รับคำท้าฯ
ตอนที่ 34
ปริมามองรูปบนหน้าจอโทรศัพท์ของหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ในมือ พลางเบิกตาโต เมื่อเห็นเป็นรูปของตัวเธอเองตอนที่งัดข้อกับเขา
“ลบออกเดี๋ยวนี้เลย” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาเรื่องเอาราว
“ทำไมต้องลบล่ะ” อีกฝ่ายถามกลับอย่างกวนประสาท แกล้งทำหน้าตาสงสัยเต็มประดา
“น่ารักออกน้า....ดูสิ! เหมือนคู่กัดในซีรีส์เกาหลีเลย” หนุ่มจอมกวนเอียงหน้าเข้ามาใกล้พลางอมยิ้ม
“แบบนี้จะให้คนอื่นเข้าใจว่าไง” เจ้าของภาพโวยวาย มองหน้าคนตรงหน้าไม่มีสำนึกผิดใด ๆ เอาแต่ยิ้มหวานอยู่นั่นแหละ
“เข้าใจว่า...” เขายกสองมือทำสัญลักษณ์รูปหัวใจที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองแล้วยื่นออกไปตรงหน้าเธอ
หญิงสาวถอนหายใจ เธอจะทำยังไงกับพ่อหนุ่มจอมกวนดีเนี่ย...!!
“เซลฟี่กัน....”
“ไม่!” เจ้าของสวนปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วขยับตัวออกห่าง
“นายถ่ายเองแล้วกัน ฉันไปล่ะ” เธอคืนโทรศัพท์ให้เขาอย่างหมั่นไส้
“เธอเป็นแฟนฉันแล้ว...รู้ตัวบ้างมั้ย... แล้วเมื่อไหร่ ฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ....” เขาร้องเพลงขึ้นมาลอย ๆ ตอนรับโทรศัพท์คืนมา พลางอมยิ้มเขิน
‘โอ๊ย!!’ สาวชาวสวนอยากยกมือตบกบาลตัวเองจริง ๆ เขาบ้าไปแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าตัวเธอเองมีอะไรดีให้เขาชอบนักหนา
ปริมาแกล้งเอาเท้ากระทืบเท้าเขาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเดินผ่านไป
รอยยิ้มหวานหุบลงทันที เปลี่ยนเป็นหน้าเหยเกแทน ตามด้วยเสียงรอดไรฟันด้วยความเจ็บนิ้วเท้า พลางขยับเท้าไปมาเพื่อผ่อนคลายความเจ็บ กระทืบมาได้! แล้วรีบเดินตามเธอไปทันที
“นี่! ผักเธอขายดีไหม...?” เขาแกล้งถามอย่างอยากรู้ว่า มีคนมาติดต่อซื้อผักกับเธอหรือยัง?
คนถูกถามหันมามองหน้าชายหนุ่มอย่างสงสัย
“พี่รหัสของฉันเอง บอกว่าที่โรงพยาบาลพ่อของเขา ต้องการจะขายผักไร้สารพิษ แล้วส่งคนมาติดต่อขอซื้อผัก ทำไมนายรู้ล่ะ” สาวชาวสวนเดินไปดูเมล็ดมะละกอที่เธอผึ่งลมอยู่ในกระด้งที่ปูด้วยมุงไนล่อนถี่ ๆ
“ดีใจด้วยนะ ที่ผักของเธอขายได้มากขึ้น ฉันก็...แค่ลองเสนอความคิดไป พ่อของฉันเป็นหมอโรคหัวใจที่โรงพยาบาลนี้เหมือนกัน อยากรู้ว่า เขาสนใจแนวคิดของฉันรึเปล่า ถ้าคนหันมากินอาหารที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติมากขึ้น คนจะได้สุขภาพดีขึ้นเหมือนพ่อของฉันไง ตอนนี้พ่อป่วยเป็นโรคหัวใจและอีกหลาย ๆ โรค พอปรับเปลี่ยนอาหาร อาการก็ดีขึ้นเลย ทั้ง ๆ ที่นึกว่า พ่อจะต้องกินยาตลอดชีวิตแล้ว”
“ที่นายถามถึงเครื่องปั่นผักกับสูตรน้ำปั่นผักเหรอ นายทำไงให้พ่อยอมเปลี่ยนอาหารการกินใหม่ล่ะ” เธอรู้สึกว่า มันไม่ง่ายเลยกับการปรับเปลี่ยนอาหารที่เคยชินและชอบ ซึ่งเธอเคยแนะนำญาติ ๆ ที่เจ็บป่วยหลายคนก็ยังทำไม่ได้เลย
