สวัสดีค่ะ..ก่อนอื่นเลยมีความตั้งใจระหว่างการรักษาว่าจะแชร์ประสบการณ์เรื่องราว รวมถึงการรักษาทั้งหมดไว้เพื่อให้เพื่อน พี่ๆน้องๆได้อ่านกันเพราะตอนตรวจเจอครั้งแรกก็เพิ่ง pantip หรือgoogle ตลอดเลยค่ะได้ความรู้และได้กำลังใจจากหลายๆกระทู้เช่นกันค่ะ
ยาวหน่อยนะคะ..แต่เราเล่าตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะพยายามเรียบเรียงให้ได้รายละเอียดให้มากที่สุด
***จุดเริ่มต้น คือ การฉีดวัคซีน COVID - 19 !!!!
ใช่ค่ะ…อ่านไม่ผิด. เพราะเราต้องตรวจสุขภาพก่อนที่จะฉีดวัคซีนแต่เราเว้นมา 2 - 3 ปีที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปี
เราอายุ 35 ปี มีลูก 1 คน หลังจากคลอดลูกก็ตรวจมะเร็งปากมดลูก 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตรวจอีกเลยแม้ว่าจะตรวจสุขภาพประจำปีเพราะละเลยและคิดว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ไม่มีตกขาว ไม่มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง เรียกได้ว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย
—มิถุนายน 64. ตรวจสุขภาพประจำปีที่รพ.ในเครือมหาวิทยาลัย ตรวจทุกอย่าง รวมถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก(Liquid based cytology) และหาเชื้อ HPV DNA TEST (ปีนี้ตั้งใจแน่วแน่มากว่าต้องตรวจให้ได้ไม่รู้อะไรดลใจให้ต้องตรวจเพราะคิดว่าไม่ได้ตรวจมานานหลายปีแล้ว) หลังจากที่ขึ้นขาหยั่งตรวจเสร็จคุณหมอบอกว่าจะแจ้งผลทางจดหมาย หรือ ถ้าผิดปกติจะมีเจ้าหน้าที่โทรแจ้ง พอออกจากห้องคุณหมอเรามาเปลี่ยนกางเกงพบว่ามีเลือดออกหลังตรวจไม่แน่ใจว่าเพราะคุณหมอใส่เครื่องมือแรงไปหรือเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ใช้ทิชชู่ซับ 3- 4 ครั้ง ก็ไม่มีเลือดเลยคิดว่าเพราะเครื่องมือที่ใช้ตรวจหรือคุณหมอรุนแรง 555. ผลตรวจสุขภาพอื่นๆ คือปกติดี
+ค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพแล้วแต่โปรแกรมที่เลือก ของเรา 3000 - 4000 บาท
3 สัปดาห์[1] ถัดมา มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งว่าผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติให้นัดวันมาพบคุณหมอ หลังจากนั้นก็หูอื้อเจ้าหน้าที่พูดอะไรเราไม่รู้เรื่องแล้ว เสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า เลยถามกลับไปว่า เป็นมะเร็งเหรอค่ะ ?? เจ้าหน้าที่บอกว่าตอบไม่ได้ค่ะต้องให้คุณหมอเป็นแจ้ง เราก็นัดวันที่ใกล้ที่สุดที่จะไปพบคุณหมอได้ หลังจากนั้นตั้งสติได้ก็ค้นหาเลยค่ะ ‘’ผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ” เราอ่านทุกลิงค์ที่มีคำค้นนี้คิดสารพัดอย่าง นอนไม่หลับเลยค่ะ แต่ก็มีหลายๆลิงค์บอกว่าอย่าเพิ่งตกใจกับคำคำนี้ เราก็คิดตัวเองในแง่บวกว่าอาจจะถึงมะเร็งก็ได้ แต่ก็คิดเผื่อตลอดค่ะว่าลูกยังเล็กใครจะอยู่กับลูก ถ้าเราเป็นอะไรไปหละ ทุกคำถามสารพัดเข้ามาในหัวเราเลยค่ะ
—กรกฏาคม 64
## ฟังผล :: เราไปพบคุณหมอตามนัดคุณหมอแจ้งผลว่าเป็น -ระดับ CIN II + HPV TYPE 16
CIN คือ รอยโรคที่ปากมดลูกในระยะก่อนเป็นมะเร็งโดยเกิดจากเชื้อไวรัส HPV
มี 3 ระดับ
CIN l คือ มีการเปลี่ยนแปลงเซลล์เพียงเล็กน้อย
CIN ll คือ เซลล์ผิดปกติ
CIN lll คือ เซลล์ที่ผิดปกติมาก แต่ยังไม่ใช่มะเร็ง
HPV DNA TESTING เป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก. กลุ่มสายพันธุ์ที่รุนแรง เชื้อไวรัสเอชพีวีในกลุ่มนี้มีโอกาสก่อให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น สายพันธ์ 16 และ 18
ณ วันนั้นที่ฟังผลก็ใจชื้นมานิดนึงเพราะหมอบอกว่ายังไม่เป็นมะเร็งนะ แต่มีเชื้อ HPV 16 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดุและสามารถพัฒนาการเป็นมะเร็งได้. แต่มันจุกอกอยู่ดี เพราะเราอยู่ใกล้คำว่า“มะเร็ง’’ แค่คืบแล้ว
คำแนะนำคุณหมอ : ให้ทำการส่องกล้อง (Colposcopy) เพื่อตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันผลชื้นเนื้ออีกที (ณ วันนั้นที่รพ.ต้องรอคิวอีกเป็นเดือนและคุณหมอแจ้งว่ามีค่าใช้แต่ ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าประมาณ พันกว่าบาท เราบอกว่ายินดีจ่าย) แต่เราก็ลงคิวส่องกล้องไว้ พยาบาลก็แจ้งว่าถ้าสามารถทำที่อื่นก่อนได้ให้ทำเลยนะคะ ซึ่งแน่นอนใครจะรอเป็นเดือน เรารอไม่ไหวค่ะ หลังออกจากรพ. ระหว่างทางกลับบ้านเรากดมือถือหาข้อมูลการรักษาต่อทันทีซึ่งขณะนั้นพื้นที่ที่เราอยู่มี2. รพ.
