ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับน้องๆ U23
ที่ได้เข้ารอบสุดท้าย ไปแข่งที่อุซเบกิสถาน
เป็นที่แน่นอนแล้ว
ต้องยอมรับว่า
ครั้งนี้เราเข้ารอบแบบทุลักทุเลเต็มที
ขอบคุณ น้องๆนักเตะลาวด้วยเด้อ
ที่สวมหัวใจสิงห์ เล่นเต็มที่
เตะเอาชนะมองโกเลีย
จนทำให้ทีมไทยโชคดี
ผ่านเข้ารอบมาได้
ข้อดีของทีมชุดนี้
1. ผู้จัดการทีม
- ที่บริหารจัดการทีมได้ดี
- มาดามแป้ง ทำทุกอย่างเต็มที่ เท่าที่จะทำได้
- สรรหานักเตะจากยุโรป มาช่วยเสริมทัพ
- เพราะบางสโมสรขัดแข้งขัดขา ไม่ยอมปล่อยนักเตะตัวหลัก ฝีเท้าดีมาให้
2. ค้นพบนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดี ฝีเท้าดี เหมาะสมที่จะเป็นตัวหลักต่อไป
- ธนวัฒน์
- กองกลาง ที่มีคลาสบอลดี ทำให้ทีมมีความสมดุล
- โจนาธาน
- กองหลังอายุน้อย ที่เล่นได้ดีเกินอายุ
- มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และเต็มที่ในทุกโมเม้นท์
3. โชคของโค้ชโย่ง
- ผมต้องขอยอมรับว่า โค้ชโย่งมีดวงที่แข็งจริงๆ
- อย่างไรก็ตาม เราจะหวังพึ่งเพียงโชคดี แบบนี้ทุกครั้งไม่ได้
- เราควรต้องพึ่งตัวเอง
โดยการพัฒนาฝีเท้า + รูปแบบการเล่น
ที่มีมาตรฐาน มีค่าเฉลี่ยฟอร์มการเล่นที่ดีคงเส้นคงวา
ให้มากกว่านี้มากๆ
ข้อเสียของทีมชุดนี้
1. การเลือกโค้ชผิดคน
- โค้ชโย่ง
- ไม่ใช่คนที่เหมาะสมสำหรับทีมชาติชุดใดๆก็ตาม
- การเป็นโค้ชทีมชาติ
- ต้องมีอะไรที่มากกว่าแค่นำทีมฝึก skill + strength basic แบบปกติทั่วไป
- เนื่องจากทุกทีมก็ฝึกแบบนี้อยู่แล้ว
- แล้วปล่อยลูกทีมลงไปแข่งแบบไม่มีแบบแผน
- สาดบอลไปข้างหน้า
- แล้วให้ปีก หรือกองหน้าวิ่งไล่
- แล้วหาวิธีต่อบอล เข้าทำกันเอง
- หรือเล่นแบบเดียวซ้ำๆ
- แบบไม่มีประสิทธิภาพ
- แล้วไม่ยอมแก้ไข
- โดยเตะสาดบอลไปข้างหน้า
- แล้วให้ปีกซ้าย/ขวา วิ่งเอาบอลไปที่มุมธง
- และ cross เข้ากลาง
- ตั้งใจจะให้โหม่งบอล หรือเตะวอลเลย์ทำประตูสวยๆ
(แบบที่โค้ชโย่ง เคยทำได้สมัยเป็นนักเตะ นานๆครั้ง)
- ทั้งๆที่ การโหม่งบอล เป็นจุดอ่อนของนักเตะไทย
- และโอกาสที่จะได้ประตูแบบนั้น
- มันน้อยครั้งมาก ที่จะทำได้
- ดังนั้นวิธีนี้ จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ
- สำหรับทีมไทยเรา
- แน่นอนว่า ถ้าทำประตูจากการโหม่ง/ วอลเลย์
- จะเป็นประตูที่สวยงาม
- แต่ความแน่นอน และประสิทธิภาพ ความน่าจะเป็นที่จะได้ประตู ต้องมาก่อนความสวยงาม
- ถ้าเราเข้าทำให้หลากหลายขึ้น
- ทั้ง cross ball, แทงทะลุช่อง, ชิ่งทะลุช่อง ^9ล9
- จะทำให้ประสิทธิภาพการเข้าทำ สูงขึ้นหรือไม่ ?
