มะเร็งปากมดลูกรู้เร็วก็รักษาหายได้

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ..ก่อนอื่นเลยมีความตั้งใจระหว่างการรักษาว่าจะแชร์ประสบการณ์เรื่องราว รวมถึงการรักษาทั้งหมดไว้เพื่อให้เพื่อน พี่ๆน้องๆได้อ่านกันเพราะตอนตรวจเจอครั้งแรกก็เพิ่ง pantip หรือgoogle ตลอดเลยค่ะได้ความรู้และได้กำลังใจจากหลายๆกระทู้เช่นกันค่ะ    
ยาวหน่อยนะคะ..แต่เราเล่าตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะพยายามเรียบเรียงให้ได้รายละเอียดให้มากที่สุด

***จุดเริ่มต้น คือ  การฉีดวัคซีน COVID - 19 !!!!

ใช่ค่ะ…อ่านไม่ผิด. เพราะเราต้องตรวจสุขภาพก่อนที่จะฉีดวัคซีนแต่เราเว้นมา 2 - 3 ปีที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปี

เราอายุ 35 ปี มีลูก 1 คน  หลังจากคลอดลูกก็ตรวจมะเร็งปากมดลูก 1  ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตรวจอีกเลยแม้ว่าจะตรวจสุขภาพประจำปีเพราะละเลยและคิดว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ไม่มีตกขาว ไม่มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง เรียกได้ว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย

—มิถุนายน 64. ตรวจสุขภาพประจำปีที่รพ.ในเครือมหาวิทยาลัย ตรวจทุกอย่าง รวมถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก(Liquid based cytology) และหาเชื้อ HPV DNA TEST  (ปีนี้ตั้งใจแน่วแน่มากว่าต้องตรวจให้ได้ไม่รู้อะไรดลใจให้ต้องตรวจเพราะคิดว่าไม่ได้ตรวจมานานหลายปีแล้ว)   หลังจากที่ขึ้นขาหยั่งตรวจเสร็จคุณหมอบอกว่าจะแจ้งผลทางจดหมาย หรือ ถ้าผิดปกติจะมีเจ้าหน้าที่โทรแจ้ง พอออกจากห้องคุณหมอเรามาเปลี่ยนกางเกงพบว่ามีเลือดออกหลังตรวจไม่แน่ใจว่าเพราะคุณหมอใส่เครื่องมือแรงไปหรือเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ใช้ทิชชู่ซับ 3- 4 ครั้ง ก็ไม่มีเลือดเลยคิดว่าเพราะเครื่องมือที่ใช้ตรวจหรือคุณหมอรุนแรง 555. ผลตรวจสุขภาพอื่นๆ คือปกติดี

+ค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพแล้วแต่โปรแกรมที่เลือก ของเรา  3000 - 4000 บาท

3 สัปดาห์[1] ถัดมา มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งว่าผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติให้นัดวันมาพบคุณหมอ หลังจากนั้นก็หูอื้อเจ้าหน้าที่พูดอะไรเราไม่รู้เรื่องแล้ว เสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า เลยถามกลับไปว่า เป็นมะเร็งเหรอค่ะ ?? เจ้าหน้าที่บอกว่าตอบไม่ได้ค่ะต้องให้คุณหมอเป็นแจ้ง เราก็นัดวันที่ใกล้ที่สุดที่จะไปพบคุณหมอได้    หลังจากนั้นตั้งสติได้ก็ค้นหาเลยค่ะ ‘’ผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ”  เราอ่านทุกลิงค์ที่มีคำค้นนี้คิดสารพัดอย่าง นอนไม่หลับเลยค่ะ แต่ก็มีหลายๆลิงค์บอกว่าอย่าเพิ่งตกใจกับคำคำนี้ เราก็คิดตัวเองในแง่บวกว่าอาจจะถึงมะเร็งก็ได้ แต่ก็คิดเผื่อตลอดค่ะว่าลูกยังเล็กใครจะอยู่กับลูก ถ้าเราเป็นอะไรไปหละ ทุกคำถามสารพัดเข้ามาในหัวเราเลยค่ะ

