หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto บุฟเฟ่ต์ไก่ทอดคาราอาเกะเพียงคนละ 100 บ. อยู่ภายในซอยธนิยะ-สีลม
กระทู้รีวิว
อาหารญี่ปุ่น
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ร้านอาหาร
ร้านอาหารย่านสีลม
สืบเนื่องจากครั้งที่แล้วนั่งเล่นมือถือเลื่อนหาร้านอร่อยเด็ดใกล้ๆบ้านจนไปพบกับบุฟเฟ่ต์ยากิโทริราคาถูก วันนี้ก็มาตามจุดประสงค์เดิมแต่มาพบกับร้านแห่งใหม่ชื่อว่า "Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto" อยู่ภายในซอยพัฒน์พงศ์ ปกติอาหารหลักของที่ร้านนี้เป็นโอโคโนมิยากิ/เทปันยากิและอาหารทานเล่นสไตล์อิซากายะแต่ถ้าหากมาทานมื้อกลางวันเวลา 11.00-13.30 จะมีโปรโมชั่นพิเศษก็คือ "บุฟเฟ่ต์คาราอาเกะทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมงเต็มจ่ายเพียงคนละ 100 บาท" (ไม่รวม Vat. 7%) ตอนแรกคิดว่าน่าจะเลี่ยนมากและทานได้ไม่เยอะแต่ดูจากรีวิวเก่าๆก็ไม่ได้มีแค่ไก่ทอดให้ทานเพียงอย่างเดียวจึงเพิ่มความน่าสนใจให้อยากทานขึ้นไปอีกขั้น ก่อนอื่นเราต้องขอแจ้งก่อนว่าทางร้านไม่รับลูกค้า Walk In ทุกกรณี ต้องโทรมาจองก่อนและมาตามช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้นเพราะจำนวนโต๊ะในร้านมีจำกัด-จะได้เตรียมวัตถุดิบให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวันและแน่นอนว่าเราโทรมาจองเอาไว้แล้ว วิธีการเดินทางหากนำรถยนต์ส่วนตัวมาเองให้ปักหมุดแล้วขับมาตามแผนที่บนมือถือจอดรถภายในอาคารวอลล์สตรีททาวเวอร์ฟรี 2 ชม.เมื่อมีประทับตราร้าน (ยกเว้นมื้อเที่ยงร้านจะไม่ประทับตราให้ต้องเสียค่าจอดชั่วโมงละ 20 บาท) หรือจะจอดหน้าอาคารนัมเบอร์วันก็คิดเงินเช่นเดียวกัน ถ้าเดินทางมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง BTS สถานีศาลาแดง หรือ MRT สถานีสีลม เดินเข้ามาภายในถนนพัฒน์พงศ์จนเกือบสุดซอยก่อนทะลุถนนสุรวงศ์ทางด้านขวามือจะพบกับอาคารนัมเบอร์วัน (ตึกสีน้ำตาลหน้าตาคล้ายๆกับคอนโดมิเนียม) พร้อมกับมีป้ายเล็กๆเขียนหน้าอาคารว่า "เลขที่ 1 ถนนพัฒน์พงศ์ / No. 1 Patpong Road" แบบนี้แสดงว่ามาถูกแล้วครับ ประตูทางเข้าจะพบกับป้ายชื่อร้านพร้อมเมนูเด็ดบนพื้นสีขาวดูสะอาดตาเชิญชวนให้กดลิฟต์ขึ้นไปชั้น 4 ออกจากลิฟต์มาก็พบหน้าร้านเลยครับ
บรรยากาศภายในร้านอย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าเมนูหลักนั่นคือโอโคโนมิยากิ/เทปันยากิและอาหารทานเล่นสไตล์อิซากายะ ทุกโต๊ะเลยมีเตาไฟฟ้าอยู่ตรงกลางเพื่อจะได้ทานอาหารบนกระทะร้อนๆตลอดเวลา โดยมีเค้าท์เตอร์ขนาดใหญ่ใจกลางร้านเป็นจุดปรุงอาหารแล้วค่อยนำไปเสิร์ฟตามจุดต่างๆ แบ่งที่นั่งหลักๆออกเป็น 3 โซนนั่นก็คือ 1. โต๊ะแนวยาวมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดี่ยวสำหรับ 