- เห็นได้ชัดมากในเกมส์กับมองโกเลีย
- ที่พยายามใช้วิธีการเข้าทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายๆครั้ง
- นอกจากนี้วิธีการเข้าทำแบบนี้
- ก็จะเห็นได้ในซีเกมส์ ช่วงเกมส์แรกๆ
ที่โค้ชโย่งคุมทีม
- ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือ วางแผนจากโค้ชเฮง
- จนทำให้คว้าแชมป์ไปได้อย่างทุลักทุเล
- สิ่งสำคัญของโค้ชที่ดี คือ
- การวางแผนและ Tactic วิธีการเล่น
- ที่เหมาะสมกับทีม กับผู้เล่นทีมี
- การแก้เกมส์ เฉพาะหน้า
- ฝึกซ้อม วิธีการเข้าทำที่มีรูปแบบ มีประสิทธิภาพ
- ไม่ใช่ให้นักเตะไปคิดแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าเองทุกครั้ง
- ฝึกแบบเข้าเส้น แบบที่ไม่ต้องเงยหน้า ก็รู้เลยว่าเพื่อนจะไปอยู่ตรงนั้น
(เหมือนที่ญี่ปุ่นฝึกซ้อม วิธีการเข้าทำ)
- ลองไปดูวิธีการฝึกซ้อมของทีม J League ของเจกับอุ้ม ดูก็ได้ แล้วประยุกต์มาใช้
- ดังนั้น ในความคิดผม
- ถึงแม้โค้ชโย่งจะดวงแข็ง
- แต่ผมไม่ไว้วางใจ ให้เป็นโค้ชหลักในการวางแผนภาพรวมครับ
- โค้ชโย่ง เหมาะเป็นเค่ Trainer ควบคุมการซ้อม การอบอุ่นร่างกายเท่านั้น
- เปรียบเทียบไปแล้ว
- โค้ชโย่ง เหมือนลิโป้
- อาจจะเป็นขุนศึกที่เก่ง
- เป็นนักเตะที่เคยทำประตูสวยงามได้
- แต่ไม่เหมาะเป็นเสนาธิการ วางแผนการรบครับ
- เพราะฉะนั้น
- ผมเสนอให้หาเสนาธิการ วางแผนการรบ
- โค้ชวางแผนภาพรวมให้ทีมคนใหม่ครับ
2. การขัดแข้งขัดขาของสโมสรต่างๆ + สมาคม
- พอไม่ใช่คนของตัวเองทำทีม
- ก็ขัดแข้งขัดขากันเอง
- ให้เวลารวมทีมน้อยเกินไป
- ไม่ปล่อยตัวนักเตะสำคัญ ที่มีฝีเท้าดีมาให้
(ผมนับถือนว ในการทำทีมฟุตบอลนะ)
(แต่คุณทำแบบนี้กับทีมชาติหลายๆครั้ง ซึ่งมันแย่มาก)
- แต่พอเข้ารอบสุดท้าย มีโอกาสจะอัพค่าตัวเด็ก
- ก็พยายามจะยัดเด็กตัวเองเข้ามา
(มท ชอบทำแบบนี้)
- ลองมาช่วยกันทำเพื่อชาติสักครั้งดีมั้ย
- วงการฟุตบอลบ้านเราจะได้ดีขึ้น
- ไม่อายวอลเลย์บอล, เทควันโด้, แบดมินตัน, กอล์ฟ กันมั่งหรือไง ?
ปล.