คือ รพ.เอกชน / รพ. รัฐบาล ที่มีเครื่องมือในการส่องกล้อง สามีบอกว่าให้โทรถามรพ.เอกชนเลย
(เพราะคิดว่าได้ทำเร็วแน่นอน ใจตอนนั้นคือรีบทำเร็วที่สุด) เราก็หาข้อมูลจัดการติดต่อสอบถามค่าใช้จ่าย การรักษา และพยาบาลสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายให้เราได้เลย พยาบาลแจ้งว่า ไม่เกิน 10000 บาท เราก็ปรึกษากับสามีและนัดวันทำการส่องกล้องทันที
=============
—ส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อ (Colposcopy)
การเตรียมตัว : งดมีเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร (เตรียมผ้าอนามัยไปเผื่อเลือดออกหลังส่องกล้อง) เดิมหัตถการนี้ต้องนอนรพ. ปัจจุบันคือไม่ต้องนอนกลับบ้านได้เลยใช้เวลาประมาณ40-50 นาที
พยาบาลให้เราเปลี่ยนกางเกงที่แหวกเป้าตรงกลางและให้นอนรอที่เตียงขาหยั่ง คุณหมอจะทำความสะอาดและใช้เครื่องมือสอดเข้าไปและใช้กล้องส่องเข้าไป เรามองจากจอภาพที่ขึ้นมา
คุณหมอจะใช้น้ำยาป้ายบริเวณปากมดลูก ถ้าตรงไหนที่มีสีเปลี่ยนแปลง(อันนี้ไม่แน่ใจ) คุณหมอก็จะตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไป ทุกขั้นตอนคุณหมอแจ้งหมดว่าจะทำอะไรบ้างตอนตัดชิ้นเนื้อก็ไม่รู้สึกเจ็บเลย (ระหว่างกำลังตัดฝนตกหนัก ฟ้าก็ร้องเราภาวนาในใจว่าขอให้ไม่เป็นเนื้อร้ายด้วยเถอะ) ซึ่งของเราตัดชิ้นเนื้อไป 2ชิ้น ชิ้นเล็กมากๆๆๆ เมื่อตัดเสร็จคุณหมอจะใช้ที่หยุดเลือดเหมือนเป็นก้านสำลี พอลงจากขาหยั่งเราหันกลับไปมองที่เตียงก็เหมือนผ้าก็อตมีเลือดออกพอประมาณแอบตกใจเหมือนกันมีเลือดติดนิดหน่อยใช้กระดาษซับเลือดออก ห้ามใช้น้ำล้างออก แต่งตัวเสร็จออกมาคุยกับคุณหมอก็มีเอกสารให้เราดูเป็นรูปเซลล์หมอบอกว่าจากที่ดูแล้วน่าจะต้องตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยนะคะ ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/ ) ทั้งนี้ทั้งนั้นรอดูผลชิ้นเนื้ออีกที
นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[2]
+ค่าใช้จ่าย รพ.เอกชน 8200 บาท
หลังจากการตัดชื้นเนื้อจะมีเลือดซึมๆนิดหน่อยมีเศษดำๆๆออกมาเหมือนเป็นที่หยุดเลือด ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ประมาณ 3 วัน ซึ่งกว่าจะข้ามผ่านไปแต่ละวันแต่ละคืนเรานอนไม่เคยหลับเลยคิดทุกเรื่องในหัว คิดถึงผลชิ้นเนื้อภาวนาทุกวันว่าไม่ให้เป็นเนื้อร้าย และแล้ววันฟังผลก็มาถึง
##ฟังผล :: เราเข้าไปฟังผลพร้อมสามีคุณหมอแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไปเป็นระดับ CIN III + Early invasive squamous cell CA