1 คนนั่งหน้าเค้าท์เตอร์พร้อมชมการแสดงปรุงอาหารสดๆจากเชฟมืออาชีพ 2. โต๊ะสำหรับครอบครัวสามารถนั่งได้ตั้งแต่ 4-8 คนพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบคู่สำหรับวางเมนูที่ปรุงเสร็จไว้ตรงกลางได้ทานแบบร้อนๆจนถึงคำสุดท้าย 3. ห้องรับรองส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับคนที่ต้องการใช้เสียงดังและต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยมื้อกลางวันทางร้านจะเปิดให้บริการแค่โซนที่ 1 กับ 2 เท่านั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเสิร์ฟเพราะมีเวลาในการทานเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น วันนี้เราได้นั่งโซนหน้าเค้าท์เตอร์กันครับผม
มาถึงน้องพนักงานก็จะนำเล่มเมนูอาหารกลางวันมาให้เราเลือกสั่งเริ่มจากชุดเมนูราคาสุดคุ้ม 1. ชุดข้าวไก่ทอดคาราอาเกะราคา 129 บาท 2. ชุดข้าวชุบแป้งทอด 3 อย่าง (กุ้ง/ไก่และโคโรเกะไส้ครีม) ราคา 159 บาท 3. ชุดข้าวแฮมเบอร์เกอร์ (แฮมเบอร์เกอร์/กุ้งชุบแป้งทอดและไก่ทอด) ราคา 219 บาท ส่วนเมนูที่เราตั้งใจจะมาทานกันในวันนี้นั่นก็คือ 4. ไก่ทอดคาราอาเกะทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมง ราคาเพียงคนละ 100 บาท หากต้องการข้าวกับซุปเพิ่มอีกคนละ 50 บาท (เติมได้ไม่อั้นเช่นเดียวกัน) นอกจากนี้ยังมีเบียร์-น้ำอัดลมให้สั่งเพิ่มแต่ไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเมนูนี้สามารถสั่งได้ทุกวันจันทร์-เสาร์เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-13.30 น. รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 13.40 น. ถ้าทานยังไม่หมดสามารถนั่งทานต่อไปได้เรื่อยๆแต่ไม่สามารถสั่งเพิ่มได้อีก ส่วนเครื่องดื่มในบุฟเฟ่ต์มีน้ำชาจืดให้ฟรีมาเป็นเหยือกใหญ่เทได้ตามใจ (กลิ่นชาอ่อนๆดื่มได้เรื่อยๆแช่เย็นสดชื่น) บนโต๊ะมีซอส 3 สูตร/เกลือและพริกป่นให้ทานกับไก่ทอดคาราเกะได้ตามใจแต่ถ้าเทซอสจนเหลือเยอะเกินไปคิดค่าปรับขั้นต่ำ 30 บาท (ยังไงก็เทแต่พอดีด้วยนะครับ)
เมื่อเราสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ไก่ทอดราคา 100 บาทพนักงานจะไม่ถามว่าเอาไก่ทอดกี่ชิ้นแต่จะเสิร์ฟเป็นชุดเริ่มต้นมาให้ก่อนประกอบไปด้วย 1. ไก่ทอดคาราอาเกะ 5 ชิ้น เป็นส่วนสะโพกเลาะกระดูกออกก่อนจะหมักด้วยซอสสูตรพิเศษ/จับม้วนเป็นก้อนแล้วทอดจนเป็นสีน้ำตาลประกายน้ำมันสวยงาม 2. เครื่องเคียงหลากหลายในชุดที่ดูแปลกตาเพราะไม่เคยเห็นร้านอื่นๆเขาเสิร์ฟกัน 3. ชุดข้าวกับซุป (เพิ่มอีก 50 บาทเติมได้ไม่อั้น) เป็นข้าวสวยญี่ปุ่นโรยงาดำเสิร์ฟกับกระหล่ำปลีดองเกลือที่ถูกบีบน้ำส่วนเกินออกและซุปสาหร่ายใส่ไข่โรยด้วยต้นหอมที่ซดแล้วมีความคล้ายกับซุปของเกาหลีมากกว่าญี่ปุ่นรสเค็มอ่อนละมุน สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วว่ามื้อนี้ต้องทานได้เยอะแน่นอนก็สามารถสั่งไก่ทอดเพิ่มได้เลยทันทีแต่ถ้ายังไม่ชัวร์แนะนำว่าให้ทานชุดนี้หมดก่อนแล้วกะปริมาณพื้นที่เหลือในกระเพาะค่อยสั่งเพิ่มดีกว่าครับ