—กรกฏาคม 64 

## ฟังผล ::   เราไปพบคุณหมอตามนัดคุณหมอแจ้งผลว่าเป็น -ระดับ CIN II + HPV TYPE 16

CIN คือ รอยโรคที่ปากมดลูกในระยะก่อนเป็นมะเร็งโดยเกิดจากเชื้อไวรัส HPV 
มี 3 ระดับ
CIN l  คือ  มีการเปลี่ยนแปลงเซลล์เพียงเล็กน้อย
CIN ll  คือ เซลล์ผิดปกติ
CIN lll คือ เซลล์ที่ผิดปกติมาก แต่ยังไม่ใช่มะเร็ง

HPV DNA TESTING เป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก.  กลุ่มสายพันธุ์ที่รุนแรง เชื้อไวรัสเอชพีวีในกลุ่มนี้มีโอกาสก่อให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น สายพันธ์ 16 และ 18 

ณ วันนั้นที่ฟังผลก็ใจชื้นมานิดนึงเพราะหมอบอกว่ายังไม่เป็นมะเร็งนะ แต่มีเชื้อ HPV 16 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดุและสามารถพัฒนาการเป็นมะเร็งได้. แต่มันจุกอกอยู่ดี เพราะเราอยู่ใกล้คำว่า“มะเร็ง’’ แค่คืบแล้ว

คำแนะนำคุณหมอ : ให้ทำการส่องกล้อง (Colposcopy) เพื่อตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันผลชื้นเนื้ออีกที  (ณ วันนั้นที่รพ.ต้องรอคิวอีกเป็นเดือนและคุณหมอแจ้งว่ามีค่าใช้แต่ ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าประมาณ พันกว่าบาท เราบอกว่ายินดีจ่าย) แต่เราก็ลงคิวส่องกล้องไว้ พยาบาลก็แจ้งว่าถ้าสามารถทำที่อื่นก่อนได้ให้ทำเลยนะคะ  ซึ่งแน่นอนใครจะรอเป็นเดือน เรารอไม่ไหวค่ะ หลังออกจากรพ. ระหว่างทางกลับบ้านเรากดมือถือหาข้อมูลการรักษาต่อทันทีซึ่งขณะนั้นพื้นที่ที่เราอยู่มี2. รพ. 
คือ รพ.เอกชน  / รพ. รัฐบาล  ที่มีเครื่องมือในการส่องกล้อง สามีบอกว่าให้โทรถามรพ.เอกชนเลย
(เพราะคิดว่าได้ทำเร็วแน่นอน ใจตอนนั้นคือรีบทำเร็วที่สุด) เราก็หาข้อมูลจัดการติดต่อสอบถามค่าใช้จ่าย การรักษา และพยาบาลสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายให้เราได้เลย พยาบาลแจ้งว่า ไม่เกิน 10000 บาท เราก็ปรึกษากับสามีและนัดวันทำการส่องกล้องทันที

                                                 =============

—ส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อ   (Colposcopy)
การเตรียมตัว : งดมีเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร (เตรียมผ้าอนามัยไปเผื่อเลือดออกหลังส่องกล้อง) เดิมหัตถการนี้ต้องนอนรพ. ปัจจุบันคือไม่ต้องนอนกลับบ้านได้เลยใช้เวลาประมาณ40-50 นาที

