คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4

เนื่องจากคุณ มิได้ระบุสภาพพื้นที่บ้าน และ รุ่นของตัว Router มา
ผมตอบ แบบกลาง ๆ นะครับ
A• หากกังวล ในเรื่อง "จำนวน" อันนี้ สบายครับ เพียงตั้งค่า DHCP ของ Router ให้เหมาะสม เท่านั้น
อุปกรณ์ตัวไหน ที่ รองรับการ Fix IP ก็ให้ Fix ไว้เลย
อุปกรณ์ตัวไหน ทำ IP Reservation ได้ ก็ควรทำ
อุปกรณ์ที่คุณเล่ามา ก็มิใช่ว่าจะกิน bandwidth มากมาย และมิได้มีการรับส่งข้อมูลตลอดเวลาด้วย
(ยกเว้น กล้องวงจรปิด ต้องดูว่าเป้น แบบอัดลง Card ของแต่ละตัวไป หรือว่า ส่งข้อมูล เข้าอัดรวมในเครื่อง NVR )
B• สิ่งที่คุณควรกังวล คือ เรื่อง ระยะสัญญาณ มากกว่า เรื่องจำนวน ครับ
(คือ แม้ทั้งบ้านจะใช้แค่ 5 อุปกรณ์ แต่หาก ระยะสัญญาณ ไม่เหมาะสม ก็ใช้แล้วมีปัญหาได้
หนักหนากว่าเรื่องจำนวนอุปกรณ์ซะอีก ครับ)
ด้วยเหตุผล ตามข้อ B
อย่าไป คิดถึงเรื่องจำนวนเครื่องครับ
แต่ให้ดูสภาพอาคาร บ้าน
คุณคาดวา่ จะวาง Router หลักไว้ตรงไหน
แล้วคุณก็ให้ช่างไฟ (หรือจ้างจากร้านคอมพ์) ให้เดินสาย LAN ไปตามห้องต่าง ๆ และโถง ของแต่ละชั้นในบ้าน ทิ้งไว้เลยครับ
เดินไป 10 เส้น 20 เส้น ก็ได้ครับ ใช้สาย CAT6 ไปเลย เผื่ออนาคต
ปลายสาย ในแต่ละห้อง
ถ้าให้เป็นระเบียบ ก็ทำเป็นเต้ารับตัวเมียแบบนี้ไว้ ครับ
มี เขียนป้ายกำกับไว้ด้วยว่า อันนี้เป็นเส้นที่เท่าไร เพราะสาย LAN ต้องหาหัวหางให้เจอ คู่กัน
(ในภาพ ของผมเป็น สำนักงาน ก็เลยมีช่องเสียบโทรศัพท์ภายใน อีกช่องเล็ก ๆ ด้านขวาในรูป
ส่วนด้านซ้ายเป็นช่องเสียบ LAN เอาไปต่อเข้ากับ Router ย่อย อีกตัว
เพื่อใช้งานในห้องนั้น ไม่ต้องไปปวดหัว เรื่องสัญญาณโดนผนังห้องกั้น กระจกห้องกั้น หรือปิดประตู แล้วสัญญาณหาย
แถม ช่องที่เหลือของ Router ผมก็เสียบเข้ากับคอมพ์ตั้งโต๊ะได้อีก )

ส่วนปลายสายอีกข้าง ที่เป็นต้นทาง
ซึ่งต้องเสียบเข้ากับ Router นั้น
ถ้าทำเป็นตัวเมีย แบบเต้ารับได้ ก็ดี
ถ้าไม่ได้ ก็ทำเป็นตัวผู้ลอยไว้ แต่ต้องมีหมายเลขกำกับ
• ทีนี้คุณอาจ กังวล ว่า ถ้ามากัน 10 สาย จะทำอย่างไร
ก็แค่หา Switch Hub มาพ่วงตรงนั้นครับ จะเสียบสัก 40 50 เส้นก็สบาย
Switch Hub มี 5 port, 8 port, 16 port ให้เลือกตามสะดวก
ก็พ่วงจาก Router แล้วเอา Switch Hub ช่วยเพิ่มช่องเสียบ LAN
• ถ้าช่างเดินสาย ไม่สะดวก เดินสายไปยังจุดที่คุณคิดจะวาง Router หลัก
หรือว่า Router หลัก วางในห้องที่ แต่งไว้สวย ไม่อยากให้มีสายอยู่เยอะมากเกินไป
คุณก็ อาจกำหนดให้ช่างเดินสาย ทำการเดินสายไฟรวมไว้ห้องใต้บันได หรือจุดใดจุดหนึ่งแทน
แล้ว เอา Switch Hub ไปวางตรงนั้น เพื่อเป้น ชุมสาย ก็ได้ครับ
(ถ้าอ่านแล้ว งง ก็แจ้งมาได้)
ทีนี้ ก็ลากสายจาก Router แค่เส้นเดียวไปยังชุมสาย ใต้บันได
