"ทักษิณ ชินวัตร" อาลัย "ดร.โกร่ง" ผู้อยู่เบื้องหลังไทยหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ IMF
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6719282
“ทักษิณ ชินวัตร” อาลัย “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจหลายรัฐบาล ผู้อยู่เบื้องหลังไทยหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ IMF
นับเป็นข่าวเศร้าสลด เมื่อ ดร.
วีรพงษ์ รามางกูร หรือ ‘ดร.โกร่ง’ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจหลายรัฐบาล ถึงแก่อนิจกรรม หลังเข้ารักษาโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ สิริอายุรวม 78 ปี โดยญาติเตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร โดยมีนักการเมืองและผู้มีชื่อเสียงร่วมไว้อาลัย เช่น
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรีฐมนตีพลังงาน
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกรข่าวชื่อดัง เป็นต้น
เช่นเดียวกับ
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความไว้อาลัยผ่านทวิตเตอร์ว่า
“อาจารย์โกร่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ IMF ครั้งที่ 1 ผมดีใจที่ยังได้มีโอกาสพูดคุยตอนที่อาจารย์เข้าโรงพยาบาล ทำให้ผมเห็นถึงความเข้มแข็งของอาจารย์ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นโรคมะเร็ง ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ”
ด้าน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นกัน ระบุ
ดิฉันขอแสดงความไว้อาลัย และความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ตลอดระยะเวลาที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับท่าน ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนให้การนับถือโดยเฉพาะวงการเศรษฐกิจ ท่านมีน้ำใจ และขยันทำงานมีความรับผิดชอบในหน้าที่ ท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีวิสัยทัศน์กว้าง และรอบด้าน เป็นปูชนียบุคคลที่ได้สร้างคุณูปการแก่ประเทศไทยไว้มากมาย
ท่านเคยเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในรัฐบาลของดิฉัน ทำหน้าที่สำคัญคือวางยุทธศาสตร์สร้างความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติกลับคืนมายังประเทศไทย การสูญเสียครั้งนี้ นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญด้านเศรษฐกิจครั้งสำคัญของประเทศไทย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดนำดวงวิญญาณของ ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร ไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยค่ะ
ทั้งนี้ ดร.
วีรพงษ์ ถือเป็นผู้มีบทบาทด้านการบริหาร อดีตที่ปรึกษาด้านการคลังและรองนายกรัฐมนตรีหลายรัฐบาล อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.
เปรม ติณสูลานนท์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาล พล.อ.
ชาติชาย ชุณหะวัณ, รองนายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.
ชวลิต ยงใจยุทธ และที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ รัฐบาล
ทักษิณ ชินวัตร รวมถึงเป็น ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในสมัยรัฐบาล
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย
https://twitter.com/ThaksinLive/status/1457307591244091399
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/4894753307235752
พิษถุงมือมือสอง-เอดียางรถ สะเทือนส่งออก -ลงทุน เร่งกู้ความเชื่อมั่นด่วน!
https://www.thansettakij.com/economy/502364
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางของไทย ที่มีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 3 แสนล้านบาท กำลังได้รับผลกระทบจากหลายเหตุการณ์ที่ประดังเข้ามา ทั้งถูกสหรัฐใช้มาตรการเอดียางรถยนต์ ส่งออกถุงมือยางมือสอง จะหาทางออกอย่างไรนั้น หาคำตอบจากประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง ดังต่อไปนี้
จากที่สหรัฐอเมริกาประกาศเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) สินค้ายางรถยนต์ที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศไทย ในอัตรา 13.25 - 22.21% ของราคา ซี ไอ เอฟ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ต่อด้วยคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างถุงมือยางมูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ของอดีตผู้บริหารองค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ยังไล่บี้หาคนผิด และหาเงินมัดจำสินค้า 2,000 ล้านบาท มาคืน อคส. ล่าสุดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางของไทยยังเผชิญชะตากรรมที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือไม่รู้จบ เมื่อ CNN สื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกาตีข่าว มีต่างชาติมาใช้ไทยเป็นฐานส่งออกถุงมือยางที่ใช้แล้ว (ถุงมือยางมือสอง) ไปสหรัฐฯ ยังผลให้ผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางของไทยหลายบริษัทถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ สร้างความเดือดร้อนในวงกว้างในเวลานี้
จี้ทุกฝ่ายเร่งช่วยแก้ปัญหา
นาย
ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยในการให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จาก 3 เรื่องใหญ่ข้างต้นมีผลกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยกันแก้ไขปัญหา เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องส่งออกถุงมือยางปนเปื้อนหรือถุงมือยางมือสองที่อาจมีผลต่อการสั่งซื้อหรือยกเลิกออร์เดอร์ รวมถึงในอนาคตผู้นำเข้าอาจขอให้ไทยมีความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นตามมา
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในช่วงที่ผ่านมา ถึง ณ ปัจจุบัน มีสินค้าหลักคือ ยางล้อรถยนต์ ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง รองลงมาคือ ถุงมือยางที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันจากทั่วโลกยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์เพื่อลดการสัมผัสเชื้อมากขึ้น ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกถุงมือยางอันดับ 2 ของโลกรองจากมาเลเซีย ในปีที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางของไทยมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น (ข้อมูลสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย ไทยมีโรงงานผลิตถุงมือยาง 19 โรงงาน กำลังผลิตรวม 4.6 หมื่นล้านชิ้นต่อปี)
ส่งออกถุงมือยางโตต่อเนื่อง
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ในปี 2563 ไทยมีการส่งออกถุงมือยาง มูลค่า 72,657.21 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 95.02% เมื่อเทียบกับปี 2562 (กราฟิกประกอบ) โดยแง่ปริมาณมีการส่งออก 2.49 หมื่นล้านคู่ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ส่งออก 1.84 หมื่นล้านคู่
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ไทยส่งออกถุงมือยางแล้วมูลค่า 80,064.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 77.73% ส่วนแง่ปริมาณมีการส่งออก 1.82 หมื่นล้านคู่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการส่งออก 1.83 หมื่นล้านคู่ โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวมากกว่าปริมาณ ผลจากราคาถุงมือยางปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมัน และถุงมือยางสังเคราะห์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับตลาดส่งออกถุงมือยาง 5 อันดับแรกของไทย (9 เดือนแรกปี 2564) ประกอบด้วย สหรัฐฯ (สัดส่วน 46.91%) ออสเตรเลีย (4.68%) ญี่ปุ่น (4.16%) เกาหลีใต้ (4.09%) และจีน (3.03%)
ภาพรวมปีนี้-ปีหน้าชะลอตัว
นาย
ชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่าทิศทางการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในภาพรวมปีนี้ (ยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง ยางวัลแคไนซ์ หลอดและท่อ ยางรัดของ และอื่นๆ ) คาดจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา (ปี 2563 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภท 375,388 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.9%) จากสถานการณ์โควิดทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างประเทศลดลง ส่งผลถึงดีมานด์หรือความต้องการสินค้าลดลง ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวมาก รวมถึงเวลานี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญคือน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
“สำหรับภาพรวมการผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในปี 2565 โดยเฉพาะถุงมือยางจะเป็นอย่างไร จะดีขึ้นกว่าปีนี้หรือไม่ ส่วนหนึ่งขึ้นกับสถานการณ์โควิดว่าถึงปีหน้าจะมียามารักษาได้หรือยัง เพราะวัคซีนเองคงไม่ใช่วิธีแก้ 100% และไม่ได้เป็นหลักประกันว่าทำให้ไม่ติดเชื้อ เพียงแต่ทำให้อาการไม่รุนแรงเท่านั้น และเมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้วก็ต้องฉีดบูสเตอร์ไปเรื่อย ๆ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังไม่สามารถทำให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้”
นอกจากนี้ขึ้นกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ว่าทิศทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้ายังสูงปีหน้าก็จะยังเหนื่อยกันอยู่ เพราะเมื่อราคาน้ำมันแพงก็จะไปผลักให้ราคาโภคภัณฑ์ทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยางสังเคราะห์ ยางธรรมชาติ รวมถึงวัตถุดิบด้านเคมีภัณฑ์ ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และขายยากขึ้น ความต้องการใช้ยางธรรมชาติอาจลดลง และกระทบต่อราคายางพาราของชาวสวนที่อาจปรับตัวลดลง รัฐบาลอาจต้องแบกรับภาระชดเชยประกันรายได้เพิ่มขึ้น เพราะราคายางที่สูงขึ้นในปัจจุบันเป็นเรื่องของการเก็งกำไร ไม่ได้สูงขึ้นจากดีมานด์ที่แท้จริง เปรียบเสมือน “ฟองสบู่” อย่างหนึ่ง
เอดียางรถยนต์จีนเบรกลงทุน
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง กล่าวถึงผลพวงจากที่ไทยถูกสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดว่า มีผลต่อราคาสินค้ายางล้อรถยนต์ส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯสูงขึ้น ผู้นำเข้าอาจหันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศที่ไม่ถูกสหรัฐฯใช้มาตรการเอดีเพิ่มขึ้น เช่นจากอินโดนีเซียที่ถือเป็นคู่แข่งหลัก แต่อินโดนีเซียเองก็คงไม่สามารถขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการและชดเชยการนำเข้ายางล้อรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่เคยนำเข้าจากไทย หรือจากเกาหลีใต้ และเวียดนามที่ถูกใช้มาตรการเอดีพร้อมกับไทยได้ทั้งหมด
“การที่ยางล้อรถยนต์ของไทยถูกใช้มาตรการเอดีในครั้งนี้ ทำให้การแข่งขันของเรายากขึ้น เพราะสินค้าที่ส่งไปแพงขึ้น ตรงนี้แน่นอนว่าผู้ประกอบการยางล้อรถยนต์ในไทยคงต้องไปหาตลาดอื่นเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ เช่น อาจหันไปหาตลาดยุโรป อเมริกาใต้ หรือตลาดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการยางล้อรถยนต์รายใหญ่ของจีนประมาณ 4 โรงงานที่เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทยก่อนหน้านี้ หลังเราถูกเอดีจะมีรายใหม่เข้ามาตั้งโรงงานเพิ่มเป็นโรงที่ 4 ที่ 5 หรือไม่ ก็คงไม่มีแล้ว” นาย
ชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
หมอชนบทคาใจบทบาท อย. ATK บางยี่ห้อสหรัฐ-ยุโรป ไม่รับรอง แต่มีขายในไทย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3030424
หมอชนบทคาใจบทบาท อย. ATK บางยี่ห้อสหรัฐ-ยุโรป ไม่รับรอง แต่มีขายในไทย
กรณีพบผลการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ของครูและนักเรียนโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรพ์ จ.มุกดาหาร ที่ตรวจด้วยชุดตรวจหาแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ ATK และปรากฏผลบวกลวงจำนวนมาก ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบพบว่าชุดตรวจที่โรงเรียนนำมาใช้ดังกล่าวได้รับบริจาคมา และไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. อีกทั้งแจ้งเตือนให้ทุกภาคส่วนระมัดระวังในการนำชุดตรวจ ATK มาใช้ โดยแนะนำให้ใช้เฉพาะที่ได้มาตรฐาน อย.ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อชุดตรวจที่ อย.รับรองถูกต้องกว่า 100 รายการ ที่เว็บไซต์
https://www.fda.moph.go.th/sites/Medical/ SitePages/test_kit_covid19.aspx นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน
ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีผลการตรวจ ATK ที่ให้ผลบวกลวง และผลลบลวง รวมถึงบทบาทหน้าที่ของ อย. ว่า ประเด็นผลการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK คลาดเคลื่อนอย่างมาก ทั้งผลบวกลวง หรือผลลบลวง คำตอบที่ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มักจะมี 2 แนวทางเสมอคือ
1. ถ้าชุดตรวจที่นำมาใช้ผ่าน อย. คำตอบที่ได้คืออาจเกิดจากการจัดเก็บไม่ดี ตรวจไม่ถูกวิธี หรือทิ้งผลตรวจไว้นาน
2. ถ้าชุดตรวจที่นำมาใช้ไม่ผ่าน อย. คำตอบที่ได้คือตรวจสอบแล้วเป็นชุดตรวจที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ขอให้ใช้ชุดตรวจที่ผ่านการอนุญาตแล้วเท่านั้น