พยาบาลให้เราเปลี่ยนกางเกงที่แหวกเป้าตรงกลางและให้นอนรอที่เตียงขาหยั่ง คุณหมอจะทำความสะอาดและใช้เครื่องมือสอดเข้าไปและใช้กล้องส่องเข้าไป  เรามองจากจอภาพที่ขึ้นมา
คุณหมอจะใช้น้ำยาป้ายบริเวณปากมดลูก  ถ้าตรงไหนที่มีสีเปลี่ยนแปลง(อันนี้ไม่แน่ใจ) คุณหมอก็จะตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไป  ทุกขั้นตอนคุณหมอแจ้งหมดว่าจะทำอะไรบ้างตอนตัดชิ้นเนื้อก็ไม่รู้สึกเจ็บเลย  (ระหว่างกำลังตัดฝนตกหนัก ฟ้าก็ร้องเราภาวนาในใจว่าขอให้ไม่เป็นเนื้อร้ายด้วยเถอะ) ซึ่งของเราตัดชิ้นเนื้อไป 2ชิ้น ชิ้นเล็กมากๆๆๆ  เมื่อตัดเสร็จคุณหมอจะใช้ที่หยุดเลือดเหมือนเป็นก้านสำลี พอลงจากขาหยั่งเราหันกลับไปมองที่เตียงก็เหมือนผ้าก็อตมีเลือดออกพอประมาณแอบตกใจเหมือนกันมีเลือดติดนิดหน่อยใช้กระดาษซับเลือดออก ห้ามใช้น้ำล้างออก  แต่งตัวเสร็จออกมาคุยกับคุณหมอก็มีเอกสารให้เราดูเป็นรูปเซลล์หมอบอกว่าจากที่ดูแล้วน่าจะต้องตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยนะคะ ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/  )  ทั้งนี้ทั้งนั้นรอดูผลชิ้นเนื้ออีกที
นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[2]

+ค่าใช้จ่าย รพ.เอกชน 8200 บาท

หลังจากการตัดชื้นเนื้อจะมีเลือดซึมๆนิดหน่อยมีเศษดำๆๆออกมาเหมือนเป็นที่หยุดเลือด ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ประมาณ 3 วัน ซึ่งกว่าจะข้ามผ่านไปแต่ละวันแต่ละคืนเรานอนไม่เคยหลับเลยคิดทุกเรื่องในหัว  คิดถึงผลชิ้นเนื้อภาวนาทุกวันว่าไม่ให้เป็นเนื้อร้าย  และแล้ววันฟังผลก็มาถึง

##ฟังผล  ::  เราเข้าไปฟังผลพร้อมสามีคุณหมอแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไปเป็นระดับ CIN III + Early  invasive squamous cell CA 
พอคุณหมอแจ้งเรามองหน้ากับสามี เราหูอื้อไปหมดแล้ว ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย รู้แค่ว่าหมอแนะนำให้ทำ LEEP ซึ่ง รพ.คุณหมอทางมะเร็งไม่ออกทำเพราะเป็นโควิดเราจึงจำเป็นต้องหารพ.เพื่อรักษาต่อให้เร็วที่สุด  คุณหมอก็แนะนำรพ.มา เราก็จากห้องคุณหมอแบบ งง ๆ ระหว่างรอจ่ายเงินเราก็มานั่งอ่านใบรายงานผลที่คุณหมอให้มาอย่างละเอียดและค้นหาในอากู๋ทันที   เราก็กลับเข้าไปถามคุณหมออีกรอบว่าเราต้องรีบทำ LEEP  ไหม  สามารถรอได้ไหม เพราะตอนนั้นโควิดระบาดหนักมาก  คุณหมอบอกว่าควรรีบทำให้เร็วที่สุด  และคำถามสุดท้ายที่เราถามคุณหมอคือ “เป็นมะเร็งแล้วใช่ไหม??? ”  คุณหมอตอบกลับมา “ค่ะ….เป็นมะเร็งแล้ว”
เหมือนกับฟ้าผ่าเปรี้ยงงงงงงง!!!!!   เราเบลอ เดินออกจากห้องหมอแบบเลื่อนลอยมาก  กลั้นน้ำตาไว้ มันจุกอกไปหมดความคิดทุกอย่างมันเข้ามาในหัว หน้าลูก หน้าพ่อแม่ ลอยมา  ระหว่างทางกลับบ้านเราร้องไห้ตลอดเลย  มือก็คุยไลน์กับเพื่อนไปด้วย (ตอนนั้นยังไม่กล้าบอกพ่อแม่)  สามีบอกว่าร้องทำไม ?? ไม่ได้เป็นหนักจะตายวันนี้พรุ่งนี้ซะหน่อย…มันมีทางรักษา  คือตอนนั้นใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไงเมื่อคุณรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งแค่คำนี้ใครๆๆก็กลัวทั้งนั้น. 