พอคุณหมอแจ้งเรามองหน้ากับสามี เราหูอื้อไปหมดแล้ว ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย รู้แค่ว่าหมอแนะนำให้ทำ LEEP ซึ่ง รพ.คุณหมอทางมะเร็งไม่ออกทำเพราะเป็นโควิดเราจึงจำเป็นต้องหารพ.เพื่อรักษาต่อให้เร็วที่สุด คุณหมอก็แนะนำรพ.มา เราก็จากห้องคุณหมอแบบ งง ๆ ระหว่างรอจ่ายเงินเราก็มานั่งอ่านใบรายงานผลที่คุณหมอให้มาอย่างละเอียดและค้นหาในอากู๋ทันที เราก็กลับเข้าไปถามคุณหมออีกรอบว่าเราต้องรีบทำ LEEP ไหม สามารถรอได้ไหม เพราะตอนนั้นโควิดระบาดหนักมาก คุณหมอบอกว่าควรรีบทำให้เร็วที่สุด และคำถามสุดท้ายที่เราถามคุณหมอคือ “เป็นมะเร็งแล้วใช่ไหม??? ” คุณหมอตอบกลับมา “ค่ะ….เป็นมะเร็งแล้ว”
เหมือนกับฟ้าผ่าเปรี้ยงงงงงงง!!!!! เราเบลอ เดินออกจากห้องหมอแบบเลื่อนลอยมาก กลั้นน้ำตาไว้ มันจุกอกไปหมดความคิดทุกอย่างมันเข้ามาในหัว หน้าลูก หน้าพ่อแม่ ลอยมา ระหว่างทางกลับบ้านเราร้องไห้ตลอดเลย มือก็คุยไลน์กับเพื่อนไปด้วย (ตอนนั้นยังไม่กล้าบอกพ่อแม่) สามีบอกว่าร้องทำไม ?? ไม่ได้เป็นหนักจะตายวันนี้พรุ่งนี้ซะหน่อย…มันมีทางรักษา คือตอนนั้นใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไงเมื่อคุณรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งแค่คำนี้ใครๆๆก็กลัวทั้งนั้น.
คำแนะนำคุณหมอ : ตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/ )
#############
หลังจากตั้งสติได้ก็เริ่มหาข้อมูล…ที่จะรักษาต่อเริ่มติดต่อเพื่อน พี่ สามารถให้ข้อมูลหรือแนะนำที่จะรักษาต่อ เราก็ได้ไปหาหมอที่คลินิกรักษามะเร็งนรีเวช ถือใบรายงานผลการส่องกล้องไป เล่ารายละเอียดตั้งแต่แรกให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอกว่าขอตรวจภายในอีกครั้งหน่อย คุณหมอให้เราเปลี่ยนชุดเตรียมตรวจคุณหมอใส่เครื่องมือเพื่อดูภายใน คุณหมอใช้น้ำส้มสายชู(อันนี้แอบมอง)เพราะจากที่อ่านมาน้ำยาเปลี่ยนสีเซลล์จะเหมือนน้ำส้มสายชู(ถ้าข้อมูลผิดไปขออภัยนะคะ)
คุณหมอก็ป้ายไป คุณหมอบอกว่าจากที่มองด้วยตาเปล่าเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง(คุณหมอแจ้งมาเป็นนาฬิกา) คุณหมอขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจซ้ำที่รพ. (อันนี้คือรพ.รัฐบาล)ที่คุณหมอประจำอยู่
และให้เราไปขอ block slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง
ค่าใช้จ่ายคลินิก ::400
#############
ตัดชิ้นเนื้ออีกรอบ…….