กัดทำแรกสิ่งที่รู้สึกได้เลยคือร้อนมากเพราะเขาทอดมาใหม่ๆ ด้านนอกพื้นผิวสีน้ำตาลสุกกรอบด้วยแป้งกับหนังไก่ส่วนตรงแกนกลางชุ่มฉ่ำเพราะเกิดจากการม้วนเป็นก้อนทำให้น้ำเนื้ออัดแน่นอยู่ภายในมีความอมชมพูอยู่นิดๆเกิดจาก "มายโอโกลบิน" ซึ่งเป็นโปรตีนที่เก็บออกซิเจนไว้ในเซลล์กล้ามเนื้อของไก่ รสชาติเค็มอ่อนๆมีกลิ่นหอมของโชยุผสมกับผงกะหรี่/พริกไทย/ผงกระเทียม/มิรินและสาเกบางๆพอกลมกล่อม สำหรับคนที่เกลียดกลิ่นขิงในไก่คาราอาเกะสามารถทานสูตรของร้านนี้ได้แบบสบายๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอสทั้ง 3 สูตรของทางร้านก็คือ 1. ซอสศรีราชามาโย เป็นซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนสให้รสเปรี้ยว-มันนุ่มนวลและเผ็ดพออ่อนๆ 2. ซอสโอโคโนมิยากิมาโย เป็นซอสพิซซ่าญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของทางร้านผสมมายองเนสรสหวานมันทานง่ายมีกลิ่นหอมๆเฉพาะตัว 3. ซอสสวีทชิลลี่มาโย หรือน้ำจิ้มไก่สไตล์ไทยผสมกับมายองเนสช่วยให้รสหวานนำเผ็ดตามเปรี้ยวกลมกล่อมทานง่ายมากขึ้น สำหรับใครที่อยากทานไก่ทอดคาราอาเกะคู่กับน้ำจิ้มไก่ไทยสูตรปกติก็สามารถขอเพิ่มได้ฟรี (พนักงานไปหยิบมาให้จากหลังร้าน)
ถ้าใครอยากทานสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสามารถปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้รูป 3 แบบนั่นก็คือ 1. เกลือสาหร่ายสูตรพิเศษรสเค็มอ่อนๆผสมสาหร่ายแห้งป่นละเอียดที่ผสมอยู่ในเนื้อเกลือสีเทาใช้โรยหรือจิ้มช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้ความอูมามิเพิ่มยิ่งขึ้นโดยไม่รบกวนรสชาติที่แท้จริงของไก่คาราอาเกะ 2. พริกป่นละเอียดสไตล์ญี่ปุ่นให้รสเผ็ดร้อนบางๆช่วยตัดเลี่ยนไขมันไก่ทกให้ทานได้เยอะยิ่งขึ้น 3. เป็นน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ต้องสั่งเพิ่มนั่นคือ "ซอสกระเทียม" ทางร้านขายราคาถ้วยละ 20 บาท (แต่เราไม่ได้สั่งมาลองเพราะไม่รู้ว่ามีจนมาคุยกับเจ้าของตอนจะปิดร้าน) ถือว่ามีซอสและวิธีการทานหลายอย่างให้เปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ ใครที่กลัวว่าจะเบื่อเพราะมีให้ทานแต่ไก่ทอดสบายใจได้ครับ
