เบื่อข้างบ้าน ชอบนินทา ตะโกนด่า น่ารำคาญ

ประเด็นเลยคืออยู่ห้องแถว เปิดร้านติดกัน ข้างบ้านขี้อิจฉา ชอบนินทา
เพราะเขาต้องจ่ายค่าเช่าทุกเดือน แต่บ้านเราจ่ายแต่ค่าน้ำ-ไฟ
เพราะเจ้าของที่เป็นเพื่อนแม่ เขาให้มาอยู่ (ความรู้สึกเหมือนโดนลากมา = =)
.
แล้วก็มาเจอข้างบ้านมหาภัย เริ่มจากนั่งจับกลุ่มซุบซิบนินทากันเบาๆก่อน
ฉนวนเริ่มจากบ้านติดกันเปิดร้านแบต เราเป็นอู่ซ่อมรถ เขาชอบมาชวนแม่คุย
ส่วนเราไม่ชอบคุยกับคนไม่สนิท แล้วเนื้อหาที่คุยก็เริ่มเหมือนแข่งความรวยกันเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่าแม่รู้ตัวเปล่าที่พูดไป แต่ประโยคนึงคงตำใจนางข้างบ้านเป็นอย่างมาก
แม่พูดประมาณว่า "ซื้อที่ดินเอาไว้วิ่งเล่น"
.
คือตอนนี้อยู่ที่เพื่อนแม่ ส่วนที่แม่ซื้อต่อจากครอบครัวเพื่อน ถัดไปไม่กี่เมตร
(หลายคนคงงงว่าทำไมไม่ไปอยู่ที่ตัวเอง เอาจริงเราก็งงเหมือนกัน 55)
คือเหมือนอาเขาบอกจะสร้างอาคารให้เปิดอู่ ที่ตกลงกันไว้ก่อนย้ายมา
แต่สร้างจริงเป็นห้องแถวชั้นเดียว จริงๆแม่ก็ไม่ค่อยเห็นด้วย
อยากสร้างเป็นอาคารเดียว 2 ชั้น หลังเดียวมากกว่า
แต่อาเขาเป็นคนตัดสินใจทุกอย่าง เลยต้องทำตามนั้น
.
เกริ่นมานาน เข้าเรื่องเลยดีกว่า เอาเป็นว่าข้างบ้านเขาอิจฉา ชอบนินทาเรา
คือนั่งจับกลุ่มคุยกัน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร เราก็ไม่ว่าอะไร ปล่อยไป เพราะเห็นเป็นเรื่องปกติ
แต่มันเริ่มรุนแรงขึ้นก็เพราะว่า เราไปขายกาแฟติดกับบ้านที่มันชอบนินทา
แล้วรำคาญ มันได้ยินทุกวัน ทั้งวัน เลยไปบ่นกับเพื่อนแม่ (เรียกอา)
อาก็เลยเรียกพวกนั้นมาคุย เขาก็ยอมรับอ้อมๆว่าพูดจริง แต่ก็จะไม่มีอีกแล้ว
.
แต่พอลับหลังมันก็คุยกันว่า ถ้าเราอยู่พูดได้ แต่ถ้าแม่อยู่คือจะไม่พูด
สรุปคือมันไม่หยุด เราก็ปล่อยไป จนกระทั่งมันเริ่มอัพเวลความเลวด้วยการพูดตะโกนให้ได้ยิน
เราก็เลยตะบะแตก หลังจากที่อดทนมานาน ด่ากลับไปคำแรกว่า เผือก (ส.เสือ)
แล้วก็ด่าตามไปอีกเป็นชุด เหมือนมันชอบใจ พอดีโทรศัพท์เขา ลูกค้าจะมาซื้อแบต
ไม่รู้มันยิ้มเพราะขายของออก หรือดีใจที่โดนด่า
.
แล้วหลังจากวันนั้นก็ผลัดกันตะโกนด่าเป็นว่าเล่น
มันด่า นินทา เอาไปเล่าให้คนอื่นฟังทุกวัน
วันไหนเราตะบะแตก เราก็ด่ามันกลับ
ยังมีหน้ามาพูดลอยๆให้ฟังอีกว่า "มีคนเกลียดเต็มเลย"
คงภูมิใจมากที่ทำความชั่วสำเร็จ สมองคิดได้แค่นี้จริงๆ
.
เหมือนเรื่องจริงมีอยู่แค่ 10% แล้วมันก็ใส่ไฟใส่สีตีไข่เพิ่ม
มโนเก่งไม่มีใครเกิน รู้ดีทุกอย่างยิ่งกว่าเจ้าตัว
รู้ดีทุกเรื่อง ยกเว้นความชั่วของตัวเอง
แล้วมันก็บานปลายไปเรื่อยๆ
.
เพราะเราไม่ได้ใช้วิธีแบบมัน คือเล่าต่อไปเรื่อยๆ เหมือนหาพวก ให้คนมารุมเกลียด
อย่างมากเราก็แค่เล่าให้คนที่บ้านหรืออาฟังเวลาอึดอัด
ก็ไม่ชอบวิธีต่ำๆแบบนั้น รอให้เวรกรรมมันตามสนองเอง
.
บ้านนู้นออกบ้านนี้มาเช่าต่อ นางร้านแบตมันก็ยังนินทาให้ทุกคนฟังเรื่อยๆ
คงเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย ไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร นอกจากนินทาชาวบ้านให้คนอื่นฟัง
แล้วที่บ้านเราก็ทะเลาะกันบ่อย เราก็โมโห หงุดหงิดง่ายด้วย
พอเราด่ากลับ หรือทำอะไรที่เข้าเค้า มันก็คิดว่าที่นางร้านแบตปล่อยข่าวลือไว้เป็นจริง 100%
.
มันก็เลยด่าและนินทาอย่างเมามัน พอเรานิ่ง มันก็ยิ่งได้ใจ บอกว่าเราทำอะไรไม่ได้
คือเราไม่ทำต่างหาก ทำไมต้องใช้วิธีต่ำๆแบบมัน ที่ด่ากลับเพราะมันเหลืออดแล้วจริงๆต่างหาก
คนแบบนี้ไม่มีวันคิดได้ ให้อภัย ทำเป็นไม่สนใจ ยิ่งได้ใจ ยิ่งเลวลงเรื่อยๆ
.
คนที่เชื่อมันก็มีมากขึ้น เพราะมันเห็นตอนเราด่ากลับ คือเราด่าแรง ไม่ค่อยมีคำหยาบ แต่เจ็บเข้ากระดูกดำ
มันคงแค้นแหละ แต่ตอนไม่ได้ทำอะไรมันก็ชอบด่า ชอบนินทาอยู่ดี คนแบบนี้มันไม่มีวันสำนึกได้
แล้วเราเป็นคนเดียวในบ้านที่สนใจพวกมัน เพราะเราหงุดหงิดง่าย ส่วนแม่ พี่ หรือคนอื่นก็ไม่สนใจ
ไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าพูดอะไร ได้แต่ยินเสียงมันตะโกนโหวกเหวกโวยวายทุกวัน
.
รวม ๆ คือ เบื่อ หนวกหู รำคาญ ทำตัวเป็นมารผจญคนอื่นได้ทุกวัน = =
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่