คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
"...ว่าทำไมพระพุทธเจ้าถึงให้พระมาเดินบิณฑบาตขออาหาร แล้วบอกว่าคนที่ใส่บาตรจะได้บุญ..."
เป็นความเข้าใจที่ผิด
ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุต้องสละทิ้งทรัพย์สมบัติส่วนตัวทั้งหมด รวมถึงชีวิตทางโลก ลูก เมีย พ่อแม่ ฯลฯ ก่อนที่จะออกบวช
เมื่อบวชแล้วต้องไม่สะสมสิ่งของใดๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงบาตรและจีวรเท่านั้น แต่ละวันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการขออาหารจากชาวบ้านที่นำมาใส่บาตร
และในการเดินบิณฆบาต ต้องขอแค่เพียงพอต่อการฉันเท่านั้น ไม่สามารถเก็บข้ามคืนได้ ต้องขอใหม่ทุกวัน
เหตุผลหลักก็คือ พระภิกษุเป็นผู้ไม่สะสม ไม่มีภาระ มีแต่ตัวเปล่าๆ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า ให้พระภิกษุไปเดินบิณฑบาตเพื่อให้ชาวบ้านได้บุญ เป็นคนละเรื่อง
แต่ถามว่า ชาวบ้านได้บุญหรือไม่?
ถ้าชาวบ้านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็ได้บุญแบบหนึ่ง แต่ถ้าไม่เลื่อมใส บุญที่ได้ก็เหมือนกับการให้อาหารคนเร่ร่อน คนจรจัด หมา แมว ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม บุญทางอ้อมก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างนางสุชาดา (ผมจำบุคคลผิดก็ขออภัย) ที่ถวายข้าวให้เจ้าชายสิทธัตถะก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ นางคิดว่านั่นคือรุกขเทวดา เพราะผิวพรรณงดงาม นั่งใต้ต้นไม้ หน้าตาดูดี ซึ่งอาหารที่ถวายให้นั้น เป็นอาหารมื้อที่ทำให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมในเวลาต่อมา อานิสงส์หรือผลบุญที่นางสุชาดาได้รับจึงมาก (โดยที่นางไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจ)
หรืออย่างเราเห็นคนเร่ร่อน ดูท่าทางอดอาหาร ใกล้จะตาย เราเลยเอาเงินไปไปซื้อข้าวกิน ชายคนนั้นขอบคุณเรา รีบไปซื้อข้าวกิน
ต่อมา ชายคนนั้น กลายเป็นบุคคลสำคัญที่คิดค้นยารักษาโรคโควิด ช่วยคนทั้งโลก (ผมสมมุติตัวอย่าง ไม่ใช่เรื่องจริง) และทุกวันเขาจะคิดถึงพระคุณของผู้ที่ให้อาหารมื้อนั้นกับเขา ทำให้เขารอดตาย แบบนี้เราก็ได้ผลบุญในทางอ้อมไปด้วย
แต่คนที่จิตใจงดงามจริงๆ เขาจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ หมายถึงไม่สนใจว่าจะได้รับผลบุญมากน้อยแค่ไหน หรือคนที่ทำบุญให้นั้นจะคิดถึงเราหรือไม่ เพราะบุญของเขาสำเร็จตั้งแต่ตอนที่ทำความดีแล้ว เขามีความสุขในตอนนั้นแล้ว เขาพอใจแล้ว (เรียกว่า จิตใจของเทวดา)
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราทำบุญทำทานกับคนที่ทุศีล คนไม่ดี ยิ่งพวกพระอลัชชี พระทุศีล ก็อาจะได้รับผลที่ไม่ดีในทางอ้อมด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างคนที่ไปทำบุญกับพระอลัชชี พระนักรีวิว โดยหวังบุญให้ตัวเอง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่ากำลังทำลายพระพุทธศาสนาอยู่
ยิ่งเขียนไปก็นอกเรื่องไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เกี่ยวกับกระทู้ก็ขออภัย
เป็นความเข้าใจที่ผิด
ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุต้องสละทิ้งทรัพย์สมบัติส่วนตัวทั้งหมด รวมถึงชีวิตทางโลก ลูก เมีย พ่อแม่ ฯลฯ ก่อนที่จะออกบวช
เมื่อบวชแล้วต้องไม่สะสมสิ่งของใดๆ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงบาตรและจีวรเท่านั้น แต่ละวันมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการขออาหารจากชาวบ้านที่นำมาใส่บาตร
และในการเดินบิณฆบาต ต้องขอแค่เพียงพอต่อการฉันเท่านั้น ไม่สามารถเก็บข้ามคืนได้ ต้องขอใหม่ทุกวัน
เหตุผลหลักก็คือ พระภิกษุเป็นผู้ไม่สะสม ไม่มีภาระ มีแต่ตัวเปล่าๆ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า ให้พระภิกษุไปเดินบิณฑบาตเพื่อให้ชาวบ้านได้บุญ เป็นคนละเรื่อง
แต่ถามว่า ชาวบ้านได้บุญหรือไม่?