คำแนะนำคุณหมอ : ตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/  ) 

                                                        #############

หลังจากตั้งสติได้ก็เริ่มหาข้อมูล…ที่จะรักษาต่อเริ่มติดต่อเพื่อน พี่ สามารถให้ข้อมูลหรือแนะนำที่จะรักษาต่อ เราก็ได้ไปหาหมอที่คลินิกรักษามะเร็งนรีเวช ถือใบรายงานผลการส่องกล้องไป  เล่ารายละเอียดตั้งแต่แรกให้คุณหมอฟัง  คุณหมอบอกว่าขอตรวจภายในอีกครั้งหน่อย คุณหมอให้เราเปลี่ยนชุดเตรียมตรวจคุณหมอใส่เครื่องมือเพื่อดูภายใน คุณหมอใช้น้ำส้มสายชู(อันนี้แอบมอง)เพราะจากที่อ่านมาน้ำยาเปลี่ยนสีเซลล์จะเหมือนน้ำส้มสายชู(ถ้าข้อมูลผิดไปขออภัยนะคะ)
คุณหมอก็ป้ายไป คุณหมอบอกว่าจากที่มองด้วยตาเปล่าเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง(คุณหมอแจ้งมาเป็นนาฬิกา) คุณหมอขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจซ้ำที่รพ. (อันนี้คือรพ.รัฐบาล)ที่คุณหมอประจำอยู่
และให้เราไปขอ block slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง

ค่าใช้จ่ายคลินิก ::400       

                                                       #############

ตัดชิ้นเนื้ออีกรอบ…….

เนื่องจากเราไม่เคยมารพ.นี้เราก็ทำบัตรตามขั้นตอนซึ่งปัจจุบันรพ.รัฐบาลมีขั้นตอนแปปเดียวทำบัตรแจ้งข้อมูล เสร็จเราก็ได้ไปที่ห้องตรวจนรีเวชเลย  เข้าพบคุณหมอท่านเดิมที่เราไปหาที่คลินิกคุณหมอก็ให้ไปที่ห้องหัตการเพื่อตัดชิ้นเนื้อ เนื่องจากรพ.นี้มีนักเรียนแพทย์เยอะเราต้องทำใจในเรื่องนอนเตียงแล้วนศ.แพทย์ยืนดูนะคะ แรกๆๆเขินมากค่ะ นศ.4-5 คนเลย คุณหมอก็ใส่เครื่องมือแล้วก็ป้ายน้ำยา และตัดชิ้นเนื้อตรงที่คุณหมอสงสัยเลย (ไม่ได้ส่องกล้อง) และป้ายสำลีหยุดเลือด ใช้เวลา 30 นาที เนื่องจากมีประสบการณ์จากการส่องกล้องครั้งที่แล้วเลยเตรียมผ้าอนามัยมาด้วย อาจจมีเลือดซึมๆหลังการตัดชื้นเนื้อได้    นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[3]

ค่าใช้จ่าย : 30 บาท (ใช้สิทธิ์บัตรทอง)

1 สัปดาห์ ต่อมา เวลาประมาณ 14.00  คุณหมอท่านโทรมาแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไป ผลคือแค่“อักเสบ”  เรานี่ยิ้มไม่หุบเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย  คุณหมอบอกว่าวันนัดให้เอาblock slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง

สิงหาคม 64
ฟังผล  ::  คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อที่ตัดไปคือ อักเสบนะคะ เราส่งเอกสารที่ได้มาจากรพ.เอกชนให้คุณหมอ  คุณหมอบอกว่าผลไม่ตรงกันต้องให้บุคคลที่ 3เป็นคนยืนยันผลมันจะดีต่อคนไข้ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านชิ้นเนื้อยืนยันผลอีกครั้ง  นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[4]

ระหว่างที่รอฟังผลเราก็ไม่แตะต้องเนื้อสัตว์ หาข้อมูลการรับประทานอาหารของผู้ที่เป็นมะเร็ง  การรอคอยมันช่างแสนทรมาน นอนไม่หลับสักคืนเลยค่ะ  ทั้งบนบาน ทั้งภาวนา ทำทุกทางที่ให้ผลออกมาไม่เป็นมะเร็งค่ะ  และแล้วก็ถึงวันที่ฟังผลอีกครั้ง

#ฟังผล  ::  คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อตัดไปทั้ง 2ครั้ง ผลคือ ‘’ยืนยันตามรพ.แรกที่เราไปส่องกล้องมา’’  หูดับอีกแล้วค่ะ แต่เราก็มีเผื่อใจไว้บ้างค่ะ ยังตั้งสติได้ คุณหมอแจ้งว่าต้องทำ LEEP นะ นัดวันทำ LEEP  สัปดาห์หน้า คราวนี้ต้อง admit ก่อน 1วัน เป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ช่วงนี้คือมีโควิดใครจะผ่าตัดต้อง SWAP ก่อน และเราต้องตรวจคลื่นไฟฟ้า และ เอกซเรย์ปอดไว้

               #############

วันทำ LEEP 

05.30 - อาบน้ำ
06.00 - พยาบาลสวนอึ
07.00- เสียบสายน้ำเกลือ
08.30-เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเข็นเปลมารับ
ไปห้องผ่าตัดก็นอนรอเล่นๆที่หน้าห้องผ่าตัดมองดูหมอดูพยาบาลทำงานเพราะยังไม่ถึงคิวเรา
10.00- เจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลเข็นพาเราเข้าห้องผ่าตัด จัดแจงให้เราขึ้นขาหยั่ง  กางแขนซ้าย กางแขนขวา  จัดท่าทางเสร็จ สักพักมีเสียงบอกว่าจะทำให้หลับนะคะ  จากนั้นเราก็ไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ  ตื่นมาอีกทีได้ยินเสียงเครื่องวัดความดันดังตลอด  มองที่เพดานแบบเบลอๆ เวียนหัวมากๆ สักพักมีเสียงบอกว่าจะพากลับตึกนะคะ
12.40 - ถึงห้องพัก แบบว่าอยากจะอ้วกมาก เวียนหัวสุดๆๆๆ เราก็นอนพัก 2-3 ชั่วโมงก็ดีขึ้นไม่มีอาการเจ็บ ปวดใดๆ พอน้ำเกลือหมดขวดคุณพยาบาลก็มาเอาน้ำเกลือออกให้
วันถัดมาออกจาก รพ.
ก่อนออกจาก รพ.ก็มีเลือดออกหยดเล็กๆ เราคิดว่าเป็นเพราะ LEEP พยาบาลแจ้งวิธีการกลับไปอยู่ที่บ้านว่าทำอย่างไร ถ้าเลือดออกมาให้มา รพ. นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[5] 

กลับมาบ้านเรามีเลือดออกแบบต้องใส่ผ้าอนามัยตลอดแต่เราดูแล้วไม่ใช่เลือดสดๆ เหมือนเลือดประจำเดือน เราเลยดูไป 3-4 วันเลือดก็หยุด ตอนแรกตกใจมากนึกว่าเป็นเพราะ LEEP  แต่เป็นประจำเดือนพอดี   ​5555 เลยโล่งไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่