เนื่องจากเราไม่เคยมารพ.นี้เราก็ทำบัตรตามขั้นตอนซึ่งปัจจุบันรพ.รัฐบาลมีขั้นตอนแปปเดียวทำบัตรแจ้งข้อมูล เสร็จเราก็ได้ไปที่ห้องตรวจนรีเวชเลย เข้าพบคุณหมอท่านเดิมที่เราไปหาที่คลินิกคุณหมอก็ให้ไปที่ห้องหัตการเพื่อตัดชิ้นเนื้อ เนื่องจากรพ.นี้มีนักเรียนแพทย์เยอะเราต้องทำใจในเรื่องนอนเตียงแล้วนศ.แพทย์ยืนดูนะคะ แรกๆๆเขินมากค่ะ นศ.4-5 คนเลย คุณหมอก็ใส่เครื่องมือแล้วก็ป้ายน้ำยา และตัดชิ้นเนื้อตรงที่คุณหมอสงสัยเลย (ไม่ได้ส่องกล้อง) และป้ายสำลีหยุดเลือด ใช้เวลา 30 นาที เนื่องจากมีประสบการณ์จากการส่องกล้องครั้งที่แล้วเลยเตรียมผ้าอนามัยมาด้วย อาจจมีเลือดซึมๆหลังการตัดชื้นเนื้อได้ นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[3]
ค่าใช้จ่าย : 30 บาท (ใช้สิทธิ์บัตรทอง)
1 สัปดาห์ ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 คุณหมอท่านโทรมาแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไป ผลคือแค่“อักเสบ” เรานี่ยิ้มไม่หุบเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย คุณหมอบอกว่าวันนัดให้เอาblock slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง
สิงหาคม 64
ฟังผล :: คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อที่ตัดไปคือ อักเสบนะคะ เราส่งเอกสารที่ได้มาจากรพ.เอกชนให้คุณหมอ คุณหมอบอกว่าผลไม่ตรงกันต้องให้บุคคลที่ 3เป็นคนยืนยันผลมันจะดีต่อคนไข้ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านชิ้นเนื้อยืนยันผลอีกครั้ง นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[4]
ระหว่างที่รอฟังผลเราก็ไม่แตะต้องเนื้อสัตว์ หาข้อมูลการรับประทานอาหารของผู้ที่เป็นมะเร็ง การรอคอยมันช่างแสนทรมาน นอนไม่หลับสักคืนเลยค่ะ ทั้งบนบาน ทั้งภาวนา ทำทุกทางที่ให้ผลออกมาไม่เป็นมะเร็งค่ะ และแล้วก็ถึงวันที่ฟังผลอีกครั้ง
#ฟังผล :: คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อตัดไปทั้ง 2ครั้ง ผลคือ ‘’ยืนยันตามรพ.แรกที่เราไปส่องกล้องมา’’ หูดับอีกแล้วค่ะ แต่เราก็มีเผื่อใจไว้บ้างค่ะ ยังตั้งสติได้ คุณหมอแจ้งว่าต้องทำ LEEP นะ นัดวันทำ LEEP สัปดาห์หน้า คราวนี้ต้อง admit ก่อน 1วัน เป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ช่วงนี้คือมีโควิดใครจะผ่าตัดต้อง SWAP ก่อน และเราต้องตรวจคลื่นไฟฟ้า และ เอกซเรย์ปอดไว้
#############
วันทำ LEEP
05.30 - อาบน้ำ
06.00 - พยาบาลสวนอึ
07.00- เสียบสายน้ำเกลือ
08.30-เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเข็นเปลมารับ
ไปห้องผ่าตัดก็นอนรอเล่นๆที่หน้าห้องผ่าตัดมองดูหมอดูพยาบาลทำงานเพราะยังไม่ถึงคิวเรา
10.00- เจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลเข็นพาเราเข้าห้องผ่าตัด จัดแจงให้เราขึ้นขาหยั่ง กางแขนซ้าย กางแขนขวา จัดท่าทางเสร็จ สักพักมีเสียงบอกว่าจะทำให้หลับนะคะ จากนั้นเราก็ไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ ตื่นมาอีกทีได้ยินเสียงเครื่องวัดความดันดังตลอด มองที่เพดานแบบเบลอๆ เวียนหัวมากๆ สักพักมีเสียงบอกว่าจะพากลับตึกนะคะ
12.40 - ถึงห้องพัก แบบว่าอยากจะอ้วกมาก เวียนหัวสุดๆๆๆ เราก็นอนพัก 2-3 ชั่วโมงก็ดีขึ้นไม่มีอาการเจ็บ ปวดใดๆ พอน้ำเกลือหมดขวดคุณพยาบาลก็มาเอาน้ำเกลือออกให้
วันถัดมาออกจาก รพ.
ก่อนออกจาก รพ.ก็มีเลือดออกหยดเล็กๆ เราคิดว่าเป็นเพราะ LEEP พยาบาลแจ้งวิธีการกลับไปอยู่ที่บ้านว่าทำอย่างไร ถ้าเลือดออกมาให้มา รพ. นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[5]
กลับมาบ้านเรามีเลือดออกแบบต้องใส่ผ้าอนามัยตลอดแต่เราดูแล้วไม่ใช่เลือดสดๆ เหมือนเลือดประจำเดือน เราเลยดูไป 3-4 วันเลือดก็หยุด ตอนแรกตกใจมากนึกว่าเป็นเพราะ LEEP แต่เป็นประจำเดือนพอดี 5555 เลยโล่งไป
มะเร็งปากมดลูกรู้เร็วก็รักษาหายได้
ยาวหน่อยนะคะ..แต่เราเล่าตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่ะพยายามเรียบเรียงให้ได้รายละเอียดให้มากที่สุด