“ฉันขอคำแนะนำจากปิ่นขวัญ แล้วก็ไปค้นงานวิจัยเพิ่มเติม ไม่งั้นพ่อจะเชื่อฉันได้เหรอ เขาเป็นหมอนะ เราเปลี่ยนการกินอาหารใหม่ทั้งบ้านเลย กินเหมือนกันหมด พ่อจะได้ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวกินอยู่คนเดียว”
คนฟังรู้สึกทึ่ง เพราะมีไม่กี่คนที่สามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอาหารได้ แต่เขาทำให้ทั้งบ้านเปลี่ยนวิธีกินอาหารได้ ผู้ชายที่ดูขี้เล่นขี้หลีอย่างเขา เหมือนไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย บทจะเอาจริงก็ทำได้อย่างเหลือเชื่อ ยิ่งงานวิจัยด้วยแล้วมีแต่ภาษาอังกฤษล้วน ๆ เธอเคยฟังปิ่นขวัญอธิบายถึงวิธีการค้นหางานวิจัยทางการแพทย์ต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำได้ เกือบลืมไปว่า ผลการเรียนตั้งแต่ชั้นประถมยันมัธยมของหนุ่มหน้าหวานนั้นได้เกรดสี่ทุกวิชา สมองของเขาต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
“แล้วนี่เธอกำลังทำอะไรเหรอ” สายตามองเมล็ดเล็ก ๆ สีเทาละลานตาบนกระด้งที่ปูด้วยมุ้งไนล่อน
“เก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ไงล่ะ จะทำให้ได้พันธุ์ที่ดี ลูกดก ไม่เป็นกะเทย ได้ข่าวว่าฝรั่งจะจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ ถ้าเขาทำได้ยุ่งเลยนะ เราต้องซื้อเขาอย่างเดียวเลยทีนี้ เมล็ดพันธุ์เราจะไม่เหลือเลยถ้าออกกฏหมายให้ต่างชาติจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ได้ เขาจะทำให้เมล็ดพันธุ์ที่เราซื้อมาปลูกได้แค่ครั้งเดียว ไปปลูกต่อไม่ขึ้น ฉันเลยอยากทำเรื่องเก็บเมล็ดพันธุ์ ว่าจะทำขายด้วย กำลังทดลองอยู่” คนพูดอธิบายพลางมองดูเมล็ดเล็ก ๆ ว่าแห้งดีสนิทหรือยัง
ปฏิการมองหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าอย่างทึ่ง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่ความคิดไม่เล็กเลย มันจะเป็นการเกษตรที่ครบวงจร มีความยั่งยืนอย่างแท้จริงเมื่อเราเก็บเมล็ดพันธุ์เองได้
“แล้วทำไงบ้างเหรอ”
“ก่อนอื่นเราต้องเลือกผลมะละกอสมบูรณ์ ที่เปลือกมีส่วนเขียวอยู่นิด ๆ แล้วเอาเมล็ดมาเทใส่ถาด มันจะมีเมล็ดสีดำกับสีเทา ให้เลือกเก็บเฉพาะสีเทา สีดำทิ้งไป จากนั้นก็นำไปแช่น้ำ ตักเมล็ดที่ลอยอยู่ออก ล้างเมือกบนเมล็ดให้หมด เอามาผึ่งไว้ให้แห้งสองวัน ไม่ต้องเอาไปตากแดดนะ แล้วนำมาห่อกระดาษหรือถุงพลาสติกเก็บเข้าตู้เย็น แค่นี้เอง” คนพูดอธิบายพลางเขย่ามุ้งไนล่อนที่ตากเมล็ดมะละกอจนแห้งดีแล้วให้มารวมกัน
“ใส่ถุงนี้เหรอ” หนุ่มนักดนตรีหยิบถุงซิบพลาสติกที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาช่วยอ้าปากถุงพลาสติกให้กว้าง รอให้เธอเทเมล็ดมะละกอลงในถุง
“นายเอามะละกอไปกินมั้ย”
หนุ่มหน้าหวานฉีกยิ้มกว้าง
“เอาสิ!”
