ไม่ไหวแล้วคร๊าบบบ ลูกชายอายุ2ขวบ4เดือน เป็นคนแบบนี้แก้ยังไงดี

กลางคืนเวลาแฟนพาลูกหลับ ลูกจะชอบเอามือไปจับไปหยิกปากแฟน หยิกแล้วกระชากแรงๆ ทำให้ตอนนี้ปากแฟนเป็นแผลเยอะมาก ทำให้กินข้าวก็ลำบากแถมเจ็บตลอดเวลา

   ประเด็นคือเวลานอนถ้าไม่ยอมให้จับปากลูกก็จะร้องไห้ไม่ยอมหยุด มันวนอยู่อย่างนี้ สงสารแฟนมาก

ต้องบอกว่าลูกผมซนมาก อะไรที่ห้ามลูกทำหมด อายุเท่านี้ถอนฟันไป4ซีก แผลเป็นที่ฝ่ามือ1จุด ไฟลวกหว่างขา1ที่กำลังจะหายดี คือตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยให้ห่างมือเลยครับ เต็มที่ก็ระยะ5เมตร แต่ก็มีพลาดบ้าง

สุดท้ายนี้ใครพอจะมีวิธีแนะนำเรื่องที่ลูกชอบหยิกปากแฟนบ้างครับ แฟนบ่นเจ็บปากทุกวันแต่ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย

ขอบคุณครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้าตอนนี้คุณไม่สามารถสอนได้ว่า"ไม่ควรทำ" อย่าหวังนะครับว่าโตขึ้นแล้วจะสอนได้
อย่าคิดว่าตอนนี้ ร้องไห้แล้วน่าสงสาร ใจอ่อนต้องตามใจ แล้วพอโตขึ้นคุยกันได้ก็จะดัดนิสัยได้เอง

เคยเห็นเด็กที่กรี๊ดๆ ร้องไห้จะเอาให้ได้ดังใจ ร้องแล้วเอาชนะให้ได้มั้ยครับ? เด็กที่มีนิสัยแบบนี้ ส่วนมากคือ พ่อแม่ "ยอม" มาตลอด เมื่อเค้าเรียนรู้ว่าร้อง หรือแผลงฤทธิ์ก็จะได้ตามสิ่งที่ต้องการ ไม่เกี่ยวกับการซน หรือไม่ซนครับ และไม่เกี่ยวกับการได้แผลมาขนาดไหนก็ตาม เพราะ ถ้าเค้าเจ็บตัวมาแล้ว ได้แผลมาแล้ว แต่พ่อแม่ ไม่ได้บอกเค้าว่า นี่คือผลจากสิ่งที่เค้าทำเอง พ่อแม่บอกแล้วไม่เชื่อ แบบนี้ก็ไม่รู้เรื่องเ่นกันครับ กลับกัน ยิ่งพอเจ็บแล้ว แม่หรือพ่อไปโอ๋ ไปประคบประหงมดูแล ก็ยิ่งรู้สึกดี ได้รับความสนใจและได้รับสิ่งที่ต้องการ

ลูกสาวผมก็ซนมากในเลเวลเด็กผู้หญิงครับ หัวแตก เคยเอานิ้วจิ้มปลั๊กไฟ แหย่พัดลมมาแล้ว โดยทุกอัน ก็นั่งสอน (ยกเว้นหัวแตก เป็นการเกิดอุบัติเหตุ) เช่นแหย่ปลั๊กไฟ ก็อายุราวๆขวบกว่าๆนี่แหละครับ รู้เรื่องแล้วคำว่า"เจ็บ" สอนได้ครับ พอแหย่ก็บอกเลยว่าจะเจ็บนะ อยากแหย่ใช่มั้ย เค้าก็มองพ่อแล้วลองจิ้มเลย พ่อนี่พร้อมกวาดลูกออกมาจากตรงนั้นครับ แล้วก็ไฟดูดสะดุ้งไป ร้องไห้จ้าเลย ซึ่งผมก็ไม่โอ๋ครับแค่ดูอาการ ดูมือ แล้ววางไว้ตรงนั้น บอกเลยว่า เจ็บมั้ย เตือนแล้วนะ
แหย่พัดลมก็เช่นกัน อยากแหย่ใช่มั้ย บอกก่อนว่าเจ็บนะ ในเมื่อบอกแล้วยังแหย่ ก็เชิญเลย พอแหย่แล้วตีนิ้วดังปัง ชักมือออกมาร้องจ้าเอีก ก็แค่ดูนิ้ว เลือดไม่ออก ไม่หัก ก็ปล่อยไว้งั้น เดินไปเอาน้ำแข็งมาประคบ ไม่โอ๋ ไม่อุ้ม ให้รู้ตัว