แล้วก็จากตรงนั้นจะไปส่งไปกี่ห้อง ก็ตามสบาย
• Router ที่จะวางในแต่ละห้อง ก็ควรเป็น แบบ Dual Band หรือเรียกว่า WiFi5 คือมี 5GHz อยู่ด้วย
หรือจะเป็น WiFi6 หรือ ax ไปเลยก็ได้ครับ เผื่ออนาคต
ก็จะใช้งาน WiFi ความเร็วสูงได้ด้วย
เนื่องจาก WiFi ความเร็วสูง 5GHz หรือ ac นี้ จะแพ้สิ่งกีดขวาง และระยะทางครับ
ดังนั้น ถ้าวางนอกห้อง แล้วใช้งานในห้อง ก็อาจ โดน กำแพงผนังห้อง ตู้เสื้อผ้า ต่าง ๆ กั้นสัญญาณ
ดังนั้น ผมจึงเสนอให้ เสียบช่อง LAN วางในห้องของใครของมันไปเลย
แล้วก็ไม่ต้องเลือกตัวที่ แพง ๆ ที่กำลังส่ง แรง ๆ
เลือกแบบราคาประหยัด ได้เลย
หาก งบ เพียงพอ
ก็เลือกอุปกรณ์ทั้งหมด เป็นแบบ Mesh คือ จะมีตัว Controller ควบคุมกันเอง
ทำให้ใช้ WiFi เป็นชื่อเดียว วงเดียวกันหมดทั้งบ้านได้สบาย ครับ
Mesh นี้ คุณจะเชื่อมต่อกันทางสาย LAN ก็ได้ (ยิ่งได้ความเร็วดี)
หรือถ้าสุดท้าย ไม่สะดวกเดินสาย LAN จริง ๆ ก็วาง Mesh ไว้หลาย ๆ ตัวในบ้าน ให้วิ่งหาทวนสัญญาณกันเอง ทั้งบ้าน ก็ได้ครับ
แต่ความเร็วจะหายไปบางส่วน หากเป็นการทวนกันแบบไร้สาย
(หากเลือก mesh ที่แพง ๆ ความเร็วสูง ๆ ความเร็วที่หายไป ก็ไม่กระทบกับการใช้งาน ครับ)

เนื่องจากคุณ มิได้ระบุสภาพพื้นที่บ้าน และ รุ่นของตัว Router มา
ผมตอบ แบบกลาง ๆ นะครับ
A• หากกังวล ในเรื่อง "จำนวน" อันนี้ สบายครับ เพียงตั้งค่า DHCP ของ Router ให้เหมาะสม เท่านั้น
อุปกรณ์ตัวไหน ที่ รองรับการ Fix IP ก็ให้ Fix ไว้เลย
อุปกรณ์ตัวไหน ทำ IP Reservation ได้ ก็ควรทำ
อุปกรณ์ที่คุณเล่ามา ก็มิใช่ว่าจะกิน bandwidth มากมาย และมิได้มีการรับส่งข้อมูลตลอดเวลาด้วย
(ยกเว้น กล้องวงจรปิด ต้องดูว่าเป้น แบบอัดลง Card ของแต่ละตัวไป หรือว่า ส่งข้อมูล เข้าอัดรวมในเครื่อง NVR )
B• สิ่งที่คุณควรกังวล คือ เรื่อง ระยะสัญญาณ มากกว่า เรื่องจำนวน ครับ
(คือ แม้ทั้งบ้านจะใช้แค่ 5 อุปกรณ์ แต่หาก ระยะสัญญาณ ไม่เหมาะสม ก็ใช้แล้วมีปัญหาได้
หนักหนากว่าเรื่องจำนวนอุปกรณ์ซะอีก ครับ)
ด้วยเหตุผล ตามข้อ B
อย่าไป คิดถึงเรื่องจำนวนเครื่องครับ
แต่ให้ดูสภาพอาคาร บ้าน
คุณคาดวา่ จะวาง Router หลักไว้ตรงไหน
แล้วคุณก็ให้ช่างไฟ (หรือจ้างจากร้านคอมพ์) ให้เดินสาย LAN ไปตามห้องต่าง ๆ และโถง ของแต่ละชั้นในบ้าน ทิ้งไว้เลยครับ
เดินไป 10 เส้น 20 เส้น ก็ได้ครับ ใช้สาย CAT6 ไปเลย เผื่ออนาคต
ปลายสาย ในแต่ละห้อง
ถ้าให้เป็นระเบียบ ก็ทำเป็นเต้ารับตัวเมียแบบนี้ไว้ ครับ
มี เขียนป้ายกำกับไว้ด้วยว่า อันนี้เป็นเส้นที่เท่าไร เพราะสาย LAN ต้องหาหัวหางให้เจอ คู่กัน
(ในภาพ ของผมเป็น สำนักงาน ก็เลยมีช่องเสียบโทรศัพท์ภายใน อีกช่องเล็ก ๆ ด้านขวาในรูป