มาต่อกันด้วยเครื่องเคียงต่างๆหน้าตาค่อนข้างประหลาดจากร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆที่เคยทานมาเรียงจากซ้ายไปขวา 1. สลัดไข่ต้มมาโย เป็นไข่ต้มสับผสมกับสลัดครีมรสหวานมันโรยพาสลี่ย์สับ 2. โคลสลอว์กระหล่ำปลีซอยโรยคัตสึโอะได้ความเป็นตะวันตกผสมตะวันออกได้อย่างลงตัว 3. ส้มตำปูปลาร้ารสเผ็ดแซ่บนัวเส้นมะละกอกรุบกรอบช่วยตัดเลี่ยนไก่ทอดได้เป็นอย่างดี 4. สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอกและพริกไทยดำรสเผ็ดร้อนอ่อนๆทานง่าย และ 5. ไก่เทอริยากิรสหวานเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นโชยุและขิงไว้ทานคู่กับข้าวสวยคือดีงาม 6. เมนูลับหลังร้านสามารถขอเพิ่มได้ฟรีคือ "แกงกะหรี่ไก่" ซึ่งเราไม่ได้สั่งมาเพราะเพิ่งรู้ว่ามีตอนได้คุยกับเจ้าของร้านเช่นเดียวกัน โดยเครื่องเคียงทุกอย่างที่เห็นก็สามารถขอเติมได้เรื่อยๆเช่นเดียวกับไก่ทอดคาราอาเกะและอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามเจ้าของร้านกำหนด (หน้าตาเลยดูประหลาดๆไม่เหมือนใครอย่างที่เห็น) ส่วนไก่ทอดคาราอาเกะเมื่อเราสั่งเพิ่มอาจจะต้องใช้เวลารอหน่อยเพราะทางร้านจะนำไปทอดให้ใหม่แต่ก็ไม่นานจนเกินไปเพราะใช้เทคนิคการทอด 2 รอบ โดยทอดที่ครัวหลังร้านให้สุกมาประมาณ 70% แล้วนำมาทอดอีกครั้งด้วยไฟแรงเพื่อไล่น้ำมันส่วนเกินและให้สีสันสวยงามด้วยไฟแรงที่หน้าเค้าท์เตอร์จนสุก 100 % ก่อนเสิร์ฟ สามารถสั่งได้ตามใจไม่จำกัดจำนวนชิ้นต่อครั้งแต่ถ้าทานเหลือทางร้านปรับจริงนะครับ (โดยไก่แต่ละชิ้นมีขนาดประมาณลูกปิงปอง 1 ลูก) สถิติสูงสุด 1 คนตอนนี้ทานได้สูงสุด 20 ชิ้น แต่มื้อนี้ผมมากัน 2 คนทานได้แค่ 36 ชิ้น บุฟเฟ่ต์คนละ 150 บาท ตกราคาชิ้นละ 8.30 บาท ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วครับผม
ทานเสร็จก่อนกลับเหลือบไปเห็นเล่มเมนูปกติของทางร้านเลยถ่ายรูปมาให้ดูกัน (เจ้าของร้านแอบกระซิบมาด้วยว่ามีบุฟเฟ่ต์โอโคโนมิยากิแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะประกาศอีกทีในหน้าเพจของทางร้าน) หน้าแรกเป็นเทปันยากิเนื้อวัววากิวและปลาไหลญี่ปุ่นราคา 380-690 บาท เมนูพิเศษพวกสลัด-ทานเล่นง่ายๆ 130-350 บาท ซาชิมิจัดเป็นชุด 230-390 บาท เทมปุระเป็นชุดและคอร์ส 290-590 บาท เมนูหม้อไฟกับชาบูชาบู 490-1,390 บาท เมนูอาหารทานเล่นแบบอิซากายะมีให้สั่งกว่า 39 เมนูราคาเริ่มต้นที่ 80-290 บาท ลูกค้าหลักที่นี่น่าจะเป็นสายดื่มแน่นอนครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:
Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บอสพาชิม :Ginza Shabu-Shabu Koubai สัมผัสวากิวมายา แห่ง Kumamoto (Bangkok,Thailand)
บอสพาชิม :Ginza Shabu-Shabu Koubai สัมผัสวากิวมายา แห่ง Kumamoto (Bangkok,Thailand) "Ginza Shabu-Shabu Koubai" เป็นร้านอาหารน้องใหม่จากญี่ปุ่นที่พึ่งเปิดสาขาแรกในไทยที่ ห้างเซ็นทรัลดุสิตป
EatLikeTheBOSS
🌶️🐟🍲เมนูโดนใจ "ผัดฉ่าปลาหน้าหนู" สูตรนี้จี๊ดจ๊าด ถึงเครื่อง หอมกลิ่นกระชาย ช่วยให้คลายหนาวได้ดี 😁😋😋