***จุดเริ่มต้น คือ การฉีดวัคซีน COVID - 19 !!!!
ใช่ค่ะ…อ่านไม่ผิด. เพราะเราต้องตรวจสุขภาพก่อนที่จะฉีดวัคซีนแต่เราเว้นมา 2 - 3 ปีที่ไม่ได้ตรวจสุขภาพประจำปี
เราอายุ 35 ปี มีลูก 1 คน หลังจากคลอดลูกก็ตรวจมะเร็งปากมดลูก 1 ครั้ง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตรวจอีกเลยแม้ว่าจะตรวจสุขภาพประจำปีเพราะละเลยและคิดว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ไม่มีตกขาว ไม่มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง เรียกได้ว่าไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย
—มิถุนายน 64. ตรวจสุขภาพประจำปีที่รพ.ในเครือมหาวิทยาลัย ตรวจทุกอย่าง รวมถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก(Liquid based cytology) และหาเชื้อ HPV DNA TEST (ปีนี้ตั้งใจแน่วแน่มากว่าต้องตรวจให้ได้ไม่รู้อะไรดลใจให้ต้องตรวจเพราะคิดว่าไม่ได้ตรวจมานานหลายปีแล้ว) หลังจากที่ขึ้นขาหยั่งตรวจเสร็จคุณหมอบอกว่าจะแจ้งผลทางจดหมาย หรือ ถ้าผิดปกติจะมีเจ้าหน้าที่โทรแจ้ง พอออกจากห้องคุณหมอเรามาเปลี่ยนกางเกงพบว่ามีเลือดออกหลังตรวจไม่แน่ใจว่าเพราะคุณหมอใส่เครื่องมือแรงไปหรือเพราะอะไรแต่ก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ใช้ทิชชู่ซับ 3- 4 ครั้ง ก็ไม่มีเลือดเลยคิดว่าเพราะเครื่องมือที่ใช้ตรวจหรือคุณหมอรุนแรง 555. ผลตรวจสุขภาพอื่นๆ คือปกติดี
+ค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพแล้วแต่โปรแกรมที่เลือก ของเรา 3000 - 4000 บาท
3 สัปดาห์[1] ถัดมา มีโทรศัพท์โทรมาแจ้งว่าผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติให้นัดวันมาพบคุณหมอ หลังจากนั้นก็หูอื้อเจ้าหน้าที่พูดอะไรเราไม่รู้เรื่องแล้ว เสียงสั่น น้ำตาคลอเบ้า เลยถามกลับไปว่า เป็นมะเร็งเหรอค่ะ ?? เจ้าหน้าที่บอกว่าตอบไม่ได้ค่ะต้องให้คุณหมอเป็นแจ้ง เราก็นัดวันที่ใกล้ที่สุดที่จะไปพบคุณหมอได้ หลังจากนั้นตั้งสติได้ก็ค้นหาเลยค่ะ ‘’ผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกผิดปกติ” เราอ่านทุกลิงค์ที่มีคำค้นนี้คิดสารพัดอย่าง นอนไม่หลับเลยค่ะ แต่ก็มีหลายๆลิงค์บอกว่าอย่าเพิ่งตกใจกับคำคำนี้ เราก็คิดตัวเองในแง่บวกว่าอาจจะถึงมะเร็งก็ได้ แต่ก็คิดเผื่อตลอดค่ะว่าลูกยังเล็กใครจะอยู่กับลูก ถ้าเราเป็นอะไรไปหละ ทุกคำถามสารพัดเข้ามาในหัวเราเลยค่ะ
—กรกฏาคม 64
## ฟังผล :: เราไปพบคุณหมอตามนัดคุณหมอแจ้งผลว่าเป็น -ระดับ CIN II + HPV TYPE 16
CIN คือ รอยโรคที่ปากมดลูกในระยะก่อนเป็นมะเร็งโดยเกิดจากเชื้อไวรัส HPV
มี 3 ระดับ
CIN l คือ มีการเปลี่ยนแปลงเซลล์เพียงเล็กน้อย
CIN ll คือ เซลล์ผิดปกติ
CIN lll คือ เซลล์ที่ผิดปกติมาก แต่ยังไม่ใช่มะเร็ง
HPV DNA TESTING เป็นการตรวจแบบเจาะลึกระดับดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นเทคนิคการตรวจระดับชีวโมเลกุลที่สามารถค้นหาเชื้อเอชพีวีได้ในระยะก่อนที่จะเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูก. กลุ่มสายพันธุ์ที่รุนแรง เชื้อไวรัสเอชพีวีในกลุ่มนี้มีโอกาสก่อให้เกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ เช่น สายพันธ์ 16 และ 18
ณ วันนั้นที่ฟังผลก็ใจชื้นมานิดนึงเพราะหมอบอกว่ายังไม่เป็นมะเร็งนะ แต่มีเชื้อ HPV 16 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดุและสามารถพัฒนาการเป็นมะเร็งได้. แต่มันจุกอกอยู่ดี เพราะเราอยู่ใกล้คำว่า“มะเร็ง’’ แค่คืบแล้ว
คำแนะนำคุณหมอ : ให้ทำการส่องกล้อง (Colposcopy) เพื่อตัดชิ้นเนื้อเพื่อยืนยันผลชื้นเนื้ออีกที (ณ วันนั้นที่รพ.ต้องรอคิวอีกเป็นเดือนและคุณหมอแจ้งว่ามีค่าใช้แต่ ตอนนั้นคุณหมอบอกว่าประมาณ พันกว่าบาท เราบอกว่ายินดีจ่าย) แต่เราก็ลงคิวส่องกล้องไว้ พยาบาลก็แจ้งว่าถ้าสามารถทำที่อื่นก่อนได้ให้ทำเลยนะคะ ซึ่งแน่นอนใครจะรอเป็นเดือน เรารอไม่ไหวค่ะ หลังออกจากรพ. ระหว่างทางกลับบ้านเรากดมือถือหาข้อมูลการรักษาต่อทันทีซึ่งขณะนั้นพื้นที่ที่เราอยู่มี2. รพ.