ปิ่นขวัญบอกกับเขาว่า มะละกอมีประโยชน์มาก มีวิตามินครบ โดยเฉพาะมีเอนไซม์ปาเปนที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ย่อยโปรตีนได้ดีมาก ซึ่งควรกินผลดิบถึงจะได้เอนไซม์ตัวนี้ ปกติน้ำย่อยของมนุษย์มีความเข้มข้นไม่มาก มีความเป็นด่างตั้งแต่ในปากเพื่อย่อยแป้งและน้ำตาล ธรรมชาติออกแบบร่างกายมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ทานธัญพืชและผักผลไม้เป็นหลัก จึงมีลำไส้ยาวถึงเจ็ดเมตรที่ค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมสารอาหารไปเรื่อย ๆ จะย่อยเสร็จประมาณสี่ชั่วโมง ต่างกับลำไส้ของสัตว์ต่าง ๆ ที่จะสั้นกว่ามนุษย์มาก เพราะกินแล้วต้องรีบเอาออกให้เร็วที่สุด และยังมีน้ำย่อยที่เข้มข้นกว่าถึงยี่สิบเท่า เป็นกรดเข้มข้นตั้งแต่ในปาก ไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมคนเราถึงเจ็บป่วย เพราะกินอาหารที่ไม่เหมาะกับธรรมชาติของตัวเราเอง
ถ้าเรากินเนื้อสัตว์ น้ำย่อยของคนเราไม่เข้มข้นมากพอ แถมลำไส้ยังยาวมาก ทำให้อาหารบูดเน่าไปหลายวันกว่าจะเดินทางออกจากร่างกายได้ ถ้ายังไม่กินพืชผักที่มีกากใยกวาดลำไส้ด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย คนจึงป่วยเป็นมะเร็งลำไส้กันเยอะมาก เป็นโรคที่น่ากลัว กินเข้าไปแต่ถ่ายไม่ออก เพราะมักจะมีก้อนอยู่ที่ลำไส้ วิธีการรักษาคือ ผ่าตัดลำไส้ที่มีปัญหา ถ้าอยู่ในส่วนตัดได้ แต่จะกินอาหารได้ทีละน้อย หลายรายเมื่อตัดทิ้งแล้วต้องต่อท่อให้ถ่ายออกด้านหน้าท้องแทน แค่นึกก็ขยาดแล้ว
รับคำท้
ตอนที่ 34
ปริมามองรูปบนหน้าจอโทรศัพท์ของหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ในมือ พลางเบิกตาโต เมื่อเห็นเป็นรูปของตัวเธอเองตอนที่งัดข้อกับเขา
“ลบออกเดี๋ยวนี้เลย” หญิงสาวมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาเรื่องเอาราว
“ทำไมต้องลบล่ะ” อีกฝ่ายถามกลับอย่างกวนประสาท แกล้งทำหน้าตาสงสัยเต็มประดา
“น่ารักออกน้า....ดูสิ! เหมือนคู่กัดในซีรีส์เกาหลีเลย” หนุ่มจอมกวนเอียงหน้าเข้ามาใกล้พลางอมยิ้ม
“แบบนี้จะให้คนอื่นเข้าใจว่าไง” เจ้าของภาพโวยวาย มองหน้าคนตรงหน้าไม่มีสำนึกผิดใด ๆ เอาแต่ยิ้มหวานอยู่นั่นแหละ
“เข้าใจว่า...” เขายกสองมือทำสัญลักษณ์รูปหัวใจที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองแล้วยื่นออกไปตรงหน้าเธอ
หญิงสาวถอนหายใจ เธอจะทำยังไงกับพ่อหนุ่มจอมกวนดีเนี่ย...!!
“เซลฟี่กัน....”
“ไม่!” เจ้าของสวนปฏิเสธเสียงแข็ง แล้วขยับตัวออกห่าง
“นายถ่ายเองแล้วกัน ฉันไปล่ะ” เธอคืนโทรศัพท์ให้เขาอย่างหมั่นไส้
“เธอเป็นแฟนฉันแล้ว...รู้ตัวบ้างมั้ย... แล้วเมื่อไหร่ ฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ....” เขาร้องเพลงขึ้นมาลอย ๆ ตอนรับโทรศัพท์คืนมา พลางอมยิ้มเขิน
‘โอ๊ย!!’ สาวชาวสวนอยากยกมือตบกบาลตัวเองจริง ๆ เขาบ้าไปแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าตัวเธอเองมีอะไรดีให้เขาชอบนักหนา
ปริมาแกล้งเอาเท้ากระทืบเท้าเขาอย่างหมั่นไส้ก่อนจะเดินผ่านไป
รอยยิ้มหวานหุบลงทันที เปลี่ยนเป็นหน้าเหยเกแทน ตามด้วยเสียงรอดไรฟันด้วยความเจ็บนิ้วเท้า พลางขยับเท้าไปมาเพื่อผ่อนคลายความเจ็บ กระทืบมาได้! แล้วรีบเดินตามเธอไปทันที
“นี่! ผักเธอขายดีไหม...?” เขาแกล้งถามอย่างอยากรู้ว่า มีคนมาติดต่อซื้อผักกับเธอหรือยัง?