หลังจากที่ทำเมนู "แกงป่าปลาหน้าหนู" ไปเมื่อกระทู้ก่อนหน้า ก็ยังเหลือชิ้นปลาอีกพอสมควร ด้วยความที่สามี ชอบทานพวกสมุนไพรต่างๆ เลยเอาปลาที่เหลือ มาทำผัดฉ่า แบบใส่เครื่องสมุนไพร แน่นๆเน้นๆค่ะ
เที่ยวสบายสบาย
แบ่งปันเมนู "ข้าวผัดกับซอส XO กับของเหลือๆในตู้เย็น" เมนูเคลียร์ของในตู้เย็น
วันนี้เป็นเมนูง่ายๆ คือเรียกว่า เคลียร์ของที่เหลือในตู้เย็น หรือของที่มีอยู่ในตู้เย็น จะเป็น "ข้าวผัดซอส XO กับของเหลือๆในตู้เย็น จะมีกุนเชียง ไข่เค็ม ไส้กรอกไก่ พริกขี้หนูสด กับมีข้าวเปล่าอยู่นิ
fillerneck
ไม่ใช่บรันช์ธรรมดา สวย เนี๊ยบ ทานง่าย อร่อยจริง
What The Brunch - ว๊อทเดอะบรันซ์ ที่ไม่ใช่ บรันช์ธรรมดา แต่เป็นร้านที่รวมเมนูไอเดียสนุกๆ และวัตถุดิบพรีเมียมแบบจัดเต็ม ทุกจานเสิร์ฟมาสไตล์สวย เนี๊ยบ แต่ทานง่าย อร่อยจริง เหมาะทั้งสายถ่ายรูป สายตามหาขอ
มิกิชวนกิน
นิทานกลอน ขำขัน เพียงสามบท (เรื่องที่ 26 : ไก่ทอด)
ลูกค้ายืน ถามไถ่ ไก่ทอดนี้ ช่วยบอกที ทอดอย่างไร แม่ค้าจ๋า แม่ค้ายิ้ม ภูมิใจ ในวิชา แล้วตอบว่า สูตรโบราณ ผ่านย่ายาย เป็นสูตรลับ เผยไป ไม่ได้หรอก ขอไม่บอก จะเก็บงำ ไว้ทำขาย ลูกค้าจึง พูดต่อ ขอระบาย ไก่
ครูไผ่ เมืองคอน
BufFeast Review :"Boruya Sushi" บุฟเฟ่ต์ข้าวปั้นและปลาดิบปิดดึกบนห้างดัง@ มาบุญครอง ชั้น 7
ร้านแนวข้าวปั้นปลาดิบนี่ก็อยู่คู่ปากคู่ท้องชาวไทยมาช้านานครับ ยิ่งพอมาเป็นแบบบุฟเฟ่ต์นี่ ยิ่งกรูกันเข้ามาให้ควั่ก แต่ด้วยความที่ร้านแนวนี้ มักจะมีราคาสูง ทำให้นักกินบางคนอาจต้องถอยหนี หากแต่ว่าเร็วๆนี
TheHeatBufFeast
เพื่อน ๆ คิดว่ามาม่าใส่อะไรแล้วอร่อยสุดครับ?
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ผมเป็นคนชอบกินมาม่ามาก ๆ บางวันขี้เกียจทำอะไรก็จัดมาม่าเลย แต่พอทำบ่อย ๆ ก็เริ่มเบื่อรสเดิม ๆ เลยอยากถามเพื่อน ๆ ว่าปกติเวลาใส่มาม่า เค้าใส่อะไรกันบ้างถึงจะอร่อยสุด ผมเองเคยลองใส่ไ
สมาชิกหมายเลข 9142945
โอมากาเสะ 4900++ สไตล์โตเกียวดั้งเดิม คอร์ส Ume (18 คำ)
Kohaku โอมากาเสะที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของอาหารญี่ปุ่นสไตล์โตเกียวดั้งเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การคัดวัตถุดิบสดใหม่จากญี่ปุ่น ไปจนถึงเทคนิคการปรุงที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน เชฟอารมณ์ดี คุยสนุก เป็นกันเอง ทำ
มิกิชวนกิน
BufFeast Review : ร้านบุฟเฟ่ต์สเต็กและเครื่องเคียงไม่อั้นแห่งซอยลึก"Buddy Steak"@อ่อนนุช 33
หลังกลับมาจากชลบุรี ผมก็ได้มาต่อกันที่ร้านอาหารในตัวเมือง คราวนี้มาจัดแนวสเต็กกันสักหน่อย กับร้าน บัดดี้ สเต็ก อยู่หน้าปากซอยอ่อนนุช 33 ไกลจากที่พำนักพอสมควร แต่ความอยากชนะทุกสิ่ง แถมราคามันย่อมเยาว์