- รอบ Final ที่อุซเบกิสถาน
- ควรเปลี่ยนโค้ชในการวางแผน
( เปลี่ยนเสนาธิการวางแผนการรบ)
- นักเตะหลัก
กองหลัง โจนาธาน
กองกลาง ธนวัฒน์
กองหน้า ศุภณัฏฐ์
ยินดีกับ U23 ที่ได้เข้ารอบสุดท้าย (ขอขอบคุณนักเตะลาว ด้วยเด้อ) จุดแข็ง vs จุดอ่อน ของทีมไทยเรา
ที่ได้เข้ารอบสุดท้าย ไปแข่งที่อุซเบกิสถาน
เป็นที่แน่นอนแล้ว
ต้องยอมรับว่า
ครั้งนี้เราเข้ารอบแบบทุลักทุเลเต็มที
ขอบคุณ น้องๆนักเตะลาวด้วยเด้อ
ที่สวมหัวใจสิงห์ เล่นเต็มที่
เตะเอาชนะมองโกเลีย
จนทำให้ทีมไทยโชคดี
ผ่านเข้ารอบมาได้
ข้อดีของทีมชุดนี้
1. ผู้จัดการทีม
- ที่บริหารจัดการทีมได้ดี
- มาดามแป้ง ทำทุกอย่างเต็มที่ เท่าที่จะทำได้
- สรรหานักเตะจากยุโรป มาช่วยเสริมทัพ
- เพราะบางสโมสรขัดแข้งขัดขา ไม่ยอมปล่อยนักเตะตัวหลัก ฝีเท้าดีมาให้
2. ค้นพบนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดี ฝีเท้าดี เหมาะสมที่จะเป็นตัวหลักต่อไป
- ธนวัฒน์
- กองกลาง ที่มีคลาสบอลดี ทำให้ทีมมีความสมดุล
- โจนาธาน
- กองหลังอายุน้อย ที่เล่นได้ดีเกินอายุ
- มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และเต็มที่ในทุกโมเม้นท์
3. โชคของโค้ชโย่ง
- ผมต้องขอยอมรับว่า โค้ชโย่งมีดวงที่แข็งจริงๆ
- อย่างไรก็ตาม เราจะหวังพึ่งเพียงโชคดี แบบนี้ทุกครั้งไม่ได้
- เราควรต้องพึ่งตัวเอง
โดยการพัฒนาฝีเท้า + รูปแบบการเล่น
ที่มีมาตรฐาน มีค่าเฉลี่ยฟอร์มการเล่นที่ดีคงเส้นคงวา
ให้มากกว่านี้มากๆ
ข้อเสียของทีมชุดนี้
1. การเลือกโค้ชผิดคน
- โค้ชโย่ง
- ไม่ใช่คนที่เหมาะสมสำหรับทีมชาติชุดใดๆก็ตาม
- การเป็นโค้ชทีมชาติ
- ต้องมีอะไรที่มากกว่าแค่นำทีมฝึก skill + strength basic แบบปกติทั่วไป
- เนื่องจากทุกทีมก็ฝึกแบบนี้อยู่แล้ว
- แล้วปล่อยลูกทีมลงไปแข่งแบบไม่มีแบบแผน
- สาดบอลไปข้างหน้า
- แล้วให้ปีก หรือกองหน้าวิ่งไล่
- แล้วหาวิธีต่อบอล เข้าทำกันเอง
- หรือเล่นแบบเดียวซ้ำๆ
- แบบไม่มีประสิทธิภาพ
- แล้วไม่ยอมแก้ไข
- โดยเตะสาดบอลไปข้างหน้า
- แล้วให้ปีกซ้าย/ขวา วิ่งเอาบอลไปที่มุมธง
- และ cross เข้ากลาง
- ตั้งใจจะให้โหม่งบอล หรือเตะวอลเลย์ทำประตูสวยๆ
(แบบที่โค้ชโย่ง เคยทำได้สมัยเป็นนักเตะ นานๆครั้ง)
- ทั้งๆที่ การโหม่งบอล เป็นจุดอ่อนของนักเตะไทย
- และโอกาสที่จะได้ประตูแบบนั้น
- มันน้อยครั้งมาก ที่จะทำได้
- ดังนั้นวิธีนี้ จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ
- สำหรับทีมไทยเรา
- แน่นอนว่า ถ้าทำประตูจากการโหม่ง/ วอลเลย์
- จะเป็นประตูที่สวยงาม
- แต่ความแน่นอน และประสิทธิภาพ ความน่าจะเป็นที่จะได้ประตู ต้องมาก่อนความสวยงาม
- ถ้าเราเข้าทำให้หลากหลายขึ้น
- ทั้ง cross ball, แทงทะลุช่อง, ชิ่งทะลุช่อง ^9ล9
- จะทำให้ประสิทธิภาพการเข้าทำ สูงขึ้นหรือไม่ ?
