สำหรับการรีวิวนี้ จากการใช้ยางไปแล้ว 100,1000 กม. เป็นยาง Dunlop ec 300 ขนาด 188/60R15 รุ่นที่เปิดตัวก่อน ec300Plus ซึ่งจะมารีวิว ยางตัวนี้ที่ใช้ในสภาพภูมิประเทศทางโค้ง ขึ้นเขา ฝนตก ก่อนจะปลดประจำการ
โดยเริ่มใช้เมื่อ กรกฎาคมปี 2560 จนถึงปลายตุลาคม 2564 เป็นยางติดรถ Toyota yaris ลักษณะการใช้งานของตัวเจ้าของกระทู้เองคือ ใช้ขับไปทำงานไปกลับ วันละ 60 กม. แล้วก็ออกไปเที่ยว 400-500 กม. ในช่วงหยุดยาวของทุกๆปี โดยเฉลี่ยแล้วใช้รถปีละ 25,000 กม.  ความเร็วในการขับอยู่ที่ 90-120 กม./ชม.คุณภาพยางก็ตามสติกเกอร์ ผมว่าข้อมูลตรงกับความจริงอยู่นะ (ต้องขออนุญาตเอารูปจาก Facebook คนอื่นครับ)
กลับมาที่ข้อมูลตามสติกเกอร์ที่ติดอยู่ คือค่อนข้างประหยัดน้ำมัน และการเบรคในถนนเปียก ได้ประสิทธิภาพปานกลาง เติมลมที่ 36 ปอนค์ต่อตารางนิ้ว
 
สำหรับข้อเสียของยางรุ่นนี้คือ ไม่เงียบ ยางจะเริ่มซับแรงกระแทกได้น้อยลงตอนใช้ไปได้ประมาณ 30,000 กม.- 40,000 กม.
การสลับยางตลอด 1 แสนกิโลเมตร สลับแค่ 3 ครั้ง คือตอน 20,000กม. 40,000 และ 80,000 (ในใจคิดว่าสลับทุก 40,000 กม. ก็สบายกระเป๋าตังค์ ซึ่งการสลับยางสำหรับผมไม่จำเป็นมากเท่าไหร)
 
ก่อนจะถอดเปลี่ยน(99,500 ก.ม.)ต้องเอาไปใช้ให้มันคุ้มค่าสักหน่อย กับทริปเที่ยวเชียงราย เชียงใหม่  13-17 ตุลาคม 2564
โดยปกติทุกวันหยุดยาวจะไปทาง อุดร ขอนแก่น เขาค้อ พิษณุโลก นครสรรค์ แต่ทริปนี้ไกลหน่อยไปถึงเชียงราย
 
จากอุดร-ขอนแก่น เดินทางไปทางหล่มสัก-เขาค้อ พักทำธุระที่พิษณุโลก
จากพิษณุโลก ไปเชียงรายโดยใช้เส้นทาง อุตรดิตถ์ แพร่ พะเยา
เส้นทางจากพิษณุโลก – เชียงราย ฝนตกหนักมาก ในช่วงถึงอุตรดิตถ์ ทำให้ได้ทดสอบการวิ่งบนถนนเปียกวิ่งความเร็ว 60 กม./ชม เพราะมองไม่เห็นทาง แม้จะเป็นตอนกลางวันก็ตาม หลังจากที่ฝนหยุดตกแล้วเหยียบแอ่งน้ำขัง วิ่งที่ 80 – 90 กม./ซม ก็มีอาการเหินน้ำบ้างถ้าแอ่งลึก แต่ชินแล้วสำหรับยางรุ่นนี้ ถ้าล้ออีกฝั่งยังอยู่บนถนนที่ไม่มีน้ำขังก็พอควบคุมได้ในความเร็วประมาณนี้
 