คนถูกถามหันมามองหน้าชายหนุ่มอย่างสงสัย
“พี่รหัสของฉันเอง บอกว่าที่โรงพยาบาลพ่อของเขา ต้องการจะขายผักไร้สารพิษ แล้วส่งคนมาติดต่อขอซื้อผัก ทำไมนายรู้ล่ะ” สาวชาวสวนเดินไปดูเมล็ดมะละกอที่เธอผึ่งลมอยู่ในกระด้งที่ปูด้วยมุงไนล่อนถี่ ๆ
“ดีใจด้วยนะ ที่ผักของเธอขายได้มากขึ้น ฉันก็...แค่ลองเสนอความคิดไป พ่อของฉันเป็นหมอโรคหัวใจที่โรงพยาบาลนี้เหมือนกัน อยากรู้ว่า เขาสนใจแนวคิดของฉันรึเปล่า ถ้าคนหันมากินอาหารที่ปลอดภัย เป็นธรรมชาติมากขึ้น คนจะได้สุขภาพดีขึ้นเหมือนพ่อของฉันไง ตอนนี้พ่อป่วยเป็นโรคหัวใจและอีกหลาย ๆ โรค พอปรับเปลี่ยนอาหาร อาการก็ดีขึ้นเลย ทั้ง ๆ ที่นึกว่า พ่อจะต้องกินยาตลอดชีวิตแล้ว”
“ที่นายถามถึงเครื่องปั่นผักกับสูตรน้ำปั่นผักเหรอ นายทำไงให้พ่อยอมเปลี่ยนอาหารการกินใหม่ล่ะ” เธอรู้สึกว่า มันไม่ง่ายเลยกับการปรับเปลี่ยนอาหารที่เคยชินและชอบ ซึ่งเธอเคยแนะนำญาติ ๆ ที่เจ็บป่วยหลายคนก็ยังทำไม่ได้เลย
“ฉันขอคำแนะนำจากปิ่นขวัญ แล้วก็ไปค้นงานวิจัยเพิ่มเติม ไม่งั้นพ่อจะเชื่อฉันได้เหรอ เขาเป็นหมอนะ เราเปลี่ยนการกินอาหารใหม่ทั้งบ้านเลย กินเหมือนกันหมด พ่อจะได้ไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวกินอยู่คนเดียว”
คนฟังรู้สึกทึ่ง เพราะมีไม่กี่คนที่สามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตการกินอาหารได้ แต่เขาทำให้ทั้งบ้านเปลี่ยนวิธีกินอาหารได้ ผู้ชายที่ดูขี้เล่นขี้หลีอย่างเขา เหมือนไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรเลย บทจะเอาจริงก็ทำได้อย่างเหลือเชื่อ ยิ่งงานวิจัยด้วยแล้วมีแต่ภาษาอังกฤษล้วน ๆ เธอเคยฟังปิ่นขวัญอธิบายถึงวิธีการค้นหางานวิจัยทางการแพทย์ต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำได้ เกือบลืมไปว่า ผลการเรียนตั้งแต่ชั้นประถมยันมัธยมของหนุ่มหน้าหวานนั้นได้เกรดสี่ทุกวิชา สมองของเขาต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
“แล้วนี่เธอกำลังทำอะไรเหรอ” สายตามองเมล็ดเล็ก ๆ สีเทาละลานตาบนกระด้งที่ปูด้วยมุ้งไนล่อน
“เก็บเมล็ดพันธุ์มะละกอ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ไงล่ะ จะทำให้ได้พันธุ์ที่ดี ลูกดก ไม่เป็นกะเทย ได้ข่าวว่าฝรั่งจะจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ ถ้าเขาทำได้ยุ่งเลยนะ เราต้องซื้อเขาอย่างเดียวเลยทีนี้ เมล็ดพันธุ์เราจะไม่เหลือเลยถ้าออกกฏหมายให้ต่างชาติจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์ได้ เขาจะทำให้เมล็ดพันธุ์ที่เราซื้อมาปลูกได้แค่ครั้งเดียว ไปปลูกต่อไม่ขึ้น ฉันเลยอยากทำเรื่องเก็บเมล็ดพันธุ์ ว่าจะทำขายด้วย กำลังทดลองอยู่” คนพูดอธิบายพลางมองดูเมล็ดเล็ก ๆ ว่าแห้งดีสนิทหรือยัง