คือ รพ.เอกชน / รพ. รัฐบาล ที่มีเครื่องมือในการส่องกล้อง สามีบอกว่าให้โทรถามรพ.เอกชนเลย
(เพราะคิดว่าได้ทำเร็วแน่นอน ใจตอนนั้นคือรีบทำเร็วที่สุด) เราก็หาข้อมูลจัดการติดต่อสอบถามค่าใช้จ่าย การรักษา และพยาบาลสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายให้เราได้เลย พยาบาลแจ้งว่า ไม่เกิน 10000 บาท เราก็ปรึกษากับสามีและนัดวันทำการส่องกล้องทันที
=============
—ส่องกล้องเพื่อตัดชิ้นเนื้อ (Colposcopy)
การเตรียมตัว : งดมีเพศสัมพันธ์ ไม่ต้องงดน้ำงดอาหาร (เตรียมผ้าอนามัยไปเผื่อเลือดออกหลังส่องกล้อง) เดิมหัตถการนี้ต้องนอนรพ. ปัจจุบันคือไม่ต้องนอนกลับบ้านได้เลยใช้เวลาประมาณ40-50 นาที
พยาบาลให้เราเปลี่ยนกางเกงที่แหวกเป้าตรงกลางและให้นอนรอที่เตียงขาหยั่ง คุณหมอจะทำความสะอาดและใช้เครื่องมือสอดเข้าไปและใช้กล้องส่องเข้าไป เรามองจากจอภาพที่ขึ้นมา
คุณหมอจะใช้น้ำยาป้ายบริเวณปากมดลูก ถ้าตรงไหนที่มีสีเปลี่ยนแปลง(อันนี้ไม่แน่ใจ) คุณหมอก็จะตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไป ทุกขั้นตอนคุณหมอแจ้งหมดว่าจะทำอะไรบ้างตอนตัดชิ้นเนื้อก็ไม่รู้สึกเจ็บเลย (ระหว่างกำลังตัดฝนตกหนัก ฟ้าก็ร้องเราภาวนาในใจว่าขอให้ไม่เป็นเนื้อร้ายด้วยเถอะ) ซึ่งของเราตัดชิ้นเนื้อไป 2ชิ้น ชิ้นเล็กมากๆๆๆ เมื่อตัดเสร็จคุณหมอจะใช้ที่หยุดเลือดเหมือนเป็นก้านสำลี พอลงจากขาหยั่งเราหันกลับไปมองที่เตียงก็เหมือนผ้าก็อตมีเลือดออกพอประมาณแอบตกใจเหมือนกันมีเลือดติดนิดหน่อยใช้กระดาษซับเลือดออก ห้ามใช้น้ำล้างออก แต่งตัวเสร็จออกมาคุยกับคุณหมอก็มีเอกสารให้เราดูเป็นรูปเซลล์หมอบอกว่าจากที่ดูแล้วน่าจะต้องตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยนะคะ ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/ ) ทั้งนี้ทั้งนั้นรอดูผลชิ้นเนื้ออีกที
นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[2]
+ค่าใช้จ่าย รพ.เอกชน 8200 บาท
หลังจากการตัดชื้นเนื้อจะมีเลือดซึมๆนิดหน่อยมีเศษดำๆๆออกมาเหมือนเป็นที่หยุดเลือด ต้องใส่ผ้าอนามัยไว้ประมาณ 3 วัน ซึ่งกว่าจะข้ามผ่านไปแต่ละวันแต่ละคืนเรานอนไม่เคยหลับเลยคิดทุกเรื่องในหัว คิดถึงผลชิ้นเนื้อภาวนาทุกวันว่าไม่ให้เป็นเนื้อร้าย และแล้ววันฟังผลก็มาถึง
##ฟังผล :: เราเข้าไปฟังผลพร้อมสามีคุณหมอแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไปเป็นระดับ CIN III + Early invasive squamous cell CA