จุดหมายหลักคือ ภูชี้ฟ้า ซึ่งทางขึ้นก็คดเคี้ยว และสูงชันประกอบกับถนนเปียก ผมได้ลองไปทั้งสองทาง (ทางที่รีสอร์ทแนะนำ และไม่แนะนำให้ไป)
ขาขึ้นขึ้นทางหลัก ซึ่งเส้นทางขึ้นไปยังที่พักภูชี้ฟ้า ก็ทำให้ทดสอบการเข้าโค้ง ทั้งสภาพถนนเปียกและแห้ง  รวมถึงวิ่งบนโคลนตอนเข้าที่พัก


ขากลับกลับทาง เส้นทางภูหลงถังสระมังกร(ทางที่ไม่แนะนำ เนื่องจากชันมาก)  ลงมาก็ไปเที่ยวต่อที่ ดอยช้าง เชียงราย (ทางก็คดเคี้ยวเลี้ยวงอเช่นเดิม)
 
 
 
หลังจากนั้นก็ไปเชียงใหม่ แวะไปทำธุระทาง กำแพงเพชร นครสวรรค์ ไปๆมาๆจะกลายเป็นกระทู้พาเทียว 555
 
และนี่ก็คือสภาพหลังจากใช้งานได้ไป 100,100 กม. กว่า ก็ถอดละครับตั้งใจไว้ว่าจะใช้แค่ แสนกิโลเมตร เพราะซับแรงกระแทกเวลาตกหลุมได้ไม่ดีแล้ว
สภาพเนื้อยาง ยังพอเอาเล็กจิกได้อยู่ หน้ายางถูกใช้ไปมากตลอด 4 ปี  กับการจอดตากแดดทุกวัน เหลือร่องยางลึก 3 ม.ม
"ปกติผมจะเติมลมธรรมดา 38 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพราะขี้เกียจเช็คบ่อย"
 
 
สรุป
-          เป็นยางที่ประหยัดน้ำมัน (จุดเด่น) Yaris น้ำมันเต็มถึง วิ่งได้ 570 ไฟจะแจ้งเตือน แต่ไม่เคยวิ่งจนหมดถัง เพราะไม่อยากเสียเวลา 
-          ความรู้สึกตอนเข้าโค้งแบบแรงๆ ถือว่าใช้ได้อยู่ในระดับปานกลาง ปลอดภัย แม้จะไม่ค่อยสบายนัก  ควรเติมลมไม่ต่ำกว่า 36 ปอนค์ต่อนิ้ว (เคยเติมอ่อนกว่านี้จะเข้าโค้งไม่ดี สำหรับโค้งมากๆ เช่น ช่วงถนนลอยฟ้าเขาค้อ-หล่มสัก)
-          วิ่งในถนนแห้ง 120 ก็นิ่งปานกลาง พอเข้าใกล้ 140 เริ่มหวาดเสียว
-          ถนนเปียก(คอนกรีต ราดยาง)ก็ถือว่าใช้ได้เกาะถนนดี ถ้าไม่เจอแอ่งน้ำก็เกาะถนนดี   บนโคลนก็วิ่งมาแล้ว(นี่สิลื่นของจริง)
-          ความทนทานใช้ยาวนานผมว่าเยี่ยมเลย ดอกยังเหลือ ผมว่าคุ้มค่ามาก ถ้าไม่ถอดทิ้งอาจจะวิ่งได้ถึง 150,000 -200,000 กม. ก็เป็นไปได้ (นี่ก็คงจะเป็นจุดเด่นของยางรุ่นนี้สินะ)
           ความรู้สึกส่วนตัว คิดว่าทนกว่า Dunlop sp2030 ถ้าเป็น sp2030 1 แสนกิโลเมตร เนื้อยางจะเริ่มเป็นขุย
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยางคุณภาพปานกลาง ประหยัดน้ำมัน และใช้งานได้ยาวนานทนทานมาก ถ้าเป็น รุ่น EC300+ น่าจะทนและเงียบกว่าตัวนี้