- เห็นได้ชัดมากในเกมส์กับมองโกเลีย
- ที่พยายามใช้วิธีการเข้าทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายๆครั้ง
- นอกจากนี้วิธีการเข้าทำแบบนี้
- ก็จะเห็นได้ในซีเกมส์ ช่วงเกมส์แรกๆ
ที่โค้ชโย่งคุมทีม
- ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือ วางแผนจากโค้ชเฮง
- จนทำให้คว้าแชมป์ไปได้อย่างทุลักทุเล
- สิ่งสำคัญของโค้ชที่ดี คือ
- การวางแผนและ Tactic วิธีการเล่น
- ที่เหมาะสมกับทีม กับผู้เล่นทีมี
- การแก้เกมส์ เฉพาะหน้า
- ฝึกซ้อม วิธีการเข้าทำที่มีรูปแบบ มีประสิทธิภาพ
- ไม่ใช่ให้นักเตะไปคิดแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าเองทุกครั้ง
- ฝึกแบบเข้าเส้น แบบที่ไม่ต้องเงยหน้า ก็รู้เลยว่าเพื่อนจะไปอยู่ตรงนั้น
(เหมือนที่ญี่ปุ่นฝึกซ้อม วิธีการเข้าทำ)
- ลองไปดูวิธีการฝึกซ้อมของทีม J League ของเจกับอุ้ม ดูก็ได้ แล้วประยุกต์มาใช้
- ดังนั้น ในความคิดผม
- ถึงแม้โค้ชโย่งจะดวงแข็ง
- แต่ผมไม่ไว้วางใจ ให้เป็นโค้ชหลักในการวางแผนภาพรวมครับ
- โค้ชโย่ง เหมาะเป็นเค่ Trainer ควบคุมการซ้อม การอบอุ่นร่างกายเท่านั้น
- เปรียบเทียบไปแล้ว
- โค้ชโย่ง เหมือนลิโป้
- อาจจะเป็นขุนศึกที่เก่ง
- เป็นนักเตะที่เคยทำประตูสวยงามได้
- แต่ไม่เหมาะเป็นเสนาธิการ วางแผนการรบครับ
- เพราะฉะนั้น
- ผมเสนอให้หาเสนาธิการ วางแผนการรบ
- โค้ชวางแผนภาพรวมให้ทีมคนใหม่ครับ
2. การขัดแข้งขัดขาของสโมสรต่างๆ + สมาคม
- พอไม่ใช่คนของตัวเองทำทีม
- ก็ขัดแข้งขัดขากันเอง
- ให้เวลารวมทีมน้อยเกินไป
- ไม่ปล่อยตัวนักเตะสำคัญ ที่มีฝีเท้าดีมาให้
(ผมนับถือนว ในการทำทีมฟุตบอลนะ)
(แต่คุณทำแบบนี้กับทีมชาติหลายๆครั้ง ซึ่งมันแย่มาก)
- แต่พอเข้ารอบสุดท้าย มีโอกาสจะอัพค่าตัวเด็ก
- ก็พยายามจะยัดเด็กตัวเองเข้ามา
(มท ชอบทำแบบนี้)
- ลองมาช่วยกันทำเพื่อชาติสักครั้งดีมั้ย
- วงการฟุตบอลบ้านเราจะได้ดีขึ้น
- ไม่อายวอลเลย์บอล, เทควันโด้, แบดมินตัน, กอล์ฟ กันมั่งหรือไง ?
ปล.
- รอบ Final ที่อุซเบกิสถาน
- ควรเปลี่ยนโค้ชในการวางแผน
( เปลี่ยนเสนาธิการวางแผนการรบ)
- นักเตะหลัก
กองหลัง โจนาธาน
กองกลาง ธนวัฒน์
กองหน้า ศุภณัฏฐ์