พอคุณหมอแจ้งเรามองหน้ากับสามี เราหูอื้อไปหมดแล้ว ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย รู้แค่ว่าหมอแนะนำให้ทำ LEEP ซึ่ง รพ.คุณหมอทางมะเร็งไม่ออกทำเพราะเป็นโควิดเราจึงจำเป็นต้องหารพ.เพื่อรักษาต่อให้เร็วที่สุด คุณหมอก็แนะนำรพ.มา เราก็จากห้องคุณหมอแบบ งง ๆ ระหว่างรอจ่ายเงินเราก็มานั่งอ่านใบรายงานผลที่คุณหมอให้มาอย่างละเอียดและค้นหาในอากู๋ทันที เราก็กลับเข้าไปถามคุณหมออีกรอบว่าเราต้องรีบทำ LEEP ไหม สามารถรอได้ไหม เพราะตอนนั้นโควิดระบาดหนักมาก คุณหมอบอกว่าควรรีบทำให้เร็วที่สุด และคำถามสุดท้ายที่เราถามคุณหมอคือ “เป็นมะเร็งแล้วใช่ไหม??? ” คุณหมอตอบกลับมา “ค่ะ….เป็นมะเร็งแล้ว”
เหมือนกับฟ้าผ่าเปรี้ยงงงงงงง!!!!! เราเบลอ เดินออกจากห้องหมอแบบเลื่อนลอยมาก กลั้นน้ำตาไว้ มันจุกอกไปหมดความคิดทุกอย่างมันเข้ามาในหัว หน้าลูก หน้าพ่อแม่ ลอยมา ระหว่างทางกลับบ้านเราร้องไห้ตลอดเลย มือก็คุยไลน์กับเพื่อนไปด้วย (ตอนนั้นยังไม่กล้าบอกพ่อแม่) สามีบอกว่าร้องทำไม ?? ไม่ได้เป็นหนักจะตายวันนี้พรุ่งนี้ซะหน่อย…มันมีทางรักษา คือตอนนั้นใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันรู้สึกยังไงเมื่อคุณรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็งแค่คำนี้ใครๆๆก็กลัวทั้งนั้น.
คำแนะนำคุณหมอ : ตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวย ( Conization) / ด้วยห่วงลวดไฟฟ้า( LEEP/ )
#############
หลังจากตั้งสติได้ก็เริ่มหาข้อมูล…ที่จะรักษาต่อเริ่มติดต่อเพื่อน พี่ สามารถให้ข้อมูลหรือแนะนำที่จะรักษาต่อ เราก็ได้ไปหาหมอที่คลินิกรักษามะเร็งนรีเวช ถือใบรายงานผลการส่องกล้องไป เล่ารายละเอียดตั้งแต่แรกให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอกว่าขอตรวจภายในอีกครั้งหน่อย คุณหมอให้เราเปลี่ยนชุดเตรียมตรวจคุณหมอใส่เครื่องมือเพื่อดูภายใน คุณหมอใช้น้ำส้มสายชู(อันนี้แอบมอง)เพราะจากที่อ่านมาน้ำยาเปลี่ยนสีเซลล์จะเหมือนน้ำส้มสายชู(ถ้าข้อมูลผิดไปขออภัยนะคะ)
คุณหมอก็ป้ายไป คุณหมอบอกว่าจากที่มองด้วยตาเปล่าเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง(คุณหมอแจ้งมาเป็นนาฬิกา) คุณหมอขอตัดชิ้นเนื้อไปตรวจซ้ำที่รพ. (อันนี้คือรพ.รัฐบาล)ที่คุณหมอประจำอยู่
และให้เราไปขอ block slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง
ค่าใช้จ่ายคลินิก ::400
#############
ตัดชิ้นเนื้ออีกรอบ…….