ตั้งแต่เล็กๆครับ จะคลานตกเตียง ตกบันได หล่นลงมา ทั้งหมด ถ้าทำเอง ก็จะแค่บอกว่านี่คือเจ็บ และไม่โอ๋ ไม่อุ้ม เตือนเค้าว่า ประมาท พอต่อมา โตข฿้น เวลาพ่อเตือน เค้าจะเชื่อก่อนจะสงสัยครับ เพราะทุกอย่างที่แหกพ่อมาตลอด ก็จำได้ฝังใจ

เรื่องห้ามไม่ได้ หยุดไม่ได้ ไม่มีในบ้านผมนะครับตั้งแต่ทารก เด็กเล็ก จนโต จะร้องแค่ไหนก็ร้องไป ถ้าไม่ได้ก็คือไม่ได้ครับ กินอาหารต้องกินทุกอย่าง ห้ามเลือกกิน กินให้หมด ตื่นมากลางดึก จะร้องก็ร้องไปเลยครับ ถ้าสำรวจแล้วว่าท้องไม่อืด ฉี่ไม่ล้น อึไม่ทะลัก ไม่มีมดแมลงกวน จะฝันร้ายหรือร้อน ก็หยุดร้องแล้วนอนเองครับ ไม่อุ้มมากล่อมใหม่  อย่างมากก็นั่งตบก้นให้หลับไป

ฝ่ายแม่ กลัวมากว่าลูกจะโตมาเก็บกด พ่อใจหิน
แต่ก็ไม่เป็นครับ ตอนนี้อายุ 13 แล้ว นั่งเป็นสาวน้อยเรียนมัธยมแล้ว  และยิ่งโตก็จะยิ่งให้อิสระทางความคิดมากขึ้นเรื่อยๆ ย้อนทางกับทั่วไปคือเด็กๆใจอ่อน ปล่อยๆ โอ๋ แล้วโตมาตามห้าม ตามเคร่งครัด
ผมเลือกจะเข้มงวดตั้งแต่ทารก ให้คุยกันรู้เรื่อง

ก็ไม่ใช่จะเป็นเด็กสมบูรณ์แบบครับ เคยงอแง ร้องไห้ ออกอาการก้าวร้าวต่อสู้มาบ้าง เช่นอยากได้ของเล่น ก็ยืนร้องไห้ในห้าง ก็ปล่อยไปเลยครับ เดินหนีด้วย ให้ยืนร้องคนเดียวไปเลย หรือไปเดินงาน expo คนเยอะๆก็บอกว่าระวังนะ อย่าวิ่งมุดๆ อย่าสะบัดมือวิ่งเล่นเวลาเจอของ เดี๋ยวหลง พอถึงเวลาก็สะบัดมือวิ่งไปหาดงของเล่น ผมก็ปล่อยเลยครับ ก็หายไปเลยจริงๆ เค้ามองหาเราไม่เจอ (ผมกับภรรยา แอบออกมาซ่อน คนละที่ ดูจากคนละมุม)  พอรู้สึกตัวเท่านั้นแหละ มองหาพ่อแม่ไม่เจอ เดินออกมาหา เดินไปเดินมา ร้องไห้จ้าเลย ซึ่งก็ปล่อยให้ร้องไปจนสะอื้น มีคนเดินมาคุย ถึงได้แสดงตัวออกไป แล้วสอนว่า นี่คือสิ่งที่เตือนแล้ว
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหนเดียว ไม่เคยมีอีกเลยครับ ขอเพียงต้องใจแข็งจริงๆ

ปล
ทุกอย่าง เตรียมพร้อมหมดนะครับ สมัยเล็กๆเลย กล่องพยาบาล อยู่ทุกที่ในบ้านรัศมีคว้าได้ เวลาไปนอกบ้าน เค้าจะมีเป้โคอาล่าประจำตัว ในนั้น ผมใส่ tag ตามหาตัวที่กดแล้วมีเสียงดังเอาไว้ และมือถืออีกเครื่อง รวมถึง ห้องเบอร์ติดต่อพ่อแม่ กับข้อมูลทางการแพทย์ไว้ตลอด เกิดเหตุจำเป็นก็พอจะมีแผนสำรอง