TheHeatBufFeast
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารญี่ปุ่น
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารคาว
ร้านอาหาร
ร้านอาหารย่านสีลม
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 18
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Okonomiyaki Teppanyaki Morimoto บุฟเฟ่ต์ไก่ทอดคาราอาเกะเพียงคนละ 100 บ. อยู่ภายในซอยธนิยะ-สีลม
บรรยากาศภายในร้านอย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าเมนูหลักนั่นคือโอโคโนมิยากิ/เทปันยากิและอาหารทานเล่นสไตล์อิซากายะ ทุกโต๊ะเลยมีเตาไฟฟ้าอยู่ตรงกลางเพื่อจะได้ทานอาหารบนกระทะร้อนๆตลอดเวลา โดยมีเค้าท์เตอร์ขนาดใหญ่ใจกลางร้านเป็นจุดปรุงอาหารแล้วค่อยนำไปเสิร์ฟตามจุดต่างๆ แบ่งที่นั่งหลักๆออกเป็น 3 โซนนั่นก็คือ 1. โต๊ะแนวยาวมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเดี่ยวสำหรับ 1 คนนั่งหน้าเค้าท์เตอร์พร้อมชมการแสดงปรุงอาหารสดๆจากเชฟมืออาชีพ 2. โต๊ะสำหรับครอบครัวสามารถนั่งได้ตั้งแต่ 4-8 คนพร้อมเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบคู่สำหรับวางเมนูที่ปรุงเสร็จไว้ตรงกลางได้ทานแบบร้อนๆจนถึงคำสุดท้าย 3. ห้องรับรองส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับคนที่ต้องการใช้เสียงดังและต้องการความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยมื้อกลางวันทางร้านจะเปิดให้บริการแค่โซนที่ 1 กับ 2 เท่านั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเสิร์ฟเพราะมีเวลาในการทานเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น วันนี้เราได้นั่งโซนหน้าเค้าท์เตอร์กันครับผม
มาถึงน้องพนักงานก็จะนำเล่มเมนูอาหารกลางวันมาให้เราเลือกสั่งเริ่มจากชุดเมนูราคาสุดคุ้ม 1. ชุดข้าวไก่ทอดคาราอาเกะราคา 129 บาท 2. ชุดข้าวชุบแป้งทอด 3 อย่าง (กุ้ง/ไก่และโคโรเกะไส้ครีม) ราคา 159 บาท 3. ชุดข้าวแฮมเบอร์เกอร์ (แฮมเบอร์เกอร์/กุ้งชุบแป้งทอดและไก่ทอด) ราคา 219 บาท ส่วนเมนูที่เราตั้งใจจะมาทานกันในวันนี้นั่นก็คือ 4. ไก่ทอดคาราอาเกะทานได้ไม่อั้นตลอด 1 ชั่วโมง ราคาเพียงคนละ 100 บาท หากต้องการข้าวกับซุปเพิ่มอีกคนละ 50 บาท (เติมได้ไม่อั้นเช่นเดียวกัน) นอกจากนี้ยังมีเบียร์-น้ำอัดลมให้สั่งเพิ่มแต่ไม่รวมในราคาบุฟเฟ่ต์ ซึ่งเมนูนี้สามารถสั่งได้ทุกวันจันทร์-เสาร์เริ่มตั้งแต่เวลา 11.00-13.30 น. รับออเดอร์สุดท้ายเวลา 13.40 น. ถ้าทานยังไม่หมดสามารถนั่งทานต่อไปได้เรื่อยๆแต่ไม่สามารถสั่งเพิ่มได้อีก ส่วนเครื่องดื่มในบุฟเฟ่ต์มีน้ำชาจืดให้ฟรีมาเป็นเหยือกใหญ่เทได้ตามใจ (กลิ่นชาอ่อนๆดื่มได้เรื่อยๆแช่เย็นสดชื่น) บนโต๊ะมีซอส 3 สูตร/เกลือและพริกป่นให้ทานกับไก่ทอดคาราเกะได้ตามใจแต่ถ้าเทซอสจนเหลือเยอะเกินไปคิดค่าปรับขั้นต่ำ 30 บาท (ยังไงก็เทแต่พอดีด้วยนะครับ)
