ผมทำอาหารเป็น แล้วเมื่อเช้ามีเพื่อนพ่อมาบ้าน เค้าพาหลานมาด้วย
หลานยังไม่กินข้าว พ่อก็ไปเกริ่นกับเพื่อนเค้าละหละว่าให้ผมทำกับข้าวให้ได้ (มีข้าวอยู่)
ทีนี้น้องเป็นคนขี้อาย เพื่อนพ่อก็อยากฝึกเค้าให้กล้า ตามใจว่าอยากกินอะไร แล้วมาบอกผม
ซึ่งผมเองเต็มใจนะ ตอนเพื่อนพ่อคุยกับน้อง น้องก็อิดออยกล้าๆกลัวๆ อยากกินแต่ก็ไม่กล้า
แบบนี้จริงๆควรทำยังไงครับ
1. เดินไปถามน้องเลย หิวใช่มั้ย อยากกินอะไร
ข้อดี : ทำให้น้องรู้สึกเป็นมิตรและอบอุ่นใจ
ข้อเสีย : เป็นการสปอยล์น้อง
2. ทำเป็นได้ยิน แต่ไม่เข้าหา แค่เอามือกวัก มาสิๆไรงี้พอ
ข้อดี : เป็นการกระตุ้นความกล้าน้องที่ดี ให้เห็นว่าเอ้อทำได้ไม่มีอะไร
ข้อเสีย : น้องอาจจะเรียนรู้และจดจำว่าสามารถเข้าหาเพียงคนที่เปิดรับตอบสนองความต้องการเค้า
เชื่อว่าในสังคมส่วนใหญ่ควทำแบบข้อ 2 นี้ ผมอาจจะคิดมากไปว่าถ้าแล้วน้องเจอแต่แบบนี้เลย มันจะมีผลอะไรมั้ย
3. ทำเป็นนิ่งเฉยไม่ได้ยิน แต่ถ้ามาก็พร้อมทำให้
ข้อดี : ฝึกให้น้องได้กล้าแสดงออก
ข้อเสีย : ดูเย็นชาไปหน่อย
สมมุติถ้ามีผู้ใหญ่จะฝึกความกล้าเด็กให้รู้จักสื่อสารกับคนอื่นๆ (เรา) แล้วเราเต็มใจทำ เราควรทำเป็นได้ยินมั้ยครับ
หลานยังไม่กินข้าว พ่อก็ไปเกริ่นกับเพื่อนเค้าละหละว่าให้ผมทำกับข้าวให้ได้ (มีข้าวอยู่)
ทีนี้น้องเป็นคนขี้อาย เพื่อนพ่อก็อยากฝึกเค้าให้กล้า ตามใจว่าอยากกินอะไร แล้วมาบอกผม
ซึ่งผมเองเต็มใจนะ ตอนเพื่อนพ่อคุยกับน้อง น้องก็อิดออยกล้าๆกลัวๆ อยากกินแต่ก็ไม่กล้า
แบบนี้จริงๆควรทำยังไงครับ
1. เดินไปถามน้องเลย หิวใช่มั้ย อยากกินอะไร
ข้อดี : ทำให้น้องรู้สึกเป็นมิตรและอบอุ่นใจ
ข้อเสีย : เป็นการสปอยล์น้อง
2. ทำเป็นได้ยิน แต่ไม่เข้าหา แค่เอามือกวัก มาสิๆไรงี้พอ
ข้อดี : เป็นการกระตุ้นความกล้าน้องที่ดี ให้เห็นว่าเอ้อทำได้ไม่มีอะไร
ข้อเสีย : น้องอาจจะเรียนรู้และจดจำว่าสามารถเข้าหาเพียงคนที่เปิดรับตอบสนองความต้องการเค้า
เชื่อว่าในสังคมส่วนใหญ่ควทำแบบข้อ 2 นี้ ผมอาจจะคิดมากไปว่าถ้าแล้วน้องเจอแต่แบบนี้เลย มันจะมีผลอะไรมั้ย
3. ทำเป็นนิ่งเฉยไม่ได้ยิน แต่ถ้ามาก็พร้อมทำให้
ข้อดี : ฝึกให้น้องได้กล้าแสดงออก
ข้อเสีย : ดูเย็นชาไปหน่อย