JJNY : 4in1 "ทักษิณ"อาลัย"ดร.โกร่ง"│พิษถุงมือมือสอง-เอดียางรถสะเทือนส่งออก│หมอชนบทคาใจบทบาท อย.│ชาวนาโคราชเดือดร้อนหนัก
https://www.khaosod.co.th/politics/news_6719282
“ทักษิณ ชินวัตร” อาลัย “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจหลายรัฐบาล ผู้อยู่เบื้องหลังไทยหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ IMF
นับเป็นข่าวเศร้าสลด เมื่อ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร หรือ ‘ดร.โกร่ง’ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจหลายรัฐบาล ถึงแก่อนิจกรรม หลังเข้ารักษาโรคมะเร็ง ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ สิริอายุรวม 78 ปี โดยญาติเตรียมตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร โดยมีนักการเมืองและผู้มีชื่อเสียงร่วมไว้อาลัย เช่น สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรีฐมนตีพลังงาน ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ พิธีกรข่าวชื่อดัง เป็นต้น
เช่นเดียวกับ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความไว้อาลัยผ่านทวิตเตอร์ว่า
“อาจารย์โกร่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากการเป็นหนี้ IMF ครั้งที่ 1 ผมดีใจที่ยังได้มีโอกาสพูดคุยตอนที่อาจารย์เข้าโรงพยาบาล ทำให้ผมเห็นถึงความเข้มแข็งของอาจารย์ ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นโรคมะเร็ง ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของอาจารย์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ”
ด้าน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ได้โพสต์ข้อความไว้อาลัยผ่านทางเฟซบุ๊กเช่นกัน ระบุ
ดิฉันขอแสดงความไว้อาลัย และความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ตลอดระยะเวลาที่ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับท่าน ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่ทุกคนให้การนับถือโดยเฉพาะวงการเศรษฐกิจ ท่านมีน้ำใจ และขยันทำงานมีความรับผิดชอบในหน้าที่ ท่านเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีวิสัยทัศน์กว้าง และรอบด้าน เป็นปูชนียบุคคลที่ได้สร้างคุณูปการแก่ประเทศไทยไว้มากมาย
ท่านเคยเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในรัฐบาลของดิฉัน ทำหน้าที่สำคัญคือวางยุทธศาสตร์สร้างความมั่นใจของนักลงทุนต่างชาติกลับคืนมายังประเทศไทย การสูญเสียครั้งนี้ นับเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญด้านเศรษฐกิจครั้งสำคัญของประเทศไทย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก โปรดนำดวงวิญญาณของ ดร.โกร่ง วีรพงษ์ รามางกูร ไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยค่ะ
ทั้งนี้ ดร.วีรพงษ์ ถือเป็นผู้มีบทบาทด้านการบริหาร อดีตที่ปรึกษาด้านการคลังและรองนายกรัฐมนตรีหลายรัฐบาล อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ, รองนายกรัฐมนตรี รัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร รวมถึงเป็น ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู และสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) ในสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อีกด้วย
https://twitter.com/ThaksinLive/status/1457307591244091399
https://www.facebook.com/Y.Shinawatra/posts/4894753307235752
พิษถุงมือมือสอง-เอดียางรถ สะเทือนส่งออก -ลงทุน เร่งกู้ความเชื่อมั่นด่วน!
https://www.thansettakij.com/economy/502364
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางของไทย ที่มีมูลค่าการส่งออกปีละมากกว่า 3 แสนล้านบาท กำลังได้รับผลกระทบจากหลายเหตุการณ์ที่ประดังเข้ามา ทั้งถูกสหรัฐใช้มาตรการเอดียางรถยนต์ ส่งออกถุงมือยางมือสอง จะหาทางออกอย่างไรนั้น หาคำตอบจากประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง ดังต่อไปนี้
จากที่สหรัฐอเมริกาประกาศเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) สินค้ายางรถยนต์ที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศไทย ในอัตรา 13.25 - 22.21% ของราคา ซี ไอ เอฟ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ต่อด้วยคดีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างถุงมือยางมูลค่า 1.1 แสนล้านบาท ของอดีตผู้บริหารองค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่ยังไล่บี้หาคนผิด และหาเงินมัดจำสินค้า 2,000 ล้านบาท มาคืน อคส. ล่าสุดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางของไทยยังเผชิญชะตากรรมที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือไม่รู้จบ เมื่อ CNN สื่อยักษ์ใหญ่ของอเมริกาตีข่าว มีต่างชาติมาใช้ไทยเป็นฐานส่งออกถุงมือยางที่ใช้แล้ว (ถุงมือยางมือสอง) ไปสหรัฐฯ ยังผลให้ผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางของไทยหลายบริษัทถูกยกเลิกคำสั่งซื้อ สร้างความเดือดร้อนในวงกว้างในเวลานี้
จี้ทุกฝ่ายเร่งช่วยแก้ปัญหา
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยในการให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จาก 3 เรื่องใหญ่ข้างต้นมีผลกระทบต่อการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดส่งออกสำคัญที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องเร่งช่วยกันแก้ไขปัญหา เฉพาะอย่างยิ่งเรื่องส่งออกถุงมือยางปนเปื้อนหรือถุงมือยางมือสองที่อาจมีผลต่อการสั่งซื้อหรือยกเลิกออร์เดอร์ รวมถึงในอนาคตผู้นำเข้าอาจขอให้ไทยมีความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งออก ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นตามมา
สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในช่วงที่ผ่านมา ถึง ณ ปัจจุบัน มีสินค้าหลักคือ ยางล้อรถยนต์ ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง รองลงมาคือ ถุงมือยางที่การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นมากตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบันจากทั่วโลกยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มีความต้องการใช้ถุงมือยางทางการแพทย์เพื่อลดการสัมผัสเชื้อมากขึ้น ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกถุงมือยางอันดับ 2 ของโลกรองจากมาเลเซีย ในปีที่ผ่านมาบริษัทผู้ผลิตและส่งออกถุงมือยางของไทยมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น (ข้อมูลสมาคมผู้ผลิตถุงมือยางไทย ไทยมีโรงงานผลิตถุงมือยาง 19 โรงงาน กำลังผลิตรวม 4.6 หมื่นล้านชิ้นต่อปี)
ส่งออกถุงมือยางโตต่อเนื่อง
“ฐานเศรษฐกิจ” ตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร ในปี 2563 ไทยมีการส่งออกถุงมือยาง มูลค่า 72,657.21 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 95.02% เมื่อเทียบกับปี 2562 (กราฟิกประกอบ) โดยแง่ปริมาณมีการส่งออก 2.49 หมื่นล้านคู่ เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ส่งออก 1.84 หมื่นล้านคู่
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 ไทยส่งออกถุงมือยางแล้วมูลค่า 80,064.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 77.73% ส่วนแง่ปริมาณมีการส่งออก 1.82 หมื่นล้านคู่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการส่งออก 1.83 หมื่นล้านคู่ โดยมูลค่าการส่งออกขยายตัวมากกว่าปริมาณ ผลจากราคาถุงมือยางปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมัน และถุงมือยางสังเคราะห์ในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น สำหรับตลาดส่งออกถุงมือยาง 5 อันดับแรกของไทย (9 เดือนแรกปี 2564) ประกอบด้วย สหรัฐฯ (สัดส่วน 46.91%) ออสเตรเลีย (4.68%) ญี่ปุ่น (4.16%) เกาหลีใต้ (4.09%) และจีน (3.03%)
ภาพรวมปีนี้-ปีหน้าชะลอตัว
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่าทิศทางการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในภาพรวมปีนี้ (ยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง ยางวัลแคไนซ์ หลอดและท่อ ยางรัดของ และอื่นๆ ) คาดจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา (ปี 2563 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางทุกประเภท 375,388 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.9%) จากสถานการณ์โควิดทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคในต่างประเทศลดลง ส่งผลถึงดีมานด์หรือความต้องการสินค้าลดลง ขณะที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวมาก รวมถึงเวลานี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สำคัญคือน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น
“สำหรับภาพรวมการผลิตและการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยในปี 2565 โดยเฉพาะถุงมือยางจะเป็นอย่างไร จะดีขึ้นกว่าปีนี้หรือไม่ ส่วนหนึ่งขึ้นกับสถานการณ์โควิดว่าถึงปีหน้าจะมียามารักษาได้หรือยัง เพราะวัคซีนเองคงไม่ใช่วิธีแก้ 100% และไม่ได้เป็นหลักประกันว่าทำให้ไม่ติดเชื้อ เพียงแต่ทำให้อาการไม่รุนแรงเท่านั้น และเมื่อฉีดครบ 2 เข็มแล้วก็ต้องฉีดบูสเตอร์ไปเรื่อย ๆ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังไม่สามารถทำให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้”
นอกจากนี้ขึ้นกับราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ว่าทิศทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ถ้ายังสูงปีหน้าก็จะยังเหนื่อยกันอยู่ เพราะเมื่อราคาน้ำมันแพงก็จะไปผลักให้ราคาโภคภัณฑ์ทุกอย่างปรับตัวสูงขึ้น ทั้งยางสังเคราะห์ ยางธรรมชาติ รวมถึงวัตถุดิบด้านเคมีภัณฑ์ ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น และขายยากขึ้น ความต้องการใช้ยางธรรมชาติอาจลดลง และกระทบต่อราคายางพาราของชาวสวนที่อาจปรับตัวลดลง รัฐบาลอาจต้องแบกรับภาระชดเชยประกันรายได้เพิ่มขึ้น เพราะราคายางที่สูงขึ้นในปัจจุบันเป็นเรื่องของการเก็งกำไร ไม่ได้สูงขึ้นจากดีมานด์ที่แท้จริง เปรียบเสมือน “ฟองสบู่” อย่างหนึ่ง
เอดียางรถยนต์จีนเบรกลงทุน
ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง กล่าวถึงผลพวงจากที่ไทยถูกสหรัฐฯเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดว่า มีผลต่อราคาสินค้ายางล้อรถยนต์ส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯสูงขึ้น ผู้นำเข้าอาจหันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศที่ไม่ถูกสหรัฐฯใช้มาตรการเอดีเพิ่มขึ้น เช่นจากอินโดนีเซียที่ถือเป็นคู่แข่งหลัก แต่อินโดนีเซียเองก็คงไม่สามารถขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการและชดเชยการนำเข้ายางล้อรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่เคยนำเข้าจากไทย หรือจากเกาหลีใต้ และเวียดนามที่ถูกใช้มาตรการเอดีพร้อมกับไทยได้ทั้งหมด
“การที่ยางล้อรถยนต์ของไทยถูกใช้มาตรการเอดีในครั้งนี้ ทำให้การแข่งขันของเรายากขึ้น เพราะสินค้าที่ส่งไปแพงขึ้น ตรงนี้แน่นอนว่าผู้ประกอบการยางล้อรถยนต์ในไทยคงต้องไปหาตลาดอื่นเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ เช่น อาจหันไปหาตลาดยุโรป อเมริกาใต้ หรือตลาดอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ประกอบการยางล้อรถยนต์รายใหญ่ของจีนประมาณ 4 โรงงานที่เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทยก่อนหน้านี้ หลังเราถูกเอดีจะมีรายใหม่เข้ามาตั้งโรงงานเพิ่มเป็นโรงที่ 4 ที่ 5 หรือไม่ ก็คงไม่มีแล้ว” นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
หมอชนบทคาใจบทบาท อย. ATK บางยี่ห้อสหรัฐ-ยุโรป ไม่รับรอง แต่มีขายในไทย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3030424
หมอชนบทคาใจบทบาท อย. ATK บางยี่ห้อสหรัฐ-ยุโรป ไม่รับรอง แต่มีขายในไทย
กรณีพบผลการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 ของครูและนักเรียนโรงเรียนคำสร้อยพิทยาสรรพ์ จ.มุกดาหาร ที่ตรวจด้วยชุดตรวจหาแอนติเจน เทสต์ คิท หรือ ATK และปรากฏผลบวกลวงจำนวนมาก ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบพบว่าชุดตรวจที่โรงเรียนนำมาใช้ดังกล่าวได้รับบริจาคมา และไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. อีกทั้งแจ้งเตือนให้ทุกภาคส่วนระมัดระวังในการนำชุดตรวจ ATK มาใช้ โดยแนะนำให้ใช้เฉพาะที่ได้มาตรฐาน อย.ซึ่งสามารถตรวจสอบรายชื่อชุดตรวจที่ อย.รับรองถูกต้องกว่า 100 รายการ ที่เว็บไซต์ https://www.fda.moph.go.th/sites/Medical/ SitePages/test_kit_covid19.aspx นั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ชมรมแพทย์ชนบท ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีผลการตรวจ ATK ที่ให้ผลบวกลวง และผลลบลวง รวมถึงบทบาทหน้าที่ของ อย. ว่า ประเด็นผลการตรวจโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK คลาดเคลื่อนอย่างมาก ทั้งผลบวกลวง หรือผลลบลวง คำตอบที่ได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มักจะมี 2 แนวทางเสมอคือ
1. ถ้าชุดตรวจที่นำมาใช้ผ่าน อย. คำตอบที่ได้คืออาจเกิดจากการจัดเก็บไม่ดี ตรวจไม่ถูกวิธี หรือทิ้งผลตรวจไว้นาน
2. ถ้าชุดตรวจที่นำมาใช้ไม่ผ่าน อย. คำตอบที่ได้คือตรวจสอบแล้วเป็นชุดตรวจที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. ขอให้ใช้ชุดตรวจที่ผ่านการอนุญาตแล้วเท่านั้น