เมื่อเราสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ไก่ทอดราคา 100 บาทพนักงานจะไม่ถามว่าเอาไก่ทอดกี่ชิ้นแต่จะเสิร์ฟเป็นชุดเริ่มต้นมาให้ก่อนประกอบไปด้วย 1. ไก่ทอดคาราอาเกะ 5 ชิ้น เป็นส่วนสะโพกเลาะกระดูกออกก่อนจะหมักด้วยซอสสูตรพิเศษ/จับม้วนเป็นก้อนแล้วทอดจนเป็นสีน้ำตาลประกายน้ำมันสวยงาม 2. เครื่องเคียงหลากหลายในชุดที่ดูแปลกตาเพราะไม่เคยเห็นร้านอื่นๆเขาเสิร์ฟกัน 3. ชุดข้าวกับซุป (เพิ่มอีก 50 บาทเติมได้ไม่อั้น) เป็นข้าวสวยญี่ปุ่นโรยงาดำเสิร์ฟกับกระหล่ำปลีดองเกลือที่ถูกบีบน้ำส่วนเกินออกและซุปสาหร่ายใส่ไข่โรยด้วยต้นหอมที่ซดแล้วมีความคล้ายกับซุปของเกาหลีมากกว่าญี่ปุ่นรสเค็มอ่อนละมุน สำหรับใครที่รู้ตัวแล้วว่ามื้อนี้ต้องทานได้เยอะแน่นอนก็สามารถสั่งไก่ทอดเพิ่มได้เลยทันทีแต่ถ้ายังไม่ชัวร์แนะนำว่าให้ทานชุดนี้หมดก่อนแล้วกะปริมาณพื้นที่เหลือในกระเพาะค่อยสั่งเพิ่มดีกว่าครับ
กัดทำแรกสิ่งที่รู้สึกได้เลยคือร้อนมากเพราะเขาทอดมาใหม่ๆ ด้านนอกพื้นผิวสีน้ำตาลสุกกรอบด้วยแป้งกับหนังไก่ส่วนตรงแกนกลางชุ่มฉ่ำเพราะเกิดจากการม้วนเป็นก้อนทำให้น้ำเนื้ออัดแน่นอยู่ภายในมีความอมชมพูอยู่นิดๆเกิดจาก "มายโอโกลบิน" ซึ่งเป็นโปรตีนที่เก็บออกซิเจนไว้ในเซลล์กล้ามเนื้อของไก่ รสชาติเค็มอ่อนๆมีกลิ่นหอมของโชยุผสมกับผงกะหรี่/พริกไทย/ผงกระเทียม/มิรินและสาเกบางๆพอกลมกล่อม สำหรับคนที่เกลียดกลิ่นขิงในไก่คาราอาเกะสามารถทานสูตรของร้านนี้ได้แบบสบายๆ เพิ่มรสชาติด้วยซอสทั้ง 3 สูตรของทางร้านก็คือ 1. ซอสศรีราชามาโย เป็นซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนสให้รสเปรี้ยว-มันนุ่มนวลและเผ็ดพออ่อนๆ 2. ซอสโอโคโนมิยากิมาโย เป็นซอสพิซซ่าญี่ปุ่นสูตรเฉพาะของทางร้านผสมมายองเนสรสหวานมันทานง่ายมีกลิ่นหอมๆเฉพาะตัว 3. ซอสสวีทชิลลี่มาโย หรือน้ำจิ้มไก่สไตล์ไทยผสมกับมายองเนสช่วยให้รสหวานนำเผ็ดตามเปรี้ยวกลมกล่อมทานง่ายมากขึ้น สำหรับใครที่อยากทานไก่ทอดคาราอาเกะคู่กับน้ำจิ้มไก่ไทยสูตรปกติก็สามารถขอเพิ่มได้ฟรี (พนักงานไปหยิบมาให้จากหลังร้าน)
ถ้าใครอยากทานสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมสามารถปรุงรสชาติเพิ่มเติมได้รูป 3 แบบนั่นก็คือ 1. เกลือสาหร่ายสูตรพิเศษรสเค็มอ่อนๆผสมสาหร่ายแห้งป่นละเอียดที่ผสมอยู่ในเนื้อเกลือสีเทาใช้โรยหรือจิ้มช่วยเพิ่มความกลมกล่อมให้ความอูมามิเพิ่มยิ่งขึ้นโดยไม่รบกวนรสชาติที่แท้จริงของไก่คาราอาเกะ 2. พริกป่นละเอียดสไตล์ญี่ปุ่นให้รสเผ็ดร้อนบางๆช่วยตัดเลี่ยนไขมันไก่ทกให้ทานได้เยอะยิ่งขึ้น 3. เป็นน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่ต้องสั่งเพิ่มนั่นคือ "ซอสกระเทียม" ทางร้านขายราคาถ้วยละ 20 บาท (แต่เราไม่ได้สั่งมาลองเพราะไม่รู้ว่ามีจนมาคุยกับเจ้าของตอนจะปิดร้าน) ถือว่ามีซอสและวิธีการทานหลายอย่างให้เปลี่ยนรสชาติไปได้เรื่อยๆ ใครที่กลัวว่าจะเบื่อเพราะมีให้ทานแต่ไก่ทอดสบายใจได้ครับ
