังระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง อนาถชาวบ้านต้องลงขันซื้อน้ำมันเติมเครื่องสูบน้ำกันเอง
   
10 พ.ย. 2564 – พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานพื้นที่เขตเลือกตั้ง กทม.โซน 2 พร้อมด้วย นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางพลัด นายศิลปวิชญ์ น้อยสมมิตร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตธนบุรี และ นาย
ชัชนภ นักสอน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกอกน้อย พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่มอบของใช้อุปโภคและบริโภค ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ และชุมชนวัดดุสิตาราม เขตบางกอกน้อย
 
นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ชุมชนสันติสงเคราะห์ มีน้ำขึ้นสูงสุดในวันที่ 8 พ.ย. ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง มีปัญหาคือพนังกั้นน้ำคลองบางกอกน้อยชำรุด ทำให้น้ำเข้าท่วมบ้านประชาชน แม้มีการจัดสรรงบประมาณแล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้ดำเนินการ เครื่องสูบน้ำไม่เพียงพอ อีกทั้งชาวบ้านต้องระดมเงินบริจาคเพื่อเติมน้ำมันในการสูบน้ำเอง
 
ทั้งนี้ อยากให้ภาครัฐสร้างและซ่อมบำรุงพนังกั้นน้ำ เพิ่มจำนวนเครื่องสูบน้ำ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ ส่วนการแก้ปัญหาบ้านเรือนที่อยู่ริมน้ำหรือริมคลอง ต้องจัดระเบียบโดยการแก้ไขหรือออกกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างริมน้ำ กำหนดมาตรฐานระดับการยกพื้นบ้านหรือตั้งเสาสูง ที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากลักษณะนี้ได้
 
ฝากถึงผู้เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสำนักระบายน้ำ หรือ สำนักงานเขต ให้มาดูแลชาวชุมชน แม้ที่ผ่านมามีการประสานกองทัพเรือ ลงมาวางแนวกระสอบทราย แต่ยังไม่สามารถป้องกันน้ำที่หลากท่วมมาจากคลองบางกอกน้อยและคลองสาขาอื่น ๆ ที่ใกล้เคียง และเชื่อมต่อกันได้



ท่วมถึงเอวมา 2 เดือนแล้ว ชาวเกาะเกร็ดเซ็ง หน่วยงานช่วยเหลือหายเกลี้ยง
https://www.dailynews.co.th/news/463382/
 
ชาวบ้านเกาะเกร็ดร้อง!! ไร้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ หลังระดับน้ำสูงท่วมเกือบถึงเอวนาน 2 เดือน ของอุปโภคบริโภคแจกไม่ทั่วถึง
 
วันนี้ (10 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบภายในบริเวณเกาะเกร็ด แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.นนทบุรี ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนโดยบริเวณเกาะเกร็ดแห่งนี้มีพื้นที่ 7 หมู่ ทั้ง 7 หมู่ต่างได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงบางหมู่ได้รับของแจก จากหน่วยงานภาคเอกชนและของจังหวัดเพียงไม่กี่ชุด จึงอยากให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลแก้ไข หลายกิจการบนเกาะเกร็ดต้องปิดตัวลงไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ร้านค้าเล็กๆ ก็ต้องขายของอย่างทุลักทุเล ลุยน้ำมาซื้ออาหารการกินได้เพียงบางส่วนเพื่อประทังไปวันๆ
 
นายเจษฎา จับบาง อายุ 41 ปี เจ้าของร้านกาแฟชื่อ “กาแฟบ้านเลขที่ 1” หมู่ 1 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กล่าวว่า น้ำท่วมมานานหลายเดือน เจอทั้งโควิดก็บอบช้ำพอแล้ว ต้องปิดร้าน มาตอนนี้จะเปิดประเทศเปิดร้านได้ ก็มาเจอน้ำท่วมเสียหายหนัก อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือบ้าง ที่ผ่านมามีเพียงไม่กี่หมู่ที่ได้รับของแจก อยากให้ช่วยเหลือแจกของให้ทั่วถึงชาวบ้านทุกหมู่
 

 
หมูเขียงอาจทะลุ 200 บาท ฟาร์มหมู เดินหน้าขยับราคาอีก 2 บาท โอดแบกต้นทุนไม่ไหว
https://www.matichon.co.th/economy/news_3035840
 