แต่เทียบกับเพื่อนๆผมซึ่งเลี้ยงลูกคนละแบบ จนอายุเท่านี้ พ่อยังต้องปลุกทุกเช้า อุ้มไปเข้าห้องน้ำ เข้านอนยาก พ่อและแม่ค่อนข้างตามใจ จะเข้มงวดก็ตอนหงุดหงิดมากๆ นิสัยของเด็กต่างกันครับ
แต่ก็ดังเช่นที่ทุกท่านทราบดี แต่ละบ้าน แต่ละคน ไม่เหมือนกัน รายละเอียดแตกต่างย่อมได้ผลที่แตกต่างกัน
เป็นเพียงความเห็นและประสบการณ์ครับ
ความคิดเห็นที่ 2
เด็ก 2 ขวบกว่า รู้เรื่องแล้วนะ ว่าทำแบบไหน ใครเจ็บมั้ย
ถ้าเป็นเรา พานอน กอดเค้า ถ้าหยิกเรา เราลุกเดินออกมาเลย
บอกหนูทำแม่เจ็บ แม่นอนใกล้หนูไม่ได้แล้วนะ เพราะแม่ไม่อยากเจ็บ
ลูกซน กับชอบทำร้ายคนอื่น ไม่เหมือนกันนะ
ถ้าไม่สอนเค้าตอนนี้ อีกหน่อยเข้าโรงเรียน
จะลำบากอีกนะ อาจไปทำเพื่อนเจ็บค่ะ
ความคิดเห็นที่ 7
เวลานอนต้องให้ลูกจับปาก ถ้าไม่ยอมลูกจะร้อง สุดท้ายก็ยอมใช่มั้ยคะ เคยพยายามจะไม่ยอมแล้วแต่ลูกร้องหนักขึ้นสุดท้ายก็ยอมหรือเปล่า? ต่อให้ต้องร้องทั้งคืนสุดท้ายก็จะกลับมายอมให้ลูกจับปากเวลานอนหรือเปล่า?

ถ้าใช่แปลว่าจริง ๆ แล้วจขกทกับแฟนกำลังฝึกให้ลูกร้องเก่งขึ้น ๆ โดยไม่รู้ตัวนะคะ ฝึกมาจนลูกร้องเก่งมากเลยล่ะ

เอาใหม่นะคะ

1. ถ้าลูกจะจับปาก ได้ จับแล้วไม่เจ็บ อีกคนโอเคไม่เป็นไร แต่ถ้าแม่ต้องการนอน ไม่อยากให้จับก็บอกลูกตามตรงว่าไม่ได้นะ ถึงเวลานอนแล้ว ถ้าหนูอยากจับอะไรสักอย่างจับหมอนหรือตุ๊กตามั้ย

2. ถ้าลูกจับแล้วดึงจนเจ็บ จับมือลูก มองตา พูดชัด ๆ ว่าแม่เจ็บ หนูจะดึงแบบนี้ไม่ได้ เด็กอาจจะสะบัดมือ อยากจะกรี๊ด หรืออะไรก็แล้วแต่ จับมือไว้บอกซ้ำอย่างสงบว่า “ทำไม่ได้”

3. ถ้าลูกร้องจะเอาสิ่งที่เราไม่โอเค ห้ามให้สิ่งที่ต้องการเด็ดขาด บอกลูกว่าหนูคงหงุดหงิดมาก/เสียใจ/โกรธ (แล้วแต่สังเกตอารมณ์ลูก) หนูร้องไห้ก็ได้ แต่พ่อกับแม่จะไม่ให้นะ ถ้าหนูรู้สึกดีขึ้นแล้วหยุดร้องแล้วไปทำอย่างอื่นกัน ระหว่างนั้นนั่งเป็นเพื่อนลูกอย่างสงบ ยื่นทิชชู่ให้ก็ได้ พาไปล้างหน้าอะไรก็ว่าไป แต่ไม่ต้องทำหน้าใจจะขาดเห็นลูกร้องแล้วสงสาร ลูกไม่เป็นไรค่ะ

ส่วนเรื่องยิ่งห้ามยิ่งทำ ต่อต้าน เป็นพัฒนาการปกติของวัย 2 ขวบ ไม่มีเลยสิน่าคิด เพียงแต่วิธีรับมือแนะนำจขกทไปดูในเพจเลี้ยงลูกต่าง ๆ นะคะ มีข้อมูลมีวิธีการรับมือเยอะมากพิมพ์ในนี้น่าจะยาวเกิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่