มาต่อกันด้วยเครื่องเคียงต่างๆหน้าตาค่อนข้างประหลาดจากร้านอาหารญี่ปุ่นอื่นๆที่เคยทานมาเรียงจากซ้ายไปขวา 1. สลัดไข่ต้มมาโย เป็นไข่ต้มสับผสมกับสลัดครีมรสหวานมันโรยพาสลี่ย์สับ 2. โคลสลอว์กระหล่ำปลีซอยโรยคัตสึโอะได้ความเป็นตะวันตกผสมตะวันออกได้อย่างลงตัว 3. ส้มตำปูปลาร้ารสเผ็ดแซ่บนัวเส้นมะละกอกรุบกรอบช่วยตัดเลี่ยนไก่ทอดได้เป็นอย่างดี 4. สปาเก็ตตี้ผัดน้ำมันมะกอกและพริกไทยดำรสเผ็ดร้อนอ่อนๆทานง่าย และ 5. ไก่เทอริยากิรสหวานเค็มกลมกล่อมหอมกลิ่นโชยุและขิงไว้ทานคู่กับข้าวสวยคือดีงาม 6. เมนูลับหลังร้านสามารถขอเพิ่มได้ฟรีคือ "แกงกะหรี่ไก่" ซึ่งเราไม่ได้สั่งมาเพราะเพิ่งรู้ว่ามีตอนได้คุยกับเจ้าของร้านเช่นเดียวกัน โดยเครื่องเคียงทุกอย่างที่เห็นก็สามารถขอเติมได้เรื่อยๆเช่นเดียวกับไก่ทอดคาราอาเกะและอาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามเจ้าของร้านกำหนด (หน้าตาเลยดูประหลาดๆไม่เหมือนใครอย่างที่เห็น) ส่วนไก่ทอดคาราอาเกะเมื่อเราสั่งเพิ่มอาจจะต้องใช้เวลารอหน่อยเพราะทางร้านจะนำไปทอดให้ใหม่แต่ก็ไม่นานจนเกินไปเพราะใช้เทคนิคการทอด 2 รอบ โดยทอดที่ครัวหลังร้านให้สุกมาประมาณ 70% แล้วนำมาทอดอีกครั้งด้วยไฟแรงเพื่อไล่น้ำมันส่วนเกินและให้สีสันสวยงามด้วยไฟแรงที่หน้าเค้าท์เตอร์จนสุก 100 % ก่อนเสิร์ฟ สามารถสั่งได้ตามใจไม่จำกัดจำนวนชิ้นต่อครั้งแต่ถ้าทานเหลือทางร้านปรับจริงนะครับ (โดยไก่แต่ละชิ้นมีขนาดประมาณลูกปิงปอง 1 ลูก) สถิติสูงสุด 1 คนตอนนี้ทานได้สูงสุด 20 ชิ้น แต่มื้อนี้ผมมากัน 2 คนทานได้แค่ 36 ชิ้น บุฟเฟ่ต์คนละ 150 บาท ตกราคาชิ้นละ 8.30 บาท ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วครับผม
ทานเสร็จก่อนกลับเหลือบไปเห็นเล่มเมนูปกติของทางร้านเลยถ่ายรูปมาให้ดูกัน (เจ้าของร้านแอบกระซิบมาด้วยว่ามีบุฟเฟ่ต์โอโคโนมิยากิแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะประกาศอีกทีในหน้าเพจของทางร้าน) หน้าแรกเป็นเทปันยากิเนื้อวัววากิวและปลาไหลญี่ปุ่นราคา 380-690 บาท เมนูพิเศษพวกสลัด-ทานเล่นง่ายๆ 130-350 บาท ซาชิมิจัดเป็นชุด 230-390 บาท เทมปุระเป็นชุดและคอร์ส 290-590 บาท เมนูหม้อไฟกับชาบูชาบู 490-1,390 บาท เมนูอาหารทานเล่นแบบอิซากายะมีให้สั่งกว่า 39 เมนูราคาเริ่มต้นที่ 80-290 บาท ลูกค้าหลักที่นี่น่าจะเป็นสายดื่มแน่นอนครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น