หมูเขียงอาจทะลุ 200 บาท ฟาร์มหมู เดินหน้าขยับราคาอีก 2 บาท โอดแบกต้นทุนไม่ไหว
 
แหล่งข่าวจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกร กล่าวว่า ในช่วงบ่ายของวันที่ 10 พฤศจิกายน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เรียกประชุมด่วนเพื่อแก้ปัญหาข้าวถูกและหมูแพง กับสมาคมและบริษัทรายใหญ่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงสี ผู้ผลิตอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงสุกร เป็นต้น พร้อมกับกรมการค้าภายใน ซึ่งแต่ละส่วนได้สะท้อนสถานการณ์ด้านราคา และแนวทางแก้ปัญหาเพื่อดันราคาข้าว พร้อม ตรึงราคาสุกร หลังจากที่เกษตรกรและประชาชนร้องทุกข์ต่อรัฐบาล โดยที่ประชุมครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป กระทรวงพาณิชย์จึงขอให้แต่ละส่วนไปหารือและจัดทำแผนมานำเสนอและหาทางออกกันอีกครั้งในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้
 
“ในส่วนของผู้เลี้ยงสุกร เรายืนยันเรื่องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น จนถึง 80 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตขณะนี้อยู่ที่ไม่เกิน 82 บาทต่อกิโลกรัม และเตรียมปรับราคาอีก 2 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 84 บาท ในวันพระหน้า หรือวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพราะแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้น ทั้งอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นกว่า 30% ราคาน้ำมันและแรงงาน อีกทั้งปริมาณสุกรบางพื้นที่ลดลงจากภาวะอากาศ โดยผู้เลี้ยงสุกรได้เสนอซื้อข้าวเปลือกจากโรงสีแล้วนำมาสีแปรเป็นข้าวกล้องเพื่อผสมเป็นอาหารเลี้ยงสุกรเอง ในราคาที่เหมาะสม”
 
แหล่งข่าวจากสมาคมผู้เลี้ยงสุกร กล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้เลี้ยงสุกร ต้องช่วยเหลือตนเองที่จะลดภาระต้นทุนและพยุงราคามาตลอด บางส่วนเสียหายจากช่วงโควิดก็สูง และยื่นขอให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมาช่วยเหลือก็ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร จึงทำให้บางพื้นที่ต้องจำหน่ายสุกรและหมูชำแหละในราคาสูง และบางพื้นที่เจอต้นทุนขนส่ง เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ก็ทำให้ราคาสูงกว่าภาคอื่นด้วย แม้การปรับราคาสุกรมีชีวิตอีก 2 บาท ไปอยู่ที่ 84 บาท แต่ในตลาดที่มีการแข่งขันก็ยังมีการขายในราคา 79-81 บาท หากเป็นเนื้อหมูชำแหละตามสูตรก็จะคูณสอง เฉลี่ยหมูชำแหละก็ไม่ควรเกิน 160-180 บาทต่อกิโลกรัม ที่มีการขายราคา 200 บาทหรือเกิน 200 บาท ก็อยู่ที่กรมการค้าภายในจะต้องไปตรวจสอบและดำเนินการว่าขายเกินราคาเป็นจริงหรือไม่
 
“เชื่อว่าเมื่อสุกรเป็นต้องขยับอีก ราคาบางพื้นที่เกิน 200 บาทก็เป็นได้ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ แต่เป็นเรื่องที่รัฐต้องไปดูกลางน้ำ พ่อค้าชำแหละ พ่อค้าคนกลาง ว่าขยับราคาได้ตรงต้นทุนหรือขายเกินจริง จะมีโทษผู้เลี้ยงสุกรหรือเอาผิดกับเราก็ไม่ถูก เพราะผู้เลี้ยงเจอต้นทุนสูงมาตลอด และไม่ได้รับการช่วยเหลือเท่าที่ควร ซึ่งการทำหมูธงฟ้า ก็เชื่อว่าเป็นทางออกที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จะนำมาใช้อีก ผู้เลี้ยงสุกรย่อมให้ความร่วมมือหากมีการขอมาจากรัฐบาล แต่ก็เป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ไม่ได้ยั่งยืน” แหล่งข่าวสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ระบุ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่