ปฏิการมองหญิงสาวที่ยืนตรงหน้าอย่างทึ่ง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แต่ความคิดไม่เล็กเลย มันจะเป็นการเกษตรที่ครบวงจร มีความยั่งยืนอย่างแท้จริงเมื่อเราเก็บเมล็ดพันธุ์เองได้
“แล้วทำไงบ้างเหรอ”
“ก่อนอื่นเราต้องเลือกผลมะละกอสมบูรณ์ ที่เปลือกมีส่วนเขียวอยู่นิด ๆ แล้วเอาเมล็ดมาเทใส่ถาด มันจะมีเมล็ดสีดำกับสีเทา ให้เลือกเก็บเฉพาะสีเทา สีดำทิ้งไป จากนั้นก็นำไปแช่น้ำ ตักเมล็ดที่ลอยอยู่ออก ล้างเมือกบนเมล็ดให้หมด เอามาผึ่งไว้ให้แห้งสองวัน ไม่ต้องเอาไปตากแดดนะ แล้วนำมาห่อกระดาษหรือถุงพลาสติกเก็บเข้าตู้เย็น แค่นี้เอง” คนพูดอธิบายพลางเขย่ามุ้งไนล่อนที่ตากเมล็ดมะละกอจนแห้งดีแล้วให้มารวมกัน
“ใส่ถุงนี้เหรอ” หนุ่มนักดนตรีหยิบถุงซิบพลาสติกที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาช่วยอ้าปากถุงพลาสติกให้กว้าง รอให้เธอเทเมล็ดมะละกอลงในถุง
“นายเอามะละกอไปกินมั้ย”
หนุ่มหน้าหวานฉีกยิ้มกว้าง
“เอาสิ!”
ปิ่นขวัญบอกกับเขาว่า มะละกอมีประโยชน์มาก มีวิตามินครบ โดยเฉพาะมีเอนไซม์ปาเปนที่ช่วยในระบบย่อยอาหาร ย่อยโปรตีนได้ดีมาก ซึ่งควรกินผลดิบถึงจะได้เอนไซม์ตัวนี้ ปกติน้ำย่อยของมนุษย์มีความเข้มข้นไม่มาก มีความเป็นด่างตั้งแต่ในปากเพื่อย่อยแป้งและน้ำตาล ธรรมชาติออกแบบร่างกายมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ทานธัญพืชและผักผลไม้เป็นหลัก จึงมีลำไส้ยาวถึงเจ็ดเมตรที่ค่อย ๆ ย่อยและดูดซึมสารอาหารไปเรื่อย ๆ จะย่อยเสร็จประมาณสี่ชั่วโมง ต่างกับลำไส้ของสัตว์ต่าง ๆ ที่จะสั้นกว่ามนุษย์มาก เพราะกินแล้วต้องรีบเอาออกให้เร็วที่สุด และยังมีน้ำย่อยที่เข้มข้นกว่าถึงยี่สิบเท่า เป็นกรดเข้มข้นตั้งแต่ในปาก ไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมคนเราถึงเจ็บป่วย เพราะกินอาหารที่ไม่เหมาะกับธรรมชาติของตัวเราเอง
ถ้าเรากินเนื้อสัตว์ น้ำย่อยของคนเราไม่เข้มข้นมากพอ แถมลำไส้ยังยาวมาก ทำให้อาหารบูดเน่าไปหลายวันกว่าจะเดินทางออกจากร่างกายได้ ถ้ายังไม่กินพืชผักที่มีกากใยกวาดลำไส้ด้วยแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย คนจึงป่วยเป็นมะเร็งลำไส้กันเยอะมาก เป็นโรคที่น่ากลัว กินเข้าไปแต่ถ่ายไม่ออก เพราะมักจะมีก้อนอยู่ที่ลำไส้ วิธีการรักษาคือ ผ่าตัดลำไส้ที่มีปัญหา ถ้าอยู่ในส่วนตัดได้ แต่จะกินอาหารได้ทีละน้อย หลายรายเมื่อตัดทิ้งแล้วต้องต่อท่อให้ถ่ายออกด้านหน้าท้องแทน แค่นึกก็ขยาดแล้ว