เนื่องจากเราไม่เคยมารพ.นี้เราก็ทำบัตรตามขั้นตอนซึ่งปัจจุบันรพ.รัฐบาลมีขั้นตอนแปปเดียวทำบัตรแจ้งข้อมูล เสร็จเราก็ได้ไปที่ห้องตรวจนรีเวชเลย เข้าพบคุณหมอท่านเดิมที่เราไปหาที่คลินิกคุณหมอก็ให้ไปที่ห้องหัตการเพื่อตัดชิ้นเนื้อ เนื่องจากรพ.นี้มีนักเรียนแพทย์เยอะเราต้องทำใจในเรื่องนอนเตียงแล้วนศ.แพทย์ยืนดูนะคะ แรกๆๆเขินมากค่ะ นศ.4-5 คนเลย คุณหมอก็ใส่เครื่องมือแล้วก็ป้ายน้ำยา และตัดชิ้นเนื้อตรงที่คุณหมอสงสัยเลย (ไม่ได้ส่องกล้อง) และป้ายสำลีหยุดเลือด ใช้เวลา 30 นาที เนื่องจากมีประสบการณ์จากการส่องกล้องครั้งที่แล้วเลยเตรียมผ้าอนามัยมาด้วย อาจจมีเลือดซึมๆหลังการตัดชื้นเนื้อได้ นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[3]
ค่าใช้จ่าย : 30 บาท (ใช้สิทธิ์บัตรทอง)
1 สัปดาห์ ต่อมา เวลาประมาณ 14.00 คุณหมอท่านโทรมาแจ้งว่าชิ้นเนื้อที่ตัดไป ผลคือแค่“อักเสบ” เรานี่ยิ้มไม่หุบเลย เหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย คุณหมอบอกว่าวันนัดให้เอาblock slide ที่ รพ.เอกชนที่เราไปส่องกล้องมาเพื่อทบทวนอีกครั้ง
สิงหาคม 64
ฟังผล :: คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อที่ตัดไปคือ อักเสบนะคะ เราส่งเอกสารที่ได้มาจากรพ.เอกชนให้คุณหมอ คุณหมอบอกว่าผลไม่ตรงกันต้องให้บุคคลที่ 3เป็นคนยืนยันผลมันจะดีต่อคนไข้ ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านชิ้นเนื้อยืนยันผลอีกครั้ง นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[4]
ระหว่างที่รอฟังผลเราก็ไม่แตะต้องเนื้อสัตว์ หาข้อมูลการรับประทานอาหารของผู้ที่เป็นมะเร็ง การรอคอยมันช่างแสนทรมาน นอนไม่หลับสักคืนเลยค่ะ ทั้งบนบาน ทั้งภาวนา ทำทุกทางที่ให้ผลออกมาไม่เป็นมะเร็งค่ะ และแล้วก็ถึงวันที่ฟังผลอีกครั้ง
#ฟังผล :: คุณหมอแจ้งว่าผลชิ้นเนื้อตัดไปทั้ง 2ครั้ง ผลคือ ‘’ยืนยันตามรพ.แรกที่เราไปส่องกล้องมา’’ หูดับอีกแล้วค่ะ แต่เราก็มีเผื่อใจไว้บ้างค่ะ ยังตั้งสติได้ คุณหมอแจ้งว่าต้องทำ LEEP นะ นัดวันทำ LEEP สัปดาห์หน้า คราวนี้ต้อง admit ก่อน 1วัน เป็นการผ่าตัดเล็ก แต่ช่วงนี้คือมีโควิดใครจะผ่าตัดต้อง SWAP ก่อน และเราต้องตรวจคลื่นไฟฟ้า และ เอกซเรย์ปอดไว้
#############
วันทำ LEEP
05.30 - อาบน้ำ
06.00 - พยาบาลสวนอึ
07.00- เสียบสายน้ำเกลือ
08.30-เจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดเข็นเปลมารับ
ไปห้องผ่าตัดก็นอนรอเล่นๆที่หน้าห้องผ่าตัดมองดูหมอดูพยาบาลทำงานเพราะยังไม่ถึงคิวเรา
10.00- เจ้าหน้าที่มาสอบถามข้อมูลเข็นพาเราเข้าห้องผ่าตัด จัดแจงให้เราขึ้นขาหยั่ง กางแขนซ้าย กางแขนขวา จัดท่าทางเสร็จ สักพักมีเสียงบอกว่าจะทำให้หลับนะคะ จากนั้นเราก็ไม่รู้เรื่องแล้วค่ะ ตื่นมาอีกทีได้ยินเสียงเครื่องวัดความดันดังตลอด มองที่เพดานแบบเบลอๆ เวียนหัวมากๆ สักพักมีเสียงบอกว่าจะพากลับตึกนะคะ
12.40 - ถึงห้องพัก แบบว่าอยากจะอ้วกมาก เวียนหัวสุดๆๆๆ เราก็นอนพัก 2-3 ชั่วโมงก็ดีขึ้นไม่มีอาการเจ็บ ปวดใดๆ พอน้ำเกลือหมดขวดคุณพยาบาลก็มาเอาน้ำเกลือออกให้
วันถัดมาออกจาก รพ.
ก่อนออกจาก รพ.ก็มีเลือดออกหยดเล็กๆ เราคิดว่าเป็นเพราะ LEEP พยาบาลแจ้งวิธีการกลับไปอยู่ที่บ้านว่าทำอย่างไร ถ้าเลือดออกมาให้มา รพ. นัด 2 สัปดาห์มาฟังผลชิ้นเนื้อ[5]
กลับมาบ้านเรามีเลือดออกแบบต้องใส่ผ้าอนามัยตลอดแต่เราดูแล้วไม่ใช่เลือดสดๆ เหมือนเลือดประจำเดือน เราเลยดูไป 3-4 วันเลือดก็หยุด ตอนแรกตกใจมากนึกว่าเป็นเพราะ LEEP แต่เป็นประจำเดือนพอดี 5555 เลยโล่งไป