ส่วนด้านซ้ายเป็นช่องเสียบ LAN เอาไปต่อเข้ากับ Router ย่อย อีกตัว
เพื่อใช้งานในห้องนั้น ไม่ต้องไปปวดหัว เรื่องสัญญาณโดนผนังห้องกั้น กระจกห้องกั้น หรือปิดประตู แล้วสัญญาณหาย
แถม ช่องที่เหลือของ Router ผมก็เสียบเข้ากับคอมพ์ตั้งโต๊ะได้อีก )

ส่วนปลายสายอีกข้าง ที่เป็นต้นทาง
ซึ่งต้องเสียบเข้ากับ Router นั้น
ถ้าทำเป็นตัวเมีย แบบเต้ารับได้ ก็ดี
ถ้าไม่ได้ ก็ทำเป็นตัวผู้ลอยไว้ แต่ต้องมีหมายเลขกำกับ
• ทีนี้คุณอาจ กังวล ว่า ถ้ามากัน 10 สาย จะทำอย่างไร
ก็แค่หา Switch Hub มาพ่วงตรงนั้นครับ จะเสียบสัก 40 50 เส้นก็สบาย
Switch Hub มี 5 port, 8 port, 16 port ให้เลือกตามสะดวก
ก็พ่วงจาก Router แล้วเอา Switch Hub ช่วยเพิ่มช่องเสียบ LAN
• ถ้าช่างเดินสาย ไม่สะดวก เดินสายไปยังจุดที่คุณคิดจะวาง Router หลัก
หรือว่า Router หลัก วางในห้องที่ แต่งไว้สวย ไม่อยากให้มีสายอยู่เยอะมากเกินไป
คุณก็ อาจกำหนดให้ช่างเดินสาย ทำการเดินสายไฟรวมไว้ห้องใต้บันได หรือจุดใดจุดหนึ่งแทน
แล้ว เอา Switch Hub ไปวางตรงนั้น เพื่อเป้น ชุมสาย ก็ได้ครับ
(ถ้าอ่านแล้ว งง ก็แจ้งมาได้)
ทีนี้ ก็ลากสายจาก Router แค่เส้นเดียวไปยังชุมสาย ใต้บันได
แล้วก็จากตรงนั้นจะไปส่งไปกี่ห้อง ก็ตามสบาย
• Router ที่จะวางในแต่ละห้อง ก็ควรเป็น แบบ Dual Band หรือเรียกว่า WiFi5 คือมี 5GHz อยู่ด้วย
หรือจะเป็น WiFi6 หรือ ax ไปเลยก็ได้ครับ เผื่ออนาคต
ก็จะใช้งาน WiFi ความเร็วสูงได้ด้วย
เนื่องจาก WiFi ความเร็วสูง 5GHz หรือ ac นี้ จะแพ้สิ่งกีดขวาง และระยะทางครับ
ดังนั้น ถ้าวางนอกห้อง แล้วใช้งานในห้อง ก็อาจ โดน กำแพงผนังห้อง ตู้เสื้อผ้า ต่าง ๆ กั้นสัญญาณ
ดังนั้น ผมจึงเสนอให้ เสียบช่อง LAN วางในห้องของใครของมันไปเลย
แล้วก็ไม่ต้องเลือกตัวที่ แพง ๆ ที่กำลังส่ง แรง ๆ
เลือกแบบราคาประหยัด ได้เลย
หาก งบ เพียงพอ
ก็เลือกอุปกรณ์ทั้งหมด เป็นแบบ Mesh คือ จะมีตัว Controller ควบคุมกันเอง
ทำให้ใช้ WiFi เป็นชื่อเดียว วงเดียวกันหมดทั้งบ้านได้สบาย ครับ
Mesh นี้ คุณจะเชื่อมต่อกันทางสาย LAN ก็ได้ (ยิ่งได้ความเร็วดี)
หรือถ้าสุดท้าย ไม่สะดวกเดินสาย LAN จริง ๆ ก็วาง Mesh ไว้หลาย ๆ ตัวในบ้าน ให้วิ่งหาทวนสัญญาณกันเอง ทั้งบ้าน ก็ได้ครับ
แต่ความเร็วจะหายไปบางส่วน หากเป็นการทวนกันแบบไร้สาย
(หากเลือก mesh ที่แพง ๆ ความเร็วสูง ๆ ความเร็วที่หายไป ก็ไม่กระทบกับการใช้งาน ครับ)
แสดงความคิดเห็น
หากที่บ้านมีอุปกรณ์ที่ใช้ Wifi จำนวนหลายตัว Modem router ที่ทาง 3BB แถมมา สามารถรับไหวไหม?
เลยอยากทราบว่า Modem router ที่ทาง 3BB แถมมา มันสามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์ได้สูงสุดกี่ตัว?
ถ้าที่บ้านมีอุปกรณ์ที่ต่อ Wifi จำนวนมาก มันพอจะรับไหวไหมครับ?