ถ้าชาวบ้านเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็ได้บุญแบบหนึ่ง แต่ถ้าไม่เลื่อมใส บุญที่ได้ก็เหมือนกับการให้อาหารคนเร่ร่อน คนจรจัด หมา แมว ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม บุญทางอ้อมก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ยกตัวอย่างนางสุชาดา (ผมจำบุคคลผิดก็ขออภัย) ที่ถวายข้าวให้เจ้าชายสิทธัตถะก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้ นางคิดว่านั่นคือรุกขเทวดา เพราะผิวพรรณงดงาม นั่งใต้ต้นไม้ หน้าตาดูดี ซึ่งอาหารที่ถวายให้นั้น เป็นอาหารมื้อที่ทำให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมในเวลาต่อมา อานิสงส์หรือผลบุญที่นางสุชาดาได้รับจึงมาก (โดยที่นางไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจ)
หรืออย่างเราเห็นคนเร่ร่อน ดูท่าทางอดอาหาร ใกล้จะตาย เราเลยเอาเงินไปไปซื้อข้าวกิน ชายคนนั้นขอบคุณเรา รีบไปซื้อข้าวกิน
ต่อมา ชายคนนั้น กลายเป็นบุคคลสำคัญที่คิดค้นยารักษาโรคโควิด ช่วยคนทั้งโลก (ผมสมมุติตัวอย่าง ไม่ใช่เรื่องจริง) และทุกวันเขาจะคิดถึงพระคุณของผู้ที่ให้อาหารมื้อนั้นกับเขา ทำให้เขารอดตาย แบบนี้เราก็ได้ผลบุญในทางอ้อมไปด้วย
แต่คนที่จิตใจงดงามจริงๆ เขาจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ หมายถึงไม่สนใจว่าจะได้รับผลบุญมากน้อยแค่ไหน หรือคนที่ทำบุญให้นั้นจะคิดถึงเราหรือไม่ เพราะบุญของเขาสำเร็จตั้งแต่ตอนที่ทำความดีแล้ว เขามีความสุขในตอนนั้นแล้ว เขาพอใจแล้ว (เรียกว่า จิตใจของเทวดา)
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราทำบุญทำทานกับคนที่ทุศีล คนไม่ดี ยิ่งพวกพระอลัชชี พระทุศีล ก็อาจะได้รับผลที่ไม่ดีในทางอ้อมด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างคนที่ไปทำบุญกับพระอลัชชี พระนักรีวิว โดยหวังบุญให้ตัวเอง แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่ากำลังทำลายพระพุทธศาสนาอยู่
ยิ่งเขียนไปก็นอกเรื่องไปเรื่อยๆ ถ้าไม่เกี่ยวกับกระทู้ก็ขออภัย
แสดงความคิดเห็น
ทำไมศาสนาพุทธ ถึงบอกว่าใส่บาตรแล้วได้บุญ
ว่าทำไมพระพุทธเจ้าถึงให้พระมาเดินบิณฑบาตขออาหาร แล้วบอกว่าคนที่ใส่บาตรจะได้บุญ
ขอเปรียบเทียบ ถ้าผมลงในเฟส บอกว่าถ้าใครโอนเงินให้ผม คนนั้นจะได้บุญ
โดยเรื่องที่ผมบอกว่าโอนเงินมาแล้วได้บุญ ผมก็คิดขึ้นมาเอง
มันมีความเหมือน หรือต่างจากการบิณฑบาตของพระยังไงครับ
ปล.อีกที ไม่ได้กวนจริงๆนะครับ แค่สงสัย